ผลการศึกษาของนักเรียนวัย 14 ปีจากรัฐแคลิฟอร์เนีย กลายเป็นเรื่องผู้ป่วยโรคหัวใจต้องระมัดระวังในการใช้งานอุปกรณ์พกพามากขึ้น หลังจากพบว่าแม่เหล็กเล็กๆ ใน iPad 2 สามารถปิดการทำงานของเครื่องกระตุ้นหัวใจได้
Gianna Chien ได้ทดสอบกับผู้ป่วยโรคหัวใจ 19 รายที่ฝังอุปกรณ์สำหรับโรคหัวใจไว้ที่หน้าอก โดยเป็น เครื่องกระตุ้นหัวใจด้วยไฟฟ้าแบบช็อกได้ (ICD) 16 ราย, เครื่องกระตุ้นหัวใจแบบ Pacemaker 2 ราย และเครื่องตรวจสอบการเต้นหัวใจ (ILR) 1 ราย โดยให้ผู้ป่วยทดลองใช้งาน iPad 2 ในหลายๆ ท่าทาง เช่น ถืออ่านในระดับอก ไปจนถึงการจำลองว่าหลับไปพร้อมกับวางเครื่องไว้บนหน้าอก
ผลปรากฏว่าแม่เหล็กใน iPad 2 นั้นมีผลสามารถปิดการทำงานของเจ้า ICD ได้จริง โดยมีอัตราการเกิดอยู่ที่ 18.8% เมื่อวางเครื่องไว้บนหน้าอก ส่วนอีกสองเครื่องอย่าง Pacemaker และ ILR ไม่ได้รับผลกระทบจากแม่เหล็กแต่อย่างใด
การที่แม่เหล็กสามารถปิดการทำงานของ ICD ได้นั้นไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะตัวอุปกรณ์ดังกล่าวเมื่อฝังไปในร่างกายแล้วจำเป็นต้องมีสวิตช์สำหรับเปิดปิดการทำงาน และสนามแม่เหล็กก็เป็นวิธีที่ถูกเลือกมาใช้แทนสวิตช์ดังกล่าว
Chien ได้สอบถามแอปเปิลผ่านทางอีเมล ซึ่งทางแอปเปิลไม่ได้ให้ความเห็นกับผลการศึกษาดังกล่าว และบอกว่า iPad 2 นั้นปลอดภัย เมื่อใช้งานตามคู่มือการใช้งาน
ที่มา - Forbes
เอาเป็นว่าถ้ามีคนรู้จักที่ป่วยเป็นโรคหัวใจอยู่ ก็เตือนๆ ว่าอย่าไปกอดเครื่องเล่นละกันครับ
ดิฉันไม่ได้กวนนะคะ
ตุ๊ดเรืองแสงแท่งมายา Mon, 05/13/2013 - 16:56
ดิฉันไม่ได้กวนนะคะ แต่แบบนี้ถ้านางไปเที่ยวงานวัดแล้วไปอยู่หน้าลำโพงใหญ่ ๆ เครื่องกระตุ้นจะหยุดทำงานไหมคะ เพราะลำโพงก็เป็นแม่เหล็ก อันนี้อย่าให้ลามปามไปถึง MagLev นะคะ อันนี้สงสัยจริง ๆ ค่ะ
คงหยุดเหมือนกันครับ
Blltz Mon, 05/13/2013 - 16:59
In reply to ดิฉันไม่ได้กวนนะคะ by ตุ๊ดเรืองแสงแท่งมายา
คงหยุดเหมือนกันครับ แต่ที่ตรงนี้อันตรายเพราะว่าตัวกระตุ้นมันจะปิดตัวเองเมื่ออยู่ในสนามแม่เหล็ก พอหลุดสนามแม่เหล็กมันก็ทำงานต่อ ถ้าเกิดหลับไปพร้อมกับแท็บเล็ต (อย่างที่เขาทดลองกัน) ตัวกระตุ้นมันก็จะปิดตัวเองยาวเลย
แต่ถ้ามีใครไปเต้นหน้าลำโพงนานๆ ก็คงเหมือนกันละมั้ง
ขอบคุณค่ะ
ตุ๊ดเรืองแสงแท่งมายา Mon, 05/13/2013 - 17:01
In reply to คงหยุดเหมือนกันครับ by Blltz
ขอบคุณค่ะ
ผมเข้าใจว่ามันคือ reed switch
hisoft Mon, 05/13/2013 - 21:57
In reply to คงหยุดเหมือนกันครับ by Blltz
ผมเข้าใจว่ามันคือ reed switch นะครับ เพราะเป็นอุปกรณ์ที่นิยมกันพอสมควร ไอแพดรุ่นสองเองก็น่าจะเป็นตัวนี้ (แต่รุ่นถัด ๆ มามีการตรวจขั้วแม่เหล็กด้วย น่าจะซับซ้อนกว่านี้นิดหน่อย)
ซึ่งเจ้าตัวนี้ไม่ต้องไปเต้นนาน ๆ ครับ ถ้าเข้าไปใน magnetic field ที่แรงพอมันก็ทำงานเลย แต่ magnetic field นี่ถึงแม่เหล็กแรงมาก ๆ ก็ไปได้นิดเดียวครับ ลองเอาเหล็กไปลูบ ๆ รอบลำโพงดูก็ได้ แทบไม่กระดิกเลยครับ (แต่ตัว reed switch นี่น่าจะจับได้เร็วกว่าความรู้สึกเรา เพราะมันแค่แผ่นเหล็กบาง ๆ)
ตัวเลือกที่น่าจะดีกว่าคือ
sdh Mon, 05/13/2013 - 22:30
In reply to ผมเข้าใจว่ามันคือ reed switch by hisoft
ตัวเลือกที่น่าจะดีกว่าคือ Hall effect sensor
เด็กเกรดแปดที่อเมริกาศึกษาอะไ
darkfaty Mon, 05/13/2013 - 16:57
เด็กเกรดแปดที่อเมริกาศึกษาอะไรที่ก้าวหน้ากว่าเด็กในประเทศเราเยอะเลยน่ะ
ไม่ใช่ว่าถ้ามีเด็กเราทำแบบนี้
darkleonic Mon, 05/13/2013 - 17:19
In reply to เด็กเกรดแปดที่อเมริกาศึกษาอะไ by darkfaty
ไม่ใช่ว่าถ้ามีเด็กเราทำแบบนี้บ้าง เราก็ไปด่าว่าทำเพื่ออะไรรึ
ถูกครับ
21Aki Mon, 05/13/2013 - 17:36
In reply to เด็กเกรดแปดที่อเมริกาศึกษาอะไ by darkfaty
ถูกครับ แต่นั้นก็เป็นเพราะว่ามีคนชี้นำดี
She was helped by her father Walter Chien, a cardiac electrophysiologist.
เธอได้รับความช่วยเหลือจากคุณพ่อของเธอ Walter Chien, ผู้เชียวชาญด้านกระแสไฟฟ้าในหัวใจ
http://www.dailymail.co.uk/sciencetech/article-2322494/Heart-patients-risk-iPads-according-study-science-student.html
ไม่ใช่แค่การศึกษาเท่านั้น การเอาใจใส่จากผู้ปกครองก็คงมีส่วนครับ ^^
เข้ามาตบมือให้
sunVSmoon Mon, 05/13/2013 - 16:58
เข้ามาตบมือให้
เค้าบอกว่า
tangmo01 Mon, 05/13/2013 - 17:01
เค้าบอกว่า เมื่อวางเครื่องไว้บนอก
ก้อคงคล้ายๆ smart cover ถ้าไม่ตรงจุดมันก้อไม่ล๊อกหน้าจอได้
ข่าวหน้าหนึ่ง "iPad 2
iPongHD Mon, 05/13/2013 - 17:02
ข่าวหน้าหนึ่ง "iPad 2 คร่าชีวิตผู้ป่วยโรคหัวใจ"
ที่เลือก ipad
keng-JA Mon, 05/13/2013 - 17:03
ที่เลือก ipad ก็เพราะเป็นอะไรที่ใกล้ตัว ละมั้ง
อย่างโทรศัพท์มือถือนี้ก็น่าจะอันตรายด้วยมั้ง ถ้าเก็บไว้ในกระเป๋าเสื้อ
สงสัยว่าทำไมเค้าไม่ทำ trigger
lancaster Mon, 05/13/2013 - 17:06
สงสัยว่าทำไมเค้าไม่ทำ trigger ปิดเครื่องกระตุ้นให้มันยากกว่านี้หน่อย - -"
ตอนออกแบบก็คงคิดว่าไม่มีใครเอ
neonicus Mon, 05/13/2013 - 18:32
In reply to สงสัยว่าทำไมเค้าไม่ทำ trigger by lancaster
ตอนออกแบบก็คงคิดว่าไม่มีใครเอาแม่เหล็กไปวางทาบอกไงครับ
เดี๋ยวนี้เคสมือถือแบบเป็นปกมีเยอะเหมือนกันแต่ไม่รู้มีเจ้าไหนที่ทำแบบแม่เหล็กให้ส่วนปกปิดกับเคสรึเปล่า
ถ้ามีก็เสี่ยง แต่ก็คงน้อยเพราะคงมีแค่ผู้ชายบางส่วนเอามือถือใส่กระเป๋าเสื้อ
แบบนี้จะเจอผลกระทบจากรถไฟฟ้าร
UltimaWeapon Mon, 05/13/2013 - 17:12
แบบนี้จะเจอผลกระทบจากรถไฟฟ้ารึเปล่านี่ ขนาดสัญญาณโทรศัพท์ยังเดี้ยง - -'
รถไฟฟ้าไม่ได้ปล่อยคลื่นแม่เหล
hisoft Mon, 05/13/2013 - 21:47
In reply to แบบนี้จะเจอผลกระทบจากรถไฟฟ้าร by UltimaWeapon
รถไฟฟ้าไม่ได้ปล่อยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าแรงเท่าสัญญาณโทรศัพท์นะครับ แล้วการทดลองนี้เป็นผลจากแม่เหล็กที่มีผลมากกว่าสัญญาณโทรศัพท์ด้วย
แม่เหล็กใน ipad
por311 Mon, 05/13/2013 - 17:19
แม่เหล็กใน ipad ต่างจากแม่เหล็กอื่นยังไงอ่ะครับ
แล้วพวกแท็ปเลตอื่นที่มี cover ปิดหน้าจอ ใช้แม่เหล็กในการทำงานเหมือนกันรึเปล่า
หรือที่เลือก ipad เพราะเป็นที่นิยม&รู้จัก มากที่สุดครับ
ตัวแม่เหล็กใน iPad
chayaninw Mon, 05/13/2013 - 18:52
In reply to แม่เหล็กใน ipad by por311
ตัวแม่เหล็กใน iPad มันคงไม่ต่างกับแม่เหล็กอื่นๆ มั้งครับ แต่คำถามของการทดลองมันไม่ใช่ว่า แม่เหล็กมีผลปิดเครื่องกระตุ้นหัวใจมั้ย อันนี้เขาคงมีข้อสรุปกันอยู่แล้ว แต่เป็นคำถามว่า การใช้งานอุปกรณ์จำพวก iPad มีผลต่อการทำงานของอุปกรณ์กระตุ้นหัวใจมั้ย ซึ่งข้อนี้ เราก็อาจจะไม่รู้แน่ชัดว่า ขนาดและตำแหน่งของแม่เหล็กใน iPad มันกระทบได้ขนาดไหน
ส่วนถ้าถามว่า ทำไมต้อง iPad ไม่ใช่ยี่ห้ออื่น ถ้าดูจากส่วนแบ่งตลาดแล้วก็ไม่น่าจะแปลกอะไรที่ใช้ iPad เป็นตัวแทนของอุปกรณ์ชนิดนี้ (ผมเองไม่ทราบว่า ยี่ห้ออื่นรุ่นอื่น มีการแม่เหล็กแตกต่างกันหรือไม่)
เด็ก 14 กับ
hydrojen Mon, 05/13/2013 - 17:21
เด็ก 14 กับ การทดลองที่มีผลต่อชีวิต โอ้ว ได้โอกาสที่ดีมาก
เดี๋ยวเด็กไทยเอาบ้าง
neonicus Mon, 05/13/2013 - 18:34
In reply to เด็ก 14 กับ by hydrojen
เดี๋ยวเด็กไทยเอาบ้าง เด็ก12ขวบทดลองพาผู้ป่วยที่มีเครื่องกระตุ้นหัวใจไปยืนที่ขอบประตูตู้เย็น
และสนามแม่เหล็กก็วิธีที่ถูกเ
siconosis Mon, 05/13/2013 - 17:28
และสนามแม่เหล็กก็วิธีที่ถูกเลือกมาใช้แทนสวิทช์ดังกล่าว >> และสนามแม่เหล็กก็'เป็น'วิธีที่ถูกเลือกมาใช้แทนสวิทช์ดังกล่าว
สวิทช์ -> สวิตช์ ใช้แทนสวิทช์
sdh Mon, 05/13/2013 - 18:37
In reply to และสนามแม่เหล็กก็วิธีที่ถูกเ by siconosis
ขอบคุณครับ
Blltz Mon, 05/13/2013 - 21:23
In reply to สวิทช์ -> สวิตช์ ใช้แทนสวิทช์ by sdh
ขอบคุณครับ หลายคำผมไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ Orz
แม่เหล็ก iPad มันแรงจริงๆ นะ
inkirby Mon, 05/13/2013 - 18:11
แม่เหล็ก iPad มันแรงจริงๆ นะ Smart Cover ก็เช่นกัน
ว่าแต่ ICD
mr_tawan Mon, 05/13/2013 - 18:49
ว่าแต่ ICD จะทำงานก็ต่อเมื่อในกรณีที่จำเป็นไม่ใช่หรือ (เท่าที่อ่านจาก K2) ?
งงว่าทำไมเอาไปทดลองกันคนจริง
gotobanana Mon, 05/13/2013 - 21:03
งงว่าทำไมเอาไปทดลองกันคนจริง
ทั้งๆที่สามารถเอาอุปกรณ์มาทดลองกับตัวเครื่องในเจลก็ได้
เป็นการทดลองที่ไม่คำนึงถีงผู้ทดสอบเลย
อย่างแรกคือเขาต้องการทดสอบว่า
hisoft Mon, 05/13/2013 - 21:51
In reply to งงว่าทำไมเอาไปทดลองกันคนจริง by gotobanana
อย่างแรกคือเขาต้องการทดสอบว่ามีโอกาสแค่ไหนที่หลับไปแล้วมันจะร่วงตรงนั้นพอดีครับ อีกอย่างคือร่างกายคนเราเองก็ดูดซับอะไรต่าง ๆ ไปด้วย คงต้องการทดสอบว่ามันซับแรงแม่เหล็กไปมากพอจะช่วยให้เครื่องไม่มีปัญหาได้หรือเปล่า
แล้วก็ไม่ได้อันตรายอะไรขนาดนั้นนะครับ อย่างเครื่องสร้างคลื่นหัวใจ ถ้าหยุดส่งคลื่นก็แค่หัวใจไม่เต้นในจังหวะนั้นเท่านั้นเอง (O_o)
ดับอนาถ(ไปอ่านมาเพิ่มละ) กรณีของ ICD
mr_tawan Tue, 05/14/2013 - 02:41
In reply to อย่างแรกคือเขาต้องการทดสอบว่า by hisoft
(ไปอ่านมาเพิ่มละ)
กรณีของ ICD จะไม่ทำงานจนกว่ามันจะตรวจพบจังหวะการเต้นของหัวใจที่ผิดปรกติ (และถ้าพบมันจะส่งคลื่นไฟฟ้าไปกระตุ้นให้กลับมาเต้นตามจังหวะเดิม) ถ้าเกิดว่าขณะที่ทำการทดลองเองมีการใช้อุปกรณ์อื่นตรวจวัดการเต้นของหัวใจอย่างใกล้ชิดอยู่แล้วก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนะครับ
ส่วนต่างๆในร่างกายจำลองได้นะค
gotobanana Tue, 05/14/2013 - 12:47
In reply to อย่างแรกคือเขาต้องการทดสอบว่า by hisoft
ส่วนต่างๆในร่างกายจำลองได้นะคับ เดียวนี้ไม่ต้องใช้ของจริงกันแล้วนะคับ เลยงงว่าทำไมไม่ทดลองใน labก่อน
งานวิชาการน่าจะต้องการข้อมูลท
darkfaty Mon, 05/13/2013 - 21:56
In reply to งงว่าทำไมเอาไปทดลองกันคนจริง by gotobanana
งานวิชาการน่าจะต้องการข้อมูลที่ได้จากการทดลองที่ใกล้เคียงความจริงที่สุดน่ะครับ และการวิจัยทางการแพทย์ทั่วไปน่าจะอันตรายมากกว่านี้อีกครับ แล้วผู้เข้าร่วมทดสอบส่วนใหญ่เค้ายอมให้ทดลองเพื่อประโยชน์ต่อคนหมู่มาก น่าจะรู้สึกขอบคุณผู้ทดสอบที่ทำให้เราได้รับรู้อันตรายที่คาดไม่ถึง ดีกว่ามารู้เอาตอนเกิดเหตุร้ายไปแล้วน่ะครับ
เดียวนี้มีการจำลองการทำงานต่า
gotobanana Tue, 05/14/2013 - 12:45
In reply to งานวิชาการน่าจะต้องการข้อมูลท by darkfaty
เดียวนี้มีการจำลองการทำงานต่างๆในร่างกายแบบเหมือนจริงกันแล้วนะคับมีความเหมือนหรือใกล้เคียงในระดับเกือบ100%
อีกแหล่งข่าวบอกว่า Apple
gzweet Mon, 05/13/2013 - 21:31
อีกแหล่งข่าวบอกว่า Apple รู้เรื่องนี้อยู่แล้วโดยได้ระบุไว้ในคู่มือแล้วว่าต้องเล่นห่างหน้าอกอย่างน้อย 6 นิ้ว
เด็กคนนี้แค่อ่านคู่มือแล้วเอามาทดลองว่าจริงหรือเปล่าแค่นั้น
แต่ก็ดีครับ อย่างน้อยก็ช่วยให้ผู้ป่วยที่อาจไม่ได้สนใจจะอ่านคู่มือได้รู้บ้าง จะได้ระวังตัวมากขึ้น
มือถือทุกยี่ห้อมีคำเตือนเกี่ย
LazarusSP1 Mon, 05/13/2013 - 21:57
มือถือทุกยี่ห้อมีคำเตือนเกี่ยวกับเครื่องกระตุ้นหัวใจอยู่แล้วครับ
คิดถึง iron man ยังไงก็ไม่รู้
tomazzu Mon, 05/13/2013 - 23:23
คิดถึง iron man ยังไงก็ไม่รู้