Tags:
Node Thumbnail

Adobe เปลี่ยนแปลงนโยบายการวิเคราะห์เนื้อหาใหม่โดยจะนำข้อมูลของผู้ใช้ที่เก็บไว้ในบริการ Creative Cloud ทั้งในรูปแบบภาพ เสียง วิดีโอ ตัวอักษรและเอกสารมาใช้ในการเทรนอัลกอริธึมเพื่อปรับปรุงบริการและผลิตภัณฑ์ของบริษัทโดยอัติโนมัติหากผู้ใช้ไม่กด opt-out ออก ส่วนข้อมูลที่อยู่บนอุปกรณ์ของผู้ใช้ไม่ได้ถูกนำมาวิเคราะห์ร่วมด้วย

นโยบายนี้ได้รับการอัปเดตในช่วงเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ทางฝั่ง Adobe เผยว่าบริษัทให้ผู้ใช้มีสิทธิ์ในการตัดสินใจอยู่แล้วเพราะหากไม่ต้องการให้ทาง Adobe นำข้อมูลไปใช้ก็สามารถกด opt-out ได้ นอกจากนี้ Adobe ไม่ได้นำข้อมูลผู้ใช้ไปเทรน Generative AI ด้วย

ปัจจุบัน Adobe ยังไม่มีบริการสร้างภาพจากข้อความด้วย AI มีเพียง Adobe Stock ที่เป็นแหล่งซื้อขายภาพที่อนุญาตให้มีการซื้อขายภาพที่สร้างจาก AI เท่านั้น

No Description

ประเด็นการนำภาพที่เป็นผลงานของมนุษย์จริง ๆ ไปใช้เทรน AI ทำให้ให้เกิดความไม่พอใจในหมู่ผู้สร้างผลงานเพราะเท่ากับว่าผู้ใช้ DALL-E, Midjourney หรือ Stable Diffusion ก็สามารถสร้างงานโดยลอกเลียนจากผลงานของศิลปินที่เป็นมนุษย์โดยไม่ได้รับการยินยอมจากเจ้าของ แม้แต่แพลตฟอร์มซื้อขายภาพยังเห็นไม่ตรงกันในเรื่องนี้ โดย Getty Imsges ไม่อนุญาตให้มีการซื้อขายภาพจาก AI ขณะที่ Shutterstock ยอมรับจนถึงขั้นร่วมมือกับ OpenAI

ที่มา - The Register

Get latest news from Blognone

Comments

By: Witna
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 9 January 2023 - 18:56 #1274179

ปัจจุบัน AI สร้างงานโดยลอกเลียนจากผลงานของศิลปินที่เป็นมนุษย์โดยไม่ได้รับการยินยอมจากเจ้าของอยู่แล้วครับ
นี่แค่หาความชอบธรรมให้ดูถูกต้องมาขึ้น แค่นั้นเอง

ดีแล้ว จะได้หันไปใช้คลิปสตูเต็มที่ซะที่ แคนเซิลอโดบี้ไปซะ

By: carrot on 10 January 2023 - 00:17 #1274198 Reply to:1274179

แหม่ ท่าจะกลัว AI มาก

ถ้าใช้ logic เพี้ยนๆแบบนี้ ทุกคนก็ถือว่าลอกเลียนกันหมด เพราะมนุษย์เราก็รับข้อมูลจากผลงานคนก่อนๆเป็นข้อมูลในการทำผลงานของตัวเองอยู่ดี

คุณสร้างผลงานขึ้นใหม่ทั้งหมด โดยไม่ได้ดู หรือไม่ได้รับแรงบันดาลใจ จากผลงานเก่าที่มีอยู่ในโลกนี้ได้เลยเหรอ?

ที่ผ่านมาคุณขออนุญาตดูรูปจากเจ้าของผลงานต่างๆหรือไม่? (อย่าบอกว่าดูเฉยๆไม่เอาไปใช้นะ)

ที่มันต่างกันก็คือมนุษย์ต้องใช้เวลาและประสบการณ์นานมาก ในการทำสิ่งต่างๆเหล่านี้ และข้อจำกัดคือไม่สามารถเสพข้อมูลได้มากเท่า AI ไม่สามารถเรียนรู้จากข้อมูลขนาดใหญ่ได้เร็วเท่า AI และไม่สามารถผลิตผลงานได้เร็วเท่า IA บลาๆๆ

แต่ถ้าคิดแค่เรื่อง process เพียวๆ AI มันต่างกับคนทั่วไปยังไง ช่วยอธิบายที

By: big50000
AndroidSUSEUbuntu
on 10 January 2023 - 00:50 #1274201 Reply to:1274198
big50000's picture

อ่าน ๆ ละเริ่มงงแล้วว่าใครตรรกะเพี้ยน 555

AI มันลอกแบบมาจากผลงานของคน (pattern matching) มันก็ถูกแล้วไม่ใช่เหรอ เขาพูดถึงคนไปลอกแบบตอนไหนอะ คนจะลอกแบบมันก็เรื่องของคนสิ นี่เขากำลังพูดถึงปัญหาของผู้พัฒนา AI ที่ใช้ข้อมูลโดยไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของ ไม่ได้เกี่ยวกับคนเล้ย

By: mr_tawan
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 10 January 2023 - 04:09 #1274207 Reply to:1274198
mr_tawan's picture

ก็ถ้าอาร์ติสเค้าบอกว่า เค้าโอเคที่จะให้คนมาเรียนงานเค้า (ตราบใดที่ไม่ทำงานที่ละเมิดลิขสิทธิ์เค้า) แต่เค้าไม่โอเคที่จะให้เอไอมาเรียนงานเค้า (เพราะการก๊อปปี้ไฟล์ให้เอไอโหลดเข้าไปก็เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์แล้ว) แบบนี้ถือว่าต่างกันหรือยังครับ?

เพราะว่าเรื่องลิขสิทธิ์มันเป็นเรื่องที่เจ้าของเค้าเป็นคนอนุญาต/ไม่อนุญาตให้ทำอะไรกับงานของเขาน่ะครับ


  • 9tawan.net บล็อกส่วนตัวฮับ
By: iqsk131 on 10 January 2023 - 12:04 #1274234 Reply to:1274207

การคุ้มครองของลิขสิทธิ์เองก็มีขอบเขตครับ ไม่ใช่ว่าจะสั่งห้ามอะไรก็ได้ซะทีเดียว และน่าเสียดายที่ลิขสิทธิ์ไม่ได้คุ้มครอง "ไอเดีย" ครับ

นั่นก็คือต่อให้เจ้าของไม่ต้องการ แต่คนอื่นก็สามารถลอกไอเดีย (หรือที่เรียกว่าแรงบันดาลใจ) และไปสร้างสรรค์ผลงานต่อได้ โดยลิขสิทธิ์ไม่สามารถคุ้มครองได้ครับ (และเอาจริงๆมันห้ามกันไม่ได้ด้วย)

แต่กรณีของ AI นั้นต่างกัน แม้จะมี AI ที่เก่งถึงขั้นสามารถสร้างสรรค์ผลงานจากไอเดียได้ การสร้างไอเดีย (หรือโมเดล) ของ AI นั้นจำเป็นต้องใช้ผลงานต้นฉบับ และนั่นเข้าใจว่าอยู่ในความคุ้มครองของลิขสิทธิ์ครับ หรือก็คือการละเมิดลิขสิทธิ์ไม่ได้เกิดขึ้นในขั้นตอนการสร้างผลงานใหม่ แต่เกิดขึ้นในขั้นตอนการสร้างโมเดลครับ

ซึ่งถ้าให้ว่ากันตามตรง ในแง่กระบวนการแล้ว จะคนหรือ AI ก็ไม่ต่างกันเลย เพราะคนเองก็ใช้ผลงานต้นฉบับไปสร้างไอเดียเหมือนกัน แต่ความต่างสำคัญก็คือคนห้ามไม่ได้ แต่ AI ห้ามได้นั่นแหละครับ

แล้วก็... ท้ายที่สุดแล้ว ไม่ว่ากฎหมายจะเป็นยังไง ผมมองว่าการเคารพต่อเจตนาของผู้สร้างก็เป็นสิ่งสำคัญครับ

By: big50000
AndroidSUSEUbuntu
on 10 January 2023 - 12:48 #1274237 Reply to:1274234
big50000's picture

+1

ลิขสิทธิ์ไม่ได้คุ้มครองทุกอย่าง และท้ายที่สุดแล้วเจ้าของก็ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่างานที่ตนฟ้องร้องนั้นได้ละเมิดลิขสิทธิ์นั้นจริง สำหรับกรณีของ AI ก็ไม่ต่างกันเลย แต่ด้วยความที่มันใหม่ และ AI มันก็แค่เครื่องมือประเภทหนึ่ง กระบวนการของมันจึงย่อมไม่ต่างจากการดูดข้อมูลมา manipulate เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ พลังมันน่ากลัวมาก คนที่อยู่ในกลุ่มสายงานนั้นย่อมมีความวิตกกังวลอยู่แล้วว่า งานของตนนั้นจะถูกลอกเลียนไปได้อย่างรวดเร็วด้วยพลังของ AI

ตอนนี้ความวิตกกังวลต่อการใช้ข้อมูลเพื่อการเรียนรู้ของเครื่องก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และความกระหายต่อข้อมูลขององค์กรเอกชนชั้นนำของโลก และด้วยความที่ "ศิลปะ" เป็นสิ่งที่ขึ้นชื่อเรื่องของความพยายามในการถ่ายทอดมุมมองของมนุษย์ (หรือสิ่งมีชีวิตใด ๆ) แล้ว งานศิลป์ของ AI มันไม่สามารถตอบโจทย์ตรงนี้ได้อย่างสมบูรณ์ (เพียงพิมพ์ข้อความเข้าไปก็ได้รับงานออกมาแล้ว) ทำให้งานของ AI นั้นไม่มีคุณค่าสำหรับคนที่อยู่ในสายนี้โดยตรง เนื่องจากว่ามันดูไม่มีความพยายามมาตั้งแต่แรกนั่นเอง

และช้าก่อน ผมรู้ว่าการ prompt เพื่อให้ได้งานที่ต้องการนั้นมันยากขนาดไหน และยังต้องผ่านกระบวนการปรับแต่งจำนวนหนึ่งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงตามต้องการ แต่อย่างไรเสีย หากคุณยังใช้บริการสร้างภาพจาก AI ซึ่งใช้ dataset/model สำเร็จรูปมาก่อนแล้ว งานที่ออกมาจาก AI นั้นก็ย่อมลงแรงน้อยกว่า และถ่ายทอดสิ่งที่ต้องการจะสื่อได้ยากกว่าการสร้างภาพด้วยวิธีการสามัญอื่น ๆ ที่เคยใช้มาอยู่แล้ว

By: iqsk131 on 10 January 2023 - 15:12 #1274253 Reply to:1274237

จริงๆผมแอบเห็นต่างเรื่องความพยายามหรือคุณค่าของงานศิลปะอยู่นะครับ

แต่เกริ่นก่อนว่า คุณค่าของงานศิลปะนั้น แต่ไหนแต่ไร มันก็ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคนอยู่แล้ว เพราะงั้นการที่เราเห็นต่างกันไม่ใช่เรื่องแปลกเลย ไม่มีใครผิดใครถูกทั้งนั้น ผมไม่ได้บอกว่าคุณผิด แต่แค่อยากแชร์เฉยๆว่าผมมองต่างกันอย่างไรครับ

ในส่วนของคุณค่าหรือความพยายามนั้น... จริงอย่างที่คุณว่าความพยายามในการ "ลงมือทำ" ของการใช้ AI มันน้อยกว่าการลงมือวาดด้วยตัวเอง แต่ส่วนตัวผมมองว่าคุณค่าของงานศิลปะมันไม่ได้อยู่แค่การลงมือทำอย่างเดียวแต่รวมถึงการคิดก่อนที่จะเริ่มลงมือทำด้วยครับ และส่วนตัวผมให้คุณค่าในเรื่องความคิดมากกว่าการลงมือทำเสียอีก

หรือก็คือ... ภาพที่ใช้เวลาวาดเพียง 1 วัน เขาอาจจะใช้เวลา 1 เดือนเพื่อคิดก่อนจะเริ่มลงมือวาดก็ได้ และผมก็ให้คุณค่าในช่วงเวลา 1 เดือนตรงนั้นครับ ดังนั้นแล้ว ถึงแม้จะใช้ AI ช่วยร่นเวลาจาก 1 วันเหลือ 1 ชั่วโมง แต่ช่วงเวลาที่เขาต้องใช้เพื่อคิดก่อนจะเริ่มลงมือทำ อาจจะแทบไม่แตกต่างกันเลยก็ได้ เพราะงั้นผมจึงไม่เลือกที่จะตัดสินคุณค่าหรือความพยายามของผลงานจากเครื่องมือหรือวิธีการที่เข้าใช้สร้างครับ

ก็นะ นี่คือมุมมองของผมที่มีต่อคุณค่าของงานศิลปะในฐานะคนเสพคนหนึ่งที่ไม่มีความรู้ใดๆในเรื่องศิลปะ ถ้าเอาไปพูดในกลุ่มศิลปิน ผมอาจจะโดนถล่มก็เป็นได้ 55+

By: big50000
AndroidSUSEUbuntu
on 12 January 2023 - 16:08 #1274511 Reply to:1274253
big50000's picture

ผมว่ามุมมองของเราใกล้เคียงกันมากเลยนะ และเอาจริง ๆ ผมไม่เคยต่อต้านงานศิลป์ AI เลย ตราบใดที่เจ้าของผลงานสามารถทำให้งานน่าสนใจ ถูกใจ และมีที่มาที่น่าประทับใจ ผมก็ชอบได้เหมือนกับงานอื่น ๆ ผมมีศิลปินที่ติดตามจำนวนหนึ่งที่ใช้ AI และมีประวัติเบื้องหลังที่ดี ผมก็ดูงานของพวกเขาอยู่บ่อย ๆ (บางคนก็ใช้ AI ที่เทรนจากงานของตัวเอง บางคนก็ใช้ AI ช่วงลงสีภาพ เติม background และอื่น ๆ)

เครื่องมือ ยังไงมันก็แค่ส่วนหนึ่งจริง ๆ และปกติแล้วผมก็ไม่ตัดสินความพยายามจากเครื่องมือเหมือนกัน แต่ปัญหาในตอนนี้มันเกิดจากกลุ่มบุคคลบางกลุ่มที่ตั้งใจใช้เครื่องมือ AI มาป่วนศิลปิน พวกที่ใช้ AI มาเพื่อดูดงานศิลปินแล้วปั๊มขาย และบริษัทต่าง ๆ ที่เลือกที่จะใช้วิธีการสีเทาเพื่อให้ได้มาซึ่งภาพวาด (กรณีนี้นี่แหละ) ความวุ่นวายจึงเกิดขึ้น

By: mr_tawan
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 10 January 2023 - 20:08 #1274279 Reply to:1274234
mr_tawan's picture

ผมยังมองว่า เอไอ ณ.ปัจจุบัน ยังมีความอ้างอิงกับผลงานต้นฉบับของศิลปินที่เป็นมนุษย์อยู่ค่อนข้างสูงครับ มันยังเหมือนเอาไทล์ที่มีคีย์เวิร์ดตรงกับที่ป้อนไว้มาเรียงต่อกัน แล้วเอามาประมวลเพื่อให้มันดูเป็นชิ้นเดียวกันเท่านั้นเอง

ในขณะที่มนุษย์ยังรับอินพุตจากอย่างอื่นที่ไม่ใช่งานวาดมาใช้ในผลงานตัวเองได้ อย่างเรื่องทฤษฎีที่อยู่เบื้องหลังงานบางอย่าง (เช่นพวก อนาโตมี่สำหรับศิลปิน พวกเอไอนี่ดูแล้วไม่ได้เอาตรงนี้มาใช้เลย เน้นถมอย่างเดียว ในตอนแรกเลยยังเจอปัญหามือเพี้ยน เพราะเอไอไม่รู้จักอนาโทมี่)

ผมคิดว่า ในอนาคตที่ general purpose ai เข้ามามีบทบาทด้วยนี่ งานจะยิ่งดูมีความลึกยิ่งกว่างานปัจจุบันอีกครับ

ทั้งนี้ผมก็เข้าใจแหละว่า ลิขสิทธิ์มีขอบเขตครับ แต่ก็ยังคิดว่าการนำงานไปใช้ในเชิงพาณิชย์ (เช่นเอาไปเทรนเอไอเพื่อสร้างโปรดักท์มาสร้างรายได้) น่าจะยังเข้าข่ายละเมิดลิขสิทธิ์ครับ


  • 9tawan.net บล็อกส่วนตัวฮับ
By: akira on 10 January 2023 - 09:15 #1274217 Reply to:1274198

การ copy กับนำผลงานมาเป็นแรงบัลดาลใจ มันต่างกันนะครับ คอมพิวเตอร์ไม่มีความสามารถในการสร้างแรงบัลดาลใจหรอกครับ มันแค่เอาโครงสร้างการวางตัวเม็ดพิกเซลเดิมของผลงานต้นฉบับมา merge รวมกับอีกผลงานนึง แล้วใช้ algorithm ปรับภาพให้เข้ากัน ซึ่งตรงนี้เรานิยามกันว่าเป็น Computer Vision ซึ่งเป็น่ส่วนหนึ่งของ Ai

แต่ถ้าเป็น robot ก็ไม่แน่ เพราะมันมี sensor ที่จับภาพ และ "นำโครงสร้างภาพมาใช้เพื่อบังคับแขนตัวเองให้วาดแปรงไปตามโครงสร้างนั้น" อันนี้ถือว่าใกล้เคียงแรงบัลดาลใจแต่ก็ยังไม่ถือว่าเทียบเท่ามนุษย์ และก็ยังมีปัญหาด้านลิขสิทธิ์อยู่ดีเพราะมีการสำเนาขึ้นมาจังหวะนึงในขั้นตอนการบันทึกของ sensor เพื่อนำไป train

https://www.youtube.com/watch?v=GrEttzMCneo

อันนี้ถือว่าใกล้เคียงสุดแล้ว ณ ปัจจุบันผมยังไม่เจอ robot ตัวไหนที่จับภาพได้แบบ real time แบบมนุษย์ แล้วสามารถถอดโครงสร้างภาพทันที เพื่อนำมาใช้กับแขนหุ่นยนต์วาดบนผืนผ้าใบได้เลย

By: YongZ on 10 January 2023 - 09:10 #1274218 Reply to:1274198

ในมุมศิลปินเขาไม่ต้องการให้ใครมาก็อปผลงานของตัวเองโดยไม่ได้รับอนุญาตทั้งหมดครับไม่ว่าคนหรือAi
ต่างกันตรงที่กับคนมันพิสูจน์ไม่ได้แต่กับAiมันป้องกันได้

By: raindrop
ContributoriPhoneWindows PhoneWindows
on 10 January 2023 - 11:28 #1274230 Reply to:1274198

ปัญหาไม่ใช่เรื่อง process แต่ปัญหาคือมันกระบวนการทำ ที่นำงานชิ้นที่สำเร็จแล้ว และที่ทั้งมีและไม่มีมีลิขสิทธิ์ ไป"ย่อย" เป็นส่วนหนึ่งของข้อมูลนั้น...โดยที่เจ้าของงานไม่ได้อนุญาตครับ

จะอ้างว่าสุดท้ายมันก็เป็นจุดในจุดที่ดูไม่ออกว่ามาจากไหน แต่ point ยังคงอยู่ คือ คุณเอาข้อมูลที่ไม่ได้รับความยินยอมมาเทรน AI คุณ
เรื่องคือ ถ้าบอกแต่แรก เชื่อว่าคนโอเคนะ เพื่อการ research แต่มันมารู้ทีหลังนี่ไง...

By: poa
Android
on 10 January 2023 - 13:29 #1274242 Reply to:1274198

คุณก็พูดไป อย่าใช้คำว่า "ลอกเลียน" ต้องใช้คำว่า "แรงบันดาลใจ"

ตอน Adobe ใช้ AI ช่วยทำ Content-Aware Fill แบบเนียนๆ เห็นชื่นชมกันใหญ่
พอมาตอนนี้ดันกลัว AI ซะงั้น

By: big50000
AndroidSUSEUbuntu
on 10 January 2023 - 13:37 #1274244 Reply to:1274242
big50000's picture
  1. Content-aware Fill เน้นการใช้งานกับภาพสมจริง ซึ่ง dataset มันมีดาษดื่น
  2. ช่วงนี้เป็นช่วงที่มีความกังวลเรื่องการนำข้อมูลไปใช้งานการพัฒนาโมเดล AI ไม่เว้นเฉพาะกับวงการศิลปะ
  3. ศิลปินไม่ชอบการลอกเลียนงานแบบไร้ความพยายามอยู่แล้ว ยิ่งกับการใช้ AI ที่ดูไร้ความพยายามในสายตาของเขา
By: lingjaidee
ContributoriPhoneAndroid
on 9 January 2023 - 20:22 #1274185
lingjaidee's picture

Don't be evil 🤫


my blog

By: panurat2000
ContributorSymbianUbuntuIn Love
on 9 January 2023 - 20:29 #1274186
panurat2000's picture

ผลิตภัณฑ์ของบริษัทโดยอัติโนมัติ

อัติโนมัติ => อัตโนมัติ

ทำให้ให้เกิดความไม่พอใจ

ทำให้ให้ ?

By: mr_tawan
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 9 January 2023 - 21:06 #1274187
mr_tawan's picture

คือ จะส่งไฟล์งานของลูกค้ากลับไปที่เซิร์ฟเวอร์ของ Adobe เพื่อใช้สร้างโมเดลด้วยหรือเปล่า

หรือว่าจะใช้ HW ของลูกค้าแล้วส่งข้อมูลกลับไปกันนะ?


  • 9tawan.net บล็อกส่วนตัวฮับ
By: Orion
Windows PhoneAndroidWindows
on 10 January 2023 - 00:50 #1274202 Reply to:1274187
Orion's picture

คือใช้งานจากไฟล์ที่อยู่บน Creative Cloud อยู่แล้วไม่น่าใช้เครื่องของลูกค้าประมวลผลนะ คือตอนนี้ลูกค้าก็อาจจะย้ายไปเก็บที่อื่นแทนเพราะกลัวงานที่ยังไม่เสร็จถูกเอาไปใช้ก่อนงานตัวเองจะเสร็จซะอีก

By: mr_tawan
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 10 January 2023 - 04:11 #1274208 Reply to:1274202
mr_tawan's picture

ผมไม่ได้ใช้ CC มานาน เลยลืมไปเลยว่ามันมี storage ให้ด้วย 555 ขอบคุณครับ

ก็ ข้อมูลไม่ได้อยู่กับเรา ก็อาจจะมองว่าไม่ใช่ของเราก็ได้นะ เหมือนที่เราไม่ได้ถือคีย์ Crypto อะไรงี้มั้ง 555


  • 9tawan.net บล็อกส่วนตัวฮับ
By: big50000
AndroidSUSEUbuntu
on 10 January 2023 - 00:52 #1274203 Reply to:1274187
big50000's picture

ดูดเฉพาะงานที่อยู่บน Creative Cloud ไปเทรน ผมจึงไม่คิดว่า Adobe จะใช้เครื่องของผู้ใช้ประมวลผลก่อน