Tags:
Topics: 
Node Thumbnail

Apple คิดค้นวิธีช่วยบรรเทาปัญหาที่หลายคนไม่อยากเจอกับตนเอง นั่นคือการที่เครื่อง iPhone ตกพื้นจนหน้าจอแตกร้าว หรืออุปกรณ์ภายในเสียหายจนไม่สามารถใช้การได้ และตอนนี้ Apple ก็ได้ยื่นจดสิทธิบัตรวิธีดังกล่าวแล้ว

วิธีแก้ปัญหาของ Apple คือแทนที่จะทำให้หน้าจอแข็งแรงและทนทานต่อแรงกระแทกยิ่งขึ้น กลับพุ่งเป้ามุ่งแก้ปัญหาตรงต้นเหตุคือทำอย่างไรไม่ให้ iPhone เอาหน้าจอลงสัมผัสกับพื้นเมื่อตกจากที่สูง ซึ่งทางออกก็คือการทำให้ iPhone สามารถพลิกตัวได้กลางอากาศเพื่อหันส่วนแข็งลงกระทบพื้น ไม่ต่างกับแมวที่เอาเท้าลงพื้นในยามตกจากที่สูงทุกครั้ง ซึ่งนอกจากจะลดโอกาสหน้าจอแตกแล้ว ยังลดความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายแก่ชิ้นส่วนภายในด้วย

หัวใจของแนวคิดนี้คือชุดมอเตอร์ที่อาจจะถูกติดตั้งเพิ่มเข้าไปใน iPhone หรือใช้ตัวที่สร้างการสั่นของเครื่องก็เป็นได้ ซึ่งเมื่อมันหมุนจะก่อให้เกิดแรงบิดในทิศทางตรงข้ามขึ้นกับตัวโครงสร้าง iPhone และทำให้เกิดการพลิกหมุนในขณะตกอย่างอิสระได้ ทั้งนี้มอเตอร์ดังกล่าวจะทำงานก็ต่อเมื่อเซ็นเซอร์ตรวจวัดการตกรับรู้ได้ว่า iPhone กำลังตกลงตามแรงโน้มถ่วง โดยทิศทางการหมุนของมอเตอร์จะสัมพันธ์กับทิศทางการหมุนและแนวการหันตัวเครื่องในขณะนั้นซึ่งตรวจสอบได้ด้วยไจโรสโคป

นอกจากนี้ในคำขอจดสิทธิบัตรยังได้กล่าวถึงความสามารถอีกประการที่จะช่วยลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับผู้ใช้ iPhone ที่ทำเครื่องตก ซึ่งก็คือการโอนถ่ายข้อมูลสำคัญไปยังเครื่องสำรองของผู้ใช้ที่มีการกำหนดไว้ก่อนในทันทีที่เซ็นเซอร์รับรู้ได้ว่า iPhone กำลังตกลงสู่พื้น

แน่นอนว่าเซ็นเซอร์และชุดมอเตอร์ที่อาจมีการใส่เพิ่มเข้ามาย่อมทำให้ตัวเครื่องมีน้ำหนักและขนาดที่ใหญ่กว่าเดิม แต่มันก็คงคุ้มหากเทคนิคตามที่ระบุในคำขอจดสิทธิบัตรนี้ได้ถูกนำมาใช้จริง อย่างน้อยก็ช่วยเพิ่มความอุ่นใจในการใช้งานขึ้นอีกเยอะ

ที่มา - VentureBeat, ข้อมูลสิทธิบัตรจาก FPO

No Description

No Description

Get latest news from Blognone

Comments

By: oong4
iPhoneWindows PhoneAndroidWindows
on 13 October 2013 - 17:17 #641456

"การทำให้ iPhone สามารถพลิกตัวได้กลางอากาศ"

นึกถึงก๊ฬากระโดดน้ำ

By: CrazyPower
iPhoneBlackberryRed HatIn Love
on 13 October 2013 - 17:17 #641457
CrazyPower's picture

เจ๋งดี

By: gudgee
iPhoneAndroidWindows
on 13 October 2013 - 17:25 #641458
gudgee's picture

ความคิดแหล่ม

By: SupAwich
iPhoneAndroid
on 13 October 2013 - 17:34 #641460
SupAwich's picture

นวัตกรรม!

By: Negator
AndroidWindows
on 13 October 2013 - 17:34 #641461

สุดยอด

By: Witna
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 13 October 2013 - 17:34 #641462

หลุดออกจากมือ ตีลังกาหมุนตัว 3 รอบ ลงสู่พื้นอย่างสวยงาม กรรมการให้คะแนนเต็ม 10

By: aixen
ContributoriPhoneAndroid
on 13 October 2013 - 17:35 #641463
aixen's picture

ต่อไปห้ามโยนไอโฟนให้เพื่อนละ
โยนไปติดสปิน ม้วนหน้า ลังกาหลัง สามรอบครึ่ง


You're a Ghost, driving a meat coated skeleton made from stardust,
what do you have to be scared of ?

By: pongpatnampong
Windows Phone
on 13 October 2013 - 17:35 #641464

แมว !!!

By: myungz
In Love
on 13 October 2013 - 17:38 #641465
myungz's picture

นี่ซิ ว๊าววว

By: sunboonfah
iPhoneAndroid
on 13 October 2013 - 17:45 #641467

ด้วยความเคารพ ใส่มอเตอร์ให้หมุน? ถ่วงน้ำหนักด้านนึงให้หนักกว่ามันก็ตกด้านนั้นอยู่แล้วครับ จะใส่ให้มันเปลืองไฟอีกทำไม

By: chettaphong
iPhoneWindows PhoneAndroidRed Hat
on 13 October 2013 - 17:55 #641472 Reply to:641467

ผมว่าเค้าคงลองแล้วมีบางเคสมันไม่พลิกมั๊งครับ

By: langisser
In Love
on 13 October 2013 - 18:00 #641473 Reply to:641467

ถ่วงน้ำหนักอาจจะไม่มากพอทีจะให้หมุนในระยะทางสั้นๆ ได้มั้งครับ ครั้นจะใส่ให้หนักขึ้นตอนถือคงรู้สึกไม่สมดุลย์ เลยใช้ motor สร้างแรงเหวี่ยงเองซะเลย

ผมเห็นข่าวนี้แล้วนึงถึง MIT โชว์ผลงาน M-Block หุ่นยนต์ที่แยกร่างและประกอบร่างเองได้

By: ตะโร่งโต้ง
WriterAndroidWindows
on 13 October 2013 - 17:57 #641474 Reply to:641467
ตะโร่งโต้ง's picture

การตกของวัตถแข็งเกร็ง ไม่ได้หมายความว่าวัตถุนั้นจะพยายามนำจุดศูนย์ถ่วงลงถึงพื้นก่อนเสมอไปครับ เนื่องจากมวลใดๆ ย่อมตกภายใต้แรงโน้มถ่วงโลกภายใต้ค่าความเร่งเดียวกันครับ (เหมือนที่กาลิเลโอทดลองหย่อนลูกตุ้มจากหอเอนเมืองปิซาไงครับ)

ฉะนั้นหากไม่มีแรงกระทำในตอนที่เริ่มตกลงมา ด้วยแรงต้านอากาศอาจไม่เพียงพอที่จะทำให้วัตถุหมุนในขณะตกอย่างอิสระได้ จึงเป็นที่มาของการใส่อุปกรณ์ต้นกำเนิดแรงบิดเข้าในตัวอุปกรณ์ครับ


ช่างไฟสมัครเล่น (- -")

By: Bawarianz
iPhoneWindows PhoneUbuntuWindows
on 14 October 2013 - 12:35 #641805 Reply to:641474
Bawarianz's picture

ขออนุญาตเจ้าของข่าวนะครับ "ชุดมอเตอร์ที่จะต้องถูกติดตั้งเพิ่ม" เท่าที่อ่านจากลิงค์ น่าจะสื่อถึงการสื่อสารระหว่างมอเตอร์กับชุดเซนเซอร์ความเร่งและไจโรมากกว่า แทนที่จะเพิ่มเข้าไป เพราะปกติโทรศัพท์ทั่วไปก็มีมอเตอร์อยู่แล้วคือมอเตอร์ที่ใช้ในการสั่นเตือนข้อความหรือเรียกเข้าทั่วไป แต่อาจต้องมีการปรับปรุงบ้างเพื่อให้ทำงานได้ตามแนวคิด

โอกาสที่สิทธิบัตรใบนี้พัฒนาขึ้นมาใช้ได้จริง ผมเลยมองว่ามีโอกาสสูง และคงไม่เปลืองไฟอย่างที่คุณ sunboonfah คิดครับ

สำหรับใครที่ยังสงสัยการทำงานของแนวคิดนี้ ว่าแค่ทำจุดศูนย์ถ่วงก็พอแล้ว แนะนำให้อ่านข่าวและดูคลิป MIT โชว์ผลงาน M-Block หุ่นยนต์ที่แยกร่างและประกอบร่างเองได้ แล้วจะเข้าใจครับ รายนั้นนอกจากพลิกตัวแล้ว ยังกระโดดได้ด้วย OMG

By: ตะโร่งโต้ง
WriterAndroidWindows
on 14 October 2013 - 20:03 #642034 Reply to:641805
ตะโร่งโต้ง's picture

ผมจะแก้ไขเรื่องมอเตอร์นะครับว่าอาจใช้มอเตอร์สำหรับการสั่นมาใช้งานได้โดยไม่ต้องเพิ่มมอเตอร์เข้าไปใหม่


ช่างไฟสมัครเล่น (- -")

By: Priesdelly
ContributorAndroidWindows
on 13 October 2013 - 18:39 #641489 Reply to:641467
Priesdelly's picture

เรื่องขนนกกับลูกเหล็กครับ

By: PaPaSEK
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 13 October 2013 - 19:02 #641502 Reply to:641467
PaPaSEK's picture

ลองทำเองเลยครับ แล้วไปจดสิทธิบัตร ต้นทุนต่ำกว่า Apple ใช้ได้ประสิทธิภาพดีกว่ารวยแน่นอนครับ

By: plawanja
Android
on 13 October 2013 - 19:14 #641508 Reply to:641502
plawanja's picture

100 คิด ไม่เท่าลงมือทำครับ

By: Zatang
ContributoriPhoneAndroid
on 13 October 2013 - 21:31 #641563 Reply to:641467

น้ำหนักต่างกันมันไม่พลิกเองได้กลางอากาศนะครับ ด้วยความเคารพ กาลิเลโอกล่าวไว้ว่า วัตถุใด ๆ ที่มีน้ำหนักไม่เท่ากัน ย่อมตกลงมาด้วยความเร็วเดียวกันในสภาวะสุญญากาศ น้ำหนักขนาดมือถือแม้มีอากาศก็ไม่ได้ทำให้พลิกหรอกครับ


อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 13 October 2013 - 22:29 #641582 Reply to:641467
hisoft's picture

วัตถุที่ตกด้วยความเร่งโน้มถ่วงอยู่ในสภาพไร้น้ำหนักนะครับ ส่วนที่จะทำให้มันหมุนได้ส่วนมากจะเกิดจากแรงเหวี่ยงกับแรงต้านอากาศเสียมากกว่า

By: neonicus
Android
on 13 October 2013 - 23:58 #641600 Reply to:641582

ฉนั้นถ้าจะให้เครื่องพลิกด้วยแรงต้านจากอากาศแก้ต้องติดปีกที่หัวหรือท้ายเครื่องให้ต้านจนเครื่องหมุนพลิกด้าน

By: HMage
AndroidWindows
on 14 October 2013 - 00:15 #641607 Reply to:641467

ด้วยความเคารพ ความเข้าใจนี้ถือได้ว่าผิดครับ

อยู่ในหนังสือเรียน Physics ประมาณ ม.ปลาย พูดเป็นภาษาคนง่ายๆ ก็คือ ของทุกอย่างจะตกลงด้วยความเร็วเท่ากัน ถ้าจะช้าลงก็ต่อเมื่อเบามากๆ จนแรงต้านอากาศมีผล เช่น ขนนก, มด

By: swagen.xivth
iPhoneRed Hat
on 14 October 2013 - 01:22 #641622 Reply to:641467

โมเมนตัมเชิงมุม เกี่ยวปะ? ไม่แน่ใจ

By: jack8855
iPhoneAndroidRed HatSymbian
on 14 October 2013 - 10:22 #641698 Reply to:641467
jack8855's picture

ถ้าคิดได้ง่ายๆแบบนั้น ลองนึกเอาตะกั่วถ่วงข้างใดด้านหนึ่ง จะจับหรือใช้งานพลิกหัวกลับหน้ายังไง?

By: legnoi
iPhoneAndroidBlackberry
on 14 October 2013 - 16:40 #641947 Reply to:641467
legnoi's picture

แว๊บแรก ผมคิดแบบนี้เลย..

By: junex on 13 October 2013 - 17:53 #641469

นี่สิ นวัตกรรม

By: pit
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 13 October 2013 - 18:00 #641475

แล้วในกรณีที่ขึ้นเครื่องบินแล้วตกหลุมอากาศ...

By: langisser
In Love
on 13 October 2013 - 18:04 #641477 Reply to:641475

อ่านแล้วนึกถึง สาย 8 หลังจากเหาะขึ้นสะพานครับ

...
ผมแซวๆนะ ไม่เคยเจอกะตัว

By: varshard
AndroidWindows
on 14 October 2013 - 00:18 #641608 Reply to:641477

ใครเอามือถือมาเล่นตอนนั้น มันคงหมุนหลุดมือออกจากตัวรถไปง่ายๆ

By: meawwat
ContributoriPhoneAndroidSymbian
on 14 October 2013 - 03:22 #641643 Reply to:641477
meawwat's picture

ความรู้สึกมันหวิวๆ จุกๆ

By: redgene
iPhoneAndroid
on 13 October 2013 - 18:03 #641476

รูปประกอบเหมือน i4/4s เลย คงอีกเจนกว่าจะมี

By: evolution
iPhoneRed HatSUSEUbuntu
on 13 October 2013 - 18:06 #641479

ผมว่าตกมุมนี้แรงกว่าเดิมนะครับ

By: neonicus
Android
on 13 October 2013 - 18:06 #641480

เดี๋ยว google ทำแบบว่ามี8ขายื่นออกมาจากขอบเครื่องป้องกันด้านหน้าและหลังนะ

By: astider
AndroidWindows
on 13 October 2013 - 19:55 #641524 Reply to:641480

ผมเคยคิดเหมือนกันนะแนวๆ นี้ แต่ตอนนั้นไม่รู้ว่าจะมีเซ็นเซอร์ตัวไหนจับการตกได้มั้ย
ถ้าทำเป็นขาออกมาได้ ผมว่าให้อารมณ์เป็นหุ่นยนต์เลย ฮ่าๆ

แต่การเก็บขาไว้ในบอดี้เครื่องไม่น่าง่าย

By: makeithard
iPhoneAndroid
on 13 October 2013 - 20:03 #641527 Reply to:641480

นึกถึง Tranformer เลย

By: AronSun
Windows PhoneAndroidWindows
on 13 October 2013 - 18:08 #641482

ไอเดียดีเลยนะเนี่ย ต่อไม่ต้องใส่เคสกันละ

By: langisser
In Love
on 13 October 2013 - 18:11 #641483

ไม่ติดถุงลมนิภัยไปเลยละครับท่าน เหมือนรถยนต์

By: mp3wizard
iPhone
on 13 October 2013 - 18:15 #641484

ต่อไปขอให้มีบริการเปลี่ยนขอบให้ด้วยในราคาพิเศษนะครับ.. ปรกติเป็นคนไม่ชอบใส่เคส ขอบเป็นรอยเพียบเลย :(

By: Phoenixz
iPhoneIn Love
on 13 October 2013 - 18:25 #641485

แนวคิดเจ๋งดี

แต่ผมเกรงว่าเวลาเพียงแค่เสี้ยววินาที CPU จะประมวลผลจาก gyroscope แล้วสั่งงาน motor ไม่ทันเวลาสิครับ

By: paween_a
Android
on 13 October 2013 - 22:41 #641585 Reply to:641485
paween_a's picture

ผมว่าทัน

By: Aoun
AndroidWindows
on 13 October 2013 - 22:44 #641589 Reply to:641585

ผมก็ว่าทัน แต่กว่าจะเริ่มประมวลผลถึงพื้นแล้ว

By: RobGThai
Android
on 13 October 2013 - 18:26 #641486

มีแลปทอปเจ้านึงที่ทำแบบนี้ จำได้ว่าในงานแถลงข่าวโยนลงมาจากเครนให่ดูเลยว่าลงท่าเดิมที่ออกแบบไว้โยนไงก็ไม่พัง

By: kritlovetheking
Windows
on 13 October 2013 - 21:30 #641562 Reply to:641486

อ๋ออออ lennovo x1 carbon (รึป่าว)

By: missions
ContributoriPhoneUbuntuWindows
on 13 October 2013 - 18:35 #641488

ต้องให้ได้อย่างงี้

By: sp on 13 October 2013 - 18:44 #641490

ขี่ช้างจับตั๊กแตน ไม่ได้เห็นแน่นอนครับ สิทธิบัตรอันนี้ เอาแบตไปตุงไว้ที่ขอบข้างนึงให้จุดศูนย์ถ่วงมันไปอยู่ด้านนั้นง่ายกว่า แบบตุ๊กตาล้มลุก อย่าลืมทำขอบยางด้วยหละ ... อ้อ ติดร่มชูชีพให้มันด้วย จะได้ไม่กระดอน

By: cal2ibbean
iPhoneWindows PhoneBlackberryWindows
on 13 October 2013 - 18:55 #641497 Reply to:641490
cal2ibbean's picture

ไม่มีอะไีรที่คนเราทำไม่ได้นะครัช

By: sp on 13 October 2013 - 19:11 #641505 Reply to:641497

อืม....ผมไม่ได้ว่าทำไม่ได้นะ ผมว่าวิธีนี้มันกระเติ๊กกระต๊ากเกินไป ใส่มอเตอร์ ใช้ Sensor ที่ต้องรู้ว่าตอนนี้เครื่องกำลังดิ่งเหว มีซอฟท์แวร์มาคำนวณอีก มันซับซ้อนและมีต้นทุนเกิน ที่เขาทำอย่างนี้เพราะเขาต้องการเปลี่ยนจุดศูนย์ถ่วงให้มันตะแคงเอาข้างลง ซึ่งมันทำได้ง่ายกว่าโดยการถ่วงให้มันหนักไปข้างใดข้างหนึ่งซะตั้งแต่ต้น มันง่ายกว่า เหมือนตุ๊กตาล้มลุกไงครับ ไม่ต้องมี Sensor หรือ Motor ให้ยุ่งยาก มันให้ผลเท่ากัน แต่ตอนมันตกแล้ว มันจะกระแทก แล้วก็กระดอน แล้วก็กระแทกอีก ครั้งหลังนี่มอเตอร์กับ Sensor ก็ช่วยอะไรไม่ได้ วิธีขาแมงมุมก็ไม่เลวนะ

By: ตะโร่งโต้ง
WriterAndroidWindows
on 13 October 2013 - 19:21 #641513 Reply to:641505
ตะโร่งโต้ง's picture

เป้าหมายของเทคนิคนี้ไม่ใช่การย้ายศูนย์ถ่วงของโทรศัพท์นะครับ แต่เป็นการหมุนตัวเพื่อเอาด้านที่แข็งแรงหันเข้าหาจุดกระทบครับ ลองหาคอมเมนท์ด้านบนที่ผม reply กลับอีกท่านหนึ่งดูด้านบนก็ได้ครับ


ช่างไฟสมัครเล่น (- -")

By: paween_a
Android
on 13 October 2013 - 22:43 #641587 Reply to:641505
paween_a's picture

กาลิเลโอ!

By: swagen.xivth
iPhoneRed Hat
on 14 October 2013 - 01:49 #641624 Reply to:641505

แล้วคิดเผื่อตอนถือปกติ มือถือมันจะหนักไปด้านหนึ่ง ?

By: adirak
ContributoriPhone
on 14 October 2013 - 10:13 #641693 Reply to:641624
adirak's picture

จากข่าวมันบอกใช้หลักการหมุนของ motor นะครับ ลองอ่านดู มันไม่ใช่ถ่วงน้ำหนักเอานัครับ


📸

By: Zatang
ContributoriPhoneAndroid
on 14 October 2013 - 10:40 #641699 Reply to:641505

เรื่องตกนี่ไม่ต้องเพิ่ม sensor อะไรนะครับ มี accelerometer meter อยู่แล้ว ส่วนเรื่องถ่วงมีบอกไปหลายคนแล้วนะครับ ศึกษาฟิสิกส์ หรือการค้นพบของกาลิเลโอดู ถ่วงเอามันไม่หมุนนะครับ ถ้าไม่ใช่ของที่เบาจนแรงต้านอากาศมีผล


อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว

By: mugaa
iPhoneWindows PhoneAndroidUbuntu
on 13 October 2013 - 19:35 #641520 Reply to:641490
mugaa's picture

ตรงขอบมันมีคอนเน็คเตอร์อยู่มันคงเอาแบทไปยัดไม่ได้อยู่แล้วหล่ะครับ
นอกจะจะสามารถเอาที่ชาร์จ ลำโพง ปลุ่มปลับเสียง mute ปุ่มเปิดปิด รูหูฟัง ช่องเสียบซิม ไปไว้ด้านบนหรือล่างด้านในด้านนึงให้หมดได้ มันถึงจะเอาแบทไปยัดอีกด้านได่

By: addib2010
iPhoneAndroid
on 13 October 2013 - 21:33 #641565 Reply to:641490

เหมือน Apple ตั้งใจดีไซน์แผงวงจร ตำแหน่งแบตเตอรี่ให้น้ำหนักมันบาลานซ์เพื่อสะดวกเวลาถือทุกมุมตั้งแต่แรกอยู่แล้วครับ ถ้าถ่วงด้านใดด้านนึง อย่างนั้นที่พยายามทำมาแต่แรกก็ไม่มีประโยชน์น่ะสิครับ

By: sompol
iPhoneUbuntuWindows
on 14 October 2013 - 00:02 #641601 Reply to:641490
sompol's picture

เปลี่ยนจุดศูนย์ถ่วงมือถือ ไม่ใช่ละ -_-" ลองนึกถึงตอนถือมือถือแล้วศูนย์ถ่วงไม่ได้อยู่กลางเครื่องดูสิ

By: woohoo
ContributoriPhoneIn Love
on 13 October 2013 - 18:41 #641491

นี่สินะ feature Airdrop ที่แท้จริง

By: pongkiat
Android
on 13 October 2013 - 18:53 #641495

อันนี้ก็เจ๋งครับ แต่ไม่เคยเห็นทำขายจริง

By: cal2ibbean
iPhoneWindows PhoneBlackberryWindows
on 13 October 2013 - 18:57 #641499 Reply to:641495
cal2ibbean's picture

OMG

By: champs
iPhoneWindows PhoneAndroid
on 13 October 2013 - 19:05 #641503

แปลกๆนะ เวลาหล่นแค่เสี้ยววินาที ตกระยะใกล้ ไหนจะเวลาถือเหวี่ยงไปๆมาๆเซนเซอร์ทำงานตลอดแน่

By: ตะโร่งโต้ง
WriterAndroidWindows
on 13 October 2013 - 19:19 #641511 Reply to:641503
ตะโร่งโต้ง's picture

เซ็นเซอร์จับการเคลื่อนไหวจะรู้ได้ครับว่าการเคลื่อนไหวแบบไหนเป็นการเคลื่อนไหวแบบการใช้งานทั่วไป แบบไหนเป็นการตกโดยอิสระ โดยอาศัยค่าจากตัววัดความเร่งกับไจโรสโคปมาประกอบด้วยครับ


ช่างไฟสมัครเล่น (- -")

By: quake_the_rock
iPhoneRed HatUbuntuWindows
on 13 October 2013 - 20:52 #641553 Reply to:641503
quake_the_rock's picture

ถ้าระยะตกไม่สูงมาก ฟังก์ชั่นนี้ก็คงไม่ต้องทำงานมั๊งครับ คงต้องสูงระดับที่ถือว่าเริ่มเป็นอันตรายถึงจะทำงานมากกว่า

notebook IBM ก็มีฟังก์ชั่นคล้ายๆ แบบนี้หรือเปล่าพอ notebook ตกจากโต๊ะ มันจะเก็บหัวอ่านของ hdd เพื่อป้องกันความเสียหาย

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 13 October 2013 - 22:32 #641584 Reply to:641553
hisoft's picture

มีหลายเจ้านะครับ VAIO ผมก็มี

ส่วนเรื่องตกสูงมากหรือไม่มากนี่คงยากครับ โทรศัพท์ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าตัวเองสูงจากพื้นแค่ไหน คิดว่าคงทำได้แค่พยายามพลิกให้เร็วที่สุด ถ้าพลิกทันแปลว่าสูงพอ ถ้าพลิกไม่ทันแปลว่าตกระดับเตี้ยเกินไปแหละครับ :p

By: JomMarn
iPhoneAndroid
on 13 October 2013 - 19:05 #641504
JomMarn's picture

อยากให้มันไม่ตกเลยครับ อยากให้มันบินได้เลย เอาแบบเหมือน Iron Man 3 เลย

By: Mrcheir
Android
on 13 October 2013 - 19:12 #641506

เดี๋ยวนะ ก็ไม่ใช่เพราะสัน หรือขอบลงเหรอที่ทำให้หน้าจอแตกได้มากที่สุดอ่ะ อย่างของผมนี้โน๊ต2 จอลงตรงๆหาพื้นเลยไม่แตกแต่ฟิลม์กันรอยนี่รอยบานเลย ของน้องๆ I4Sมุมลงนี่อนาถเบย

By: nant
ContributorWindows PhoneRed HatUbuntu
on 13 October 2013 - 19:20 #641512 Reply to:641506

ไม้ต้องกังวล ครับ ถ้าสิทธิบัตรนี้ออกมาจริงย่อมมีการทดสอบ

By: Mrcheir
Android
on 13 October 2013 - 19:21 #641514 Reply to:641512

เขาคงจะเพิ่มความแข็งแรง วัสดุที่แข็งแรงให้ขอบมังครับ ถ้าต้องการจะให้เอาขอบลงแบบนี้จริงๆอ่ะนะ

By: pluk1412
iPhone
on 14 October 2013 - 01:41 #641625 Reply to:641514
pluk1412's picture

ข่าวด่วน apple ออก Bumper หนาด้านเดียวไว้สำหรับรับแรงกระแทก

By: 100dej
AndroidWindows
on 13 October 2013 - 19:31 #641518

แปล​ว่า​ต่อ​ไป​จะ​เปลี่ยน​หน้า​จอ​ฟรี?

By: grenadin
iPhoneWindows PhoneAndroidWindows
on 13 October 2013 - 19:35 #641519
grenadin's picture

iCat

By: nostalgias
ContributoriPhoneAndroid
on 13 October 2013 - 19:48 #641522
nostalgias's picture

อันที่จริงแค่ทาเนยใว้หลังเครื่องก็พอล่ะ XD

By: iammeng
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 14 October 2013 - 10:53 #641714 Reply to:641522
iammeng's picture

โอ้วววคิดได้ เพราะด้านที่ทาเนยไว้จะคว่ำใส่พื้นอยู่บ่อยๆ!

By: errin on 14 October 2013 - 11:21 #641725 Reply to:641714

คุณคือโคนัน (ตอนแรกผมไม่เก็ทมุขนะ คิดไปถึงสุนัขเลยแหละ)

By: makeithard
iPhoneAndroid
on 13 October 2013 - 20:02 #641526

"การโอนถ่ายข้อมูลสำคัญไปยังเครื่องสำรองในทันทีที่เซ็นเซอร์รับรู้ได้ว่า iPhone กำลังตกลงสู่พื้น"
เครื่องสำรองคืออะไรหว่า? แล้วโอนข้อมูลได้เร็วขนาดนั้นเลยรึ หรือว่าแค่ข้อมูลไม่กี่ MB

By: Aoun
AndroidWindows
on 13 October 2013 - 20:11 #641533

ถ้าเป็น iOS7 คงยากจะเป็นจริง แค่จะตะแคงหน้าบ่อยครั้งที่มันคิดนานมาก
ถึงอย่างไรก็เป็นไปได้ยากแม้เป็น iOS10 กว่าSensorจะจับได้ว่ากำลังตกคงถึงพื้นแล้ว ไม่ต่างจากแกว่งแขนตอนถือiPhone เครื่องคงสั่นตลอด

By: leeyiankun
Windows PhoneAndroidWindows
on 13 October 2013 - 20:34 #641543

เผลอๆกำลังถือไอโฟนคุยแล้วทำไม้ทำมือข้างที่ถือ เซนเซอร์ทำงานขึ้นมา ดีดตัวเองจนหลุดจากมือที่จับไว้ ลงพื้นกระจายอย่างสวยงาม จะได้เห็นคนฟ้องแอปเปิ้ลกันกระจุยก็งานนี้

คห.สต. คิดว่า คนคิดไม่ได้เคยนำไปเบต้าเทสต์จนปรุจริงๆ แต่คิดมาได้ แล้วมันดูดี เลยรีบจดๆไป
แต่ถ้านำไปใช้จริงๆ น่าจะไม่เวิร์ค

อย่าดูถูกการใช้งานมือถือของคนนะครับ ผมเคยเห็นมาทุกแบบแล้ว กล้ารับประกันได้ว่า คนทำให้มันเน่าได้ทุกแบบนั่นแหละ

By: skuma
iPhoneWindows PhoneAndroidBlackberry
on 13 October 2013 - 20:36 #641545
skuma's picture

ถ้าหลักการง่ายๆ ผมว่ามันคือการถ่วงน้ำหนักนะ 555

By: ZicmA
Android
on 13 October 2013 - 20:37 #641546

มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นหรอก การตกมันต้องดูความเร็วต้นด้วย
การทดลองใช้ความเร็วต้นเท่าไหร่ก็ไม่รู้
ถ้าความเร็วต้นมาก ระยะเคลื่อนที่น้อย มันก็ยากที่จะพลิกตัวกลับมาทันแน่นอน
เหมือนแมวอ่ะ ตกที่สูงมากๆไม่เป็นไร แอต่ตกที่ไม่ค่อยสูง ไม่มีเวลาพลิกตัว ก็เจ็บตัวได้เหมือนกัน
แต่การจดสิทธิบัตรเนี่ย ไม่จำเป็นต้องทดลองครบทุกกรณี จดไปก่อน แล้วค่อยไป Research เพิ่ม
คาดว่า Apple ต้องใช้เวลาปรับปรุงอีกนานแหละครับ

By: swagen.xivth
iPhoneRed Hat
on 14 October 2013 - 01:54 #641629 Reply to:641546

มันไม่เชิงพลิก แค่ให้ทันตกในระนาบที่ปลอดภัย มั้งครับ

By: Jaddngow
AndroidUbuntuWindows
on 13 October 2013 - 20:39 #641548
Jaddngow's picture

รอให้เป็น productก่อนแล้วจะมาชมอีกทีครับ

By: mk-
Symbian
on 13 October 2013 - 20:58 #641555
mk-'s picture

แนวคิดแหวกแนวดี แต่ไม่รู้คุ้มกับการเพิ่มน้ำหนักหรือเปล่า

By: makeithard
iPhoneAndroid
on 13 October 2013 - 23:18 #641593 Reply to:641555

อีกหน่อยมันคงเบาขึ้นเหมือน Moto สมัยก่อน กับ Moto สมัยนี้แหละครับ

By: hydrojen
iPhoneRed HatWindows
on 13 October 2013 - 21:20 #641560
hydrojen's picture

ส่งข้อมูลก่อนเครื่องจะตก เยี่ยมเลย

By: basz
Android
on 13 October 2013 - 22:16 #641578 Reply to:641560
basz's picture

ป้องกันสายลับทำลายเครื่อง

By: gooGof
ContributorAndroidIn Love
on 13 October 2013 - 21:39 #641569

มีร่มชูชีพด้วยสิ

By: Niwatn2
iPhoneWindows PhoneAndroid
on 13 October 2013 - 21:49 #641573

อาจจะมีเซ็นเซอร์ รู้ว่าอันไหนแค่แกว่งมือ หรือหล่นจากมือจริง

By: btxxxx
AndroidWindows
on 13 October 2013 - 22:16 #641577

ผมสงสัยว่าเพิ่มแรงเหวี่ยงเข้าไปอีกไม่เท่ากับทำให้มีแรงเพิ่มขึ้นด้วยเหรอ?

By: neonicus
Android
on 14 October 2013 - 00:04 #641602 Reply to:641577

นึกภาพนะถ้าคุณกำลังตกตึกแล้วดิ้นพลิกตัว คุณว่าจะตกเร็วขึ้นหรือช้าลงครับ

By: btxxxx
AndroidWindows
on 14 October 2013 - 22:54 #642096 Reply to:641602

ผมพูดถึง "แรงขึ้น" จากแรงเหวี่ยงที่ "ถูกสร้างขึ้นเพิ่ม" นอกจากแรงที่ข้างบนคุยกันในแนวดิ่งปกติ (คือแรงโน้มถ่วง) ไม่เกี่ยวกับ "เร็วขึ้น" นะครับ

By: aekosamu
iPhoneWindows PhoneAndroidWindows
on 13 October 2013 - 23:37 #641596

อ่านคอมเมนต์แล้วทำ facepalm...

By: zinazisc
Windows PhoneAndroid
on 14 October 2013 - 00:09 #641604
zinazisc's picture

เหมือนโนเกียแต่ก่อนที่ตกแล้ว ฝาเปิด แบตกระจายรึเปล่าครับ

By: headowner
iPhoneWindows PhoneAndroidBlackberry
on 14 October 2013 - 00:11 #641605
headowner's picture

จดอีกละ >"< เอาทุกเม็ด เก็บทุกสิ่งอย่าง

By: PaPaSEK
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 14 October 2013 - 08:56 #641663 Reply to:641605
PaPaSEK's picture

อันนี้นวัตกรรมครับ ยังไม่มีใครคิดจะทำ และไม่ใช่แนวคิดที่เป็นสามัญแบบว่าใครๆ ก็คิดได้ (และทำได้)

By: thanesk on 14 October 2013 - 13:54 #641842 Reply to:641663

อ่านเจอจากเม้นข้างบนครับ

lenovo x1 carbon

หรือถ้าระบุชัดว่าทำกับมือถือก็คงเป็นเจ้าแรกมั้ง

By: Zatang
ContributoriPhoneAndroid
on 14 October 2013 - 14:07 #641850 Reply to:641842

x1 พลิกตัวได้? หรือว่าแค่ล็อก hdd ถ้าเป็นล็อค hdd นี่ business laptop หลายยี่ห้อทำได้แทบจะเป็นมาตรฐานของ business laptop นะครับ


อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว

By: thanesk on 14 October 2013 - 15:45 #641909 Reply to:641850

ผมยังไม่ได้ไปหาข้อมูลนะครับว่า x1 ทำยังไง

แต่จาก comment http://www.blognone.com/node/49796#comment-641486 เค้าเขียนว่า "มีแลปทอปเจ้านึงที่ทำแบบนี้ จำได้ว่าในงานแถลงข่าวโยนลงมาจากเครนให่ดูเลยว่าลงท่าเดิมที่ออกแบบไว้โยนไงก็ไม่พัง"

ไอ้คำว่า "ลงท่าเดิมที่ออกแบบไว้" มันชวนให้ผมคิดว่า x1 พลิกตัวได้ แต่จะได้จริงหรือไม่ได้ ผมก็ไม่รู้จริงอะครับ

By: errin on 14 October 2013 - 11:23 #641726 Reply to:641605

แนะนำให้ไปประท้วงปิด UPSTO เลยครับ ดันเปิดมาทำไมให้จด

By: varshard
AndroidWindows
on 14 October 2013 - 00:21 #641609

แล้วแบบนี้จะมีปัญหากับเจ้าที่ใช้เทคนิคแนวๆนี้อยู่แล้วไหมครับ

By: zigheart
iPhoneAndroid
on 14 October 2013 - 01:13 #641618
zigheart's picture

ดีครับ แค่คิด ก็สามารถต่อยอดได้แล้ว

อย่าเพิ่งบอกว่ามันเป็นไปไม่ได้

By: BreMen
iPhoneWindows PhoneAndroid
on 14 October 2013 - 01:49 #641628
BreMen's picture

ถ้าทำผล็อยหลุดนี่ทันแน่ แต่จับลอยหมุนสปินคงพลิกไม่ทันแน่

By: ผลิตภัณฑ์ที่ทัน...
Android
on 14 October 2013 - 03:07 #641642

แอ็ปเปิ้ลจดสิทธิบัตรไว้ ตั้งเท่าไหร่

เห็นเขาเอามาใช้ทุกใบไหม

และทำไม ถึงเชื่อว่าเขาจะเอามาทำ จริงๆล่ะครับ

ที่ผมเชื่อว่าเขาจะจดไว้เป็นที่ระลึก เนื่องด้วยขนาดและต้นทุน

By: meawwat
ContributoriPhoneAndroidSymbian
on 14 October 2013 - 03:23 #641644
meawwat's picture

ไม่ใช่ว่าตกมามอเตอร์พังก่อนนะครับ

By: zengshadow
iPhoneAndroid
on 14 October 2013 - 04:55 #641647

ไม่อยากจะเชื่อว่าแนวคิดนี้ของ Apple ไม่ต่างกับโปรเจกปริญาตรี(เป็นองค์ความรู้เก่า ไม่ใช่นวัตรกรรมใหม่อะไร)
ผมเคยดูสารคดีพวกวิจัยเคมีเกี่ยวกับโมเลกุลและอะตอมของสสาร เมื่อโครงสร้างถูกกระแทกหรือมีแรงกระทำสักอย่าง โมเลกุลของมันจะจับเรียงตัวกันแน่นยิ่งขึ้นและแข็งแกร่งอย่างมหาศาล(ยิ่งมีแรงกระทำมาก ก็ยิ่งแข็งแกร่ง)
ผมว่าเอาไอเดียนี้มาใช้กับกระจกหรือโครงสร้างของตัวเครื่องจะดีซะกว่า

By: Lightwave
iPhoneAndroidWindows
on 14 October 2013 - 08:41 #641657 Reply to:641647

มันเป็นการเอาของใกล้ตัวมาใช้ประโยชน์ครับ ของที่บางครั้งเราก็มองข้าม

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 14 October 2013 - 19:21 #642018 Reply to:641647
hisoft's picture

ทำไมต้องเลือกทำให้โครงสร้างมันแข็งแกร่งอย่างเดียวโดยไม่ทำให้มันเลือกมุมตกได้ดีขึ้นด้วยล่ะครับ

แล้วคิดว่าเค้าไม่ได้พยายามทำให้กระจกหรือโครงสร้างมันดีขึ้นเหรอครับ? เห็นตะกายมาใช้กระจกกอริลล่ากันเป็นแถบ

By: zengshadow
iPhoneAndroid
on 14 October 2013 - 05:08 #641648

ถ้าเกิดการปา iphone ลงพื้นหรือกำแพงห้องอย่างแรง(โมโห ทะเลาะกัน บลาๆ) ยังไงทอร์ก(Torque) ที่เกิดจากมอเตอร์ก็ไม่มากพอที่จะเอาชนะแรงเหวี่ยงที่เกิดจากการปาได้(แรงที่เกิดขึ้นมี 6 แกน)

By: Zatang
ContributoriPhoneAndroid
on 14 October 2013 - 08:44 #641659 Reply to:641648

อันนั้นเกิดจากความตั้งใจก็ยอมๆ ไปเถอะครับ


อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว

By: YF-01
AndroidUbuntu
on 14 October 2013 - 13:39 #641835 Reply to:641648

แหม่ ปาเองแล้วยังหวังให้เครื่องปลอดภัยก็เกินไปนะฮะ

By: super_lw
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 14 October 2013 - 09:07 #641668
super_lw's picture

Cat's technology


Educational Technician

By: tunnnnnn
iPhoneSymbian
on 14 October 2013 - 09:14 #641670
tunnnnnn's picture

สุดท้ายคือ แอบติดร่มชูชีพ (หรือไอพ่น) ไว้ในเครื่อง
และเพิ่ม วิธีม้วนเก็บร่มชูชีพ ไว้ในคู่มืออีก 2 หน้า น่าจะง่ายสุด ครับ

By: Ton-Or
ContributorAndroidCyberbeingRed Hat
on 14 October 2013 - 09:29 #641678
Ton-Or's picture

อยากให้เอามาใส่ในแผ่น CD/DVD ด้วย
ร่วงตอนยังไม่ได้เขียนข้อมูลนี่ หงายบ้าง
ไม่ก็ลงด้านข้างกลิ้งไปพิงนั่นนี่
เขียนเสร็จเท่านั้นหล่ะ เผลอทำร่วงทีไร หน้าคว่ำตลอด 555


Ton-Or

By: ttong on 14 October 2013 - 09:58 #641685

WOW !!!

By: darkfaty
AndroidWindows
on 14 October 2013 - 10:32 #641700
darkfaty's picture

ถ้าเขย่าหาเพื่อนใน Line มือถือจะคิดว่าตัวเองกำลังตกหรือเปล่า มอเตอร์ทำงานทำให้หลุดมือไปเอง อันนี้เดี๋ยวก็คงมีคนทดสอบ

By: tanit9999
iPhoneAndroidUbuntu
on 14 October 2013 - 10:34 #641701
tanit9999's picture

ผมยังคิดไม่ออกว่ามันจะแยกเคสใหนว่าคือการตกหรือการถือ หรือการใส่กระเป๋า ไม่งั้นตะแคงก็มอเตอร์กระตุกๆ กินไฟแน่ๆ

By: redgene
iPhoneAndroid
on 14 October 2013 - 23:31 #642112 Reply to:641701

ตอนตกวัตถุมีความเร่งของแรงโน้มถ่วง มีทิศทางลง เข้าใจว่าตอนตก(free fall) accelerometors จะอ่านค่าได้เท่ากับ 0 ส่วนตอนถือ จะมีค่าเป็น g ตามแนวแกนของ gyro วัดได้ด้วยครับ ส่วนกินไฟหรือไม่ ไม่รู้ครับ แต่ปกติ iPhone ก็แบตน้อยนิดอยู่แล้ว ฮาฮา

By: btoy
ContributorAndroidWindows
on 14 October 2013 - 12:02 #641758
btoy's picture

ถ้าทำได้เนี่ยเทพมาก


..: เรื่อยไป

By: Zeball
iPhoneWindows PhoneAndroidUbuntu
on 14 October 2013 - 12:15 #641765

คิดว่าสิทธิบัตรนี้เป็นสิทธิบัตรแนวคิดตั้งต้นมากกว่า และเป็นการจดสิทธิบัตรที่เป็นกลยุทธ์ด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพราะว่า
1. ในสิทธิบัตรนั้นจดเป็น An electronic device ครับ จึงครอบคลุมนอกเหนือจาก iPhone ถ้าตีความไม่ผิด เช่นอุปกรณ์พวก Smart Phone, Tablet, Laptop เป็นต้น ดังนั้นถ้าใครคิดวิธีกลับตัวกลางอากาศเมื่อตก ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์อิเล็คโทรนิคประเภทไหนตามแนวคิดที่ใช้ Sensor, Processor, และ Motor ต้องจ่ายค่าสิทธิบัตรให้ Apple
2. ในสิทธิบัตรใช้คำว่าอย่างน้อย Sensor หนึ่งตัวที่สื่อสารกับ Processor, และ Processor สื่อสารกับ Motor จึงเป็นกว้างมาก เพราะครอบคลุมทุก Sensor, Processor, และ Motor (มันครอบคลุมนอกเหนือจาก CPU นะครับ)

ในสิทธิบัตรได้ยกตัวอย่าง และการทดลองแนวความคิดนี้โดยใช้ Accelerometer, Gyro, Vibe motor, และ iPhone แต่คิดว่าจากจากคำที่จดนั้นน่าจะทุกอุปกรณ์ครับ

ส่วนเรื่องการโอนถ่ายไม่ข้อออกความคิดเห็นเพราะไม่คุ้ยเคยการเปรียบเทียบกระบวนการ, algorithm ,และการเทียบโค้ด

ความคิดเห็นส่วนตัว ความเป็นไปได้ว่าสิทธิบัตรนี้เป็นสิทธิบัตรแนวคิดตั้งต้นมากกว่า และเป็นการจดสิทธิบัตรที่เป็นกลยุทธ์ด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ (กลยุทธ์ด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ผมหลายถึงนั้น อาจจะเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นต้องพัฒนานำมาใช้จริงก็ได้ครับ แต่ต้องมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง มากน้อยไม่ว่ากัน แถวบ้านผมเรียกว่า "กั๊กไว้")

By: kindraywind
iPhoneUbuntu
on 14 October 2013 - 15:24 #641896

appleกำลังท้าทายกฏของเมอฟี่

By: GyM
iPhoneWindows PhoneAndroidWindows
on 14 October 2013 - 16:46 #641951

LG G2 ทำไม่ได้นะครับ ระบบนี้ขอบบางเกิน

By: Palajin
AndroidWindows
on 14 October 2013 - 19:25 #642020
Palajin's picture

คิดมั่งแล้วเอาไปจดได้มั้ยครับ
ทำ case ที่มี sensor จับว่าเครื่องกำลังตก
จากนั้นจะเป่าถุงลมออกมารอบตัวเพื่อป้องกันแรงกระแทก
ปล.ใช้ได้ครั้งเดียว เหมือน airbag แล้วก็ต้องเปลี่ยนใหม่ อิอิ

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 14 October 2013 - 19:30 #642024 Reply to:642020
hisoft's picture

ทำได้ครับ ถ้าทำให้มันใช้งานได้จริงๆ รวมถึงไม่ใหญ่เกะกะในระดับรับไม่ได้คงขายดีเป็นเททิ้ง

By: Zatang
ContributoriPhoneAndroid
on 15 October 2013 - 09:22 #642196 Reply to:642020

จดได้สิครับ แต่รายละเอียดในการจดไม่ได้เขียนแค่ 2-3 บรรทัดจดได้นะครับ ลองดูรายละเอียดที่ต้นทาง เอกสารจดนี่ 40 กว่าหน้านะครับ และมีค่าจด ค่านู่นนี่อีก


อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว

By: kingrpg
AndroidWindows
on 14 October 2013 - 19:43 #642030

เอาเชือกผูกไว้แล้วทำตกแบบไม่ต้องถึงพื้น แค่นี้ก็สามารถโอ่นถ่ายข้อมูลไปยังอีกเครื่องได้แล้วเหรอเนีย

By: Bank14
ContributorAndroidRed HatWindows
on 15 October 2013 - 13:09 #642307

เดี๋ยวคงมีคนพัฒนา App ให้คะแนนความสวยงามในขณะที่ตีลังกาลงพื้น

นึกภาพผู้คนเอา iPhone มาโยนลงพื้นเล่น แล้วเอาคะแนนมาอวดกัน คงฮาน่าดู

By: giogio
Android
on 15 October 2013 - 15:27 #642377
giogio's picture

เออ อันนี้เจ๋งจริง และควรขายให้กับผู้ผลิตมือถือรายอื่นอย่างยิ่งด้วย!

ปล. แต่ถ้าเจอจอบิดได้ของ LG/SS หน้าจอมือถืออาจจะไม่มีทางแตกอีกเลยก็ได้แม้ไม่ได้ติดอุปกรณ์นี้

By: obtheair on 15 October 2013 - 16:09 #642407
By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 15 October 2013 - 16:55 #642430 Reply to:642407
hisoft's picture

เงิบ

By: PaPaSEK
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 15 October 2013 - 18:46 #642494 Reply to:642407
PaPaSEK's picture

ขามีเหงื่อซิมพอให้รู้ว่าเงิบ

By: meawwat
ContributoriPhoneAndroidSymbian
on 15 October 2013 - 18:49 #642496 Reply to:642407
meawwat's picture

โฮลบีมเลยทีเดียว

By: bflower
Android
on 19 October 2013 - 02:25 #644270 Reply to:642407

เออ อันนี้ฮา ให้ผ่าน :)

By: BreMen
iPhoneWindows PhoneAndroid
on 26 October 2013 - 01:17 #647371 Reply to:642407
BreMen's picture

เอิ่ม...

By: Virusfowl
ContributorAndroidSymbianWindows
on 17 October 2013 - 16:21 #643386

ยังการกล่าวถึงความสามารถอีกประการ

เหมือนจะตกไปคำนึงนะครับ

ว่าแต่ถ้าอุปกรณ์ชิ้นใหญ่ๆ มอเตอร์ไม่น่าจะสร้างแรงบิดได้พอนะ หุหุ

เห็นหลายเมนต์ด้านบนพูดถึงให้ติดถุงลมนิรภัย ช้าไปแล้วครับ เจ้าของ amazon ชิงจดไปแล้ว 55 ถุงลมนิรภัยสำหรับสมาร์ตโฟน


@ Virusfowl

I'm not a dev. not yet a user.

By: iammeng
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 18 October 2013 - 14:00 #643915 Reply to:643386
iammeng's picture

clip ใน link นั้นมันไม่ใช่ถุงลมแล้ว!! นั่นมันระบบลงจอดบนดาวอังคารแล้วหละมั้งครับ