หลังจากที่ประเด็นเรื่องการควบคุมอาวุธปืนและความรุนแรงจากการเล่นเกมได้เป็นที่ถกเถียงกันอย่างหนักในสหรัฐอเมริกา ล่าสุด ได้มีเหตุการณ์ที่น่าจะจุดประเด็นร้อนนี้ขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อสื่อท้องถิ่นของรัฐมิสซิสซิปปี้ ได้รายงานข่าวว่า มีคดีเด็กชายวัย 9 ขวบยิงพี่สาววัย 13 ปีเสียชีวิต ด้วยสาเหตุการทะเลาะกันจากการแย่งจอยเล่นเกม
Cecill Cantrell นายอำเภอของเทศมณฑล Monroe ให้สัมภาษณ์ว่า จากรายงานที่ได้รับเรื่องราวนี้เกิดขึ้นในวันเสาร์ที่ผ่านมา เด็กสาวปฏิเสธที่จะให้จอยเกมแก่น้องชาย ทำให้เด็กชายหยิบปืนมายิงเธอจากทางด้านหลัง
กระสุนผ่านทะลุสมองของเธอ เด็กสาวถูกนำส่งโรงพยาบาลในอาการสาหัส ก่อนเสียชีวิตในวันอาทิตย์
การสืบสวนของคดีนี้จะมุ่งเป้าไปที่เด็กชายสามารถเข้าถึงปืนได้อย่างไร และ เขารับรู้ถึงความอันตรายของการใช้ปืนมากขนาดไหน
ที่มา: South China Morning Post
Comments
Title พี่สาร->พี่สาว
เกมโดนอีก ถ้าแบนแบบเหล้านี่จะเป็นไงนะ
เหล้านี่แบนแล้วหรอครับ
แบนแล้วครับ กรึ๊บวันละแบนพอ
ขวดเล็กก็แบนอะครับ
https://th.wikipedia.org/wiki/การห้ามสุราในสหรัฐ
https://en.wikipedia.org/wiki/Prohibition_in_the_United_States
อเมริกาเคยออก กม. แบนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ครับ โดยกลุ่มเคลื่อนไหวทางศาสนาให้เหตุผลว่าเหล้าเป็นต้นเหตุความรุนแรงและอาชญากรรม ซึ่งผลลัพธ์แย่กว่าเดิม พวกมาเฟียลักลอบค้า อาชญากรรมพุ่งสูง รัฐรายได้ลดลงเพราะเก็บภาษีเหล้าไม่ได้ ห้ามได้สิบกว่าปีก็ยกเลิกครับ
ก็สามารถซื้อ ปืน กับ เกมส์ ได้ในช่วงเวลาตั้งแต่ 11:00 -> 14:00 กับหลัง 17:00 หน่ะครับ
จะว่าเกี่ยวกับเกมได้ไหม ในมุมมองคนนอกวงอย่างผมก็ .. เกี่ยวเต็ม ๆ
การเลี้ยงดูมากกว่าครับ แค่ช่วงนี้เกม กับ ปืนเป็นประเด็นความรุนแรงเฉยๆ
ถ้าเปลี่ยนจากแย่งจอยเกม เป็นแย่งของอย่างอื่นเด็กจะไม่ยิง?
my blog
+1
+1 และอีกประเด็น ถ้าไม่มีปืน อาจจะเปลี่ยนไปใช้อย่างอืื่นทำร้าย ซึ่งอาจจะไม่ได้ร้ายแรงเท่าปืน
ก็ต้องถามต่อว่าพ่อแม่ปล่อยให้เด็กอายุ 9-13 เข้าถึงเกมคอนเทนต์รุนแรงได้ยังไง
ขนาดป้องกันไม่ให้เข้าถึงปืนไม่ได้ (ซึ่งง่ายกว่า) จะให้ป้องกันไม่ให้เข้าถึงเกมรุนแรงไม่ได้คงยากล่ะครับ
ก็คงมีส่วนครับ เกมทำหัวร้อนง่ายๆ อาจเป็นตัวกระตุ้นเฉยๆ ในด้านอารมณ์ แต่เวลาอารมณ์ร้อนแล้วจะทำอะไรนี่ไม่เกี่ยวกับเกมนะ ผมว่าถ้าคนที่ทำแบบนี้ได้ โดนแย่งของเล่นอย่างอื่นก็คงทำ แต่ส่วนหลักน่าจะเรื่องปืนมากกว่าว่าไปหยิบมายิงได้ง่ายขนาดนั้นเลยหรอ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ปัญหาคือมันจะพิสูจน์ได้ยังไงว่าการกระทำนี้มันมีปัจจัยหลักมาจากเกม
การแย่งจอยเกม -> เด็กโมโห -> แสดงอาการรุนแรงออกมา
ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่จอยเกม แต่อยู่ที่ทำไมเด็กถึงเลือกแสดงพฤติกรรมแบบนั้น
และที่สำคัญ พ่อแม่เด็กเก็บปืนยังไงให้เด็กวัยแค่นั้นหยิบมาได้
อนาคตถ้าแบนเกม ห้ามเด็กต่ำว่า 12 เล่นเกม มันจะแก้ปัญหาได้ไหม
หรือว่าถ้ามีข่าว เด็กแย่งหุ่นยนต์กันแล้วเอาปืนมายิงกันแบบนี้อีก ก็จะตามไปแบนหุ่นยนต์อีก
เอาจริงๆ แทบไม่เกี่ยวกับเกมเลย ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม
ครอบครัว การเลี้ยงดู และปล่อยให้เด็กเข้าถึงปืนได้ยังไง
อีกอย่างสมมุติว่า แย่งหนังสือ รีโมท จะไม่หยิบปืนมายิงเหรอ
เคสบายเคส กรณีอื่นอาจไม่ค่อยเกี่ยว แต่กรณีนี้อาจจะใช่หรือไม่ใช่สาเหตุหลัก แต่ยังไงมันก็เกี่ยว แม้ว่าทั้งคู่อาจจะเคยบาดหมางเรื่องอื่นกันมาก่อนหน้านี้ แต่ชนวนที่ทำให้คนน้องบันดาลโทสะก็คือเกมนี่ล่ะ เพราะคนที่ให้ปากคำก็คือคนน้องเอง (คนพี่อาการโคม่าและเสียชีวิตไปแล้ว พูดแก้ตัวและให้การใส่ความน้องไม่ได้แน่นอน) แต่คนน้องกลับให้การที่เป็นลบกับตัวเองได้ขนาดนี้
เกี่ยวได้ไงอ่ะ ยังไม่ได้เล่นเกมเลย มันคือการแย่งของเล่น เปลี่ยนจากจอยเกมเป็นตุ๊กตา ถ้าเด็กมันรุนแรงมันก็ออกมาเหมือนเดิม
งั้นถ้าแย่งขนมกัน ต้องแบนขนมประเภทนั้นมั๊ยครับ? คิดสิคิด
เคสนี้ผมมองว่าแทบไม่เกี่ยว
ถ้า CSGO อยู่แล้วทีมแพ้หัวร้อนไปฆ่าเพื่อนนะ ก็ว่าไปอย่าง
ไม่เห็นเกี่ยว ถ้าเด็กชายอยากได้อาหาร แล้วพี่สาวไม่ให้นี่ไม่ต้องแบนอาหารกันเลยหรอ
เรื่องนี้อยู่ที่การเลี้ยงดูล้วนๆ
ยังไม่รู้เลยนะครับว่าเค้าเล่นเกมส์อะไรมีความรุนแรงหรือเปล่า
กรณีนี้เหตุการณ์เดียวกันแต่แย่งของเล่นอื่น เด็กคนนี้ก็มีแนวโน้มยิงไม่ใช่หรอครับ
ถ้าข้าวออกมาว่าแย่งเล่น Minecraft คงจะ .....
พี่สาร > พี่สาว
แยงจอยเกม > แย่งจอยเกม
ได้รายงานข่าว่า > ได้รายงานข่าวว่า
ก่อนเสียชีวิตในวัาอาทิตย์ > ก่อนเสียชีวิตในวันอาทิตย์
การสืบสวนของคดีนี้จะมุ้งเป้า > การสืบสวนของคดีนี้จะมุ่งเป้า
"ทำให้เด็กชายตีเธอเข้าที่หลังศีรษะ"
งง หน่อย ๆ สงสัยพ่อแม่เอาปืนวางไว้โต๊ะกินข้าวยืบง๊ายง่าย
ทุกวันนี้ผมก็ทะเลาะกับพี่เรื่องแย่งเล่นเกมนะคุณ แทบเป็นเรื่องปกติเลย
ถ้าเป็นเด็กๆถึงกับชกกันเลย
แต่นี่โตแล้ว แขวะๆ กันแล้วก็แยกย้ายขี้เกียจเจ็บตัว
ผมว่าพ่อแม่เด็ก ให้เข้าถึงง่ายไปไหม
ประเด็นที่ต้องการพูดน่าจะเป็น
เกมสอนให้เด็กแก้ปัญหาด้วยความรุนแรง เช่น ทำลายให้พัง ยิงให้หายไป ยิงให้ตาย ชกให้ล้ม
แล้วเรื่องนี้คงมองที่ว่า เด็กรู้ไหมว่ายิงแล้วตาย ฟื้นขึ้นมาไม่ได้เหมือนในเกม
+1 เห็นด้วยเรื่อง game เป็นสื่อที่สอนให้เด็กเห็นวิธีแก้ปัญหาด้วยการยิง
แต่การยิงและการฆ่ามันเป็นเรื่องปกติของธรรมชาติ (ถึงจะไม่ค่อยดีก็เถอะ) ซึ่งพบเห็นได้ตามสื่อต่างๆ แม้แต่ในหนังสือเรียน เช่น วิชาประวัติศาสตร์ เรายกย่องบรรรพบุตรนักรบ, ชีววิทยา เชื้อโรคที่เราไม่ต้องการก็ใช้ยาฆ่าทิ้ง
ประเด็นที่น่าสนใจจึงควรจะเป็นวิธีการอบรมเลี้ยงดูให้เด็กแยกแยะถูก-ผิด และควบคุมตัวเองให้ทำเฉพาะสิ่งที่ควรทำ มากกว่า
ส่วนเรื่องเก็บปืนไม่ดี อันนี้ผู้ปกครองผิดเต็มๆ
ผมมองว่าเกมไม่ต่างจากสื่ออื่น ๆ ในแง่ของการนำเสนอเลยครับ คือ ละคร ภาพยนตร์ นิยาย การ์ตูน เกม และอื่น ๆ มันเป็นแค่สื่อ เนื้อหา เนื้อเรื่อง ก็มีเหมือนกัน
การกำหนดการเข้าถึงของแต่ละช่วงอายุ หรือความสามารถในการควบคุมจิตใจ หรืออื่น ๆ นั้นน่าจะสำคัญ แต่ทำได้จริงไหม หน้าเด็กดูหนังแบบนี้ เล่นเกมแบบนี้ แต่มันไม่ได้ผลไง
สิ่งเหล่านี้สร้างเด็กมาร่วมกันในฐานะสิ่งแวดล้อมของเด็ก
ผมเคยได้ยินคำพูดนึง ใครพูดไม่รู้ เกี่ยวกับสงครามเวียดนามว่า สหรัฐแพ้เวียดนามถึงในห้องนั่งเล่น เขาพยายามจะชี้ให้เห็นว่า ข่าว ภาพยนตร์ หนังสือ เกม และสื่อต่าง ๆ มากมาย นำเสนอเรื่องราวเหล่านี้ในหลายแง่มุม และเด็กเข้าถึงได้ง่าย และเขามองว่านั้นคือความพ่ายแพ้อย่างหนึ่งของสหรัฐ
เกมผิดไหม ผมว่าผิด แต่ก็ผิดไม่ต่างจากสื่อประเภทอื่น ๆ เลย ถ้าผู้ใหญ่จะจริงจังเรื่องเกมทำผิดเรื่องนี้ ผมเห็นควรว่าควรจริงจัง แต่ไม่ใช่แค่กับเกม และถ้าคุณมองเรื่องของเศรษฐกิจเป็นหลักด้วย คุณอาจจะเลือกไม่โจมตีเกมจนจมดิ เพราะคุณควรโจมตีสื่ออื่นจนจมดินด้วยใช่หรือเปล่า และมันจะพังกันเป็นแถบ
ผมตอบไม่ได้ว่าควรทำอย่างไง แต่รู้ว่า ปืนนั้นเป็นตัวแทนแห่งความรุนแรงมากกว่ามีดมาก ใครจะบอกว่า ห้ามปืน ไม่ห้ามมีด ก็เกิดเหตุได้เหมือนกัน ผมคิดว่าเขาพูดถูก แต่มีดไม่ได้ถูกมองเป็นตัวแทนแห่งความรุนแรงชัดเจนเท่าปืน (ความเห็นส่วนตัว)
อีกทั้งการเข้าถึงปืนได้ง่ายนั้นเป็นเรื่องที่สร้างโอกาสให้เกิดขึ้นมากเข้าไปอีก ไม่ว่าผู้ใหญ่หาซื้อปืนได้ง่าย ๆ เด็กมองเห็นที่เก็บปืนที่เข้าถึงได้ง่าย หรือแม้แต่ผู้ใหญ่ที่กำลังโกรธเพื่อนบ้านที่มีปัญหายือเยื้อมานานหลายปีจนฟิวส์ขาด และผู้ใหญ่คนนั้นก็รู้ที่เก็บปืนของตนเองว่าอยู่ตรงไหน
ผมว่า มันเหมือนกัน แต่ใช่ละ เด็กอาจจะควบคุมสติได้ยากกว่าตามวุฒิภาวะ
อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่เราอยากจะทำอะไรจริงจัง แต่หาทางจัดการกับสื่อต่าง ๆ ไม่ให้เกิดผลกระทบกับเด็ก หรือผู้ใหญ่ไม่ได้ ก็ควรมาลงที่ปืนก่อนหรือเปล่านะ
เพจตัวอย่างผลงานถ่ายภาพ / วีดีโอ
ผมขอแย้งประเด็นที่ว่าเกมส์ไม่ต่างจากสื่ออื่นๆ
เกมส์โดยเฉพาะแนวสวมบทบาท ทำให้คุณเข้าถึงการกระทำหรือบทบาทนั้นๆได้อย่างเสมือนจริง ถึงแม้ว่าภาพยนต์ นิยาย การ์ตูน ละครต่างๆจะมีเนื้อหารุนแรงแค่ไหน มีผลกระทบมากมายเพียงใด ก็ยังไม่สามารถเข้าถึงจิตใจได้ลึกเหมือนเกมส์ การที่คุณได้เดินล่าตามหาคู่ต่อสู้ เล็งยิงและเหนี่ยวไกด้วยตนเอง ให้ความรู้สึกต่างกับแค่การเห็นหรืออ่านอย่างเดียวมากนัก
ในผู้บรรลุนิติภาวะอย่างเราๆ เราต่างรู้ว่านั่นคือเกมส์ มันก็แค่ตัวละครโพลีกอน แต่ในเด็กที่ยังแยกแยะไม่ถูก ความเคียดแค้น ความต้องการกำจัด อารมณ์หลังการกำจัดได้นั้นเค้ายังไม่มีวุฒิภาวะมากพอจะแยกแยะได้ มันคือของจริงสำหรับเขา
ไม่ใช่เฉพาะความรุนแรง วุฒิภาวะทางอารมณ์และอุปนิสัยต่างๆล้วนต้องเกิดจากการฝึกฝน การที่คุณจะเป็นคนเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เห็นแก่ตัว มีสมาธิสูง ขี้หงุดหงิด จนถึงชอบความรุนแรง ทั้งหมดทั้งมวลอยู่ที่สภาวะแวดล้อมและการอบรมในวัยเด็ก การเล่นเกมส์ที่มีเนื้อหารุนแรงก็ไม่ต่างอะไรกับการฝึกซิมมูเลเตอร์ฆ่าคน มันทำให้คุณเข้าใจสถานการณ์ รับมือกับความตื่นเต้น จนอาจถึงก้าวข้ามผ่านการตัดสินใจบางอย่างในสถานการณ์จริงได้ ในขณะที่ ภาพยนต์หรือละคร ก็สร้างได้เช่นกัน แต่คุณต้องเอาสถานการณ์ในละครมาปฏิบัติเสียก่อน ในขณะที่เกมส์มีสนามฝึกให้คุณพร้อมแล้ว
เกมที่มีเนื้อหารุนแรงมันเรท M (Mature) อยู่แล้ว คือเหมาะสำหรับอายุ 17 ปีขึ้นไป ถ้าเด็กอายุต่ำกว่านั้นเล่น ก็ต้องโทษผู้ปกครองแล้วล่ะครับ ซึ่งไม่ต่างจากการพาเด็กไปดูหนังเรท R
ผมไม่ได้แย้งตรงจุดนี้นะครับ
การจัดเรตติ้งเป็นเรื่องที่ควรกระทำอย่างยิ่งสำหรับเกมส์ และการที่พ่อแม่อนุญาตให้ลูกเล่นเกมส์ที่ไม่ตรงกับเรตติ้งนั่นถือว่าผิดมหันต์ และการวางสิ่งของอันตรายโดยไม่ระมัดระวังก็ถือว่าประมาทเลินเล่อ ตรงนี้ผมเห็นด้วยทุกสิ่งทุกอย่าง
ผมเพียงแย้งในกรณีที่บอกว่า เกมส์มีผลพอๆกับ หนัง ละคร ซึ่งผมว่าไม่จริง เกมส์น่าจะมีผลมากกว่า และด้วยเหตุนี้ผมคิดว่าการจัดเรตติ้งและการเข้มงวดกับเรตติ้งของเกมส์ ควรจะยิ่งชัดเจน เข้มข้น มากกว่าหนัง ละคร ด้วยซ้ำ ตามเหตุผลที่ผมกล่าวมาข้างต้น
งั้นผมขอแย้งบ้าง
ผมเคยเล่นเกมแนวนี้อยู่ประจำ การเล็งยิง-เหนี่ยวไกในเกมมีความแตกต่างจากโลกจริงพอสมควร อย่างน้อยในเกมก็ไม่มีเรื่องของน้ำหนักปืน การวางมือก็ต่างกันมาก การเคลื่อนไหวของร่างกายก็ผิดกันเยอะ
ผมกลับมองว่า ละคร เป็นอีกหนึ่งสื่อที่มีผลอย่างยิ่งต่อการตัดสินใจ มันคือการชี้นำ"วิธีการแก้ปัญหา"รูปแบบนึง ยิ่งคนดูละครอินๆก็ยิ่งคล้อยตามตัวละครได้เหมือนกัน
แต่ทั้งหมดทั้งมวลนี้ จะไม่มีเหตุร้ายแรงใดๆเกิดขึ้น ถ้าไม่มีปืนพร้อมลูกกระสุน
ถ้าในเรื่องของการเทียบระหว่างความรุนแรงในเกมกับหนังหรือละคร ผมให้เกมมีน้ำหนักมากกว่าครับ มีหนังน้อยเรื่องมากที่จะเสนอฉากรุนแรงต่อเนื่องตั้งแต่ต้นจนจบ แต่เกมส์มันมีความรุนแรงต่อเนื่องมากกว่า และเด็กมีโอกาสอยู่กับมันโดยเฉลี่ยเป็นระยะเวลาที่มากกว่าการดูหนังหรือละครครับ (ความเห็นส่วนตัว)
ผมอาจจะทำให้เข้าใจผิด จากคำว่า "ซิมมูเลเตอร์" จริงๆแล้วไม่ได้ต้องการพูดถึงเรื่อง Technical แต่อยากพูดถึงด้านจิตใจและพฤติกรรมมากกว่า ในละครหรือหนัง มันแค่พาคุณไปสำรวจเรื่องราว เนื้อเรื่องข้างหน้าหรือพฤติกรรมของตัวละครจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับผู้เขียนบท ที่จะพาคุณไป จะเคียดแค้นยังไงถ้าเขาไม่ลงมือคุณก็ฆ่าตัวละครตัวไหนไม่ได้
แต่สำหรับเกมส์ การจะฆ่าตัวละครตัวไหน ด้วยวิธีใด ยิงตรงไหน แทงตรงไหน เป็นตามความต้องการของคุณ ตาที่แล้วคุณโดนตัวนี้ฆ่าตายตานี้คุณจะจ้องวิ่งไล่ล่าฆ่าไอ้ตัวนี้ล้างแค้นก่อนเลยก็ได้ คุณจะฆ่าไม่กี่ตัวเพื่อผ่านด่านหรือถึงแม้ว่าคุณจะผ่านด่านแล้วก็ยังอยากจะฆ่าทุกตัวให้หมดฉากก็ได้ คุณจะใช้ไรเฟิลยิงหัวมันด้วยนัดเดียวหรือถ้ามันไม่สะใจพอจะถือแค่มีดแล้วเข้าไปตะลุยแทงมันหลายๆแผลเลยก็ได้ แม้แต่เกมส์อย่างเดอะซิมส์ คุณจะสร้างสรรค์สิ่งดีๆหรือสร้างนรกให้ตัวละครบางตัวก็ได้ ผมถึงบอกว่า เกมส์โดยเฉพาะเกมส์แบบสวมบทบาท มันคือแบบจำลอง ที่คุณสามารถควบคุมมันได้ตามแต่จิตใจความต้องการของคุณ เรียกว่ามันสนอง Need ของคุณเต็มที่ แบบที่หนังหรือละครก็ให้คุณไม่ได้
ส่วนเรื่องมีปืนพร้อมลูกกระสุนวางไว้ ผมไม่แย้ง เห็นด้วยกับคุณ
ทั้งหมดทั้งมวลที่อยากพูดคือ
ไม่อยากให้เรา "ให้ท้าย" กับเกมส์มากเกินไปเพราะเราชอบเล่นแล้วก็สนับสนุนว่า เฮ่ยมันไม่อันตรายขนาดนั้น หนังกับละครก็ยังทำเลย ผมอยากชี้ให้เห็นว่ามันมีมุมที่อันตราย "สำหรับคนที่ไม่ตระหนักในอันตรายของมัน" แต่สำหรับคนที่มีวุฒิภาวะ เข้าใจตรงนี้ ไม่ยกย่องจนมองข้ามมันเกินไป ก็โอเคอยู่
ประเด็นคือ ปืน ต่างหาก ไม่เกี่ยวกับเกมส์เลย
เด็กอาจจะเล่นมาริโอ้ก็ได้ มันไม่เห็นจะรุนแรงเลย
ต้องแก้กฎหมายซื้อขายปืนง่ายๆแทนต่างหาก
แบบญี่ปุ่นที่ปืนหายากมาก
9 ขวบเหนี่ยวไกปืนได้สบายๆเลยนะเนี่ย ประเด็นคือปืนที่พ่อแม่เก็บไว้เขาไม่เข้าเซฟตี้หน่อยเลยเหรอ หรือเก็บกระสุนแยกไว้ต่างหาก
ต่อให้แย่งจอยเล่นเกมประเภทรุนแรง เกมแนวนี้มันก็ไม่เหมาะกับเด็ก 9 ขวบ หรือ 13 ขวบอยู่แล้วนะ
เด็ก 9 ขวบตีศีรษะพี่แล้วยังหยิบปืนมาง่ายๆ ต้องตั้งคำถามพ่อแม่และการเลี้ยงดูแล้ว
The tragedy took place Saturday when the girl refused to give up the controller, Monroe County Sheriff Cecil Cantrell said according to reports. The boy then opened fire, striking his sister in the back of the head.
น่าจะไม่ได้ตี ยิงหัวเลยรึเปล่า
+1 จากข่าวต้นเรื่องแล้วควรแปลว่า เมื่อพี่สาวปฏิเสธไม่ให้จอย เด็กชายจึงยิงเข้าที่หลังศีรษะของพี่สาว
+1 แปลผิด ในข่าวเขียนว่ายิงเข้าที่หัวเลย
แก้ไขแล้วครับ
ขอบคุณที่มาท้วงติงนะครับ
"When I walk around I probably look like a street dog" - Daido Moriyama
เห็นๆว่าปัญหาอยู่ที่เกม แต่คนเราก็หนีความจริงกัน มนุษย์มักโกหกตัวเองเสมอ
ปัญหาอยู่ที่จอยเกมต่างหากครับ อย่ามั่ว
ผมเชื่อว่า พ่อ-แม่ เป็นคนสอนให้เด็กยิงปืนเองแหละครับ (เด็กคงใส่กระสุน ปลดเซฟ ขึ้นลำกล้อง และยิงเองไม่เป็นถ้าไม่มีใครสอนมาก่อน)
ลองไม่มีปืนในบ้าน อย่างมากก็ตีกันหน้าจอยแหละ ผมว่า
ข่าวชงไปหาเกมส์ผิดซะงั้น
ถ้าจะแก้วิธีนี้ ban game แล้วก็ต้อง ban ละครด้วยนะครับ ช่อง 3, 7 นี่มีละครยิงกันแทบทุกเดือน
เอาจริงๆ ต้อง ban ไปจนถึงค่านิยม ชอบปืน ชอบกองทัพ ชอบการแสดงอำนาจ เลยล่ะ ซึ่งมันผิดธรรมชาติ ทำไม่ได้หรอกครับ
จะบ้าเหรอครับ ban ค่านิยมขนาดนั้นแล้วใครจะเสียสละเข้ามาเป็นนายกฯละครับ!!
/ข่าวนี้เขาก็ไม่พลาด
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
ปัญหามันอยู่ที่มนุษย์ครับ ไม่น่าสร้างเกมออกมาในโลกนี้เลย มนุษย์นี่มันแย่จริงๆ
คำถามต่อไปคือ เกมที่เล่นกันอยู่คือเกมอะไรครับ ต่อให้เล่น Minecraft หรือ Havest moon (อันหลังรู้สึกว่าแก่ไปนะ)
แต่ถ้าโกรธกันขนาดเอาปืนยิงกันตายนี่คงไม่เกี่ยวกับเกมแล้วมั้งครับ
Marioเหยียบเต่า สวมชุดทานูกิยังโดนPETAด่าเลยคุณข้อหาทรมานสัตว์ สรุปคนจะโทษก็โทษทุกอย่าง
"เห็นๆว่าปัญหาอยู่ที่เกม..." อันนี้ทดสอบสมมุติฐานกันยังไงครับ?
ส่วนตัวผมยังไม่เคยเจอข่าวในไทยนะ แบบว่าเล่นเกมอย่าง CS แล้วก็พาลไปยกพวกตีกันน่ะ
เด็กอาจคิดว่า ยิงแล้วเดี๋ยวก็ฟื้นขึ้นมาใหม่เหมือนในเกมส์
ใครที่บอกว่าปัญหาไม่ใช่เกม
ผมท้าให้สอนลูกเล่น FPS ตั่งแต่เด็ก Doom / CS / OW ก็ว่าไป
และวางปืนโชว์ไว้ใกล้ๆคอม พร้อมกระสุน
ทำให้สม่ำเสมอ และรอดูผลลัพท์เองนะครับ
ยกตัวอย่างแบบนี้แสดงว่ารู้อยู่แก่ใจว่าปัจจัยในเรื่องนี้มีทั้ง 2 อย่าง
- สื่อรุนแรง: มันมีอยู่รอบตัวแหละครับ ไม่ใช่แค่ game
- การเข้าถึงอาวุธ: ไม่ต้องใช้ปืนก็ได้ สากในครัว หรือฟันก็มีงับคอเข้าไปสิ
ความสำคัญอยู่ที่การอบรมและตัวอย่างในครอบครัวครับ
ต้นตอปัญหานี้ยังไงมันก็ไปลงที่การเลี้ยงดูแหละ เพียงแต่เกมอาจจะเป็นแค่ตัวเสริมพฤติกรรมรุนแรงแบบกลางทาง ปืนก็เป็นตัวเสริมความรุนแรงตอนปลายเรื่องครับ
กลุ่มควบคุม ก็ให้ลูกอีกคน ดูหนังแอคชันตลอดเวลา (John Wick, Rambo, Saving Private Ryan, อะไรอีกดี ?)
แล้วก็วางปืนโชว์ไว้ใกล้ ๆ ทีวีพร้อมกระสุน
ทำให้สม่ำเสมอแล้วรอดูผลลัพท์เองนะครับ
ปล.ใส่ลูกแบลงค์ก็ดีนะ
ปล. 2 กลุ่มควบคุมที่สาม ให้ดูละครไทยละกัน
แค่วางปืนพร้อมกระสุนไว้กลางบ้านนี่ก็ไร้วุฒิภาวะและเสี่ยงต่อการที่เด็กเอามายิงเล่นพอแล้วครับ ต่อให้บ้านไม่มีทีวีก็เถอะ
อย่าว่าแต่ปืนเลย ไฟแช็คก็เสี่ยงพอแล้ว
เป็นการยกตัวอย่างที่เหมือนจะเกี่ยว แต่ก็ไม่เกี่ยวกันเลย
เกมมีปัญหาแน่แต่คุณก็มีปัญหาเหมือนกัน กล้าวางปืนในที่เปิดแบบนี้ไม่มีความรับผิดชอบแล้ว ต่อให้บ้านคุณไม่มีเด็กก็เถอะ
ตรรกกะมันวิบัติตั้งแต่ ให้วางปืนไว้ใกล้คอมพร้อมกระสุนแล้วครับ ถูกเลี้ยงดูมาแบบไหนครับถึงมีตรรกะแบบนี้ผมจะได้ไม่สอนลูกแบบนั้น
ถ้าจะใช้ตรรกะแบบนี้ล่ะก็ผมท้าให้วางปืน กระสุน มีดไว้ทั่วบ้านกับเด็กเลยครับ เลี้ยงเด็กไม่ต้องให้เล่นเกมเลยนะ ยังไงก็มีอุบัติเหตุแน่นอน แล้วแบบนี้ตามตรรกกะแบบนี้จะโทษใครครับ ? เป็นเด็กซาตาน?
+1
ปล.ปืนมันมี safety lock อยู่นะครับ
คอมเมนต์อื่นจัดการอธิบายแจกแจงกันไปล่ะ ผมขอเอามือก่ายหน้าผากอย่างเดียวเลยละกัน คิดออกมาแบบนี้ได้ไงเนี้ย เชื่อเลย
วางปืนไว้แบบนั้น ให้เด็กนั่งดู My Little Pony ก็ไม่ปลอดภัยหรอกครับ ตรรกะแปลกๆ
แล้วทำไมต้องสอนให้เด็กเล่นเกมรุนแรง? ในเมื่อเกมมันก็มีเรต? เกมมันไม่ได้ออกแบบมาให้เด็กเล่นทุกเกมนะครับ
เราพูดถึงปัญหา ฆาตกรรมโดยเจตนา
ไม่ได้พูดถึงอุบัติเหตุครับ :)
อะไรทำให้คุณมั่นใจว่าเด็กตั้งใจฆ่าพี่สาวครับ?
ไปหัดยิงปืนเสียแล้วคุณจะรู้ด้วยตัวเองครับ
เหล็กแท่งเป็นกิโล ผู้ใหญ่ถือยังแทบร่วง ยิงให้เข้าหน้ามีแต่เจตนาเท่านั้น
ปืนพกที่คุณว่ามันก็ไม่ได้หนักเกินกว่าเด็ก 9 ขวบจะถือนะ แล้วอีกอย่างปืนพกสมัยนี้ใช้ frame ที่เป็น polymer เพื่อลดน้ำหนักปืนด้วยครับ อย่าง Glock 42 บรรจุกระสุน 6 นัดก็หนักประมาณ 490 กรัมเองครับ
ปืน Auto ยิ่งอภิมหาเจตนาเลยล่ะครับ
ต้องปลดล๊อก ขึ้นนก เช็กแมกกาซีน
มีไรจะค้านเรื่อง เด็กคนนี้ฆ่าพี่สาวโดยเจตนาอีกรึปล่าวครับ ?
แล้วถ้าหากว่าปืนมันปลดล็อคและพร้อมยิงอยู่แล้วล่ะครับ เจตนาของเด็กตรงนี้ผมไม่รู้ แต่ผมคิดว่าในเด็ก 9 ขวบปกติ วัยนั้นอาจจะยังไม่เข้าใจความหมายของคำว่าตายหรือยังขาดการยับยั้งชั่งใจแบบผู้ใหญ่อยู่ ถ้าจะเอามุมมองในเรื่องเจตนาแบบผู้ใหญ่ก็อาจจะเทียบกันไม่ได้
คำว่า auto ที่ต่อท้ายขนาดกระสุนมันหมายความว่ากระสุนชนิดนั้นๆ ใช้กับปืนที่มีกลไก autoloader ซึ่ง autoloader เป็นกลไกที่เมื่อเหนี่ยวไกเพื่อยิงแล้ว มันจะคัดปลอกกระสุนที่ยิงแล้วออกจากรังเพลิง บรรจุกระสุนใหม่เข้าไปในรังเพลิง และง้างนกปืนให้เสร็จสรรพ เหลือแค่เหนี่ยวไกเพื่อปล่อยให้นกปืนมันสับเพื่อตอกเข็มแทงชนวนเพื่อยิงอีกครั้ง และกลไกที่ว่ามันก็มีอยู่ในปืนพกยุคปัจจุบันทุกปืนที่ไม่ใช่ปืนลูกโม่ครับ
เท่าที่ดูเหมือนคุณจะพยายามโทษทุกอย่างยกเว้นการเลี้ยงดูพ่อแม่ของเด็ก ซึ่งมันคือต้นเหตุหลักเลยหล่ะครับ
เอ่อ กรุณา หยุดมโนแล้วไปสนามยิงปืนดีกว่าครับ อ่านมือใหม่หัดมโนฉอดๆ แล้วเพลีย
เด็กยิงพี่สาวตายเข้าที่สมอง - เจตนาหรือไม่ ตำแหน่งยิงทั่วไปก็ถือว่าเจตนาโดยชัดเจนแล้ว
แถว่าปืนสมัยนี้เป็นโพลีเมอร์ -> ฟังแล้วตลก คนยิงปืนเป็นจะรู้กันดีว่าโพลีเมอร์มันเด้ง
และไม่ซับรีคอลย์ และความทนทานก็สู้โลหะไม่ได้ ทุกวันนี้คุณไปเข้าเวบขายปืนแบรนด์ดังๆ
เขาก็ขายบอดี้โลหะกันเป็นล่ำเป็นสัน 80% ของปืนที่ขายกันยังเป็นบอดี้โลหะ
พรรณาระบบ Auto เพื่อ ?? คนยิงปืนเขารู้กันว่าปืนออโต้แต่ละยี่ห้อ วิธีการปลดเซฟก็ต่างกัน การจะใช้งานตัวปืนต้องมีความรู้ในตัวปืนนั้นๆมาก่อน ไม่เหมือนลูกโม่ที่แค่สับนกเห็นลูก กดไก จบ
ยิ่งแถว่าเป็นปืนโพลีเมอร์ - ยิ่งสนับสนุนว่าเป็นการฆ่าโดยเจตนา เด็กรู้วิธีปลดเซฟ
ยิ่งแถว่าเป็นปืนลูกโม่ - ยิ่งสนับนุนว่าเป็นการฆ่าโดยเจตนา กระสุนโชว์หราในรังเพลิง
ย้ำนะครับ เรากำลังพูดประเด็นเด็ก 9 ขวบ ฆ่าคนโดยเจตนา
มีเจตนาและประสงค์ที่จะฆ่า
เจตนาและประสงค์ ใครเป็นคนสอนนอกจากเกม ?
ภาพยนต์ ละคร โฆษณา หนังสือ นิยาย การ์ตูน ของเล่น เยอะแยะครับ จริงๆ ก็ไม่น่าต้องถามนะครับอยู่รอบตัวเต็มไปหมดและเห็นๆ กันอยู่
ทำไมถึงรู้ว่าเด็กปลดเซฟเป็น?
แล้วทำไมถึงรู้ครับว่าเด็กมองเห็นเสี้ยวนึงของกระสุนและปลอกกระสุนแล้วจะรู้ว่านั่นมันคือกระสุน หรือกระทั่งรู้ว่าปืนมันต้องบรรจุลูกกระสุน?
คอมเมนต์นี้อ่านแล้วไม่โอเคแฮะ
ผมว่าการชี้แจงและโต้ตอบประเด็นของอีกฝั่งโอเคครับ แต่เรื่องภาษาหรือคำที่ใช้ ถ้าซอฟต์ ๆ ลงกว่านี้ก็จะดีนะครับ แบบนี้ดูเป็นการดูหมิ่นหรือเจตนาถากถางชัดเจน(หาเรื่อง) เกินไปครับ
แล้วคุณมั่นใจได้ยังไงว่าเคสที่คุณว่ามันจะเกิดขึ้นด้วยเจตนาหรืออุบัติเหตุ?
แล้วทำไมต้องวางปืนเอาไว้? สรุปต้นเหตุมันคือเกมรุนแรง(ที่พ่อแม่ไม่สนใจเรตติ้งเกมแล้วปล่อยให้ลูกเล่น) หรือปืน(ที่พ่อแม่วางเอาไว้ใกล้มือเด็ก)? ทำไมเคสแบบนี้มันเยอะแยะเหลือเกินในสหรัฐอเมริกา?
แล้วจากข่าวนี่ มันเกี่ยวกับเกมเหรอ? มันคือการที่เด็กอยากได้อะไรสักอย่างแล้วแย่งกัน พอไม่ได้ดั่งใจก็ทำร้ายกัน แต่อาวุธปืนมันดันหยิบฉวยง่าย เด็กอาจจะแย่งอะไรก็ได้นี่ ผลลัพธ์ถ้าปืนมันอยู่ใกล้มือมันก็เหมือนกัน
ปัญหามันคือผู้ปกครองไหมครับที่ควรจะดูแลบุตรธิดาของตัวเอง ไม่ใช่ปล่อยให้นั่งเล่นเกมรุนแรงแล้ววางปืนไว้ใกล้ตัว
ผมท้าคุณเลย วางปืนให้ทั่วบ้าน เปิดหนังสงคราม ละครตบตียิงกันตายทุกวัน แต่ห้ามให้ลูกเล่นเกมเด็ดขาด แล้วจะรู้ว่าปัญหาอยู่ที่อะไร
ทำหมันเหอะ ผมขอ อย่าให้มาเป็นภาระสังคมเลย
ปกติ ผมมักจะได้ยินว่า เก็บของมีคมให้ห่างจากมือเด็ก
สงสัยปืนคงไม่ applied
ทำไมไม่ซื้อเกมส์ให้คนละเครื่องไปเลย จะได้ไม่ต้องมาแย่งกัน
บ้านไหนมีเงินก็คงทำแบบนั้นแหละครับ
แต่ครอบครัวผมก็เจอปัญหานี้ในวัยเด็กเหมือนกัน ใครถึงบ้านก่อนชนะตลอด
จากเหตุการณ์ข้างต้นมีจำเลยสองอย่างคือ เกม กับ ปืน ว่าทำไมมันหยิบมาได้ง่ายๆขนาดนั้นเหมือนพกอยู่ข้างเอว คำตอบเพราะมันเข้าถึงง่าย ปืนใช้ฆ่าคนได้(โดยตรง) แต่เกมไม่ ต้องผ่านปัจจัยอีกหลายอย่าง
และที่ผมอยากรู้คือเกมมีอยู่ทั่วโลก ทำไมเล่นในเมกามันถึงฆ่ากัน เล่นในเกาหลีใต้ที่อื่นๆไม่เห็นมันจะฆ่ากันเอาปืนไปยิงในโรงเรียนบ่อยๆแบบนี้ ตอบเพราะปืนในเมกามันเข้าถึงง่าย รัฐแม่งสนับสนุนให้ขายเองแต่มันอยากจะแบนเกมไง มีปัญหาอะไรไหม?
ผมคิดว่าเป็น พฤติกรรมเลียนแบบ ใกล้ๆ จะเป็นวัฒนธรรมไปแล้ว
คือ ที่อื่นก็มีเหตุแบบเดียวกันได้ แต่ทำไมเหตุคล้ายๆ กันถึงไปกระจุกอยู่ในประเทศเดียวกันล่ะ
ผมว่าจำเลยไม่ใช่เกมปืนหรือสิ่งของอย่างอื่นหรอกครับ จำเลยคือพ่อแม่นี่แหละ
striking ไม่ได้ตี แต่หมายถึงยิงเข้าใส่พี่สาว
เด็กชายตีเธอเข้าที่หลังศีรษะ -> เด็กชายยิงเข้าใส่พี่สาวที่หลังศีรษะ --(เกลาภาษาหน่อยไม่ต้องตามสำนวนแปะๆ)--> เด็กชายยิงพี่สาวเข้าที่ด้านหลังศีรษะ
ทำไมเด็กมีปืน
พ่อแม่ไม่จำกัดการเข้าถึงปืนของลูก = รัฐบาลไม่จำกัดการเข้าถึงของประชาชน
เมื่อไหร่เมกาจะเข้าใจ
ยากครับ เพราะทุกวันนี้กลุ่มใหญ่ๆ ยังตีความ 2nd Amendment ตามตัวอักษรโดยไม่พิจารณาต้นสายปลายเหตุครับ
ถ้าไม่มีปืน เหตุการณ์ก็จะไม่รุนแรงแบบนี้
เก็บตะขบแฟ้บ
คิดว่า รุ่นพ่อรุ่นแม่เรา ก็คงเคยเจอปัญหาแบบนี้ แต่กับทีวีครับ
พี่น้องตีกันแย่งเกม ของเล่น นี้มันเรื่องปกติมากๆ ผมก็เป็นตอนเด็กๆ
แต่พอโตแล้วก็รักกันแบบพี่น้องดี ไม่มีตีกันแล้ว
แต่ปืนน่ะเอามาวางมั่วๆ ได้อย่างไร เด็กจะตีกันอะไรหยิบได้เขาก็หยิบครับ หน้าที่พ่อแม่คือเก็บของอันตรายให้ห่างจากเด็กครับ
ผมก็อยากรู้เหมือนกันเขาเก็บปืนกันยังไงเห็นเอามายิงกันง่ายจัง แถมบรรจุกระสุนเรียบร้อยแล้วด้วย
บ้านอื่นต่อให้ไม่มีเกม ก็ยังมีพี่น้องตีกันแย่งของเล่นอยู่ดี เพราะงั้นต้นเหตุที่ทะเลาะกันไม่ใช่คงไม่ใช่เกมหรอก
ประเด็นในกรณีนี้ก็คือ
1. ทำไมเด็กถึงรู้จักสิ่งที่เรียกว่าปืน? - มีความเป็นไปได้ก็จริงว่าเด็กจะรู้จักจากเกม แต่ก็มีความเป็นไปได้เช่นกันที่เด็กจะรู้จักจากหนังและละคร หรืออาจจะรู้จักจากพ่อแม่เองด้วยซ้ำ
2. ทำไมเด็กถึงเข้าถึงปืนได้? - ก็พ่อแม่อีกนั่นแหละ มันไม่ต่างอะไรจากการเก็บมีดหรือของมีคมให้ไกลมือเด็กเลย ประเด็นนี้ไม่ต้องพูดให้มากความ พ่อแม่ขาดความรับผิดชอบเต็มๆ
กลับมาที่ประเด็นแรก มันควรเป็นความรับผิดชอบของใคร?
1. ความรับผิดชอบของคนทำเกม(รวมถึงหนังและละคร)ที่ทำสื่อที่มีปืนออกมา
2. ความรับผิดชอบของพ่อแม่ ที่ทำให้เด็กเข้าถึงสื่อที่มีปืนได้
ผมมองว่าการที่คนทำเกม(หรือสื่ออื่นๆ)มีการกำหนดเรท มีการจำกัดการขายสื่อพวกนี้ให้กับคนที่อายุไม่ถึง แค่นี้ก็ถือว่ามีความรับผิดชอบพอสมควรอยู่แล้ว
แต่พ่อแม่นี่แหละ ที่ปล่อยให้เด็กเข้าถึงสื่อแบบนั้น ผมถือว่าเรื่องนี้คือหน้าที่ของพ่อแม่ คนที่เลี้ยงลูกควรจะเป็นพ่อแม่ไม่ใช่คนทำเกม การที่พ่อแม่บกพร่องเรื่องนี้ ผมถือว่าขาดความรับผิดชอบเต็มๆครับ
ถ้าจะบอกว่ามันคุมยากกรองยากไม่มีเวลาคุม.. นั่นแปลว่ายังไม่พร้อมจะเลี้ยงลูกครับ
+1
เห็นด้วยเลยครับ
คือ ถ้ายังไม่รู้จักเก็บปืนให้ถูกที่แบบนี้
ต่อให้ไม่แย่งเกมกัน ซักวันนึงก็ต้องมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น
ในไทยก็เคยมีข่าว เด็กเอาปืนพ่อมาเล่นกัน แล้วยิงเพื่อนตาย
อันนั้นไม่ได้ทะเลาะอะไรกันเลยด้วยซ้ำ
เห็นด้วยครับ ผมว่าการเลี้ยงดูนี่ปัจจัยหลักเลยครับ
เค้าไม่ได้บอกเปล่าคับว่าเกมอะไร เด็กคนนี้อาจจะเล่น Sim City อยู่เกมเดียวก็ได้