บริษัท Dynamic Advances (ซึ่งว่ากันว่าเป็นบริษัทที่หากินกับการไล่ฟ้องสิทธิบัตร) ยื่นฟ้องแอปเปิลว่า Siri ละเมิดสิทธิบัตรเกี่ยวกับการประมวลผลภาษาธรรมชาติ (natural language processing) ของตัวเอง
อย่างไรก็ตามสิทธิบัตรหมายเลข 7,177,798 ที่อยู่ในคำฟ้องไม่ใช่สิทธิบัตรที่คิดค้นโดย Dynamic Advances แต่บริษัทซื้อมาจากสถาบัน Rensselaer Polytechnic Institute ในนิวยอร์กอีกทึหนึ่ง
ที่น่าสนใจคือสิทธิบัตรใบนี้ออกในปี 2007 ให้กับอาจารย์และนักศึกษาของสถาบันในขณะนั้น ซึ่งนักศึกษาเป็นคนไทยชื่อ Veera Boonjing ด้วยครับ
ที่มา - The Register
Comments
นักศึกษาคนนั้น ปัจจุบันเป็น Assoc.Prof. Dr.Veera Boonjing @KMITL
เหยดดดดด
Coder | Designer | Thinker | Blogger
อาจารย์โพ้มมมม
แล้วอาจารย์ท่านรู้ใหมครับว่า สิทธิบัตรฉบับนี้กำลังดัง :D
เห็น facebook ท่านก็โพสข่าวเรื่องนี้เหมือนกันครับ
รีบไปสมัคร ป.โท ให้ว่อง XD
ถ้าจำไม่ผิด มีอาจารย์หญิงอีกท่านนึงที่เคยไปศึกษาที่อเมริกาแล้วทำวิจัยเรื่องแนวๆ Motion detection เอาไว้ใช่มั้ยครับ
คือผมจำชื่องานวิจัยที่แน่ชัดไม่ได้ รู้แค่ว่าเป็นวิธีที่ดังในหมู่ Motion detection พอควรเลย
ปล. ที่รู้เพราะตอนนั้นผมศึกษาเรื่องนี้ แล้วไปเจองานวิจัยโดยบังเอิญ
เหยดดดด อาจารย์ผมมมมมมมมมม
อ้ากก อาจารย์โพ้มมมมมมมมมมมมม >_<
ลองอ่านที่ อ.ศรันย์เขียนไว้ประกอบด้วยก็ดีครับ http://sarunblog.intakosum.net/2012/10/siri-apple.html
บล็อกของผม: http://sikachu.com
กลายเป็นว่าผู้ได้รับผลประโยชน์คือ บ.ที่ซื้อสิทธิบัตรเพื่อการฟ้องร้อง (เหมือนกว้านซื้อสินค้า ไปขายต่อแพงๆ)
อาจารย์ เก่งมากครับ
เจ้าเก่าอีกแล้ว
I need healing.
สุดยอดไปเลย เจอตัวจริงมาแล้วเก่งมาก
สิทธิบัตรมันกว้างไปไหม ไม่ว่าค่ายไหนก็ตายหมด ไม่ว่าจะเมาท์มอยหรือรูดปื๊ดๆ
Apple ก็มีกว้างๆ ตั้งหลายอัน ฮ่าๆ จริงๆ ไม่ผิดหรอกครับ ผิดที่ระบบสิทธิบัตร การ award patent พวกนี้มากกว่า
ถ้าเจอฟ้องแบบนี้ เราจะมีคอมพิวเตอร์ที่ตอบโต้กับเราแบบมนุษย์ได้ใช้กันไหมเนี่ย
ถ้าตัดสินว่าละเมิดจริงจ่ายเงินไปก็ได้ใช้ครับ
อีกทึหนึ่ง => อีกทีหนึ่ง
ข่าวนี้ไม่ค่อยดังเท่าไหร่เลย....ปกติจะมีสาวกคอมเม้นบาน...
อาจาร์ยท่านนั้น คือลุงผมเอง พี่ชายแม่
ปัญหาระบบสิทธิบัตรสหรัฐคือ ยอมให้จดสิทธิบัติแบบคลอบคลุมและกว้างมากจนไม่สามารถสร้างนวัตกรรมที่คล้ายกันมาแข่งได้ แถมคนที่คิดค้นก็ไม่ได้ประโยชน์กลายเป็นบริษัทหัวหมอที่กว้านซื้อสิทธิบัติเพื่อนำไปฟ้องเพื่อเรียกเงินอีกต่อหนึ่ีง
จริงๆ แล้วปัญหานี้เป็นปัญหาของระบบ "สิทธิบัตรซอฟต์แวร์" ทั้งหมดเลยครับสิทธิบัตรแบบเดิมๆ ยังเปิดโอกาสให้สร้างวิธีการใหม่ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกันได้เสมอ ลองหามีดพับดู จะพบ patent pending แปลกๆ เยอะมาก ทั้งหมดไม่ละเมิดสิทธิบัตรกัน
แต่สิทธิบัตรซอฟต์แวร์มีปัญหาเรื่องความเข้าใจตั้งแต่ ผู้ออกสิทธิบัตร ไปจนศาลในคำชี้ขาดเอง สหรัฐฯ เลยไปแนวทางนี้ เปิดโอกาสให้บริษัทหากินกับสิทธิบัตรไปเรื่อยๆ ได้
lewcpe.com, @wasonliw