ทีมงาน Blognone ได้ตรวจสอบข้อมูลภายในกลุ่มเฟสบุ๊ก PlayStation 5 Thailand Group ที่มีสมาชิกกว่า 92,500 บัญชี พบว่า เมื่อวันที่ 17 พ.ค. 2022 มีสมาชิกกลุ่มรายหนึ่งโพสต์ว่าถูก Sony ประเทศไทย ยกเลิกคำสั่งซื้อ PlayStation 5 หลังสั่งซื้อสำเร็จในรอบขายที่ 17 บนเว็บไซต์ Sony ประเทศไทย วันที่ 13 พ.ค. 2022
ผู้ใช้ดังกล่าวสั่งซื้อ PlayStation 5 แบบมีช่องอ่านแผ่นราคา 16,990 บาท นอกจากนี้ยังมีสมาชิกอีกเกือบ 10 รายเข้ามาโพสต์ว่าถูก Sony ประเทศไทย ยกเลิกคำสั่งซื้อเช่นเดียวกัน โดยบางรายบอกว่า สั่งซื้อสำเร็จเวลา 11.20 น. และบางรายใช้บัญชีใหม่ที่พึ่งสมัครเข้ามาเพื่อซื้อ PlayStation 5 ในรอบนี้โดยเฉพาะ
ถึงตอนนี้ยังไม่มีคำตอบอย่างเป็นทางการจาก Sony ประเทศไทย ว่าเกิดขึ้นเพราะเหตุใด และอนาคตจะมีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นอีกหรือไม่ โดยสมาชิกกลุ่มจำนวนหนึ่งมีการคาดเดากันว่า ทาง Sony อาจป้องกันการใช้บอตที่ใช้บัญชีสมัครใหม่เข้ามาสั่งซื้อ PlayStation 5 แต่สุดท้ายมาตรการดังกล่าวอาจกระทบไปถึงผู้บริโภคทั่วไปด้วย
ล่าสุดมีสมาชิกกลุ่มรายหนึ่งที่ประสบปัญหาดังกล่าวติดต่อไปยัง Call Center ของ Sony ประเทศไทย และเขาได้คำตอบว่า ระบบตรวจสอบพบว่าเขาซื้อซ้ำ ซึ่งตัวเขายอมรับว่าซื้อซ้ำจริง ๆ และเครื่องแรกซื้อสำเร็จในการจองรอบแรก แต่ให้คนที่บ้านไปแล้ว จึงต้องการซื้อเครื่องใหม่ ผ่านการใช้คนละบัญชี แต่ที่อยู่การจัดส่งที่เดียวกับครั้งก่อน
อ้างอิง // กลุ่มเฟสบุ๊ก PlayStation 5 Thailand Group เป็นกลุ่มล็อค ต้องกดได้รับการอนุมัติให้เข้าก่อน
Comments
ตอนแรกเห็นหลายคนเรียกร้องให้มีขั้นตอนป้องกันบอท และกลุ่มพ่อค้ารีเซลล์
ตอนนี้น่าจะเรียกว่าเริ่มแล้วมั๊ง อาจจะดูจากหลายๆอย่าง เช่นที่อยู่จัดส่ง บัตรเครดิตที่ใช้จ่าย เบอร์โทร หรือแม้แต่IPที่ซื้อ(ถ้าเป็นกลุ่มเดิมซ้ำๆ) ฯลฯ ซึ่งตามข่าวหลายคนที่โดนยกเลิกก็ยอมรับว่าซื้อหลายหนจริงๆ(อ้างว่าให้คนอื่นไปแล้วก็นะ) จริงๆพวกนี้ถ้าต้องการจะตรวจสอบจริงจังก็ทำได้ แต่มันก็กระทบยอดขายนั่นแหละนะ รวมถึงความเสี่ยงที่คนซื้อหน้าใหม่จริงๆก็อาจจะโดนหางเลขไปด้วยได้ถ้าโดนเงื่อนไขที่เขาใช้
พ่อค้ามืออาชีพก็อาจจะยืมชื่อที่อยู่ญาติพี่น้องมาสั่งได้ แต่ก็อาจจะพอใช้ขั้นตอนการจ่ายเงินตรวจสอบ โดยเฉพาะถ้าใช้บัตรเครดิต ยังไงก็น่าจะมีการใช้บัตรซ้ำ
ไม่เคยสั่ง ไม่ได้สมัครใหม่ บัตรไม่เคยซื้อ ที่อยู่ไม่เคยใช้ส่ง ยังโดนเลยครับ
ดูอาการแล้วคือของมาน้อยกว่าที่คาดมากกว่า
ผมไม่เห็นข้อความในกลุ่มต้นทางนะ คนที่บอกมั่นใจแน่ๆว่าไม่เคยซื้อมาก่อนแล้วได้สอบถามทางSONY ไปไหม?
ผมไม่รู้หรอกว่า เขาcancel เพราะตรวจจับการซื้อผิดปกติ หรือว่าแค่เพราะของไม่พอส่งเฉยๆ
แต่อย่างshopee นี่ก็ดราม่ากันเยอะ เรื่องใช้accountซ้ำ ทั้งพยายามเปลี่ยนชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทร บัตรเครดิต พี่แกอ้างว่าใช้AIตรวจ กระทั่งIMEI เครื่องที่login ว่าเคยlogin accountอื่นมาก่อนหรือมีIP เดียวกันในช่วงเวลาเดียวกัน แล้วdetectเจอว่าเป็นacc ซ้ำแล้วโดนลบ เพราะใช้คูปองส่วนลดซ้ำ(หรือคูปองลูกค้าใหม่)พ่อค้าก็หัวใส ไปรับซื้อOTP จากคนทั่วไปแทน เพื่อเอาcodeที่ได้ส่วนลดหลายร้อย แต่อันนั้นเป็นapp บนมือถือ ทำให้ผู้ให้บริการได้ข้อมูลเยอะกว่า การกดสั่งซื้อผ่านเวบเฉยๆแน่ละ
น่าเชื่อมาก
ซื้อได้แล้ว ให้คนอื่น ต้องการเครื่องเลยมาซื้อใหม่
เหมือนกดซื้อกันได้ง่ายๆ เลยเนาะ
ให้คนอื่น แล้วรับเงินเขามาไงครับ
ก็เลยมาซื้อมาใหม่ เอาไปขายทำกำไรต่อ :)
งั้นสมควรโดนแคนเซิลแล้วล่ะ
เป็นคนนึงที่โดนยกเลิกโดยที่ยังไม่เคยกดได้เลยสักครั้งครับ ที่น่าหงุดหงิดกว่าคือ ติดต่อSonyไป Sonyไม่สามารถให้รายละเอียดเลยว่าตรวจสอบจากอะไร จำพวกชื่อ เลขบัตร ที่อยู่ วันเวลาที่ซื้อครั้งแรก โดยแจ้งว่าเป็นข้อมูลภายในไม่สามารถเปิดเผยได้ ทั้งๆที่ถ้าเป็นตามที่Sonyอ้าง ข้อมูลที่ซ้ำกันมันก็ต้องเป็นข้อมูลผม เลยไม่สามารถหาอะไรมาพิสูจน์ได้ เสียความรู้สึกมากๆเลยล่ะครับ
หมายถึงSONY บอกว่ายกเลิก เพราะซื้อซ้ำใช่ไหมครับ?
แต่ไม่ยอมบอกว่า ตรวจสอบจากอะไร ซึ่งตรงนี้ผมว่ามันก็อาจจะเข้าใจได้ว่า เพื่อป้องกันไม่ให้พ่อค้า รู้หลักการและหาทางหลีกเลี่ยงได้ง่าย(แต่จริงๆมันก็เดาได้ว่าอะไรบ้าง แต่แค่เดา)
แต่ก็มีปัญหาว่าการตรวจสอบเป็นธรรมแค่ไหนนั่นแหละ ไม่ว่าจะเกิดจากโดนสวมรอยไปแล้ว(เช่นเคยโดนเอาชื่อไปซื้อ แต่ที่อยู่ไม่ตรง)หรืออาจจะตั้งสูตรการตรวจสอบที่ผิดพลาดขึ้นมาก็ได้(เช่นตรวจแค่ชื่อซ้ำ แม้นามสกุลไม่เหมือนกัน หรือตรวจแค่นามสกุล เพื่อป้องกันยืมชื่อคนในบ้านซื้อ โดยไม่มองว่ามีคนนามสกุลเดียวกันอีกเพียบ หรือแม้แต่ชื่อนามสกุลก็มีโอกาสซ้ำ ถ้าตระกูลใหญ่ๆ)
ใช่ครับ Sony แจ้งแค่ว่าผิดเงื่อนไขตรง 1 คน 1 เครื่อง
ก็มีบอกอยู่แล้วว่า 1 คนหนึ่งสิทธิ์
ปัญหาคือความโปร่งใสในการบริหารจัดการสิทธิ์ของการบอกว่า 1 คนหนึ่งสิทธิ์
เพราะเราไม่รู้ว่าใครถูกนำข้อมูลส่วนตัวไปสวมสิทธิ์แล้วใช้สิทธิ์นั้นในการซื้อเครื่องไปแล้วหรือไม่
ว่าง่ายๆ ลูกค้าที่ได้สิทธิ์ในรอบนี้ แต่ถูกยกเลิกไป อาจจะไม่ทราบว่าตัวเองถูกนำข้อมูลไปใช้สิทธิ์ไปแล้ว และใช้สิทธิ์ผ่านช่องทางไหน อาจจะเกิดจากการข้อมูลรั่วไหล หรือเคยจองร้านใดๆ แล้วอยู่ๆ เอาข้อมูลไปสวมสิทธิ์ในรอบต่อๆ ไป แล้วพอตัวเองได้เครื่องจริงๆ กลับโดนแคนเซิล
ตรงนี้ Sony ต้องจัดการให้ชัดเจน ไม่งั้นเสียหายต่อความน่าเชื่อถือในอนาคตแน่นอน
ความยากอยู่ที่ถ้าเปิดเผยสูตร พ่อค้าก็ยิ่งมั่นใจหาวิธีเลี่ยงง่ายขึ้นไปอีก(จากที่แค่เดา)
ให้เดาโอกาสผิดพลาด ถ้าไม่ใช่จากโดนสวมรอย เช่นตรวจจากนามสกุล กันคนซื้อบ้านเดียวกัน(แต่จริงๆแค่เป็นญาติห่างๆที่ไม่ได้ฮั้วกัน) หรือแม้แต่ตรวจชื่อ-นามสกุล ก็มีโอกาสซ้ำ ถ้าตระกูลใหญ่หรือเก่าแก่หน่อย
คือ Sony ในฐานะผู้ประมวลข้อมูลส่วนบุคคล อาจจะไม่ต้องเปิดเผยสูตร
แต่เมื่อ PDPA บังคับใช้งาน ไม่ว่าลูกค้าจะเป็นผู้ให้เอง หรือไปได้รับข้อมูลส่วนตัวนี้จากใครยังไงก็ต้องขอความยินยอมในการนำข้อมูลเราไปใช้เพื่อประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
ผิดที่ sony ก็ของมันไม่มี คนอยากได้ก็ไม่มีของคนเขาซื้อไปก็ซื้อไปใช้ ถ้ามีของปกติ พ่อค้าคนกลางจะซื้อไปเพื่ออะไรขายไม่ออกแน่ๆ ราคา 30,000 อ่ะ คนก็ซื้อราคาปรกติ แบบนี้จะไม่เกิด
อยากรู้ว่าทำไม Sony ไม่ทำแบบ ใครจะซื้อกดจ่ายเงินแล้วลงคิวรอเลย เครื่องมาก็รันไปตามคิว คนซื้อก็โอนเงินเสร็จนั่งรอเครื่องมาตามคิวที่บ้านเลย
หรือถ้าไม่อยากให้โอนเงินเยอะ ก็ทำแบบโอนมัดจำก็ได้ ถึงคิวก็ส่งอีเมล์ให้โอนยอดที่เหลือ แล้วค่อยส่งของ ใครโอนยอดที่เหลือไม่ทันใน 3 วัน ก็ยึดมัดจำ โอนเครื่องให้คิวถัดไป
เดี๋ยวเจอหลักพันหลักหมื่นคิว แล้วจะท้อ
อยากให้สุ่มคิวอีก
เป็นผมไม่ท้อนะครับ ได้เลขคิวชัดเจน รอได้ก็โอนมัดจำ รอไม่ได้ก็ไม่ต้องโอน ไปหาที่อื่น แต่อย่างน้อยมันก็จะไปตามลำดับ
ถ้า PDPA มา Sony จะต้องโดนบังคับบอกมั้ยหว่าว่าที่บอกว่า “ข้อมูลซ้ำ” มันคือจุดไหน (เพราะต้องเป็นข้อมูลของเรา)
เอาจริงๆ แค่เก็บข้อมูลก็ต้องแจ้งเราแล้ว อีกอย่างร้าน หรือบุคคลที่ส่งข้อมูลให้ Sony โดยไม่แจ้งเรา ก็อาจจะมีปัญหาในอนาคตด้วยซ้ำ