Tags:
Node Thumbnail

Hao Li ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านคอมพิวเตอร์กราฟิกจาก University of Southern California และผู้อำนวยการห้องวิจัยกราฟิกและการมองเห็นให้สัมภาษณ์กับช่อง CNBC ว่าเขาเชื่อว่าเทคโนโลยี Deepfake ที่ใช้แปลงใบหน้าคนลงบนวิดีโออื่นนั้นจะไปสู่จุดที่คนทั่วไปสามารถสร้างวิดีโอที่สมจริงได้ภายในระยะเวลา 6 เดือนถึง 1 ปีข้างหน้า

Hao ระบุว่าด้วยเทคโนโลยีปัจจุบันก็เพียงพอที่จะสร้างวิดีโอที่น่าเชื่อถือได้อยู่แล้ว แต่สำหรับโปรแกรม Deepfake ที่แจกออกมานั้น คนทั่วไปยังคงสามารถมองออกได้โดยง่ายว่าเป็นวิดีโอปลอม

ก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่วัน Hao เคยกล่าวในงานสัมมนาระบุว่าระยะเวลาที่โปรแกรม Deepfake จะพัฒนาจนคนทั่วไปใช้งานได้ใน 2-3 ปี แต่เขาเปลี่ยนระยะเวลาใหม่ หลังจากแอป ZAO ที่สลับหน้าผู้ใช้กับคนดังต่างๆ ได้รับความนิยมขึ้นมา

แม้เทคโนโลยี Deepfake จะดูมีภัยจากการสร้างวิดีโอปลอมมากกว่าประโยชน์ แต่ Hao ก็ระบุว่าเทคโนโลยีเบื้องหลังมีประโยชน์ต่อวงการ แฟชั่น, ภาพยนตร์, หรือแม้แต่การเพิ่มประสิทธิภาพการประชุมวิดีโอทางไกล

Deepfake เป็นชื่อเรียกการใช้เทคโนโลยี Deep Learning เพื่อวางวิดีโอใบหน้าคนลงบนวิดีโอเป้าหมาย โดยจุดเริ่มต้นมาจากผู้ใช้ใน Reddit ที่ใช้ชื่อ deepfakes สร้างวิดีโอโป๊จากคนดัง เมื่อปลายปี 2017 เป็นพิสูจน์ว่าเทคโนโลยีที่หาได้ทั่วไป สามารถสร้างวิดีโอปลอมที่คุณภาพเริ่มสมจริง

ที่มา - CNBC

ภาพหน้าจอจากวิดีโอ Deepfake ที่นำใบหน้า Gal Gadot แทนใบหน้าผู้แสดงเดิม วิดีโอถูกเผยแพร่เมื่อปี 2017

Get latest news from Blognone

Comments

By: orchidkit on 23 September 2019 - 22:59 #1129796

insert meme (yeah, science b*tch)

By: sudlor_gang on 24 September 2019 - 09:43 #1129839

ต่อไปคงอยากใส่ร้ายใครก็ปลอมหลักฐานทางวิดีโอแล้วเอาลง social ให้คนใน social ด่า
มันจะดีหรอเนี่ย หรือมีการปลอมวิดีโอเพื่อแก้หลักฐานเท็จให้จริงแล้วสู้ในชั้นศาลอีก

Hao ก็ระบุว่าเทคโนโลยีเบื้องหลังมีประโยชน์ต่อวงการ แฟชั่น, ภาพยนตร์, หรือแม้แต่การเพิ่มประสิทธิภาพการประชุมวิดีโอทางไกล => มันประโยชน์มันได้ไม่คุ้มเสียเลย

By: crucifier
iPhoneAndroidUbuntu
on 24 September 2019 - 13:50 #1129899 Reply to:1129839

ยังไงโลกก็ต้องพัฒนาไปข้างหน้า เทคโนโลยีมันต้องเกิดขึ้นอยู่แล้ว และสุดท้ายเมื่อเทคโนโลยีนี้กลายเป็นเรื่องธรรมดาที่ใครก็เข้าถึงได้ คนเราจะปรับตัวในการรับข้อมูลข่าวสารได้เอง ส่วนในชั้นศาลก็คงทำเหมือนย้อนยุคไปก่อนที่โลกจะมีวิดีโอเกิดขึ้น คือพิสูนย์ด้วยหลักฐานแวดล้อมอื่นๆ แทน

By: i3i4i5
ContributoriPhoneWindows
on 24 September 2019 - 19:39 #1129965 Reply to:1129839
i3i4i5's picture

ในทางกลับกัน ภาพวีดีโอจริงก็อาจโดนบอกว่าเป็นวีดีโอตัดต่อ DeepFakes

By: akira on 24 September 2019 - 10:32 #1129860

จริงๆ แล้วมันก็มีประโยชน์อยู่นะ โดยเฉพาะกับเรื่องวีดีโอทางไกล แทนที่เราจะต้อง Stream ข้อมูลตลอดเวลา ก็ใช้ Algorithm จับเฉพาะส่วนที่เคลื่อนไหว ส่งข้อมูลเฉพาะส่วนที่เคลื่อนไหวข้าม Network ไป แล้วใช้เทคโนโลยี Deepfake สร้างภาพกับฝั่งปลายทางทับลงในภาพในอดีตก่อนหน้า โดยทับเฉพาะส่วนทีเคลื่อนไหว ก็จะทำให้อนาคตสามารถสร้างระบบประชุมทางไกลพร้อมกันจำนวนมากๆ ได้ โดยใช้ Bandwidth น้อยได้

รวมถึงถ้าใช้กับเทคโนโลยีกับ VDO Streaming ที่มีปัญหากับการใช้ Bandwidth มหาศาลได้อีกด้วย ส่วนตัวผมว่าถ้าเปลี่ยนชื่อ แล้วเอาไปพัฒนาต่อในแนวทางที่เป็นประโยชน์จะทำให้พัฒนายกระดับการ Stream ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับภาพได้เลยล่ะ