Tags:
Topics: 
Node Thumbnail

ผลการศึกษาของนักเรียนวัย 14 ปีจากรัฐแคลิฟอร์เนีย กลายเป็นเรื่องผู้ป่วยโรคหัวใจต้องระมัดระวังในการใช้งานอุปกรณ์พกพามากขึ้น หลังจากพบว่าแม่เหล็กเล็กๆ ใน iPad 2 สามารถปิดการทำงานของเครื่องกระตุ้นหัวใจได้

Gianna Chien ได้ทดสอบกับผู้ป่วยโรคหัวใจ 19 รายที่ฝังอุปกรณ์สำหรับโรคหัวใจไว้ที่หน้าอก โดยเป็น เครื่องกระตุ้นหัวใจด้วยไฟฟ้าแบบช็อกได้ (ICD) 16 ราย, เครื่องกระตุ้นหัวใจแบบ Pacemaker 2 ราย และเครื่องตรวจสอบการเต้นหัวใจ (ILR) 1 ราย โดยให้ผู้ป่วยทดลองใช้งาน iPad 2 ในหลายๆ ท่าทาง เช่น ถืออ่านในระดับอก ไปจนถึงการจำลองว่าหลับไปพร้อมกับวางเครื่องไว้บนหน้าอก

ผลปรากฏว่าแม่เหล็กใน iPad 2 นั้นมีผลสามารถปิดการทำงานของเจ้า ICD ได้จริง โดยมีอัตราการเกิดอยู่ที่ 18.8% เมื่อวางเครื่องไว้บนหน้าอก ส่วนอีกสองเครื่องอย่าง Pacemaker และ ILR ไม่ได้รับผลกระทบจากแม่เหล็กแต่อย่างใด

การที่แม่เหล็กสามารถปิดการทำงานของ ICD ได้นั้นไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะตัวอุปกรณ์ดังกล่าวเมื่อฝังไปในร่างกายแล้วจำเป็นต้องมีสวิตช์สำหรับเปิดปิดการทำงาน และสนามแม่เหล็กก็เป็นวิธีที่ถูกเลือกมาใช้แทนสวิตช์ดังกล่าว

Chien ได้สอบถามแอปเปิลผ่านทางอีเมล ซึ่งทางแอปเปิลไม่ได้ให้ความเห็นกับผลการศึกษาดังกล่าว และบอกว่า iPad 2 นั้นปลอดภัย เมื่อใช้งานตามคู่มือการใช้งาน

ที่มา - Forbes

เอาเป็นว่าถ้ามีคนรู้จักที่ป่วยเป็นโรคหัวใจอยู่ ก็เตือนๆ ว่าอย่าไปกอดเครื่องเล่นละกันครับ

Get latest news from Blognone

Comments

By: ตุ๊ดเรืองแสงแท่งมายา on 13 May 2013 - 16:56 #572585
ตุ๊ดเรืองแสงแท่งมายา's picture

ดิฉันไม่ได้กวนนะคะ แต่แบบนี้ถ้านางไปเที่ยวงานวัดแล้วไปอยู่หน้าลำโพงใหญ่ ๆ เครื่องกระตุ้นจะหยุดทำงานไหมคะ เพราะลำโพงก็เป็นแม่เหล็ก อันนี้อย่าให้ลามปามไปถึง MagLev นะคะ อันนี้สงสัยจริง ๆ ค่ะ

By: Blltz
WriterMEconomicsAndroidWindows
on 13 May 2013 - 16:59 #572589 Reply to:572585
Blltz's picture

คงหยุดเหมือนกันครับ แต่ที่ตรงนี้อันตรายเพราะว่าตัวกระตุ้นมันจะปิดตัวเองเมื่ออยู่ในสนามแม่เหล็ก พอหลุดสนามแม่เหล็กมันก็ทำงานต่อ ถ้าเกิดหลับไปพร้อมกับแท็บเล็ต (อย่างที่เขาทดลองกัน) ตัวกระตุ้นมันก็จะปิดตัวเองยาวเลย

แต่ถ้ามีใครไปเต้นหน้าลำโพงนานๆ ก็คงเหมือนกันละมั้ง

By: ตุ๊ดเรืองแสงแท่งมายา on 13 May 2013 - 17:01 #572592 Reply to:572589
ตุ๊ดเรืองแสงแท่งมายา's picture

ขอบคุณค่ะ

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 13 May 2013 - 21:57 #572690 Reply to:572589
hisoft's picture

ผมเข้าใจว่ามันคือ reed switch นะครับ เพราะเป็นอุปกรณ์ที่นิยมกันพอสมควร ไอแพดรุ่นสองเองก็น่าจะเป็นตัวนี้ (แต่รุ่นถัด ๆ มามีการตรวจขั้วแม่เหล็กด้วย น่าจะซับซ้อนกว่านี้นิดหน่อย)

ซึ่งเจ้าตัวนี้ไม่ต้องไปเต้นนาน ๆ ครับ ถ้าเข้าไปใน magnetic field ที่แรงพอมันก็ทำงานเลย แต่ magnetic field นี่ถึงแม่เหล็กแรงมาก ๆ ก็ไปได้นิดเดียวครับ ลองเอาเหล็กไปลูบ ๆ รอบลำโพงดูก็ได้ แทบไม่กระดิกเลยครับ (แต่ตัว reed switch นี่น่าจะจับได้เร็วกว่าความรู้สึกเรา เพราะมันแค่แผ่นเหล็กบาง ๆ)

No Description

By: sdh on 13 May 2013 - 22:30 #572706 Reply to:572690

ตัวเลือกที่น่าจะดีกว่าคือ Hall effect sensor

By: darkfaty
AndroidWindows
on 13 May 2013 - 16:57 #572586
darkfaty's picture

เด็กเกรดแปดที่อเมริกาศึกษาอะไรที่ก้าวหน้ากว่าเด็กในประเทศเราเยอะเลยน่ะ

By: darkleonic
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 13 May 2013 - 17:19 #572601 Reply to:572586
darkleonic's picture

ไม่ใช่ว่าถ้ามีเด็กเราทำแบบนี้บ้าง เราก็ไปด่าว่าทำเพื่ออะไรรึ


I need healing.

By: 21Aki
ContributorAndroidWindows
on 13 May 2013 - 17:36 #572610 Reply to:572586
21Aki's picture

ถูกครับ แต่นั้นก็เป็นเพราะว่ามีคนชี้นำดี

She was helped by her father Walter Chien, a cardiac electrophysiologist.
เธอได้รับความช่วยเหลือจากคุณพ่อของเธอ Walter Chien, ผู้เชียวชาญด้านกระแสไฟฟ้าในหัวใจ

http://www.dailymail.co.uk/sciencetech/article-2322494/Heart-patients-risk-iPads-according-study-science-student.html

ไม่ใช่แค่การศึกษาเท่านั้น การเอาใจใส่จากผู้ปกครองก็คงมีส่วนครับ ^^

By: sunVSmoon
Windows
on 13 May 2013 - 16:58 #572588

เข้ามาตบมือให้

By: tangmo01
In Love
on 13 May 2013 - 17:01 #572593

เค้าบอกว่า เมื่อวางเครื่องไว้บนอก

ก้อคงคล้ายๆ smart cover ถ้าไม่ตรงจุดมันก้อไม่ล๊อกหน้าจอได้

By: iPongHD
iPhoneAndroidUbuntuIn Love
on 13 May 2013 - 17:02 #572594
iPongHD's picture

ข่าวหน้าหนึ่ง "iPad 2 คร่าชีวิตผู้ป่วยโรคหัวใจ"

By: keng-JA
iPhone
on 13 May 2013 - 17:03 #572595

ที่เลือก ipad ก็เพราะเป็นอะไรที่ใกล้ตัว ละมั้ง

อย่างโทรศัพท์มือถือนี้ก็น่าจะอันตรายด้วยมั้ง ถ้าเก็บไว้ในกระเป๋าเสื้อ

By: lancaster
Contributor
on 13 May 2013 - 17:06 #572596

สงสัยว่าทำไมเค้าไม่ทำ trigger ปิดเครื่องกระตุ้นให้มันยากกว่านี้หน่อย - -"

By: neonicus
Android
on 13 May 2013 - 18:32 #572631 Reply to:572596

ตอนออกแบบก็คงคิดว่าไม่มีใครเอาแม่เหล็กไปวางทาบอกไงครับ

เดี๋ยวนี้เคสมือถือแบบเป็นปกมีเยอะเหมือนกันแต่ไม่รู้มีเจ้าไหนที่ทำแบบแม่เหล็กให้ส่วนปกปิดกับเคสรึเปล่า
ถ้ามีก็เสี่ยง แต่ก็คงน้อยเพราะคงมีแค่ผู้ชายบางส่วนเอามือถือใส่กระเป๋าเสื้อ

By: UltimaWeapon
Windows PhoneRed HatWindowsIn Love
on 13 May 2013 - 17:12 #572597
UltimaWeapon's picture

แบบนี้จะเจอผลกระทบจากรถไฟฟ้ารึเปล่านี่ ขนาดสัญญาณโทรศัพท์ยังเดี้ยง - -'

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 13 May 2013 - 21:47 #572686 Reply to:572597
hisoft's picture

รถไฟฟ้าไม่ได้ปล่อยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าแรงเท่าสัญญาณโทรศัพท์นะครับ แล้วการทดลองนี้เป็นผลจากแม่เหล็กที่มีผลมากกว่าสัญญาณโทรศัพท์ด้วย

By: por311
iPhoneAndroid
on 13 May 2013 - 17:19 #572599

แม่เหล็กใน ipad ต่างจากแม่เหล็กอื่นยังไงอ่ะครับ

แล้วพวกแท็ปเลตอื่นที่มี cover ปิดหน้าจอ ใช้แม่เหล็กในการทำงานเหมือนกันรึเปล่า

หรือที่เลือก ipad เพราะเป็นที่นิยม&รู้จัก มากที่สุดครับ

By: chayaninw
WriterMEconomicsAndroidIn Love
on 13 May 2013 - 18:52 #572639 Reply to:572599
chayaninw's picture

ตัวแม่เหล็กใน iPad มันคงไม่ต่างกับแม่เหล็กอื่นๆ มั้งครับ แต่คำถามของการทดลองมันไม่ใช่ว่า แม่เหล็กมีผลปิดเครื่องกระตุ้นหัวใจมั้ย อันนี้เขาคงมีข้อสรุปกันอยู่แล้ว แต่เป็นคำถามว่า การใช้งานอุปกรณ์จำพวก iPad มีผลต่อการทำงานของอุปกรณ์กระตุ้นหัวใจมั้ย ซึ่งข้อนี้ เราก็อาจจะไม่รู้แน่ชัดว่า ขนาดและตำแหน่งของแม่เหล็กใน iPad มันกระทบได้ขนาดไหน

ส่วนถ้าถามว่า ทำไมต้อง iPad ไม่ใช่ยี่ห้ออื่น ถ้าดูจากส่วนแบ่งตลาดแล้วก็ไม่น่าจะแปลกอะไรที่ใช้ iPad เป็นตัวแทนของอุปกรณ์ชนิดนี้ (ผมเองไม่ทราบว่า ยี่ห้ออื่นรุ่นอื่น มีการแม่เหล็กแตกต่างกันหรือไม่)

By: hydrojen
iPhoneRed HatWindows
on 13 May 2013 - 17:21 #572602
hydrojen's picture

เด็ก 14 กับ การทดลองที่มีผลต่อชีวิต โอ้ว ได้โอกาสที่ดีมาก

By: neonicus
Android
on 13 May 2013 - 18:34 #572632 Reply to:572602

เดี๋ยวเด็กไทยเอาบ้าง เด็ก12ขวบทดลองพาผู้ป่วยที่มีเครื่องกระตุ้นหัวใจไปยืนที่ขอบประตูตู้เย็น

By: siconosis
Android
on 13 May 2013 - 17:28 #572606

และสนามแม่เหล็ก​ก็วิธีที่ถูกเลือกมาใช้แทนสวิทช์ดังกล่าว >> และสนามแม่เหล็ก​ก็'เป็น'วิธีที่ถูกเลือกมาใช้แทนสวิทช์ดังกล่าว

By: sdh on 13 May 2013 - 18:37 #572635 Reply to:572606
  • สวิทช์ -> สวิตช์
  • ใช้แทนสวิทช์ -> ใช้เปิดปิดสวิตช์
  • ICDs -> ICD
  • กระตุ้นหัวใจด้วยไฟฟ้าแบบช็อตได้ -> กระตุ้นหัวใจโดยช็อกด้วยไฟฟ้า (ประเด็นคือคำว่า ช็อต (shot/short?) ควรเป็น ช็อก (shock))
By: Blltz
WriterMEconomicsAndroidWindows
on 13 May 2013 - 21:23 #572675 Reply to:572635
Blltz's picture

ขอบคุณครับ หลายคำผมไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ Orz

By: inkirby
ContributoriPhoneAndroidIn Love
on 13 May 2013 - 18:11 #572625
inkirby's picture

แม่เหล็ก iPad มันแรงจริงๆ นะ Smart Cover ก็เช่นกัน


Dream high, work hard.

By: mr_tawan
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 13 May 2013 - 18:49 #572638
mr_tawan's picture

ว่าแต่ ICD จะทำงานก็ต่อเมื่อในกรณีที่จำเป็นไม่ใช่หรือ (เท่าที่อ่านจาก K2) ?


  • 9tawan.net บล็อกส่วนตัวฮับ
By: gotobanana
iPhoneAndroidBlackberrySymbian
on 13 May 2013 - 21:03 #572667
gotobanana's picture

งงว่าทำไมเอาไปทดลองกันคนจริง
ทั้งๆที่สามารถเอาอุปกรณ์มาทดลองกับตัวเครื่องในเจลก็ได้
เป็นการทดลองที่ไม่คำนึงถีงผู้ทดสอบเลย

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 13 May 2013 - 21:51 #572687 Reply to:572667
hisoft's picture

อย่างแรกคือเขาต้องการทดสอบว่ามีโอกาสแค่ไหนที่หลับไปแล้วมันจะร่วงตรงนั้นพอดีครับ อีกอย่างคือร่างกายคนเราเองก็ดูดซับอะไรต่าง ๆ ไปด้วย คงต้องการทดสอบว่ามันซับแรงแม่เหล็กไปมากพอจะช่วยให้เครื่องไม่มีปัญหาได้หรือเปล่า

แล้วก็ไม่ได้อันตรายอะไรขนาดนั้นนะครับ อย่างเครื่องสร้างคลื่นหัวใจ ถ้าหยุดส่งคลื่นก็แค่หัวใจไม่เต้นในจังหวะนั้นเท่านั้นเอง (O_o) ดับอนาถ

By: mr_tawan
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 14 May 2013 - 02:41 #572790 Reply to:572687
mr_tawan's picture

(ไปอ่านมาเพิ่มละ)

กรณีของ ICD จะไม่ทำงานจนกว่ามันจะตรวจพบจังหวะการเต้นของหัวใจที่ผิดปรกติ (และถ้าพบมันจะส่งคลื่นไฟฟ้าไปกระตุ้นให้กลับมาเต้นตามจังหวะเดิม) ถ้าเกิดว่าขณะที่ทำการทดลองเองมีการใช้อุปกรณ์อื่นตรวจวัดการเต้นของหัวใจอย่างใกล้ชิดอยู่แล้วก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนะครับ


  • 9tawan.net บล็อกส่วนตัวฮับ
By: gotobanana
iPhoneAndroidBlackberrySymbian
on 14 May 2013 - 12:47 #572930 Reply to:572687
gotobanana's picture

ส่วนต่างๆในร่างกายจำลองได้นะคับ เดียวนี้ไม่ต้องใช้ของจริงกันแล้วนะคับ เลยงงว่าทำไมไม่ทดลองใน labก่อน

By: darkfaty
AndroidWindows
on 13 May 2013 - 21:56 #572689 Reply to:572667
darkfaty's picture

งานวิชาการน่าจะต้องการข้อมูลที่ได้จากการทดลองที่ใกล้เคียงความจริงที่สุดน่ะครับ และการวิจัยทางการแพทย์ทั่วไปน่าจะอันตรายมากกว่านี้อีกครับ แล้วผู้เข้าร่วมทดสอบส่วนใหญ่เค้ายอมให้ทดลองเพื่อประโยชน์ต่อคนหมู่มาก น่าจะรู้สึกขอบคุณผู้ทดสอบที่ทำให้เราได้รับรู้อันตรายที่คาดไม่ถึง ดีกว่ามารู้เอาตอนเกิดเหตุร้ายไปแล้วน่ะครับ

By: gotobanana
iPhoneAndroidBlackberrySymbian
on 14 May 2013 - 12:45 #572929 Reply to:572689
gotobanana's picture

เดียวนี้มีการจำลองการทำงานต่างๆในร่างกายแบบเหมือนจริงกันแล้วนะคับมีความเหมือนหรือใกล้เคียงในระดับเกือบ100%

By: gzweet
iPhone
on 13 May 2013 - 21:31 #572678

อีกแหล่งข่าวบอกว่า Apple รู้เรื่องนี้อยู่แล้วโดยได้ระบุไว้ในคู่มือแล้วว่าต้องเล่นห่างหน้าอกอย่างน้อย 6 นิ้ว
เด็กคนนี้แค่อ่านคู่มือแล้วเอามาทดลองว่าจริงหรือเปล่าแค่นั้น

แต่ก็ดีครับ อย่างน้อยก็ช่วยให้ผู้ป่วยที่อาจไม่ได้สนใจจะอ่านคู่มือได้รู้บ้าง จะได้ระวังตัวมากขึ้น

By: LazarusSP1
ContributoriPhone
on 13 May 2013 - 21:57 #572691

มือถือทุกยี่ห้อมีคำเตือนเกี่ยวกับเครื่องกระตุ้นหัวใจอยู่แล้วครับ

By: tomazzu
AndroidUbuntu
on 13 May 2013 - 23:23 #572738

คิดถึง iron man ยังไงก็ไม่รู้