Tags:
Node Thumbnail

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว EMC ยักษ์ใหญ่โซลูชันทางด้านธุรกิจได้มาจัดงานสัมมนากึ่งเวิร์คช็อปในประเทศไทยในชื่องาน EMC Forum 2012 ภายใต้คอนเซปของงานว่า "TRANSFORM IT + BUSINESS + YOURSELF" ซึ่งภายในงานจะมีการเวิร์คช็อปในหัวข้อต่างๆ ที่ครอบคลุมผลิตภัณฑ์ของ EMC ยกตัวอย่างที่หลายคนรู้จักได้แก่ VMware หรือ Greenplum เป็นต้น (ถ้าใครยังไม่คุ้นกับ EMC ลองอ่านบทสัมภาษณ์ผู้บริหารก่อนได้)

EMC Forum 2012 ปฏิรูปธุรกิจด้วยเทคโนโลยี

งาน EMC Forum 2012 ในประเทศไทยครั้งนี้จัดเป็นแห่งที่สองต่อจากสิงคโปร์ ด้วยหัวข้อที่เป็นใจความสำคัญของการจัดงานครั้งนี้คือการเชิญชวนให้ฝั่งธุรกิจหันมาสนใจความเปลี่ยนแปลงทางด้านโซลูชันสำหรับองค์กรไปสู่เทคโนโลยีที่หลายบริษัทกำลังให้ความสนใจทั้ง virtualization และระบบกลุ่มเมฆสำหรับองค์กร

ในระหว่างงาน EMC ได้แสดงวิสัยทัศน์อนาคตของโซลูชันองค์กร โดยมีคุณเดวิด เวิร์ท รองประธานฝ่ายโกลบอล เซอร์วิส ประจำ EMC ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และญี่ปุ่นมาเป็นผู้อธิบายรายละเอียดต่างๆ อีกด้วย

EMC บอกว่าตอนนี้บริษัททั่วโลกหันมาใช้โซลูชันระบบกลุ่มเมฆสำหรับองค์กรกันหมดแล้ว และจากข้อมูลของ IDC ระบุว่าในปี 2011 บริษัทต่างๆ ที่ใช้ระบบกลุ่มเมฆสำหรับองค์กรนั้นเป็นระบบเปิด (Public Cloud) มากกว่า 70%+ และจากการทำนายของ Gartner ระบุว่าภายในปี 2014 บริษัทเหล่านั้นจะเปลี่ยนไปใช้ระบบกลุ่มเมฆแบบปิดเป็นตัวเลขสูงถึง 70%+ เช่นกัน

No Description

การที่ EMC เห็นแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงโซลูชันองค์กรในรูปแบบนี้ จึงนำเสนอโซลูชันกลุ่มเมฆสำหรับองค์กรแบบผสม (Hybrid Cloud) ที่รวมเอาข้อดีของระบบกลุ่มเมฆทั้งสองแบบเข้าไว้ด้วยกัน

No Description

คำจำกัดความของ Hybrid Cloud อธิบายคือการแบ่งประเภทของงานให้ตรงกับความต้องการของระบบ และเลือกใช้ตามความเหมาะสม ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายลงมาได้มาก เพราะแทนที่จะรันแอพทุกอย่างบนกลุ่มเมฆแบบปิด ก็โยกไปรันในกลุ่มเมฆแบบเปิดได้

No Description

ตลอด 7 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2004 EMC ได้สร้างฐานสำหรับระบบกลุ่มเมฆที่มั่นคง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับธุรกิจที่จะเปลี่ยนมารันโปรแกรมสำคัญขององค์กร (Mission critical application) บนระบบกลุ่มเมฆ และภายในปี 2012 เป็นต้นไปจะเข้าสู่การเพิ่มประสิทธิภาพของ ITaaS เพื่อลดค่าใช้จ่ายฮาร์ดแวร์ และความคล่องตัวในการทำงาน ซึ่งระบบทั้งหมดนี้ EMC ใช้จริงในองค์กรของตัวเองแล้ว

ลูกค้าในประเทศไทย

สำหรับในประเทศไทย EMC ได้ยกตัวอย่างเคสที่เข้าไปมีส่วนร่วมในการทำระบบให้กับลูกค้า รายแรกเป็นธุรกิจในกลุ่มธุรกรรมการเงิน โดยเปลี่ยนจากแพลตฟอร์ม x86 ให้กลายเป็น virtualization ให้ได้มากที่สุด ใช้งานกับแอพเดิมได้ และพร้อมสำหรับการขยายไปสู่ระบบกลุ่มเมฆ ผลลัพธ์ที่ได้คือช่วยลดค่าใช้จ่ายสตอเรจไปถึง 40% และลดการใช้พลังงานมากถึง 30%

ลูกค้าอีกรายที่ EMC เข้าไปมีส่วนร่วมอยู่ในธุรกิจประเภทขนส่ง เป้าหมายหลักคือการเปลี่ยนระบบกลายเป็น virtualization และวิธีการจัดเก็บฐานข้อมูลเพื่อไม่ให้ข้อมูลซ้ำซ้อน ผลคือช่วยลดค่าใช้จ่ายจากปริมาณสตอเรจ และเซิร์ฟเวอร์สำหรับการจัดเก็บฐานข้อมูลไปได้มาก

EMC ยังพูดถึงภาครัฐในแง่ของงบประมาณทางด้านไอที ที่ใช้เม็ดเงินสูงถึง 50,000 ล้านบาท หรือราวๆ 20% ของเงินที่ไหลเวียนอยู่ในตลาดทั้งหมด พร้อมทั้งระบุว่าเงินส่วนมากถูกนำไปใช้กับการซื้อฮาร์ดแวร์ใหม่ ซึ่งถ้าหากรัฐบาลสามารถผลักดันระบบกลุ่มเมฆภาครัฐ (Government Cloud) ได้ ค่าใช้จ่ายส่วนนี้จะลดลง และเงินจะถูกนำไปใช้สำหรับการบำรุงรักษาระบบมาก (ซึ่งเป็นสัดส่วนปกติ)

ในส่วนการเติบโตของระบบกลุ่มเมฆในประเทศไทยนั้น จากตัวเลขในปัจจุบัน พบว่าเพิ่มขึ้นสูงมากจากในกลุ่มอุปกรณ์สำหรับคอนซูเมอร์ โดยเฉพาะแท็บเล็ตที่เพิ่มจำนวนจาก 480,000 เครื่องในปี 2011 จะกลายเป็น 2.5 ล้านเครื่องภายในปีนี้ ปริมาณผู้ใช้อินเทอร์เน็ตปัจจุบันสูงถึง 18 ล้านรายแล้ว (มีบัญชีเฟซบุ๊กมากถึง 14 ล้านบัญชี) ชี้ให้เห็นว่ายังมีช่องทางให้ผู้ให้บริการธุรกิจบนกลุ่มเมฆโตได้อีกมาก แต่ก็ต้องสร้างความมั่นใจให้ผู้ใช้ในแง่ความปลอดภัยเช่นกัน

Big Data

จากที่เราเห็นว่าปริมาณผู้ใช้อินเทอร์เน็ตที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ก็ส่งผลไปถึงปริมาณข้อมูลที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลด้วย เทียบจากเมื่อปี 2000 ทั่วโลกมีข้อมูลใหม่เพิ่มขึ้นปีละ 2EB (เท่ากับ 2,097,152TB) แต่ในปี 2011 ทั่วโลกมีข้อมูลใหม่เพิ่มขึ้นมากถึงวันละ 2EB แล้ว!

No Description

ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) นำไปสู่โอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจที่สามารถนำข้อมูลมาทำอะไรได้มากขึ้น ในช่วงเริ่มต้นองค์กรเพียงแค่นำข้อมูลขนาดใหญ่นี้มาเพื่อสร้างกำไรที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น แต่เมื่อเวลาผ่านไป องค์กรเรียนรู้ที่จะใช้ข้อมูลที่ว่าทำนายพฤติกรรมผู้ใช้เพื่อสร้างประสบการณ์ใช้งานที่ดี บางครั้งก็เกิดธุรกิจใหม่ขึ้นมา แต่ท้ายที่สุดแล้วข้อมูลเหล่านี้ถูกนำมาใช้เพื่อประกันความเสี่ยงไม่ให้บริษัทเสียหายในอนาคต ซึ่ง EMC ก็มีระบบที่ทำมาเพื่อตอบสนองกับข้อมูลเหล่านี้อย่าง Isilon และ Greenplum นั่นเอง

No Description

สำหรับคนที่สนใจเอกสารประกอบงาน EMC Forum 2012 สามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้จากลิงก์นี้ครับ (เป็น PDF)

Get latest news from Blognone

Comments

By: panurat2000
ContributorSymbianUbuntuIn Love
on 31 August 2012 - 14:25 #466655
panurat2000's picture

ซึ่งภายในงานจะมีการเวิร์คช็อปในหัวข้อมต่างๆ

หัวข้อม => หัวข้อ

ผลลัพธ์ที่ได้่คือช่วยลดค่าใช้จ่ายสตอเรจไปถึง 40%

ผลลัพธ์ที่ได้่คือ => ผลลัพธ์ที่ได้คือ

ค่าใช้จ่่ายส่วนนี้จะลดลง และเงินจะถูกนำไปใช้สำหรับการบำรุงรักษาระบบมาก

ค่าใช้จ่่าย => ค่าใช้จ่าย

แต่ท้ายที่สุดแล้วข้อมูลเหล่านี้ถูกนำมาใช้เพื่อประกันความเสี่ยงไม่ให้บริษัทเสียหายนั่

ไม่ให้บริษัทเสียหายนั่ ?

สามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้จากลิงค์นี้ครับ (เป็น PDF)

ลิงค์ => ลิงก์

By: paepod on 31 August 2012 - 14:37 #466661 Reply to:466655

งาน EMC Forum 2012 ในประเทศไทยครั้งนี้จัดเป็นแห่งที่สองต่อจากสิงคโปร

สิงค์โปร => สิงคโปร์ ?

By: Pookieman
AndroidWindows
on 31 August 2012 - 18:09 #466715

น่าสนใจครับ

By: trisectrix
iPhoneRed Hat
on 1 September 2012 - 12:37 #466948

ไปมาเหมือนกันครับ เสียดายที่ไม่ได้อยู่ฟัง session Big data ช่วงบ่าย