Waymo บริษัทลูกของ Alphabet ขึ้นนำเสนอในงาน Google I/O เป็นครั้งแรก โดยย้ำว่าจะเปิดบริการจริงภายในปี 2018 นี้
สิ่งที่น่าสนใจคือ Waymo เล่าว่าพัฒนาอัลกอริทึมของตัวเองได้อย่างรวดเร็ว เพราะได้หน่วยงานอื่นภายในกูเกิลช่วยสนับสนุน ตั้งแต่ได้ทีม Google Brain ร่วมพัฒนาระบบ AI ช่วยให้ตรวจจับคนข้ามถนนได้ดีขึ้นถึง 100 เท่าจากเดิม, ใช้หน่วยประมวลผล TPU ของกูเกิลช่วยให้ประมวลผลได้เร็วขึ้น 15 เท่า, สามารถรันซิมูเลชันจากข้อมูลของตัวเอง ได้ผลเทียบเท่ากับการใช้รถยนต์วิ่งจริง 25,000 คันต่อวัน
พลัง AI ยังช่วยให้ Waymo พิชิตโจทย์ยากๆ อย่างการขับรถในสภาพอากาศไม่ดี เช่น หิมะตก ได้ด้วย จากภาพจะเห็นว่าด้วยอัลกอริทึมปกติ Waymo จะไม่สามารถแยกวัตถุปกติจากหิมะได้เลย แต่พอใช้อัลกอริทึม Deep Learning แยกแยะหิมะกับวัตถุออกจากกัน ส่งผลให้รถของ Waymo มองเห็นสภาพถนนไม่ต่างอะไรจากถนนปกติช่วงที่หิมะไม่ตก
Waymo ยังเปิดเผยว่ามีข้อมูลการวิ่งไปแล้ว 6 ล้านไมล์ ตัวเลขนี้ขยับขึ้นจาก 4 ล้านไมล์ในเดือนพฤศจิกายน 2017 และมีข้อมูลปฏิสัมพันธ์ระหว่างรถยนต์กับวัตถุอื่นๆ จำนวนหลายร้อยล้านครั้ง
ที่มา - Waymo Blog
Comments
งานนี้ต้องรอดูเลยหละ
ปกติคนขับทางหิมะ นี้ ผมว่ายากมากเลยนะ ถนนมันลื่น
AI อาจจะเก่งกว่า มั้ง
Google น่าจะเหนือกว่า Tesla ตรงที่มีข้อมูลการขับขี่ของคนใช้ Google Maps นับล้านทั่วโลก
ควรมีรถทดลองที่ไม่ต้องมีพวงมาลัยกับคอนโซลรถแบบเดิมๆได้แล้วมั้ง
Waymo ทำแล้วครับ เกือบๆ ปีนึงแล้ว
รถไม่มีพวงมาลัย waymo พยายามทำแล้วครับ แต่มันมีปัญหาด้านกฏหมายเลยทำไม่ได้ รถไร้คนขับตอนนี้ ยังไม่ถึง tier ที่สามารถวิ่งเองได้ 100% ต้องใช้คนควบคุม หมือนช่วยขับมากกว่า
ทุกคนคงพยายามไปถึงจุดนั้นกันครับ แต่ในการใช้งานจริงก็ต้องขับอัตโนมัติแบบคนสามารถบังคับได้ด้วยโดยเกิดอุตบัติให้น้อยที่สุด จนเป็นที่ยอมรับได้ก่อน
May the Force Close be with you. || @nuttyi
ข่าว AI เยอะมากๆ ช่วงนี้
ถ้าเกิดดันเผลอลบสิ่งมีชีวิตเพราะคิดว่าเป็นหิมะไปด้วยล่ะ...
รอดูผลจากการใช้งานจริงต่อไป