Naoki Yoshida ผู้กำกับของ Final Fantasy XIV และโปรดิวเซอร์ของ Final Fantasy XVI (รู้จักกันในวงการว่า Yoshi-P) ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ Inverse ถึงแม้ไม่ได้ให้ข้อมูลใหม่ของ FFXVI แต่พูดถึงภาพรวมของซีรีส์ Final Fantasy
ตอนนี้ Yoshida ถูกมองว่าเป็น "ผู้กอบกู้" หลังทำผลงานดีเยี่ยมในการพลิกฟื้น FFXIV ให้กลับมารุ่งเรือง และกลายเป็นเกมทำเงินสูงสุดของบริษัท เขายังได้รับมอบหมายให้มาทำ FFXVI หลังจากเกมภาค XV ทำผลงานได้ไม่ดีนัก และเจอปัญหาระหว่างการพัฒนามากมาย
Yoshida ยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่าซีรีส์ Final Fantasy ตอนนี้ต้องดิ้นรนเพื่อให้ปรับตัวเข้ากับเทรนด์ของวงการเกม (ต้นฉบับภาษาอังกฤษใช้คำว่า I believe the series is currently struggling) เขาเล่าว่าตอนนี้ Square Enix ได้รับไอเดียมากมายว่าบริษัทควรพัฒนาซีรีส์ Final Fantasy ไปทางไหน ซึ่งไม่สามารถทำได้หมดด้วยเกมภาคเดียว แนวทางของเขาคือบริษัทต้องทำเกมหลายๆ เกมเพื่อทดลองแนวทางที่แตกต่างกัน และพยายามทำผลงานให้ดีที่สุดในเวลาที่กำหนด
เขาบอกว่า Final Fantasy ไม่เคยเป็นผู้ตามเทรนด์ แต่เป็นผู้นำเทรนด์ วิธีคิดของเขาใน FFXIV คือการทดลองสิ่งใหม่ๆ โดยเฉพาะวิธีการเล่าเรื่อง (storytelling) โดยยกตัวอย่างตอนที่ FFXIV รีเซ็ตเซิร์ฟเวอร์ในปี 2012 ก่อนเปลี่ยนเป็นเวอร์ชัน A Realm Reborn ก็ใช้วิธีเล่าเรื่องว่าเกิดหายนะขึ้นในเกม
ที่มา - Inverse
Comments
ชายผู้แบก Square Enix
จุดโฟกัสมีเยอะแยะในบทความต้นฉบับ ดันนำเสนออะไรไม่รู้
แผนของ Yoshida คือการเปลี่ยน Final Fantasy ให้กลายเป็นโลกเสมือน การมีอยู่ของเทคโนโลยี VR และการมาของควันตัมคอมพิวเตอร์ จะช่วยให้การประมวลผลและการจำลองชีวิตในโลกเสมือนเกิดขึ้นได้
"That could lead to the creation of a living world that resembles reality, or even new ideas that create an actual online world"
และเมื่อวันนั้นมาถึง Final Fantasy อาจจะพลิกโฉมไปในรูปแบบที่ไม่มีใครคาดถึงก็เป็นได้ มันต้องเขียนประมาณนี้ อย่างอื่นมันน่าเบื่อ
ถ้าคิดว่าอันที่คุณยกเอามาน่าสนใจที่สุด ก็เอาที่สบายใจเลยครับ
ในความคิด FFXIV 1.0 เป็นเกมออนไลน์ที่เตรียมตัวและปิดตัวลงได้ดีที่สุดตลอดกาล แม้จะไม่เคยเล่น 1.0 มาเริ่มเล่นที่ 2.0 พอกลับไปดูฉากจบของ 1.0 แล้วโอ้วโฮ อินมาก ปกติแล้วเกมออนไลน์มันไม่มีฉากจบเมื่อเกมปิดตัวลงแต่ FFXIV ก็ยังคงเป็น FF ที่ก็ต้องมีฉากจบละมั้ง
เผื่อใครไม่เคยเห็นโมเม้น 1.0 ending แปะให้ครับ
The Dream hacker..
อันนั้นมันไม่ใช่ฉากจบธรรมดาครับ มันเป็นฉาก “ปิด server” เลย คือคนเล่นที่อยู่ในเกม พอถึงเวลา เกมตัด เล่น video ปิด server เลย
แต่เรื่องฉากจบ ffxiv ตั้งแต่ 2.0 มาจะมีฉากจบในทุก expansion โดยเป็นฉากจบปกติ x.0 โดยจะมี cliffhanger นิดหน่อย และจะไปจบบริบูรณ์ตอน x.3 แลจากนั้นก็จะปูเนื้อเรื่องเตรียมเข้า expansion ใหม่ ก็จะมีฉากจบอีกทีตอน x.55
แต่ 6.x จะต่างไปนิดตรงที่เขาถือว่าเนื้อเรื่องมันจบบริบูรณ์ตอน 6.0 แล้ว ที่เหลือเป็นการปูเนื้อเรื่องใหม่อย่างเดียว จึงอาจจะไม่มีฉากจบตอน 6.3 ครับ
เหมือนฉาก intro หลัง beta test ที่ลองแล้วกระแสไม่ค่อยดี รีบูทเกมใหม่มากกว่า
เกมพอมันทำกราฟฟิคระดับ AAA มันก็กลายเป็นเนื้อเรื่องสั้นๆ ดูอย่าง FF7Re พอ Remake ความยาวเนื้อเรื่องนี่แทบจะการันตีว่าหายไปกว่า 80% ได้แน่นอน
พอจะเล่นเกมเนื้อเรื่องยาว Squar ก็มีซีรี่ส์ Octopus Traveler มาแทนที่แล้วอีก
FF มันมีภาพ "ผู้นำด้านกราฟิค" ค้ำคอ (มาตั้งแต่ FFIV) จะทิ้งตรงนั้นก็ยากครับ
ผมให้นำด้านกราฟฟิคมามาตั้งแต่ ff1 แล้วครับ ฉากต่อสู้ตัวละคร sd ถืออาวุธเปลี่ยนชนิดกับสีอาวุธให้เห็นได้ ในขนะที่ dragon quest กับเกมฝรั่งฉากต่อสู้เป็นมุมมองบุคคลที่ 1
Octopus Traveler (ปลาหมึกนักเที่ยว) -> Octopath Traveler
55555555555555
จริงด้วยครับ พิมพ์สัมผัสมันคุ้นมือ ขออภัยครับ
Octopath Traveler ในความคิดผมว่าระบบเกมดี แต่เนื้อเรื่องเข้าขั้นแย่มากๆเลยครับ เนื้อเรื่อง 8 คน ไม่มีความเกี่ยวเนื่องกัน แต่มาเดินทางด้วยกันโดยไม่มีแรงจูงใจอะไรกันเลย แถมระหว่างทำเควสของตัวไหน ตัวอื่นๆก็ไม่มีบทอะไรเลย พอเจอ boss ก็บอกข้ามาคนเดียว เพื่อนๆที่ยืนหัวโด่ช่วยสู้ด้วยนี่ไม่มีพูดถึง
ผมงงใจพี่โจร ในเนื้อเรื่องบอกชอบทำงานคนเดียว ไม่ไว้ใจใคร
แล้วพวกที่มาช่วยสู้กันตั้งนานนี่อัลไล
เนื้อเรื่องนี้สู้ Live A Live ไม่ได้เลยสักนิด
octopath ไม่ยาวนะครับ นับแค่แต่ละตัวละครผมว่าตก 8 ชม.เอง (หลักๆช้าที่การเก็บเวลนะหละ)
คือออคโตพาธ พลาดที่ ระหว่างเนื้อเรื่องการปฎิสัมพันธ์ของแต่ละตัวละครมันน้อย
ใช้บาร์เหล้ามาเชื่อม แต่ดูดีๆ แต่ละตัวละครไม่มี คสพ. ในเนื้อเรื่องหลักของตัวเอง
ส่วนการเล่าเรื่องผมว่าก็ทำได้ดีฉบับ เหลี่ยมนะ
Octopus Traveler เนื้อเรื่องอาจจะแปลแต่ก็นำเสนอวิธีการเล่นให้น่าสนใจและสนุกดีดึงเอากลิ่นอายรูปแบบการเล่นที่คุ้นเคยกลับมาทำให้มีความแปลกใหม่ ทำภาคต่อก็ไม่เสียหายนะแต่เกมส์ที่ลงทุนกับระบบเสียงงานภาพสวยๆกว่าจะทำภาคต่อคงอีกนาน
ผมว่า SE ควรเปลี่ยนชื่อแล้วมั้ง เพราะคนนี้ก็เรียก "ปลาหมึกนักเที่ยว" อีกคนละ
ตัวเอกเป็นหมึกยักษ์ที่ออกเดินทางเพื่อต่อยฉลาม มีเพื่อนร่วมทางเป็นหมึกกล้วยกับหมึกกระดอง ระหว่างทางเจอสถาบัน SCP และร่วมกันต่อสู้กับภัยพิบัติที่มาจากใต้ทะเลลึก
......อาจจะสนุกก็ได้นะนี่
เอาจริง ๆ ผมมองว่า Octopath ตัวแรก มันคืองานทดลองน่ะครับ
ส่วนตัวโมบายล์นี่ไม่รู้เพราะไม่ได้เล่น (ฮา)
เรื่องระบบ Gameplay ผมเข้าใจอะนะว่าปรับให้ทันสมัย
แต่กลิ่นอายแบบเดิมๆ ที่ผมอยากเห็น เหมือนจะไม่ค่อยมีแล้วเช่น
1. Switch Job หรือ ผสม Job ไม่มีมานานมากแล้วแต่ก็อยากให้มีอีกอะนะ
2. การสลับตัวละคร ในการเล่นเพื่อให้ผ่านด่านง่าย [ควบคุมและเล่นได้หลายตัวละคร]
3. เก็บอาวุธ Ultimate แบบท้าทายหน่อย
4. อันนี้จาก ดูจาก FFXV คือ เวทย์ Debuff หรือ Buff เพื่อฆ่าบอสที่ยากๆ หรือ บอสบางตัวต้องใช้เวทย์เฉพาะทาง ไม่ค่อยเห็นเลย ใน FFXV ผมไม่เห็นเลยอะ
ดูจาก Trailer FFXVI ก็ดูจะเล่นได้ตัวเดียวแต่เปลี่ยน Element ได้เรื่อยๆ
'Final Fantasy ไม่เคยเป็นผู้ตามเทรนด์ แต่เป็นผู้นำเทรนด์'
ภาคเก่าๆ อะใช่ แต่ 14 นี่นำหรือตาม?