Tags:
Node Thumbnail

มีความคืบหน้าคดีฟ้องร้องโดย Scarlett Johansson นักแสดงนำหนัง Black Widow ฟ้องร้องบริษัทดิสนีย์ จากการสตรีมหนังใน Disney+ ทำให้สูญเสียผลประโยชน์ในฐานะนักแสดง โดยทนายความของดิสนีย์ร้องต่อศาลเพื่อระงับข้อพิพาทหรือ อนุญาโตตุลาการ

เนื้อหาส่วนหนึ่งในคำร้องของทนายความดิสนีย์ระบุว่าตามสัญญาระบุว่า ตัวหนังจะต้องมีการฉายในโรงหนังไม่ต่ำกว่า 1,500 จอ ซึ่งหนังเรื่องนี้เปิดตัวจริงมากกว่า 9,600 จอในสหรัฐอเมริกาและกว่า 30,000 จอทั่วโลก นอกจากนี้ ทนายความของดิสนีย์ยังมีปัญหากับคำกล่าวอ้างของ Johansson ที่ว่าเธอสูญเสียรายได้จากโมเดลฉายหนังคู่กับสตรีมมิ่ง ซึ่งไม่ได้ระบุแน่ชัดในสัญญา

No Description

ยังไม่รู้แน่ชัดว่าฝั่ง Johansson จะยอมรับการระงับข้อพิพาทหรือไม่ แต่ The Hollywood Reporter รายงานอ้างคำสัมภาษณ์ทนายความ John Berlinski ว่า Marvel ให้สัญญาว่าจะฉาย Black Widow ในโรงทั่วไปเหมือนกับหนังเรื่องอื่นๆ และยืนยันว่า Disney+ จะไม่เข้ามากินส่วนแบ่งเพื่อหวังเพิ่มยอดผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์ม ทางทนายความตั้งตารอจะยื่นหลักฐานเพื่อพิสูจน์คดีนี้ต่อไป

คดีนี้เป็นที่ถกเถียงในวงกว้าง ที่ไปไกลกว่าการเปรียบเทียบประสบการณ์ระหว่างดูหนังในโรงและสตรีมมิ่ง แต่ยังรวมถึงรายได้นักแสดงและทีมงานผู้สร้างหนังด้วย

ที่มา - The Verge

Get latest news from Blognone

Comments

By: api on 24 August 2021 - 12:23 #1220769

เจอแบบนี้โรงทั่วไปยอดมันตกไปเรียบร้อยแล้วเนี่ยสิ

By: paween_a
Android
on 24 August 2021 - 12:29 #1220771
paween_a's picture

จากปัญหาโควิดทำให้รูปแบบการฉายแบบเดิมไปคาดหวังรายได้แบบเดิมก็คงไม่ได้ ก็ขอให้เจรจาจบสวย ๆ กันนะ เพราะทั้งเจ้าของหนัง นักแสดง และผู้ที่เกี่ยวข้องก็ดิ้นรนเอาตัวรอดเหมือนกันแหละ

By: WarHammeR_TH
iPhone
on 24 August 2021 - 12:53 #1220777
WarHammeR_TH's picture

ฉายแบบสตรีมมิ่งพร้อมกับฉายโรง ยังไงก็มีผล มันเล็งเห็นผลลัพธ์ตั้งแต่แรกแล้ว
กะตีหัวเข้าบ้านแต่นักแสดงไม่ยอมเป็นหมูให้เชือด

By: sdc on 24 August 2021 - 14:11 #1220791

หนังดิสนีย์ส่วนใหญ่ โดยเฉพาะของค่ายนี้อ่ะ เดารุปแบบได้เลยว่าจบแบบไหน เดาเนื้อเรื่องได้ง่ายมาก ดูไมกี่รอบก็เบื่อ และดูซ้ำน้อยมากเพราะไม่ค่อยมีอะไรน่าจดจำมากนัก เทียบกับ Band of Brothers, Mr.Robot Ruroni Kenshin และอื่นๆยังมีความน่าจดจำ และดูซ้ำได้อีกหลายรอบ

By: tfctaf
Windows PhoneUbuntuWindows
on 24 August 2021 - 14:47 #1220795 Reply to:1220791

แต่มันเป็นสูตรสำเร็จที่พัฒนาด้วยดาต้ามาแล้วครับ ว่าขายได้ดีกว่าแน่ๆ เขาไม่สนหรอกว่าแฟนๆ จะดูกี่รอบ ถ้ารวมแล้วแบบนี้ได้ตังเยอะกว่า ก็ทำแบบนี้
จะว่าไป ดิสนีย์ รวมทั้งเครือภายใต้ใช้วิธีนี้มาซักพักนึงแล้วครับ วางแผนอย่างกับขายบ้านหรือขายเสื้อผ้ามากกว่าขายศิลปะ มีการวางแผนว่าหนังจะออกกี่เรื่องๆ อยู่ในชุดไหนสลับไปมา เหมือนบริษัทรถวางแผนว่าอนาคตจะออกโปรดักส์ปีไหน ไลน์ไหน รุ่นไหน

By: borolors
AndroidWindows
on 24 August 2021 - 15:24 #1220801 Reply to:1220791

รสนิยมของคนเราไม่เหมือนกันครับ Band of Brothers ผมดูแล้วก็เฉยๆ

By: impascetic
Android
on 24 August 2021 - 15:26 #1220802 Reply to:1220791

จุดประสงค์ของหนังแต่ละเรื่องแต่ละแนวมันก็ไม่เหมือนกันน่ะครับ ไม่ใช่ทุกคนจะชอบดูหนังล้ำลึกที่ดูซ้ำได้หลายรอบ

และที่ยกตัวอย่างมานานเป็นซีรี่ไป 2 เรื่องแล้วนะครับ ในมุมมองของคุณมันอาจจะเป็นหนังตอนเดียวกับหนังหลายตอน แต่เนื้อในมันต่างกันเยอะมากครับ แล้วอันนึงก็หนังสงครามที่รู้ตอนจบอยู่แล้ว อีกอันสร้างจากการ์ตูนที่เราก็รู้ตอนจบแล้วเช่นกัน คนจะชอบไม่ชอบ ดูซ้ำกันกี่รอบ มันเรื่องส่วนบุคคล จะวางว่าหนังประเภทนั้นดี หนังประเภทนี้ไม่ดี มัน self centered ไปหน่อยอ่ะครับ หนังดูง่ายก็มีคุณค่าของมันครับ หนังค่าย Marvel นี่ดูง่ายทุกเรื่อง แต่เห็นดูจบก็มานั่งถกเถียงกันต่อทุกที แถมทำรายได้หลักพันล้านไปหลายเรื่องอยู่

By: suotirips
iPhoneWindows PhoneAndroidUbuntu
on 24 August 2021 - 23:33 #1220859 Reply to:1220791
suotirips's picture

รสนิยมคนเราไม่เหมือนกันครับ บางคนไม่ได้ต้องการอะไรที่มันย่อยยาก น่าจดจำต้องไปดูซ้ำ เพราะบางคนก็ถือว่าภาพยนตร์เป็นสิ่งบันเทิง ดูเพื่อคลายเครียด ไม่ต้องคิดเยอะ และสูตรสำเร็จที่ดิสนีย์ทำมันเข้าถึงคนส่วนใหญ่ง่าย

ส่วนตัวผมดูได้หมดหนังรางวัล หรือหนังตลาด
Band of brother นี่ขอเห็นต่างครับ เพราะผมดูแค่รอบเดียว ไม่ได้น่าจดจำอะไร

By: -Rookies-
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 25 August 2021 - 14:38 #1220967 Reply to:1220791

ผมดูหลายรอบนะ ดูเพื่อเก็บตกความเชื่อมโยงระหว่างเรื่อง เพราะเค้าคิดมาค่อนข้างดีว่าจะให้มีอะไรเชื่อมต่อกันยังไง แถมมันเชื่อมโยงกันไปหลายเรื่องมาก ดูแล้วดูอีกก็สนุก และก็ไม่เห็นว่าตอนจบมันจะเดาได้ทุกเรื่อง อย่าง infinity war นี่จบแบบอึน ๆ เลย อ่ะ ถ้าเถียงว่าก็มันยังไม่จบไง งั้นไปต่อ end game ก็ได้ จบแบบมีคนตาย และตัวหลัก ๆ เกษียณออกไป อันนี้ก็นึกไม่ถึงเหมือนกัน (ถ้าไม่ได้ไปตามข่าวว่าโรเบิร์ต ดาวนี่ จูเนียร์ แกหมดสัญญาแล้วอะนะ) ไหนจะช่วงแถมหลังเครดิตที่ชวนให้มานั่งถกกันต่อว่ามันจะบอกอะไรวะ เรื่องต่อ ๆ ไปมันจะไปทางไหนวะอีก


เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!

By: kyle
Android
on 24 August 2021 - 14:54 #1220800

แบ่ง ยอด สตรีมมิ่งให้ก็จบ ละ งกจัง

By: Pingz
ContributoriPhone
on 24 August 2021 - 17:23 #1220822 Reply to:1220800

ประเด็นคือต้องแบ่งเท่าไหร่นี่แหละครับ คือมันก็ตัดสินได้ยากว่ายอดที่ได้ของสตรีมเกิดจากหนังแต่ละเรื่องแค่ไหน แถมข้อมูลสตรีมมิ่งส่วนใหญ่เค้าก็ไม่ยอมเปิดเผยกันครับ

By: nessuchan
iPhoneAndroidWindows
on 24 August 2021 - 18:03 #1220824 Reply to:1220822
nessuchan's picture

เรื่องนี้เค้าขาย Premier access ครับ ดูครั้งละ 29.99 เพราะงั้นยอดมันรู้ได้ตายตัวครับ ว่าคนจ่ายเท่าไร

แต่ถ้าจำไม่ผิดเหมือนดิสนีย์จะแบ่งยอดให้นะครับแต่ว่าที่เขาฟ้องเพราะว่าไม่ได้ตกลงจะเอาลง disney plus ตั้งแต่แรกทำให้รายได้ที่คาดว่าจะมาจากโรงหนังลดลงเขาฟ้องตรงนี้ ว่า disney เอาหนังชนโรงไปโปรโมท disney plusโดยที่ไม่ได้ระบุไว้ตั้งแต่แรก

https://www.blognone.com/node/123969

By: GyG on 24 August 2021 - 20:02 #1220841
GyG's picture

เห็น เควิน ไฟกี ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าอยู่ข้างสกาเลต แบบนี้ Disney ก็ต้องเกรงใจบ้างแหละ
เพราะตอนแรกท่าทีแบบแข็งกร้าวมาก ตอนนี้ท่าทีอ่อนลงมาบ้างละ

By: impascetic
Android
on 25 August 2021 - 09:35 #1220893

ดีครับ หมั่นไส้ดิสนีย์ หลังๆทำตัวกร่างไม่น่ารักเลย ตอนฉาย the force awakens ก็จะไปแย่งเวลาจากหนังเควนตินทั้งๆที่เค้าจองไปก่อนแล้ว ตอนนั้นเควนตินหัวร้อนด่าออกอากาศตอนไปสัมภาษณ์เลย