Tags:
Node Thumbnail

การใช้งาน Facebook แลกมาด้วยความเป็นส่วนตัว สิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่จริงๆ แล้ว แม้จะเข้าใช้งาน Facebook โดยไม่โพสต์อะไรเลย หรือแม้แต่ไม่มีบัญชี Facebook ก็อาจหนีเงื้อมมือ Facebook จากการถูกนำข้อมูลไปใช้ไม่พ้น มีสกู๊ปพิเศษจาก Wall Street Journal เขียนถึงเรื่องนี้ Blognone เห็นว่าน่าสนใจจึงนำมาสรุปความ

ผู้หญิงคนหนึ่งชื่อ Megan Borovicka อายุ 42 ปีชาวแคลิฟอร์เนีย ได้ให้สัมภาษณ์ Wall Street Journal เธอเข้าใช้งาน Facebook ตั้งแต่ปี 2013 แต่ก็ไม่ได้มีความเคลื่อนไหวใดๆ ต่อ และเธอมาพบภายหลังว่า Facebook ยังคงตามรอยเธอมาตลอดหลายปี โดย Facebook มีฟังก์ชั่นติดตามกิจกรรมของผู้ใช้งานที่อยู่นอกแพลตฟอร์ม Facebook หรือ Off-Facebook Activity ซึ่งเมื่อกดเข้าไป จะพบว่า Facebook มองเห็นหมดว่าเวลาที่คุณใช้ไปบนออนไลน์ เข้าเว็บไซต์ใดบ้าง

No Description
ภาพจาก Facebook

Borovicka พยายามใช้กฎหมายเพื่อเข้าถึงข้อมูลลูกสาววัย 13 ปีของเธอที่มีบัญชี Instagram ซึ่งสามารถทำได้ตามพระราชบัญญัติความเป็นส่วนตัวของผู้บริโภคแห่งแคลิฟอร์เนีย บังคับใช้ในปี 2020 แต่ Instagram ไม่เคยตอบกลับมา เธอยังทำเรื่องไปยัง Facebook ขอดูข้อมูลเกี่ยวกับลูกชายวัย 11 ขวบ ซึ่งไม่เคยมีบัญชีบน Facebook หรือบน Instagram แต่ Facebook ปฏิเสธด้วยเหตุผลว่าลูกชายของเธอไม่มีบัญชี Facebook

แต่ในขณะเดียวกัน Facebook ก็ยอมรับในอีเมลที่ตอบกลับไปยัง Borovicka ว่าสามารถรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของเด็กชายได้ หากเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์หรือแอปที่ใช้บริการ Facebook เหล่านี้อย่างน้อยหนึ่งบริการ เว็บไซต์และแอปเหล่านี้อาจส่งข้อมูลให้ Facebook โดยไม่คำนึงว่าบุคคลนั้นมีโปรไฟล์ Facebook หรือไม่

Off-Facebook Activity คือฟังก์ชันที่ Facebook เพิ่มมาในปี 2020 ดังนั้นสิ่งที่แสดงออกมาจึงเป็นข้อมูลในรอบสองปีเท่านั้น ซึ่งจริงๆ แล้ว Facebook อาจมีข้อมูลของเรามากกว่าที่เห็น สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า ไม่ว่าเราจะมีบัญชีหรือไม่ Facebook ก็จะรู้จักเราในทางใดทางหนึ่งอยู่ดี และยิ่งตอกย้ำให้เห็นว่า Facebook ไม่ใช่บริการฟรี แต่ต้องจ่ายด้วยข้อมูลส่วนตัว

ผู้อ่านสามารถดูวิธีเข้าดูและ clear history ได้ใน [How-To] ดูข้อมูลกิจกรรมนอกแอปที่ Facebook ได้ไป และวิธีล้างประวัติกิจกรรมออก

No Description

Facebook ทุกวันนี้ใหญ่เกินกว่าจะเป็นโซเชียลมีเดียหนึ่งแพลตฟอร์ม เนื่องจาก Facebook มีซอฟต์แวร์ติดตามพันธมิตรทางธุรกิจที่ฝังไว้ในทั้งแอป เว็บไซต์ ครอบคลุมธุรกิจต่างๆ ที่ต้องการทำการตลาดดิจิทัลตั้งแต่คนขายของชำ ไปจนถึงนักการเมือง

บริษัทวิจัยแอป Sensor Tower ระบุว่า ในบรรดาแอปพลิเคชันมือถือยอดนิยม 100 แอป คุณจะสามารถค้นหาซอฟต์แวร์ของ Facebook ฝังอยู่ถึง 61 แอป ผู้ผลิตซอฟต์แวร์ความเป็นส่วนตัว Ghostery ระบุว่า Facebook มีตัวติดตามในเว็บไซต์ถึง 25%

ความน่ากังวลคือ การติดตามผู้ใช้ของ Facebook ไม่ได้สร้างความรู้สึกเป็นอันตรายหรือทำให้คนรู้สึกเดือดร้อน แต่ก็ไม่ทำให้ผู้ใช้รู้สึกปลอดภัย เพราะโดนติดตามตลอดเวลาไม่ว่าจะทำอะไร

ที่มา - Wall Street Journal

Get latest news from Blognone

Comments

By: xyz123 on 30 August 2021 - 12:24 #1221509
xyz123's picture

แต่ในขณะเดียวกัน Facebook ก็ยอมรับในอีเมลที่ตอบกลับไปยัง Borovicka ว่าสามารถรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของเด็กชายได้ หากเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์หรือแอปที่ใช้บริการ Facebook เหล่านี้อย่างน้อยหนึ่งบริการ เว็บไซต์และแอปเหล่านี้อาจส่งข้อมูลให้ Facebook โดยไม่คำนึงว่าบุคคลนั้นมีโปรไฟล์ Facebook หรือไม่

ก็คือ ถึงแม้ส่งข้อมูลมา แต่ถ้าระบบตรวจสอบแล้วไม่มีบัญชี Facebook ก็ไม่ได้ลบข้อมูลนั่นออก แต่สร้าง shadow account ขึ้นมาแบบนั้นสินะ

By: ปาโมกข์
iPhoneAndroidWindows
on 30 August 2021 - 15:29 #1221529
ปาโมกข์'s picture

ว่าด้วยการเก็บข้อมูลของ facebook ในหลายๆข่าวที่ผ่านมา รู้สึกว่าโชคดี facebook ไม่ได้มีสัญชาติจีน ไม่เช็นนั้นโดนอเมริกาแบนไปแล้ว

By: tom789
Windows Phone
on 30 August 2021 - 16:15 #1221537

ก็ดูน่ากลัวไม่น้อยนะ

By: PriteHome
ContributorAndroidWindows
on 30 August 2021 - 22:23 #1221593
PriteHome's picture

ทำแบบนี้ ไม่ผิดกฎหมายใช่ไหม?

By: xenatt
ContributorWindows PhoneRed HatSymbian
on 31 August 2021 - 08:09 #1221624
xenatt's picture

Block Domain Facebook ใน Firewall หรือ Host file หรือไม่ก็ใช้ Disconnect extension


Opensource - Hackintosh - Graphic Design - Scriptkiddie - Xenlism Project