จากประเด็น โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ สั่ง FTC หรือ คณะกรรมการด้านการค้าของสหรัฐร่างกฎ Right-to-Repair ล่าสุดคณะกรรมการทำการโหวตเป็นเอกฉันท์ 5-0 บังคับใช้กฎ Right-to-Repair
โดย FTC จะหาแนวทางแก้ปัญหา รวบรวมความคิดเห็นและข้อร้องเรียนจากสาธารณะ ตลอดจนทำงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของรัฐและผู้กำหนดนโยบาย เพื่อออกแบบกฎ Right-to-Repair
Chair Lina Khan ประธาน FTC กล่าวเมื่อเร็วๆ นี้ว่า การจำกัดสิทธิ์ซ่อมอุปกรณ์ เป็นการเพิ่มต้นทุนให้แก่ผู้บริโภคมหาศาล ปิดโอกาสทางธุรกิจสำหรับร้านซ่อมอิสระ สร้างขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ไม่จำเป็น
Image by Bruno /Germany from Pixabay
ด้าน iFixit เว็บแนะนำและจัดอันดับความยากง่ายของการซ่อมแซมอุปกรณ์ ออกแถลงการณ์สนับสนุนมติของ FTC ระบุว่า FTC เป็นตัวกำหนดทิศทางการค้าของประเทศ และเป็นเวลานานเกินไปแล้วที่ผู้ผลิตกลั่นแกล้งผู้บริโภคและกีดกันร้านซ่อมรายเล็กให้เลิกกิจการ นโยบายใหม่ของ FTC จะสามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้
ที่มา - Engadget
Comments
ดีครับ จะได้ซ่อมง่ายๆ กันซะที
ความก้าวหน้าของการออกแบบอุปกรณ์อาจชะลอตัวในระยะสั้น หวังว่าจะเร่งหาจุดร่วมที่ลงตัวได้หลังกฎใหม่
ว่าแต่มันมีชิ้นส่วนไหนที่ไม่ควรให้เปลี่ยนได้ไหมครับ ?
อย่างพวกชิพที่ดูเรื่องความปลอดภัย ผมก็คิดนะว่า มันก็น่าจะเปลี่ยนได้นะ ตามหลักแล้วถ้าเปลี่ยน ข้อมูลที่อยู่ใน storage ก็น่าจะพังหมด ไม่น่ามีปัญหามั้ง?
จากที่เคยใช้งานอะไรแนวนี้มาบ้าง มันจะมี recovery key ที่เราจะกรอกหรือมีขั้นตอน flash ลงใน security chip ตัวใหม่หลังเปลี่ยน เพื่อให้การเปลี่ยน security chip เพื่อไม่กระทบต่อข้อมูลที่เข้ารหัสไว้ (นั่นหมายความว่าต้องมีการเก็บ recovery key ไว้ด้วย)
แต่หลังๆ ผู้ผลิตบางรายก็ไม่เก็บพวก recovery key ไว้เอง ลูกค้าเก็บไว้เท่านั้น แล้วลูกค้าก็มักไม่เก็บไว้