ที่ผ่านมาบริษัทไอทียักษ์ใหญ่สหรัฐอย่าง Amazon, Google, Microsoft, Facebook ล้วนเจอประเด็นการเลี่ยงภาษีหรือจ่ายภาษีที่ต่ำในหลายประเทศ รัฐบาลประเทศต่าง ๆ ก็พยายามออกมาตรการเพื่อบีบให้บริษัทเหล่านี้จ่ายภาษีจากการสร้างรายได้ในประเทศนั้น ๆ

ฝรั่งเศส เป็นหนึ่งในประเทศที่มีท่าทีจริงจังเรื่องนี้ เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา รัฐบาลฝรั่งเศสประกาศเก็บภาษี 3% จากบริการดิจิทัลในฝรั่งเศสจากบริษัทที่มีรายได้เกิน 25 ล้านยูโรในฝรั่งเศสและเกิน 750 ล้านยูโรทั่วโลก และแน่นอนว่ากระทบบริษัทไอทีสหรัฐทั้งหมด

โดนัลด์ ทรัมป์และเอ็มมานูเอล มาครง จาก Shutterstock

การประกาศเก็บภาษีดังกล่าวของรัฐบาลนายมาครงสร้างความไม่พอใจให้กับรัฐบาลสหรัฐ โดยเฉพาะโดนัลด์ ทรัมป์ ที่พยายามเจรจาการค้ากับหลายประเทศในช่วงที่ผ่านมา เพื่อแก้ข้อตกลงที่คิดว่าตัวเองเสียเปรียบ (กรณีสงครามการค้าจีนก็เป็นหนึ่งในความพยายามนี้) ก่อนที่รัฐบาลสหรัฐจะขู่ทำสงครามการค้ากับฝรั่งเศสด้วยการขึ้นภาษีสินค้าฝรั่งเศสไม่ว่าจะแชมเปญ, กระเป๋า, เครื่องครัว, ชีส เป็นต้นอีก 100% เพื่อตอบโต้มาตรการของรัฐบาลมาครง

ล่าสุดโดนัลด์ ทรัมป์และเอ็มมานูเอล มาครงได้ข้อตกลงเบื้องต้นว่า จะยุติการขึ้นภาษีระหว่าง 2 ประเทศตลอดทั้งปี 2020 และระหว่างนั้นจะจะมีการเจรจาข้อตกลงเรื่องภาษี โดยเฉพาะภาษีดิจิทัล ซึ่งจะเริ่มเจรจากันภายใต้การประชุมขององค์การความร่วมมือและการพัฒนาการทางเศรษฐกิจ (OECD) ที่สหรัฐและหลายประเทศในยุโรป (รวมถึงตัวองค์กรสหภาพยุโรป) เป็นสมาชิก ที่จะมีขึ้นในช่วงสิ้นเดือนนี้

ที่มา - Reuters, NYT