ผลงานวิจัยชิ้นใหม่ของ The Engineering Human-Computer Interaction (EHCI) ช่วยให้ iPad 2 สามารถแสดงผลเป็น 3 มิติได้ โดยที่ไม่ต้องใส่แว่นตาหรือใช้จอพิเศษแบบ Nintendo 3DS เทคนิคที่ว่านี้มีชื่อว่า Head-Coupled Perspective ซึ่งใช้วิธีการเปิดกล้องที่หน้าจอเครื่องแล้วจดจำหน้าของผู้ใช้ไว้ จากนั้นกล้องจะนำตำแหน่งที่เห็นหน้าของเราไปคำนวณเพื่อแสดงผลออกมาเป็น 3 มิติ
ซึ่งหากว่าเทคนิคนี้ได้ผลลัพท์ที่ดีและมีคุณภาพพอ ไม่เพียงแค่ iPad 2 เท่านั้น แต่ยังใช้กับอุปกรณ์อื่นๆ ที่มีกล้องถ่ายข้างหน้าได้เช่นกัน แนะนำให้ดูวิดีโอข้างในแล้วจะเห็นภาพครับ
ที่มา - TUAW
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- Kubernetes คืออะไร [Part 1] เกิดขึ้นมาอย่างไร? ทำไมต้องใช้มัน? | Cloudnone EP.14
- CI/CD ยังไงดี ตั้งเซิร์ฟเวอร์เอง vs เช่าคลาวด์ | Cloudnone EP.13
- รู้จักโน้ตบุ๊กบนคลาวด์ เช่าใช้งาน Jupyter Notebook ที่ไหนดี | Cloudnone Ep.12
- สรุปข่าวใหญ่ปี 23 และคาดการณ์เทรนด์ปี 24 ในวงการ Cloud | Cloudnone EP.11
- สรุปของใหม่และสาระสำคัญจาก AWS re:Invent 2023 | Cloudnone Special EP
Comments
OMG
ไม่ต้อง omg หรอกครับ 3d head tracking มันเก่าแล้ว
และไม่ถือว่าเป็น 3D ที่แท้จริงเพราะเทคนิกแบบนี้ เราจะไม่รู้สึกถึงความลึกของภาพเวลามันอยู่นิ่งๆ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ประยุกต์ได้ดีครับ คนทำใช่คนเดียวกับที่เอา wii mote มาใช้ทำแบบนี้หรือเปล่า
เจ๋งมาก แต่ถ้ามีคนสุมหัวอยู่หลายๆ คนท่าทางเครื่องคงจะมึน 55+
ทำได้ยังไง งง อ่าครับ เทพฉิบหาย !!!
โอ้! ไปไกลมากครับ อีกหน่อยคงพัฒนาเพื่อให้ทำงานได้พอๆ กับ Kinect
จอสัมผัสเตรียมตกยุค, Gesture Smartphone มาแล้ว!
คุ้นๆนะ เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อนแต่ไม่ใช่บน iPad
Achievement Unlocked: Being a Blognone's Writer
AR?
ใช้กล้องหน้า เทคนิคการจดจำใบหน้าแยกแยะตำแหน่งดวงตาผู้ใช้งาน แล้วคำนวณหาตำแหน่งสัมพัทธ์
กินแบตมั้ยครับ
เทคโนโลยีเก่าแล้วครับ แต่เอามาประยุกต์กับไอแพด...ก่อนหน้านี้มีคนแฮ็กทำผ่านวีโมต http://www.youtube.com/watch?v=Jd3-eiid-Uw
ใช่ครับ จริงๆ แล้วหลักการ วิธีทำไม่ได้ใหม่อะไร เพียงแต่เปลี่ยนอุปกรณ์ ของคนไทยก็มีใช้ kinect http://www.nuuneoi.com/blog/blog.php?read_id=414
บน iPad พอรู้ว่ามีกล้องหน้าผมก็คิดว่าต้องมีคนทำ เดี๋ยวต้องมีคนประยุกต์มาใช้ในเกม 3 มิติ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ถ้ามีอีกคนเดินเข้ามาจะเป็นไงหว่า
ก็เป็น 2 คนไงครับ
หนีก่อน ....
เอ่อ ........ ไปไม่เป็นเลยทีนี้ -..-
2 จริงๆนั่นแหละ - -*
เทคโนโลยีเดียวกับ Tech48 นี่นา แต่ทำได้เป๊ะสมเป็น iPad ดี
http://www.youtube.com/watch?v=wwaSBld4ucQ
ถ้าใช้จอแบบ 3DS คงสมบูรณ์แบบไปเลย
ต้องมีความรู้ขนาดไหนเนี้ยะ ถึงจะทำแบบนี้ได้
โปรแกรมมิ่ง + ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ครับ รวมแล้วคือวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ครับ
มีอยู่ช่วงนึงผมเคยศึกษาเรื่อง Motion Detection ครับ
Algorithm แบบที่มีคนพัฒนาไว้แล้วมีหลายตัวมาก ตัวนึงที่มีการพูดถึงเป็นอันดับต้นๆ ผมสังเกตุเห็นชื่อว่าคล้ายๆ คนไทย ค้นหาข้อมูลต่อไปก็เป็นคนไทยจริงๆ ครับ
เป็นอาจารย์ผู้หญิงคณะวิศวะคอมฯ ของลาดกระบังครับ ขออภัยที่ผมจำชื่อท่านไม่ได้ แต่ได้อ่าน Paper ของท่านคร่าวๆ แล้วรู้เลยว่าตัวเองอ่อนวิทย์ฯ และคณิตฯ อย่างมาก
วิทยาศาสตร์ช่วยในเรื่อง Algo ส่วนคณิตฯ นั้นใช้ในการเขียน Algo ให้ทำงานได้รวดเร็วมากที่สุดครับ พวกพีชคณิต (เขียนยังไงหว่า) อะไรบลาๆ นี่ได้ใช้เยอะมาก
รู้หลักการของ 3D นิดหน่อย กับการสร้างภาพ 3D + programing ก็พอจะได้แล้วครับ
เหมือนเขียนเกม 3 มิติแหละครับ ปกติอย่าง counter เวลาเราบังคับตัวละครเดินไปทางขวา ภาพที่โชว์ที่จอก็จะเหมือนเรามองจากทางขวามากขึ้น อันนี้ก็เหมือนกัน เพียงแต่ใช้วิธีการซักอย่างจับว่าผู้มองมองจากจุดไหน ถ้าผู้มองเลื่อนหน้าไปทางขวา ภาพก็จะปรับคล้ายๆ กับเราบังคับเดินขวาในเกมแบบนั้นแหละครับ
เมื่อก่อนอุปกรณ์ headtracking มันแพง พอมีอะไรใหม่มาคนก็จับมาทำ ตั้งแต่ wii mote, kinect หรืออะไรก็ได้ที่ทำให้เรารู้ตำแหน่งผู้มองก็ทำได้แล้วครับ หลักการเหมือนกันหมด แต่ work สุดผมว่าน่าจะ kinect ไม่มีอะไรเกะกะตัว แถมได้ทั้งตำแหน่งระยะความลึกด้วย กล้องธรรมดาได้แค่บนล่างซ้ายขวา เดินหน้าถอยหลังจับได้แค่ขนาดซึ่งไม่แม่นและต้องเทียบใหม่เวลาเปลี่ยนวัตถุ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ผมไม่เคยเขียนโปรแกรมแนวๆ นี้
อยากทราบว่าการเขียนโปรแกรมในส่วนวิเคราะห์หน้ามันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอครับ
ไม่ง่ายครับ ถ้าจะเริ่มทำจาก 0 แต่มันมีหลายอัลกอมากๆ ที่ฮิตๆ กันคือ haar-like feature โอ้ย เยอะแยะครับ ลองเล่น openCV ดู
ไม่ง่ายแต่ก็ไม่ได้ยากเวอร์ครับ เห็น comment หลายคนบอกเหมือนมันน่าตื่นเต้นมาก แต่จริงๆ แล้วมันมีคนทำมาแล้วเพียงแค่คนละอุปกรณ์ ผมเองก็ไม่เคยทำ เคยแต่เอา lib คนอื่นมาใช้ในอุปกรณ์อื่น
อยากศึกษาลองถาม @nuuneoi ดูน่าจะดีนะครับ เพราะเค้าทำจริงมาแล้วโดยใช้ kinect
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
แจ่มมาก
นี่ไม่ได้แสดงผลเป็นสามมิตินิครับ
คนละอย่างกับ Nintendo 3DS เลย
นั่นสิ น่าจะคนละอย่างกับ Nintendo 3DS นะครับ
สำหรับคนคุ้นๆ มันพัฒนาจากเครื่อง Wii ครับ
เฮ้ เจ๋งนะ
May the Force Close be with you. || @nuttyi
เจ๋งเว้ยเฮ้ย!
ปล. ชอบเพลงประกอบ :D
สุดยอดครับ เป็นการเอาเทคโนโลยีที่มีอยู่แล้วมาประยุคได้อย่างลงตัว
แบบนี้ทำออกมาเป็นเกมส์ Killer ได้สบายๆ เลยนะเนี้ย
คล้ายกับโปรแกรม Holo Toy ในไอโฟนเลย
ต่อยอดอย่างสวยงาม (Johnny Lee) "Johnny Lee"
โห ตรงกับที่คิดไว้เป๊ะเลย เพียงแต่ไม่มีเวลาทำ ยังนึกอยู่ว่าทำไมไม่มีใครทำ สงกรานต์ว่างๆว่าจะทำซะหน่อย ไม่ทันละ 555
ต้นฉบับครับ http://www.youtube.com/watch?v=Jd3-eiid-Uw
หลอกได้เนียน เลย
เป็นเรื่องๆเก่าๆ ที่พอเอามาทำลง iPad2 กลับกลายเป็นเหมือนเทคโนโลยีใหม่ล้ำอนาคต เจ๋งสุดๆ OutStanding ไปซะงั้น
ปล.ที่จะรู้สึกได้ก็แค่คนเล่นเท่านั้น คนรอบข้างก็จะเห็นว่าภาพมันยับไปมาไม่ใช่ 3D
จุดแข็งของ Apple อย่างหนึ่งคือ มันครอบครองสัญญะของ"ความล้ำยุค"ไปแล้ว ทำให้คนทั่วไปจะเหมารวมว่าทุกอย่างที่ทำได้จาก Apple คือของใหม่ล่าสุด
"With the first link, the chain is forged. The first speech censured, the first thought forbidden, the first freedom denied, chains us all irrevocably."
ส่วนตัวไม่ชอบหน้าจอแบบ สามมิติ ทุกๆ กรณี
ชอบแบบหน้าจออ่านง่ายๆ แสดงผลแบบ นิตยสารมากกว่า
แบบที่ ปลายนิ้วติดหน้าจอUI เลยไม่ต้องมีกระจกมากั้น
E-Ink ที่อ่านสบายตาชนะเลิศครับ
(ถ้า Refresh Rate มันสูงกว่านี้ซักนิดนะครับ)
เคยเห็นตั้งแต่ใน DS แล้ว น่าจะแบบเดียวกัน
ถ้ามีคนเอาไประยุกต์ทำ apps. เจ๋งๆต่อยอดมาได้นี่คงเยี่ยมเลย
ปล.ยังไม่เคยเห็น 3ds ตัวจริงเลย
ผมคนนึงครับที่บอกว่ามันเจ๋ง ออกมาร้อนตัว
คือผมเคยเห็นในอุปกรณ์อื่นแล้วแหละ ไม่ได้ว่าไม่เคยเห็น แต่พอมันมาอยู่บน iPad เนี่ย ผมว่ามันน่าจะมีอะไรออกมาอีกเยอะแน่ๆ เพราะคนเล็งจะเขียนกันเยอะ อารมณ์เหมือนกับเอาเมาส์มาใช้กับวินโดวส์น่ะ มันไม่ได้ทำที่แรกหรอก แต่ทำแล้วมันเข้าถึงผู้ใช้ได้มากกว่า
May the Force Close be with you. || @nuttyi
งี้ก็ประยุกต์กับ notebook ทั่วโลกได้เลยสิ
:-)
D630 ไม่มีกล้อง T^T
May the Force Close be with you. || @nuttyi