By: ตะโร่งโต้ง 
on 31 October 2022 - 10:28
Tags:
Topics:
หลังจากมีรายงานว่า Elon Musk เพิ่งมีคำสั่งให้ทีมงาน Twitter แก้ไขหน้าโฮมเพจก่อนล็อกอินเข้าใช้งานเสียใหม่ ตอนนี้มีแหล่งข่าวไม่เปิดเผยชื่อให้ข้อมูลแก่ The Verge ว่า Musk ยังสั่งให้ทีมงานแก้ไขโค้ดเพื่อปรับปรุงระบบของ Twitter Blue ด้วย ซึ่งว่ากันว่าเจ้าของใหม่ Twitter สั่งให้ทีมงานแก้ไขให้เสร็จภายในวันที่ 7 พฤศจิกายนนี้ หรือไม่ก็จะโดนให้ออกจากบริษัท
Twitter Blue เป็นบริการใช้งาน Twitter แบบเสียเงินที่ยังจำกัดเฉพาะผู้ใช้ในบางประเทศ ผู้ที่ใช้งาน Twitter Blue จะต้องยืนยันตัวตนภายใน 90 วันหลังสมัครใช้งาน ถ้าผู้ใช้ไม่ยืนยันตัวตนให้แล้วเสร็จในช่วงเวลาดังกล่าวจะสูญเสียเครื่องหมายไอคอนยืนยันตัวตน
อย่างไรก็ตามมีรายงานเรื่องปัญหาเกี่ยวกับขั้นตอนการยืนยันตัวตนนี้ที่ยุ่งยากและบางคนต้องทำเรื่องส่งข้อมูลให้ตรวจสอบหลายรอบ ซึ่งจุดนี้เองที่ทำให้ Musk สั่งการทีมงานให้แก้ไขเพื่อให้ขั้นตอนการยืนยันตัวตนราบรื่นและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ทั้งนี้การเป็นสมาชิก Twitter Blue จะได้ใช้งานฟีเจอร์พิเศษบางอย่างก่อนผู้ใช้ทั่วไป (ตัวอย่างล่าสุดคือฟีเจอร์การแก้ไขข้อความ) ซึ่งแต่เดิมนั้นเก็บค่าใช้บริการเดือนละ 4.99 ดอลลาร์ แต่แผนตอนนี้คือจะขึ้นราคาเป็น 400% กลายเป็นเดือนละ 19.99 ดอลลาร์
ที่มา - The Verge
The whole verification process is being revamped right now
— Elon Musk (@elonmusk) October 30, 2022
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- Kubernetes คืออะไร [Part 1] เกิดขึ้นมาอย่างไร? ทำไมต้องใช้มัน? | Cloudnone EP.14
- CI/CD ยังไงดี ตั้งเซิร์ฟเวอร์เอง vs เช่าคลาวด์ | Cloudnone EP.13
- รู้จักโน้ตบุ๊กบนคลาวด์ เช่าใช้งาน Jupyter Notebook ที่ไหนดี | Cloudnone Ep.12
- สรุปข่าวใหญ่ปี 23 และคาดการณ์เทรนด์ปี 24 ในวงการ Cloud | Cloudnone EP.11
- สรุปของใหม่และสาระสำคัญจาก AWS re:Invent 2023 | Cloudnone Special EP
Comments
ฟังเหมือนมีพลัง
แต่ถ้าไล่คนเก่าออก คนใหม่มาไล่โค้ดจากศูนย์ จะยิ่งช้า+งานหยาบรึเปล่า?
แรกๆก็คงงั้น นานๆไปน่าจะตื่นตัวกัน
วันก่อนมีเหตุการณ์ใครก็ไม่รู้ 2 คนแกล้งทำเป็นถือลังกระดาษเดินหน้าสำนักงานทวิตเตอร์ สำนักข่าวก็รีบกรูไปสัมภาษณ์แถมลงข่าวใหญ่โตว่ามัสค์มาไม่กี่วันก็ไล่พนักงานออก
แต่ 2 คนนั้นทำเอาฮา และไม่ได้เป็นพนักงานทวิตเตอร์แต่อย่างใด
Ligma Johnson แห่ง CNBC 🤣
รีบไรขนาดนั้น
น่าจะเป็นเรื่องวัฒนธรรมองค์กรด้วยล่ะ โดยปรกติถ้าผู้บริหารที่คุ้นเคยกับวัฒนธรรมองค์กรแบบสั่งแล้วได้เจอวัฒนธรรมองค์กรเอื่อยเฉื่อย ส่วนใหญ่ก็มักจะใช้วิธีการเชือดไก่ให้ลิงดู ไม่รู้ว่าใครจะเป็นไก่ตัวแรก ก็เข้าใจแหล่ะนะ ทาง Musk ก็คงมีเวลาไม่มากในการปรับปรุงและหารายได้ เพราะการเข้า take over งวดนี้ก็มีเงินนักลงทุนรายอื่น แล้วก็อาจมีเงินกู้ด้วย ถ้าปล่อยไปเรื่อยๆ อาจโดนดอกเบี้ยทับตาย
ไม่มีอะไรมาก... ก็แค่สุมไฟวัฒนธรรมองค์กรที่เฉื่อยอยู่ให้กลับมาฟิตพร้อมวิ่งรอบใหม่ของ Twitter ผมว่า พวกโปรแกรมเมอร์ Tech Startups เดี๋ยวนี้มันถือจุดอิ่มตัวละครับ อยู่เฉย ๆ เดี๋ยวก็มีคนเอาเงินลงทุนมาให้ แล้วก็เคยตัวเลยไม่ค่อยสร้างสรรค์อะไรใหม่มาชวนให้น่าตื่นเต้น ผมไม่ได้เห็นอะไรแบบนี้มาสักพักแล้วนะ ทั้ง Facebook Google การที่ Elon Musk ออกมาสั่งแบบนี้ มันชวนให้ผมตื่นเต้นในบทต่อไปของ Twitter มากกว่า Facebook ซะอีกว่า อะไรใหม่ ๆ กำลังจะมา มากกว่าที่ Facebook วัน ๆ เอาแต่คิดหาทางจะปิดกั้นการมองเห็นของผู้ใช้ยังไง? ทำยังไงจะสร้างรายได้เข้าบริษัทเยอะ ๆ? ทำยังไงจะก๊อปปี้ฟีเจอร์ของแอปอื่นมาลงของเรา?
ผมแค่อยากรู้ว่าเมื่อไรจะมี blue ในไทย
Dev: รีบขนาดนี้...งั้นเทสบน Production เลยละกั้นนนนนนน
กลัววันหน้าจะมาปิดกั้นการมองเห็นทวิต ใครอยากให้มองเห็นได้เยอะๆ ต้องสมัครทวิตเตอร์บลูไรงี้อะ
คงไม่ถึงขั้นเทสบนโปรดักส์
หรือว่ามัสก์กำลังเห็นลู่ทางโค่น facebook ด้วย the new twitter?
จริงๆควรจะดูก่อนนะปัญหาที่ยืนยันตัวตนยุ่งยากมีปัญหาเกิดจาก code หรือเกิดจาก business process ก่อน ถ้าเป็นที่ business process มันก็ต้องปรับแก้ตรงนั้นก่อนแล้วจึงค่อยแก้ code ตาม business แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นความซวยก็มาตกที่ปลายน้ำคือ dev อยู่ดีถ้าหาก business สรุปออกมาช้า เวลาแก้ไขก็น้อยไม่ทันอีก
ถึง musk จะบ้าๆบอๆ แต่อย่าลืมว่า วิธีบริหารแบบนี้ สร้างบริษัทอย่าง tesla แล้ว spacex มาแล้ว แล้วเป็น 2 บริษัทที่ไม่สามารถสร้างงานชุ่ยๆออกมาได้เลย เพราะผลกระทบของความผิดพลาดมันสูง
การบริหาร twitter speed ได้เร็วกว่าเยอะ เพราะ cost ของ trial&error มันต่ำ
เห็นด้วยครับ
WE ARE THE 99%
แกก็คงใช้แนวทางเดียวกันแน่ๆล่ะผมว่า
..: เรื่อยไป
ตอนนี้ก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันนะครับว่า autopilot/fsd ทำให้คนตายไปเท่าไหร่บ้าง
ผมว่าโดยสรุปแล้ว ใช้ระบบขับด้วยคอม มันชนควตายน้อยกว่าขับรถเองนะครับ (ขออภัย จำข่าว /ที่มาไม่ได้)
คอมมันก็ขับชนนู้นนี่ได้ แต่มันชนผิดน้อยกว่าคนเยอะ (ต้องทำตามคู่มือด้วยนะ)
แค่มันโฆษณาเกินจริงไปเท่านั้นเอง
ถึงยังเป็นที่ถกเถียงกันครับ บางคนก็บอกว่าปลอดภัยกว่าไม่มี บางคนก็บอกว่าแต่ถ้าเทียบกับระบบช่วยขับของยี่ห้ออื่นมันเกิดอุบัติเหตุน้อยกว่าตั้งเยอะ บางคนก็บอกว่าก็ของยี่ห้ออื่นมันกระจอกเลยไม่ใช้กันไง ก็ยังเถียงกันไม่จบครับ
Tesla นี่งานประกอบแย่ ในสมัยก่อนไม่รู้แก้กันยัง ที่เคยตามส่องมานานเส้นสายรอบตัวรถนี่ไม่ต่อเนื่องเลยถ้าเป็นคนชิ้นส่วนกัน , autopilot ที่ตัด sensor ออกจนเหลือแต่กล้องล้วน ก่อนหน้าก็มีกล้องโดนหลอก นิดหน่อย งานไม่ได้เนี๊ยบดีขนาดนั้นนะครับ
SpaceX นี่ NASA คุม ด้วยไม่รู้จะเร่งกันได้ขนาดไหนนะครับ แต่พี่แกระเบิดมาเยอะ จนนิ่งแล้ว ตอนปล่อย Falcon Heavy นี่ก็พลาดเลย ดาวอังคารไป อีก งานไม่ค่อยดีเท่า
ดูแล้วเหมือนเป็นการสร้างสภาวะให้คนเอาตัวรอดกัน
ซึ่งถ้ามองในแง่ดีก็จะเป็นการกระตุ้นแหละ แต่ถ้ามองในแง่ไม่ดี คนก็จะเริ่มเลื่อยขาเก้าอี้กันเอง เริ่มมีการประจบเอาใจ เริ่ม ฯลฯ ซึ่งถ้าเป็นแบบหลังคนมีความสามารถจะหนีหมด และคนที่เหลืออยู่คือพวกห่วย ๆ
ซึ่งถ้าเป็นคนที่มีความรู้เฉพาะทางมาคุม ก็อาจจะมองออกได้ว่าคนไหนเก่ง คนไหนไม่เก่ง พอเป็นอีลอนผมไม่แน่ใจ (ตั้งแต่จะให้วิศวกรเทสล่ามาดูโค๊ดทวิตเตอร์ละ)
จะว่าไป ช่วงนี้ใครมีเก้าอี้ให้เกาะ อาจจะต้องเกาะแน่น ๆ เพราะคนโปรไฟล์จำนวนมากจะเฮลงมาในตลาดงานพร้อมกันทีเดียว เพราะเรื่องบ.ใหญ่ๆ ปลดคนด้วย เพราะอีลอนมั่นหน้าด้วย ฯลฯ
Test บน PROD ต้องมาแล้นนนน
เขาอยากลดคนอยู่แล้ว ยิ่งเพิ่มความกดดัน เพิ่มความยาก และความทุ่มเทของงานเข้าไป เขาก็จะได้กลุ่มคนที่ เขาจะไล่ออก กับ กลุ่มคนที่เขาจะจ้างต่อ
นอนข้างโต๊ะ programmer ไปเลยครับพี่ ไม่เสร็จไม่กลับบ้านไม่นอน (ยกนิ้วโป้งเบิ้ลสองนิ้วรัวๆ)
ให้ออกแบบนี้มีแพคเกจด้วยมั้ยครับ ไม่รู้จะมองเป็นทำงานไม่ได้หรือว่าปฏิบัติกับพนักงานอย่างไม่เป็นธรรม
ผมว่ามีคนสนใจอ่ะ เอ้า
อยากให้อิลอน มัสก์ มาวางระบบราชการของไทย เชื่องช้าฉิบหาย