Tags:
Node Thumbnail

กลุ่มพนักงาน SpaceX จำนวนกว่า 400 คน เข้าชื่อเขียนจดหมายถึงผู้บริหาร ประท้วงพฤติกรรมของซีอีโอ Elon Musk ว่าไม่เหมาะสม และทำให้บริษัทเสียชื่อเสียง

พฤติกรรมที่ว่าหมายถึงสิ่งที่ Musk พูดหรือเขียนต่อที่สาธารณะในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาในหลายประเด็น ทั้งเรื่อง Twitter, Tesla และเรื่องการเมืองสหรัฐ กลุ่มพนักงานบอกว่าการที่ Musk มีสถานะเป็นหน้าตาของบริษัท ทำให้บริษัทโดนวิจารณ์และเสียชื่อเสียงตามไปด้วย

กลุ่มพนักงานที่ไม่พอใจต่อท่าทีของ Musk จึงเสนอให้บริษัท SpaceX ควรรักษาระยะห่างจากแบรนด์ส่วนบุคคลของ Musk ให้มากขึ้น

หลังจดหมายนี้เผยแพร่ผ่านระบบ Microsoft Teams ภายใน SpaceX เพียงวันเดียว ก็มีข่าวว่า SpaceX ไล่พนักงานที่เกี่ยวข้องกับจดหมายนี้จำนวนอย่างน้อย 5 คนออกไปเรียบร้อยแล้ว และหลังจากนั้น Gwynne Shotwell ประธานของบริษัทก็ส่งอีเมลหาพนักงานทุกคน ว่าบริษัทยังมีงานอีกมากที่ต้องทำ จดหมายนี้ต่างหากเป็นสิ่งที่ทำให้พนักงานเสียโฟกัส ไม่ใช่พฤติกรรมของ Musk แต่อย่างใด

The Verge สัมภาษณ์พนักงาน SpaceX คนหนึ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับจดหมาย เธอแสดงความผิดหวังกับท่าทีของบริษัท และบอกว่าพนักงานที่ไม่เห็นด้วยกับ Elon จะเลือกปิดปากแล้วลาออกไปเงียบๆ เธอบอกว่าพนักงานยอมรับในความฉลาดของ Musk แต่ไม่ยอมรับในพฤติกรรมของเขาบนโซเชียล ทำให้เกิดความรู้สึกทั้งภูมิใจและอับอายที่ทำงาน SpaceX ไปพร้อมๆ กัน

ที่มา - Autoblog, Autoblog, The Verge

Get latest news from Blognone

Comments

By: orenz001 on 18 June 2022 - 10:21 #1252481
orenz001's picture

เราไม่อยากเป็นเพิ่อนกับแก่แล้วอะ เราอายคน

By: api on 18 June 2022 - 11:13 #1252485

บางทีก็งงๆกับแนวคิดฝรั่งนะ

จ้างมาทำงานหรือจ้างมารวมหัวขับไล่หัวหน้าออก……

By: tpekws on 18 June 2022 - 11:18 #1252486 Reply to:1252485

ถ้าบริษัทเสียชื่อเสียงเพราะผู้บริหารทำงามหน้า มันก็ฟีลลิ่งเดียวกับลุงคนนึงทำประเทศงามหน้าในเวทีโลกอะฮะ

By: ppJr
iPhoneAndroidUbuntu
on 18 June 2022 - 11:39 #1252491 Reply to:1252486

การทำงานบริษัทเราไม่พอใจก็ลาออกไปทำงานที่บริษัทอื่นได้ง่าย ๆ
แต่กับลุงคนหนึ่งนั้นการลาออกจากประเทศหนึ่งไปอยู่อีกประเทศหนึ่งนั้นไม่ง่ายเลย

By: komkit0710
Windows PhoneSUSEWindows
on 18 June 2022 - 21:07 #1252559 Reply to:1252486

ถึงงามหน้าเพียงใด แต่เป็นผู้ถือหุ้นอะค๊าาบ แถมเป็นผู้ก่อตั้งอีกต่างหาก

By: akira on 18 June 2022 - 12:02 #1252494 Reply to:1252485

คนเก่งแรงจูงใจมันไม่ใช่แค่เรื่องเงิน แต่มันเป็นเรื่องการมีส่วนร่วมในการสร้างนวัตกรรม หรือสร้างชื่อเสียงด้วย สิ่งที่ยึดเหนี่ยวเขาอาจไม่ใช่แค่ตัวบุคคล แต่เป็นภาพรวมองค์กร ดังนั้นหากผู้นำทำเรื่องด่างพร้อยมันก็ย่อมทำให้เขาเสียกำลังใจไปด้วย เพราะสุดท้ายผู้นำอาจเปลี่ยนไป แต่องค์กรก็ยังต้องคงอยู่

บางบริษัทอาจถึงกับต้องแยกบริหารระหว่างคนเก่ง กับพนักงานทั่วไปเป็นการภายในรับรู้กันกลุ่มเล็กๆ แต่ก็ต้องไม่กระทบถึงกำลังใจของมดงานของบริษัทด้วย เพราะในบริษัทมันต้องมีทั้งคนที่เป็นสมองและแขนขาขาดส่วนไหนไปก็ทำงานงานใหญ่ งานยากลำบาก

คนเก่งจะบ่นเรื่องทำไมได้งานไม่ท้าทาย มดงานจะบ่นเรื่องสวัสดิการไม่เพียงพอ มันก็มีที่มาที่ไปแหล่ะครับ

By: YongZ on 18 June 2022 - 13:23 #1252502 Reply to:1252494

ถ้าบริษัทไหนอยู่ในสภาพที่ต้องคอยง้อคนเก่ง บริษัทนั้นมีปัญหาแล้ว

By: akira on 18 June 2022 - 14:23 #1252511 Reply to:1252502

จริงหรือครับ แสดงว่าบริษัทนั้นทำงานรูทีนไม่ได้สร้างนวัตกรรมอะไร จะเปลี่ยนใครเข้าออกก็ได้ในไทยเยอะซะด้วย เขาเรียกบริษัทล้างสมองจนคนเก่งเป็นธรรมดาดาษๆ ลองเปิดบริษัทของตัวเองซักบริษัทสิครับแล้วคุณจะรู้ว่าบริษัทไหนไม่ต้องการคนเก่ง เพียงแต่เขาไม่ได้บอกคุณก็แค่นั้น 555

By: Cookiefish
AndroidWindows
on 18 June 2022 - 14:36 #1252515 Reply to:1252511
Cookiefish's picture

ลองคิดง่ายๆ ว่ามีผู้บริหารที่ทำตัว Toxic บ่อยๆ แล้วเป็นข่าวลบ พอพนักงานทักท้วงว่าให้แก้ปัญหากลับโดนไล่ออก สังคมการทำงานของบริษัทนี้จะน่าอยู่เชิญชวนให้คนเข้าไปทำเหรอ วันดีคืนดีเกิดหัวหน้าไปลวนลามลูกน้อง ไม่พอก็ใจก็อย่าพูด ลาออกไป??? ที่ยกมานี่เพราะมัสก็โดนแฉเรื่องแอร์โฮสเตจก่อนนี้มาแล้วยังแก้ข้อหาไม่ได้ แค่บ่ายเบี่ยง

By: whitebigbird
Contributor
on 18 June 2022 - 14:32 #1252513 Reply to:1252502
whitebigbird's picture

เห็นว่าบ.ใหญ่ๆ หลายบ.ก็ต้องขึ้นเงินเดือนพนักงานเพื่อดึงตัวกันยกใหญ่นะครับ

ทุกบ.ต้องการคนเก่ง คนเก่งเป็นใครก็ได้ ยกเว้นตำแหน่งคีย์แมนที่ต้องเป็นบุคคลใดบุคคลนึง

อย่างกรณีของ Mrs.Sandberg ที่ออกจากเฟสบุคไงครับ

ตัวอีลอนมัสก์เองก็เป็นคนที่มีแนวคิดว่าใครไม่พอใจบ.ก็ลาออกไปอยู่แล้ว

By: Holy
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 18 June 2022 - 14:52 #1252516 Reply to:1252502
Holy's picture

องค์กรที่ผมทำงาน พนักงานใหม่ทุกคน (ระดับเจ้าหน้าที่) ทุกฝ่ายจะมี Mentor ที่ถูกกำหนดไว้ให้มาประกบเพื่อสอนงาน หลังช่วงทดลองงานพนักงานใหม่จะได้ทำแบบสอบถามเพื่อประเมินคนที่เป็น Mentor ด้วยว่า ช่วยสอนดีมั้ย มอบหมายงานได้ท้าทายพอหรือเปล่า หรือใช้ไปถ่ายเอกสารไปวันๆ KPI ปีนั้นของ Mentor ก็จะงอกเรื่องดูแลน้องใหม่เพิ่มมาด้วย

ที่ทำแบบนี้เพราะเมื่อก่อนคนเข้าใหม่ ถ้าไปอยู่ฝ่ายใหญ่ๆ ก็มักจะเคว้ง ไม่มีใครสนใจสอนเพราะทุกคนสนใจงานตัวเอง จนน้องเบื่อลาออก พอ HR ไปถามทีหลังก็บอกว่ารู้สึกงานไม่ท้าทาย จนต้องปรับระบบเพื่อง้อคนเก่งนี่แหละครับ

By: Holy
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 18 June 2022 - 14:53 #1252517 Reply to:1252502
Holy's picture

องค์กรที่ผมทำงาน พนักงานใหม่ทุกคน (ระดับเจ้าหน้าที่) ทุกฝ่ายจะมี Mentor ที่ถูกกำหนดไว้ให้มาประกบเพื่อสอนงาน หลังช่วงทดลองงานพนักงานใหม่จะได้ทำแบบสอบถามเพื่อประเมินคนที่เป็น Mentor ด้วยว่า ช่วยสอนดีมั้ย มอบหมายงานได้ท้าทายพอหรือเปล่า หรือใช้ไปถ่ายเอกสารไปวันๆ KPI ปีนั้นของ Mentor ก็จะงอกเรื่องดูแลน้องใหม่เพิ่มมาด้วย

ที่ทำแบบนี้เพราะเมื่อก่อนคนเข้าใหม่ ถ้าไปอยู่ฝ่ายใหญ่ๆ ก็มักจะเคว้ง ไม่มีใครสนใจสอนเพราะทุกคนสนใจงานตัวเอง จนน้องเบื่อลาออก พอ HR ไปถามทีหลังก็บอกว่ารู้สึกงานไม่ท้าทาย จนต้องปรับระบบเพื่อง้อคนเก่งนี่แหละครับ

By: YongZ on 18 June 2022 - 17:34 #1252529 Reply to:1252502

ไม่ง้อไม่เท่ากับไม่ต้องการคนเก่งนะ แต่ระบบสำคัญกว่าคน
ถ้ากลัวลูกน้องเก่งๆลาออกแปลว่าความเสี่ยงของบริษัทอยู่ที่ลูกน้องบางคน

By: mr_tawan
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 18 June 2022 - 20:36 #1252553 Reply to:1252502
mr_tawan's picture

ถ้าเป็นตำแหน่งงานที่ต้องแย่งกันอยู่แล้วในตลาด ก็ไม่แปลกครับ

บ.ที่ไม่มีปัญหาเรื่องการหาคนนี่สิผมว่าน่าสงสัยมากกว่า


  • 9tawan.net บล็อกส่วนตัวฮับ
By: Fasndee
ContributorAndroidWindows
on 18 June 2022 - 14:04 #1252508 Reply to:1252494
Fasndee's picture

จริงในความคิดของคนผู้นั้น แต่ในโลกความเป็นจริง หลายบริษัทใหญ่น้อยที่ล้มไม่เป็นท่า หรือต่อให้ยังเจริญรุ่งเรือง หรืออยู่ต่อไปได้แบบทรง ๆ ก็เพียงเพราะเปลี่ยนผู้บริหารครับ

จำนวนไม่น้อยเลย ที่แทบจะล้ม หรือล้มหายไปเพียงเพราะเปลี่ยนผู้บริหาร

ในกรณีไหน ๆ ก็แล้วแต่ ผู้บริหารอาจจะเป็นคนสร้างภาพลักษณ์ด้านบวก และลบ ผสมออกมาแล้วมันคือบริษัทนี้นั้นแหละ เมื่อเปลี่ยนกลไกในการแสดงออกตรงนี้ไป มันก็มีนะครับที่ว่า แรงผลักดัน เสน่ห์ลึก ๆ มันหายไป ซึ่งบริษัทใหญ่ ๆ มันมักจะมีลักษณะ (เสน่ห์) ที่เป็นรูปร่างชัดเจนของมันอยู่ การเปลี่ยนคนที่เป็นสร้างลักษณะเหล่านี้ไป มันแทบจะเหมือนบริษัทคนละบริษัทเลย


เพจตัวอย่างผลงานถ่ายภาพ / วีดีโอ

By: akira on 18 June 2022 - 14:37 #1252514 Reply to:1252508

บริษัทมันมีผู้บริหารมาก็เพื่อสร้างระบบงานนั่นแหล่ะครับ มันอาจดูเหมือนย้อนแย้งกับการชูคนเก่ง แต่จริงๆแล้วมันเป็นเป็นการบริหารทรัพยากรบุคคล เพราะสุดท้ายบริษัทร้อยปีก็ต้องอยู่ด้วยระบบงานไม่ได้อยู่ที่บุคคล และหากต้องเสียคนเก่งไปก็ต้องหาคนทดแทนได้ทันท่วงที มันก็มีบ้างที่บางช่วงเวลาที่จะทรุดเมื่อคนเก่งลาออกไป แต่สุดท้ายด้วยอำนาจเงิน แหละวิสัยทัศน์ของผู้นำมันก้จะชักพาคนเก่งคนถัดไปเข้ามา

By: rainhawk
AndroidWindows
on 18 June 2022 - 11:44 #1252492
rainhawk's picture

ไม่ชอบก็ลาออกไปก็ได้นินา หรือรักบริษัทเกินไป?
ไล่เจ้าของบริษัทซะเลย

By: aomnaruk
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 18 June 2022 - 12:08 #1252495

ผมว่ามันย้อนแย้งนะในขณะที่ตอนซื้อ twitter เพราะอยากให้มี Free Speech มากขึ้นแต่พอลูกน้องออกมาโวยวายก็ไล่ออกเฉยเลย


"Those who make peaceful revolution impossible will make violent revolution inevitable." JFK.

By: Pearseak on 18 June 2022 - 12:25 #1252496 Reply to:1252495

ผมมองว่าปกติ คุณจะพูดอะไรก็ได้แต่ต้องรับผลการกระทำด้วย บริษัทส่วนตัวเขาจะทำอะไรก็ได้ ไม่ชอบหน้าก็ไล่ออกไปจ่ายเงินชดเชยตามกฏหมายก็จบกันไป มันไม่เหมือนเวลาใช้สื่อแล้วโดนแบนพูดอะไรไม่ได้ ไม่ได้มีใครห้ามใครพูดอะไร คุณถูกไล่ออกก็ยังด่า elon ต่อไปได้

By: aomnaruk
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 18 June 2022 - 20:07 #1252548 Reply to:1252496

ใช่ครับมันไม่ผิดครับแต่ทุเรศลูกตาที่แกพล่ามเรื่อง Free of Speech ตอนซื้อ Twitter คือทำตัวเหมือนกับตัวเองเป็นคนใจกว้างจะไม่มีการแบนบลาๆๆซึ่งพอเอาเข้าจริงพอโดนลูกน้องตัวเองโวยวายก็เชือดทิ้ง


"Those who make peaceful revolution impossible will make violent revolution inevitable." JFK.

By: low_budget_photo on 18 June 2022 - 12:59 #1252498

เป็นพนักงานกินเงินเดือน พูดตรงโดนใจแบบนี้ ก็จะโดนไล่ออกแหละ ยังไงก็ไม่มีความเท่าเทียม ตำแหน่งใหญ่อำนาจมากกว่า ฝ่ายบุคคลก็ฟังแต่คนตำแหน่งใหญ่ ไม่งั้นเดี๋ยวโดนให้ออกไปด้วย

By: Vithan
iPhoneWindows Phone
on 18 June 2022 - 13:30 #1252503

โอ้ ยังรู้สึกดีใจว่า ในนี้ยังมีคนที่มีความคิดปกติ ไม่ได้วิ่งอยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์กันแบบข้างนอกเท่าไร

By: Thaitop_BN
Windows PhoneUbuntuWindows
on 18 June 2022 - 15:03 #1252520
Thaitop_BN's picture

ไม่แปลกที่โดน เพราะ SpaceX คือบริษัทลูกรักของ Elon แถมยังไม่ใช่แค่ผู้บริหารแต่เป็นเจ้าของด้วย (คาดว่า Elon ถือหุ้นเกินครึ่ง) ให้เปรียบก็เหมือนพนักงานเด็กเสิร์ฟบ่นไม่พอใจเถ้าแก่ต่อหน้า แถมยังจะแยกเถ้าแก่ไม่ให้เสนอหน้าอยู่หน้าร้านตัวเองอีก ทำงานร่วมกับเจ้าของร้านไม่ได้ ไม่ไล่ออกก็แปลกละ

By: mr_tawan
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 18 June 2022 - 20:39 #1252555 Reply to:1252520
mr_tawan's picture

Mr. Musk’s trust currently owns
47.4% of the outstanding stock of SpaceX and has voting control
of 78.3% of the outstanding stock of SpaceX

เกือบครึ่งครับ แต่อำนาจโหวตสูงถึง 80% ก็คือไม่ว่ามีเรื่องอะไรก็ไม่มีทางโหวตแพ้


  • 9tawan.net บล็อกส่วนตัวฮับ
By: tpekws on 19 June 2022 - 17:43 #1252618 Reply to:1252555

แล้วทีนี้ถ้าเอา5ลูกจ้างเก่านั้นเอาข้อมูลไปขายหรือแฉกับบริษัทคู่แข่งล่ะ

By: mr_tawan
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 20 June 2022 - 09:54 #1252652 Reply to:1252618
mr_tawan's picture

ก็ฟ้องฐานขโมยความลับบริษัทไป


  • 9tawan.net บล็อกส่วนตัวฮับ
By: TheOrbital
iPhoneWindows PhoneAndroidSymbian
on 20 June 2022 - 09:08 #1252642
TheOrbital's picture

เคยเม้นท์หลายๆครั้งในเพจนี่แหละ
ระบบบริษัทไม่ใช่ระบบประชาธิปไตย เจ้าของบริษัทหรือหัวหน้า ก็ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง

"เงิน" คือสิ่งสุดท้ายที่บริษัทจะแคร์ (เงิน อาจจะตรงไป ในบางครั้งก็มาอ้อมๆในรูปแบบ ความก้าวหน้าของบริษัท ความมั่นคงของบริษัท ภาพลักษณ์ของบริษัท ฯลฯ)

บริษัทไม่ใช่องค์กรณ์การกุศลที่จะจ่ายเงินไปเฉยๆเพื่อให้โลกสดใส โดยบริษัทไม่ได้อะไรกลับมาเลย เราอาจจะบอกว่า ระบบที่ดีทำให้บริษัทคุณยั่งยืนนะ คุณได้เงินเพิ่มขึ้นนะ อันนั้นก็แล้วแต่เจ้าของเงิน ถ้าเค้าไม่อยากได้เพิ่ม เค้าคิดว่าทุกวันนี้เค้าได้พอแล้ว เค้าก็ไม่จำเป็นต้องฟังเสียงคุณเลย และถึงแม้สิ่งที่คุณพูดจะเป็นจริง คือการทำตัวแย่ๆของเค้าทำให้บริษัทเค้าล่มจม เค้าก็ไม่ได้คิดถึงคุณหรอก เค้ามีความสุขกับการทำตัวแย่ๆของเค้าและเงินที่สูญเสียไปคือเงินเค้าเอง เค้าก็ไม่แคร์ คนแบบนี้เค้าไม่มามัวคิดว่าทำไปแล้วคนนั้นจะว่า ทำไปแล้วคนนั้นจะนินทา ทำไปแล้วลูกน้องในบริษัทจะไม่คุยด้วย ลูกน้องจะไม่รัก เค้าไม่แคร์ตรงนั้นเลย เค้าจะแคร์แค่ผู้ถือหุ้นหรือแหล่งเงินของเค้าเท่านั้นแหละ ถ้าผู้ถือหุ้นจะถอนหุ้น เค้าดิ้นรนแน่นอน

โลกมันไม่ได้ยุติธรรมขนาดนั้น และถ้าที่ทำงานหรือหัวหน้าหรือเจ้าของบริษัทที่ Toxic มีผลกระทบให้เราแย่ วิธีการที่ดีที่สุดสำหรับเรา ก็คือออกไปอยู่บริษัทอื่น

แต่อย่าลืมล่ะ ทุกๆบริษัทก็มีหัวหน้างาน และทุกๆบริษัทก็มีเจ้าของบริษัท

By: mr_tawan
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 20 June 2022 - 09:57 #1252656 Reply to:1252642
mr_tawan's picture

ถ้าเป็น public company ก็ยังพอจะเล่นได้ครับ เพราะหลายๆ แหล่ง ผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นสถาบันการเงิน ตัวบุคคลที่อาจจะชี้นกชี้ไม้ไปเรื่อย อาจจะไม่ได้มีอำนาจสูงขนาดนั้น และยังต้องแคร์ public opinion อยู่

พวกนี้หลาย ๆ แห่งอาจจะเห็นผู้บริหารงัดกับบอร์ดบริหาร และ/หรือผู้ถือหุ้นอยู่บ้าง

แต่ถ้าเป็น private owned นี่คือจบเลย อย่าไปหือ เค้าไม่ฟังเรา เขาไล่เราออกอย่างเดียว ชดเชยก็ไม่ได้ด้วย

ทั้งนี้ผมเดาว่าคนที่มาอยู่ SpaceX เค้าค่อนข้างเฉพาะทาง และคิดว่าน่าจะใช้สกิลเฉพาะทางที่ว่างัดข้อกับระดับบน ๆ อยู่เหมือนกัน ถ้าคนพร้อมใจกันออกการจะหาคนมาแทนก็ไม่น่าง่ายครับ


  • 9tawan.net บล็อกส่วนตัวฮับ
By: rubisco on 20 June 2022 - 12:19 #1252681 Reply to:1252656

ผมว่าบริษัทระดับนี้น่าจะมีแผนรองรับไว้อยู่แล้ว ขนาดบริษัทผมระดับเล็กๆยังมีแผนในสถานการณ์ต่างๆรองรับประมาณ 8 สถานการณ์ หนึ่งในนั้นคือแผนรองรับโรคระบาด แผนเสร็จก่อนโควิดมาประมาณ 1 ปี เลยไม่กระทบกับoperation เลย

By: ponghahaha on 20 June 2022 - 16:58 #1252720

ก็เป็นสิทธิ์ของเขาจะพูดจะทำอะไรยังไงก็ได้มันก็ไม่ได้ผิดกฎหมายอะไร

By: mk-
Symbian
on 23 June 2022 - 15:12 #1252999
mk-'s picture

เก่งแค่ไหนเขาก็หาคนแทนได้ครับ