Counterpoint Research เปิดข้อมูลว่าตลาดสมาร์ทวอทช์ เติบโตสวนทางตลาดมือถือในครึ่งปีแรกของปี 2020 เพราะปัจจัยความกังวลด้านสุขภาพของผู้คนทำให้ดีมานด์เพิ่มขึ้น และตลาดสมาร์ทวอทช์มีรายได้เพิ่มขึ้นถึง 20% จากครึ่งปีแรกของปี 2019 อันดับหนึ่งของตลาดยังเป็น Apple ที่ครองส่วนแบ่งรายได้ 51.4% ส่วนใหญ่มาจากดีมานด์ของ Apple Watch Series 5 ที่ยังสูงอยู่ รองลงมาเป็น Garmin ที่ 9.4%, Huawei 8.3%, Samsung 7.2% และ iMoo 5.1%
ในด้านจำนวน ยอดขายสมาร์ทวอทช์ครึ่งปีนี้ เพิ่มขึ้นถึง 57% ในอินเดีย 9% ในยุโรป และ 5% ในสหรัฐอเมริกา Apple ยังเป็นผู้นำในด้านจำนวนเช่นกัน โดยมียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 22% และตลาดที่เติบโตเร็วที่สุดของ Apple คือยุโรปและอเมริกาเหนือ ส่วน Huawei มียอดขายในด้านจำนวนเติบโตขึ้น 57% จากปีที่แล้ว ขึ้นมาเป็นอันดับสอง โดยรุ่น Watch GT2 มียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 90% ในประเทศจีนและในเอเชีย
Garmin ยังเป็นแบรนด์อันดับสองในด้านรายได้ แม้ในด้านจำนวนจะตาม Huawei มาเป็นอันดับสาม แต่ยอดขายของตระกูล Forerunner และ Fenix ก็เพิ่มขึ้นถึง 31% และ Garmin ยังคงเป็นแบรนด์ที่มีสมาร์ทวอทช์หลากหลายรุ่นที่สุดในตลาด โดยมียุโรปและสหรัฐอเมริกาเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุด
อีกสองแบรนด์ที่เติบโตอย่างรวดเร็วคือแบรนด์ Amazfit เติบโตขึ้น 51% ส่วน Xiaomi เติบโตขึ้น 47% โดยมีตลาดประเทศจีน อินเดีย และเอเชียเป็นหลัก ส่วน Samsung ทำรายได้ได้ไม่ดีนักในครึ่งปีแรก แต่หลังจากเปิดตัว Galaxy Watch 3 น่าจะทำยอดขายเพิ่มขึ้นได้ในครึ่งปีหลัง
ในด้านเทรนด์อื่นๆ Counterpoint ระบุว่าระบบปฏิบัติการ Wear OS ของ Google ยังแพ้ให้กับ Watch OS ของ Apple, Lite OS ของ Huawei และ Amazfit OS อยู่ โดยมีส่วนแบ่งเพียง 10% ของตลาดเท่านั้น สมาร์ทวอทช์ที่รับสัญญาณมือถือได้ในตัวเริ่มมีความนิยมมากขึ้น คิดเป็นหนึ่งในสี่ของสมาร์ทวอทช์ทั้งหมด ส่วน Heart Rate Monitor มีบนสมาร์ทวอทช์ถึง 60% แล้ว
ในอนาคต เซ็นเซอร์ SPO2 กับระบบตรวจจับการล้ม น่าจะมีใช้แพร่หลายมากขึ้น สมาร์ทวอทช์ทรงเหลี่ยมแพร่หลายกว่า คิดเป็นเกือบสองในสามของตลาด เพราะมีพื้นที่ในการใส่เซ็นเซอร์ต่างๆ และแบตเตอรี่มากกว่า ระบบแบตเตอรี่และชิปที่เร็วขึ้นทำให้การบันทึกด้านสุขภาพ เช่นการนอนหลับทำได้ต่อเนื่องขึ้น และเทรนด์แอปสุขภาพและฟิตเนสยังคงมาแรงที่สุดอยู่
ที่มา - Counterpoint Research
Comments
คิดถึง pebble ดีที่สุดตั้งแต่ใช้มาละ
คิดถึงเหมือนกัน ชอบที่แบตทนมาก ใช้ตั้งแต่รุ่นเก่าจอขาวดำ จนเป็นรุ่นใหม่จอสี เสียแค่ไม่รองรับภาษาไทย แต่ก็โมใส่เองได้อยู่ดี
มุ้งมิ้ง~*
น่าจะอยุ่ได้อีกนาน ฝั่งดรอยยังพัฒนา ไม่ได้ดีเท่า
ถ้า Apple Watch ขอแค่ทำให้ใช้งานได้ 3-4 วัน ต่อการชาร์จ 1 ครั้งนี้ คาดว่าน่าจะขายได้ดีกว่านี้เยอะ ปัจจุบันยังคงต้องชาร์จวันต่อวันอยู่เลย
ถ้าไม่ต้องใช้ iPhone ก็อาจจะขายดีกว่าเดิมอีกหน่อยมั้งครับ แต่ Apple ก็คงไม่ทำแอปลง Android เพื่อใช้กับ Watch มากมั้ง และอาจจะไม่มี API ให้มากมาย
แต่อย่าง AirPod ก็มีจำนวนหนึ่งที่ซื้อมาฟังกับ Android
เป็นคนนึงที่ซื้อ Airpods มาใช้กับ Samsung S10+ เหตุหลักๆที่ทำให้อยากได้คือมีเคสน่ารักๆเยอะดี 555
//มีใครใช้ Airpods แล้วเจ็บหูแบบผมมั่งมั๊ยอ่ะ เคยเห็นมีซิลิโคนกันเจ็บ ว่าจะซื้อมาลอง
มุ้งมิ้ง~*
การมาของ Apple Watch Series 6 ในช่วงปลายปีนี้ น่าจะทำให้ Apple ยังครองส่วนแบ่งการตลาด Smart Watch อันดับหนึ่งต่อไป
อยากได้ Apple Watch แต่ไม่ได้ใช้ iPhone
ตั้งแต่มี AW มันโอเคดีนะ แต่! แบตไม่ไหวจริงๆ T_T ชาร์จทุกวัน พกที่ชาร์จไปตลอด ถ้ามันใช้ iPhone ชาร์จให้ได้ก็น่าจะดีไปอีก
มือใหม่!! ใหม่จริงๆนะ