Wall Street Journal รายงานว่ากระทรวงยุติธรรมสหรัฐกำลังจะสอบสวน Google หลังเตรียมบังคับใช้โปรโตคอล DNS over HTTPS บน Chrome ซึ่งจะทำให้ Google สามารถเข้าถึงข้อมูลทราฟฟิคของผู้ใช้งานได้แต่เพียงรายเดียว สุ่มเสี่ยงต่อการผูกขาดการเข้าถึงข้อมูล

ประเด็นที่กระทรวงยุติธรรมจะสอบสวนคือ Google จะนำข้อมูลทราฟฟิคที่ผูกขาดเหล่านั้นไปใช้งานในเชิงพาณิชย์หรือไม่ หลังได้รับคำร้องเรียนหลังได้รับคำร้องเรียนจากหลายฝ่ายโดยเฉพาะ ISP

ขณะที่ Google ระบุว่าการใช้งานโปรโตคอลนี้ก็ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย พร้อมยืนยันว่าไม่มีแผนจะเปลี่ยน DNS ที่วิ่งผ่าน Chrome มาเป็น DNS ของ Google โดยดีฟอลต์ ดังนั้นข้อมูลบอกว่า Google จะเป็นศูนย์กลางผู้ให้บริการ DNS แบบเข้ารหัสนั้นไม่จริง

กระบวนการทดสอบและเปลี่ยนไปใช้งาน DNS over HTTPS ของ Google จะค่อนข้างค่อยเป็นค่อยไป โดยจะเริ่มทดสอบกับผู้ใช้ Chrome ราว 1% ในเดือนหน้า ขณะที่ Firefox ก็มีแผนลักษณะเดียวกัน โดย Marshall Erwin ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายความปลอดภัยของ Firefox ออกมาโจมตี ISP ในประเด็นที่กังวลการผูกขาดของ Google ด้วยว่าทำให้คนอื่นเข้าใจผิด (fundamentally misleading) (Erwin น่าจะเพราะมองว่า ISP เสียประโยชน์จากการเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้มากกว่า เลยโจมตีเรื่องผูกขาด - ผู้เขียน)

ที่มา - WSJ