Takashi Tokita หนึ่งในหัวหน้าทีมพัฒนาเกม Final Fantasy IV ได้ให้สัมภาษณ์กับเว็บ Gamasutra เกี่ยวกับปัญหาการพัฒนาเกม Final Fantasy ในระยะหลัง ๆ โดยเขาได้บอกว่าปัญหาตอนนี้คือบริษัทและทีมงานต้องมาเสียเวลาเกี่ยวกับการตลาดมากเกินไป จากที่เมื่อก่อนที่ทีมพัฒนาแทบจะไม่ต้องกังวลกับเรื่องอื่นเลยนอกเสียจากการที่จะผลิตเกมที่สร้างสรรค์และเป็นต้นฉบับของตัวเอง
คล้าย ๆ กับในสหรัฐอเมริกา ตลาดเกมในญี่ปุ่นก็ต้องการการตลาดที่แข็งแรงเช่นกัน แต่สิ่งที่แตกต่างออกไปของตลาดเกมญี่ปุ่นคือความสำคัญของตัวละครในเกม และความจำเป็นของบริษัทเกมที่จะต้องทำการตลาดให้กับตัวละครในเกมด้วย
"ในตอนนี้ทีมงานจะต้องมีคิดเกี่ยวกับเรื่องการตลาด และเรื่องอื่น ๆ อีกด้วย ซึ่งการทำงานลักษณะนี้มันเปรียบเสมือนกับการที่ต้องมานั่งตรวจเช็คก้อนหินทุกก้อนที่เดินผ่าน" นาย Tokita กล่าว "และตอนนี้เราต้องมาให้ความสำคัญกับความคิดเห็นของทุก ๆ คน ทั้งจากอินเทอร์เน็ต ทั้งจากคนอื่น ๆ ส่วนตัวผมเห็นว่ามันจะดีเสียกว่าหากเราสามารถสร้างสิ่งที่เราต้องการจริง ๆ โดยไม่ต้องฟังเสียงเรียกร้องเหล่านี้ เพราะนั่นคือวิธีการผลิตเกมที่เป็นต้นตำรับอย่างแท้จริง"
ที่มา - Gamasutra
Comments
วรรสุดท้าย เพราะน่ันคือวิธีการผลิตเกมที่เป็นต้นตำรับอย่างแท้จริง
น่น -> นั่น
ผมว่าทีมคิดมากไปเองครับ เพราะถ้าเกมส์ที่ผลิตออกมามันดีจริงๆ มันก็โฆษณาตัวเองได้ดีอยู่แล้ว
ผมเห็นเป็นปกติครับ แต่ลองแก้ดูแล้ว
@TonsTweetings
FF ภาคหลังมันขาดไอเดียจริงๆ ด้วยแหละ
จำได้แค่ตีเต่ากับเจ๊แสง
I need healing.
ตัวละคน > ตัวละคร หรือเปล่าครับ
แก้แล้วเช่นกันครับ
@TonsTweetings
การเป็นบริษัทใหญ่ๆ ทำให้ความคิดสร้างสรรค์ ต้องสัมพันธ์กับรายได้ด้วยครับ
เคยได้ยินว่า การประชุมแผนงานของ SE จะมีนักการตลาดมานั่งวิเคราะห์กันด้วยว่า ไอ้ที่ออกแบบมาเนี่ย มันขายได้หรือขายไม่ได้ และจะขายอย่างไร แบบไหน ซึ่งผมว่ามันเป็นการทำลายงานสายครีเอทีฟอย่างมากครับ
ต้องทำใจครับ การตลาดไม่ได้อาร์ทแบบงานขายภาพวาด ถ้าขายไม่ได้เค้าจะเอาตังไหนจ้างคนออกแบบหละ
สุดท้ายเมื่อมันไม่ครีเอทไม่แปลกใหม่ คนจะเบื่อแล้วหันไปทำอย่างอื่น มันจะขายไม่ได้และทำลายตัวเองครับ
แค่เปลี่ยนจาก "สร้างเกมส์" มาเป็น "สร้างเพลง" ในประเทศไทย ก็ใช้แทนกันได้เลย
"การทำงานลักษณะนี้มันเปรียบเสมือนกับ การที่ต้องมานั่งตรวจเช็คก้อนหินทุกก้อนที่เดินผ่าน" โดนใจประโยคนี้
ตัวละคน --> ตัวละคร
ทุกอย่าง มันไปจบตรงที่ว่า "คุณทำงานให้ใคร"
ถ้าคุณ "ทำงานให้ตัวเอง" คุณก็สร้างสิ่งที่ดีตามความคิดของคุณไปสิ ไม่มีใครว่าอะไรหรอก ว่ามันจะขายได้หรือไม่ได้ มีกินหรือไม่มีกิน ไม่มีใครเดือดร้อน
ถ้าคุณ "ทำงานให้บริษัท" ซึ่งบริษัท "ทำงานให้นักลงทุน" คุณก็ต้องยอมรับระบบของมัน เพราะคุณเอาเงินจากเค้า ไม่งั้นก็อดเงินไป
เค้าจ้างพวกที่นักออกแบบเกลียดมาคุม เพราะว่าพวกนี้บางคน ติ๊สเกินไป ทำอะไรที่ขายไม่ได้ และยังเอาเงินไปทุกเดือน ต้องดูตัวเองด้วย แต่พวกที่ไม่รู้เรื่องแล้วมาคุม นี่ก็ไม่ไหวเหมือนกัน
+1
อยากให้ FF กลับมาเป็นแนว JRPG แบบเดิม ท่องโลกกว้าง สำรวจนู่นนี่นั่นได้ทั่ว
เจอตีเต่าครั้งล่าสุดเข้าไปนี่ เซ็งเข้าไส้เลย หลับคาจอยประจำ
+1
Jusci - Google Plus - Twitter
ตีปอริ่ง ผัวะ ผัวะ
ขอไฟนอล VII remake
My Blog
+1 ขอเนื้อเรื่องเดิม กราฟิกใหม่
นั่นมัน Finish Move
CG เอาแค่ Crisis Core ผมก็ยอมซื้อแล้วครับ อิอิ
เค้าขอเวลา 50 ปี ถ้าจะทำ FFVII ด้วยกราฟิค FFXIII หรือไงนี่ล่ะครับ
+100
นั่ง MOD กราฟิค ปวดหัวเลย
มั่วไปหมดเลย
FF VII คือภาคที่ดีที่สุดของ FF
ไม้ตายเลยนะนั่น คิดว่าคงไม่ได้เห็นกันง่ายๆ
ทำให้ดีเองไม่ได้มากกว่าเลยพาลไปทั่ว
นี่มีนักการตลาดแล้ว? ผมว่าไอชุดที่ทำ FF13 ไล่ออกไปให้หมดเหอะไอนักการตลาดอะไรนั่นน่ะ
+1
ไม่จำเป็นต้องมีถ้ามีแล้วเกมแย่ขนาดนี้
แต่ภาพยังสวยดีเหมือนเดิม -w-
+1 แล้วไอ้ที่คนอยากเล่นนักหนาอย่าง FFversusXIII ก็ไม่ออกมาตลาดซะทีจนคนแทบลืม คือเงินที่เสียไปกับการโปรโมทเมื่อตอนโน้นมันเริ่มไร้ค่าไปเสียแล้ว
@TonsTweetings
จะว่าอย่างงั้นก็ไม่ถูกครับ FF 13 ขายได้กว่า 6 ล้านชุด ไม่ได้เป็นรองภาคเก่าๆ ซักเท่าไหร่เลย ในแง่การตลาดก็ถือว่าประสบความสำเร็จอยู่ เดี๋ยวนี้การแข่งขันมันสูงมาก ต้นทุนการผลิตเกมซักเกมก็สูงมากเหมือนกัน ดังนั้นในระยะหลังจะเห็นว่าเกมจากญี่ปุ่นต้องพยายามเอาใจนักเล่นฝั่งอเมริกา-ยุโรปมากขึ้น เพราะถ้าเน้นขายแต่แถบเอเชียอย่างเดียวก็อาจไม่คุ้ม รวมทั้งยังต้องพยายามดึงผู้เล่นหน้าใหม่ๆ ที่ไม่ชอบความยุ่งยากซับซ้อนแบบเกม RPG สมัยก่อนอีกด้วย แม้แต่เกมจากอเมริกาเองก็เถอะ หา Hardcore RPG ได้ยากเต็มทนแล้ว
ผมว่าบุญเก่าเยอะมากกว่า
เห็นด้วยตรงจุดนี้
ขายได้หกล้านชุด เพราะกราฟฟิค กับ ความน่าเชื่อถือในสมัยเก่า
แล้วก็โดนรีวิวสับเละในฐานะของความเปนเกมที่ไม่ได้เรื่อง
ผมว่ามันไม่เกี่ยวกับนักการตลาดเลยนะ
แต่ ดีไม่ดีเพราะนักการตลาดนี่แหละที่ ไปเจ้ากี้เจ้าการให้ตัวเกมมันไม่ค่อยเข้าท่า
อืม ก็พอเข้าใจว่า สมัยที่เล่น FF4 บนเครื่อง SNES (รวมถึงภาคบน DS) ไม่ต้องไปใส่ใจกับตัวละครมากเหมือนที่เป็นปัจจุบันหรือเปล่าครับ เพราะตอนนั้นเล่นเอาเนื้อเรื่องและระบบล้วน ๆ เลย ตอนนี้กลับไปเล่นก็ยังสนุกเหมือนเดิมนะ
ส่วนการทำตลาดกับตัวละครก็มีส่วนบ้าง แต่หลังจากมี FF7 เป็นต้นมา ตัวละครต้องหล่อ นางเอกหน้าตาจิ้มลิ้ม ภาพฉากต้องสวย ฯลฯ แต่ถ้าว่าเล่นสนุกไหม ก็สนุกแต่ไม่รู้ว่ามันขาดอะไรไป
ปล.ชอบ FF 9 มาก ๆ ครับ เป็นเนื้อเรื่องและระบบการเล่นที่เล่นแล้วไม่เบื่อเลย ยังสามารถกลับไปเล่นได้อีกแม้ภาพจะไม่สวยเท่าเครื่อง PS2/3 ก็ตาม
FF9 +1 เป็นอะไรที่คลาสสิคและดึึงเราเข้าไปในเนื้อเรื่องได้มาก
FF8 ก็ดีนะครับ แต่ต้องตั้งใจมากหน่อยแล้วถึงจะเข้ามิติของแต่ละตัวละคร
ชอบ 7, 9, 10 แต่ 9 สนุกที่สุดละ ชอบตัวละคร Vivi เท่ห์ดี
ผมก็ชอบภาคนี้ครับ
Melody of Life
ผมชอบเพลงนี้อะ เพราะดีนึกถึงตอนเด็กๆ
เพลงนี้ผมชอบสุดๆ เลยครับ
มันไม่ง่ายเลยที่จะทำ GIF ให้มีขนาดน้อยกว่า 20kB
ชอบมากเช่นกันครับ ซึ้งด้วย
+1 ภาคโปรดของผมเช่นกันครับถัดจาก FFVII
พูดซะให้คิดถึง อยากนั่งเล่นอีกสักรอบ สองรอบเลย
ป.ล. ชอบ 9 เหมือนกัน
Jusci - Google Plus - Twitter
+9
ff9 คือเกมอันดับ 1 ในชีวิตผมเลย
"With the first link, the chain is forged. The first speech censured, the first thought forbidden, the first freedom denied, chains us all irrevocably."
+9 FF IX ด้วยครับ โหลด US ver. ใน PSN มาเล่นใน PSP แล้วครับ
คิดถึงที่ซู้ดดด Master Vivi
"เพลงผมอินดี้ครับ ไม่เน้นขาย"
"เกมผมอินดี้ครับ ทำตามใจตัวเอง ไม่เน้นขาย"
ความสำเร็จในกาลก่อนเป็นเครื่องพิสูจน์ที่ดีอยู่แล้วว่าสร้างสิ่งที่ดีแล้วทุกคนจะมาชื่นชอบเอง จะมาเน้นการตลาดอะไรตอนนี้ ? ทำให้นึกถึงนิทาน มด-ราชสีห์ ที่บริษัทใหญ่โตขึ้นมาแล้วมดโดนไล่ออกทั้งที่เป็นคนสร้างความสำเร็จแก่บริษัท... แต่เอ... หรือจะเป็นแค่ข้ออ้างสำหรับกรณีที่สร้างภาคหลังๆมาแล้วมันห่วย ? ที่แน่ๆ กรณีนี้ผมคิดว่ามันเหมือนกับ ผู้ชายที่ทำตัวดีแล้วมีผู้หญิงมารุมล้อม แต่ตอนนี้กลายเป็น ผู้ชายที่เอาแต่ตามจีบสาว(ลูกค้า)จนโดนสาวเมิน
เทียบได้โดนใจมากครับ
+1 โดน
การพัฒนาเกมส์หรือโปรแกรมมีความเสี่ยงสูงมาก พนักงานกินทุกเดือน ถ้าพลาดก็เคลียดกันเยอะ น่าจะมีการลดต้นทุน และความเสี่ยงด้วยการทำงานเป็นนักพัฒนาอิสระ แล้วก็ขาย Objects ย่อยๆราคาถูกๆกัน แล้วนำมาประกอบเป็นเรื่องราวตามความคิดสร้างสรรค์ของตัวเอง ในขณะเดียวกันก็เปิดร้านขายของ ขายอาหารไปด้วยจะได้มีเงินทานข้าว ส่วนความคิดสร้างสรรค์ก็อาจทำให้มีเงินมากขึ้นเป็นช่วงๆ เป็นเศรษฐกิจพอเพียง และได้ทำงานที่ตัวเองชอบ
ไม่ได้เล่นมานานละตั้งแต่ภาค 10
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
ยอมสละเวลามาทำ FFVII Remake แล้วแถมเนื้อเรื่องต่อให้อีกหน่อยก็ได้
ผมเชื่อว่า มันจะขายได้ถล่มทลาย กว่าการตลาดไหนๆ ซะอีก
ปล. ขอลง PC ด้วยได้ป่าวว ^^
+1 อยากได้ภาค 7 มากๆ ขออลังการๆ
ผมอยากให้ remake ภาค 6 ชมัด
ทุกภาคที่เล่น ภาค 6 สุดยอดแล้วครับในเรื่องเนื้อเรื่อง
+10000000
@TonsTweetings
+1 Loveภาค6 ที่ซู้ด
ผมว่าภาค 4 เข้มข้นกว่านะ หรือเพราะเล่นภาษาไทยเลยอินกว่า
ภาคสี่งั้นๆ มากครับ :P
ลบคอมเม้นครับ มันซ้อนกันอะครับ
ลบคอมเม้นครับ มันซ้อนกันอะครับ
ผมว่าที่เค้าคงหมายถึงการตลาดเข้ามาเกี่ยวเนี่ย ก็เนื่องจาก series FF ต้องทำภาพออกมาสวยขึ้น ถ้าสังเกตดีๆภาพในตะกูล FF จะสวยขึ้นทุกๆภาค และ จะดูเป็นคนมากที่สุดในบรรดา RPG ของ square-enix (ก็แน่ละ มันคือ Flagship เลยหนิ)
ที่เกริ่นมาผมหมายถึง เมื่อภาพสวยก็ต้องใช้เวลานาน เมื่อนานการตลาดก็ต้องมาบีบเหมือนแบบ "จะเสร้จเมื่อไหร่มีคนเค้ารออยู่นะ" หรือ "ทำอย่างงี้ผมว่ามันไม่เวิคนะ" คือมันอาจไม่ได้ขนาดนี้เป๊ะ แต่แค่ประมานๆให้เห็นภาพชัดเจนขึ้นน่ะครับ ซึ่งมันไม่เหมือน FF แต่ก่อน ภาพมันไม่ได้ขนาดนี้ แน่ละ เมื่อภาพและคู่แข่งไม่ได้ขนาดนี้ ก็เลยไม่ต้องซีเรียสกับระยะเวลาการขาย หรือ การตลาด และผมก็คิดว่าทุกคนก็รุ้อยู่ว่า ตะกูล FF นั้นรายละเอียดเยอะแค่ไหน ถ้าใครเป็นครีเอทีฟ ก็คงเ้ข้าใจนะครับ เวลาเราคิดอะไรที่จะให้มันเจ๋งๆ เราก็อยากให้มันดีที่สุดแม้อาจจะใช้เวลานานแค่ไหนก็ตาม (แต่ก็ไม่ใช่นานมากกกกกกก จนลืม) FF เป็น Project ใหญ่อยู่แล้ว ตอนนี้ บริษัทเองก็ยอมรับในข้อผิดพลาด FF XIII และดูแล้วเค้าก็คงจะขอแก้ตัวด้วย FF XIII-2 ซึ่งผมก็อยากให้ทุกคนดูต่อไปและให้กำลังใจด้วยครับ
FF VII REMAKE ถ้าใครเคยติดตาม บริษัทเองเคยบอกว่า ถ้าจะทำลงPS3 ต้องใช้เวลาเป็น 10ปี ซึ่งดูจะไม่คุ้มกะเวลาที่เสีย กับการ remake ของเดิม เพราะ FFVII รายละเอียดเยอะที่สุดในทั้งหมดเลยก็ว่าได้ ยิบย่อยมาก แต่ถ้าใครรออยู่ก็ยังมีความหวังนะครับ เพราะข่าวลืมแว่วมาว่าจะทำลง PSP2 หรือ PSP NGP ลองหาดูนะครับ ซึ่งดูเค้าโครงแล้วมีแววว่าจะเป็นไปได้สูงครับ
ปล.คือผมแค่อยากเสนออีกมุมนึงนะครับ ส่วนข้อเสียที่ผมไม่พูดถึงก็คิดว่าทุกท่านคงรุ้ดีอยู่แล้ว ยังไงๆผมก็เชื่อว่าทุกคนอยากให้ series นี้ อยู่ และพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้นครับ :)
ตอนนี้บอกว่า FF3 ยาก ยังทำออกมาแล้ว
ที่ยากส์กว่านั้น คือ FF5 และ FF6
แสดงว่า FF7 นี่ต้องโคตรยากสส์
FFT
ลบยังไงอะครับ -- *
เกมส์ตระกูล Persona ของ Atlus การตลาดไม่ได้มากมายอะไร ยังขายดีได้ทั่วโลก (และมีคนรอเล่นภาค 5 อย่างใจจดใจจ่ออีก) แถมยังคงสไตล์ JRPG ดั้งเดิมไว้ได้ดี + ความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ
ดังนั้น หลงประเด็นอะไรไปหรือเปล่า Squareenix ?
แถมเกมยังสไตล์ญี่ปุ่นจ๋า (จีบสาว+Dungeon Crawler) เนื้อเรื่องยังอยู่ในญี่ปุ่นเลย แต่ได้รับคำชมจากสื่อฝรั่งทุกเจ้า
ยุคนี้ วัฒนธรรมญี่ปุ่นก็ถือเป็น pop-culture แล้ว ใครๆ เขาก็เข้าใจกันหมด
ถ้าพูดเรื่องยอดขาย Persona ยังห่างไกล FF เยอะครับ ภาคที่ขายดีที่สุดคือภาค 4 ยังขายได้เพียง 7 แสนชุดทั่วโลก และเกินครึ่งก็เป็นยอดขายจากญี่ปุ่นเิอง ซึ่งถ้าเกมอย่าง FF ขายได้เท่านี้ อาจถึงขั้นเจ๊งกันเลย เพราะต้นทุนการผลิตและค่าโฆษณาสูงกว่ามาก เขาจึงต้องคิดเยอะในเรื่องการตลาดไงครับ
อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่มีเสียงบ่นผิดหวังจากผู้เล่นใช่ไหมครับ อีกทั้งคะแนนรีวิวก็สูงในหลายๆสำนักด้วยกัน
โดยที่ไม่ต้องทำการตลาดอะไรมากมาย ผมเองมาเล่นเกมส์นี้ก็เพราะผมเห็นคะแนนและคำชมเป็นจำนวนมาก ทั้งๆที่มันก็ไม่ได้มีการประโคมข่าวอะไรมากมาย แต่ผมก็มาทดลองเล่นด้วยตัวเอง.. เรื่องแบบนี้ ตัดสินกันที่ผู้เล่นครับ ไม่ได้ตัดสินกันที่การตลาด (การตลาดคือการส่งเสริมการขาย แต่ไม่ใช่ขายเป็นสินค้าหลัก..)
ถ้าคุณถามว่าตลาดต้องการอะไร คุณก็เหมือนกับถอยหลังลงคลองแล้ว เพราะตลาดไม่เคยตอบสนองความต้องการของตัวเอง
แต่ถ้าคุณบอก ว่าตลาดต้องการอะไร นั่นแหละ ความเป็นผู้นำอย่างแท้จริง และนั่นถึงจะทำกำไรให้กับบริษัทได้
ขอแอบความเป็นสาวกนิสนึง
สตีฟ จ๊อปส์ ไม่เคยทำการตลาดว่าคุณอยากให้ไอโฟนเป็นแบบไหน แต่เค้าทำไอโฟนออกมา และบอกกับตลาดว่า ทุกคนต้องการแบบนี้!!!
Extraordinary
สู้ต่อๆไป ทาเคชิ
ป.ล. ยังมันส์กับ FF III for iOS อยู่เลย >.<
อ่านข่าวนี้แล้วนึกถึงตำราจีบสาวเล่มนึง เค้าบอกว่าผู้ชายที่พยายามทำตัวpleaseหญิงสาวแบบสุดๆ เธอต้องการอะไรก็หามาให้ได้ ทำตัวเป็นnice guy โอเคทุกอย่าง ดิ้นรนแบบนี้...แบบนี้มักจะอกหัก
กลับกัน ผู้ชายที่ทำตัวปกติ ไม่ได้ตั้งใจpleaseสาวไปซะทุกอย่าง แต่พอเหมาะพอสม ใช้ชีวิตแบบเป็นตัวของตัวเองไปเรื่อยๆ ไม่ต้องมาฝืนตัวเองเพื่อยอมตามใจหญิงสาว ทำตัวเองให้ดีที่สุด ปรากฎว่าหญิงสาวจะมารักเอง
อย่างที่ท่านข้างบนบอก เกมอย่างPersona ก็ไม่ต้องทำตัวpleaseแฟนๆฝั่งตะวันตกเท่าไหร่ ก็เห็นขายดิบขายดีได้ ผมว่าเป็นเกมที่มีidentityชัดเจนมาก ผิดจากไฟนอลที่ปัจจุบันเป็นเกมแนวทดลองไปแล้ว เปลี่ยนระบบมันทุกภาค(เอ๊ะ อาจจะเป็นข้อดีของไฟนอลก็ได้)
อย่างไรก็ตาม ถ้าSEเป็นผู้ชาย ก็คงกำลังจะพยายามpleaseหญิงสาวอยู่แน่ๆ...
อ่านคอมเม้นนี้แล้วจุกครับ ...
ผมชอบนะ ที่ระบบมีการเปลี่ยนแปลงเรื่อยๆ .... แต่ world map กะค้นบ้านชาวบ้านได้ที่หายไปใน FFXIII เนี่ย น่าเสียดายเหมือนกัน .....
เนื้อเรื่องแบบเส้นตรงในภาค X กัน XIII เป็นแนวโปรดสุดๆของผมเลย ถึงแม้หลายคนจะบอกว่ามันห่วยสิ้นดีก็ตาม บางทีจะเอาความเห็นส่วนตัวอย่างเดียวหรือเออออตามคนอื่นว่ามันห่วยก็รู้สึกตามๆกันไปก็คงไม่ยุติธรรมนัก ภาค IX และ VI ก็ยังยอดเยี่ยมที่เล่นอีกรอบก็ยังไม่เบื่อ ผมเล่นมันภาคละ 4 รอบ เล่นอีกทีก็ยังสนุกอยู่เลยแฮะ
คนเล่น Final ส่วนมากชอบออกนอกลู่นอกทาง เผื่อว่าจะเจออะไรที่ซ่อนอยู่แล้วสุดยอดอย่าง KoR อะไรแบบนี้ - -"
มันเป็นทั้งความสนุก ความท้าทาย และความเสียดาย (เมื่อรู้ว่าผ่านมาแล้ว และกลับไปเอาไม่ได้) หน่ะครับ
Jusci - Google Plus - Twitter
ผมก็ชอบครับ แต่รู้สึกว่า FFXIII มันมุดอยู่ในถ้า ไม่ก็แมพดูอึกอัดๆ นานไปหน่อย
ความรู้สึกผมนะ ความคิดสร้างสรรค์มันถูกระบบ 3D และภาพกราฟฟิคสวยๆแย่งไปหมดตั้งแต่ที่มีระบบ 3D ความรู้สึกบางอย่างก็หายไปไม่มีวันกลับมา
ภาค 4 นี่ทั้ง มุดลงไต้ดิน แถมหลุดไปดวงจันทร์
ความทรงจำที่ซึ้งๆคือ ไอแก่บ้ามีเวท meteor แต่ MP ไม่ถึง ยอมใช้ทีเดียวตายไปเลย
มีถ้ำแม่เหล็กที่ต้องใส่เกาะไม้ ลุยบอส มี มินิบอวตัวนึงที่โผล่มาทำให้ติด count ทุกตัว ต้องให้กายจั๊ม
พระเอกเปลี่ยนเป็นอัศวินขาวใหม่ๆห่วยอย่าให้เซด
โดยรวมชอบเล่นภาคที่เปลี่ยน job ได้ 3 5 มันรู้สึกได้วางแผนมากกว่าหน่อย
ส่วนตั้งแต่ 7 ตอนท้ายๆเกมส์ ไปจนถึง 13 (ยกเว้น 11 12 ไว้หน่อย มันอีกแนว)
มันเป็นเกมส์สำหรับเด็กสมัยนี้ครับ
เน้นสวยๆ ผ่านง่ายๆ ใครๆก็จบไปดูฉากจบอลังๆได้ ไม่ต้องมีทริคอะไรมากมาย
ff4 เป็นเกม snes แรกที่เล่นบนเครื่องคอมเครื่องแรกของผม (486DX2) มันมาก ตามคอมเมนต์บนเลย
ผมชอบภาค 6 นะ เล่นแล้วลงตัวดี (แม้ผมจะเล่นมันไม่จบก็ตาม)
ผมว่าภาค 6 ง่ายนะ สนุกด้วย เนื้อเรื่องก็ดี
แต่อาจจะขายสมัยนี้ยากหน่อย ไม่มีคู่พระนาง (เป็นตัวหลัก) แต่จริง ๆ เจ๊แสงเธอก็ไม่มีแฟนนะ (ฮา)
ภาคเก่า เป็นความรักแบบคลาสสิค เด็กๆใสๆ ไม่ค่อยดราม่าครับ
ชื่อเว็บ --"
:-)
บอสลับสุดท้ายภาค 12 นี่สุดๆ เลือด 100 ล้านแต่ตัวละครตีได้สูงสุด 9999
นั่งสู้ตั้งแต่บ่าย 2 ตายตอน 2 ทุ่ม...ยังดีที่มันมี AI ช่วยเปิดไว้แล้วไปกินข้าวได้ ฮ่าๆ
ชื่อ : Not Available at this Moment (N/A)
+1 555+
เริ่มสงสัยว่าทีมพัฒนา Dragon Quest ที่อยู่ในบริษัทเดียวกันเจอปัญหานี้มั้ย :p
พูดถึง DQ
มันทำให้ผมอยากรู้จริงๆว่าต้นทุนการทำสองภาษามันต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขนาดไหน DQ ถึงไม่ค่อยยอมทำออกมา
จริงๆแล้วคนเล่นเกมส์ภาษาพวกนี้ไม่ได้ต้องการถึงขนาดพูดเป็นอังกฤษ ขอแค่มีซับก็พอ เพราะคนเล่นพวกนี้ส่วนมากเป็นพวกเสพความโมเอะเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
ผมว่าถ้าให้ไล่เนื้องานมีเยอะนะ งานละเอียดกับจุกจิกอ่ะ
คือให้มอง ก็แค่ประหยัดแค่ค่าความคิดสร้างสรรค์ในส่วนเนื้อหาหลัก แต่งานอื่นๆก็พอกันแหล่ะ แถมต้องเริ่มหลังจากภาษาหลักเสร็จแล้วเท่านั้นด้วย
ส่วน dialog ในเกมส์ก็ลำบากในส่วน localization น่ะ ต้องเปลี่ยนคำศัพท์ เล็งอย่างไรให้พอดีช่องแคบๆในภาษาญี่ปุ่น, ต้องตัดประโยคให้พอดีหน้า โดยที่ความหมาย,บรรยากาศไม่เสียไป, แปลมุกตลก โดยเฉพาะพวกเล่นคำ (pun) ให้ยังตลกอยู่และไม่เปลี่ยนบรรยากาศ
ถ้ามี graphic (ไม่ใช่ 3D object นะ) ในเกมส์อาจจะต้องเปลี่ยนให้ตรง เช่นชื่อที่แปะในแผนที่ ป้ายชื่อร้านค้า รวมถึงการปรับเปลี่ยนเนื้อหาให้เหมาะสมกับวัฒนธรรมนั้นๆ เช่น ญี่ปุ่นอาจจะไม่บ่นเรื่องทะลึ่งตึงตัง แต่ที่อเมริกาอาจจะไม่ได้, รวมถึงถ้าดันไปเฉียวความเชื่อท้องถิ่น (ศาสนา,ความเชื่อ), หรืองานต้นฉบับมีหลายส่วนทำให้เกิน rating ที่ได้ในต่างประเทศ อาจจะต้องปรับปรุงให้เหมาะสม
ถ้าใส่เสียงมาอย่างในเกมส์รุ่นหลังๆก็ต้องพากย์เสียงทับ หรือไม่ก็ต้อง reanimate ใหม่ในส่วนปากให้ตรงกับภาษาที่จะ localize ไป ซึ่งอันหลังนี่งานช้าง
และยังต้องไปไล่ทำที่ คู่มือ, เว็บไซต์ และอื่นๆอีกด้วย
แล้วคิดดูสิ ในเชิงการบริหาร approval workflow จะเป็นอย่างไร ในการรีวิวจะทำอย่างไร จะดู progress งานอย่างไร โอ้ยสนุก
แต่ถามว่าต้นทุนเท่าไร ไม่รู้ แค่อธิบายก็มันส์แล้ว แล้วทำจริงๆนี่สนุกแน่ๆ
+1 เห็นด้วยเลย แค่คิดก็สนุกแล้ว
Jusci - Google Plus - Twitter
ทำไมไม่ค่อยมีคนพูดถึง FF VIII กันเลย
ผมว่ามันสุดยอดมาก พล็อตมาตรฐานการ์ตูนรักขายฝันของญี่ปุ่นเลย
เล่นตามเนื้อเรื่องแล้วซึ้งจริงๆ
FFVIII เป็นเกมขายผู้หญิงครับ เป็นความพยายามที่จะขยายตลาดไปหาผู้หญิง ซึ่งผมว่าก็สำเร็จระดับนึง เพราะว่าได้ยินว่ามีผู้เล่นผู้หญิงติดหลายคนอยู่
แต่ว่าผู้ชายกลับไม่ชอบแฮะ 555
แล้วดูปริมาณคนอ่านเวปนี้ที่เป็นหญิงกับชายดูนะครับว่ากลุ่มไหนเยอะกว่า :P
กรรม...มันเป็นเช่นฉะนี้เองเหรอครับ เข้าใจลึกซึ้งล่ะ เล่นซะผมแต๋วแตกเลย
ขอบคุณมากครับสำหรับความรู้ใหม่ --"
ผมจำได้ว่า มีเวิร์ดเด็ดของคนแถวนี้ว่า
เมื่อขายดี เพราะการตลาด เมื่อขายไม่ดี เพราะการผลิต
นอกนั้นคนอื่นพูดกันไปหมดแล้ว
ไม่ว่ายังเกมก็คืองานอาร์ทครับ
คุณควบคุมศิลปินให้ทำงานเสร็จได้ แต่ถ้าใครไปกำหนดว่าศิลปินต้องทำงานยังไง เมื่อนั้นทุกอย่างจะเน่า
สิ่งที่ควบคุมได้ในแผนการผลิตเกมมีแค่โปรแกรมเมอร์เท่านั้น (ถึงจะปั่นเลยเดดไลน์ยังไงก็เถอะ)
มันก็คงต้องไปด้วยกันทั้งคู่ แต่ก่อนอาจจะไม่ค่อยมีคู่แข่ง Platform ก็มีน้อย ต่างจากปัจจุบันการแข่งขันรุนแรงขึ้นทั้งจำนวน Platform อุปกรณ์ ก็จำเป็นต้องมีการตลาดที่ดีด้วย แต่ก็ไม่ได้หมายความสุดโต่งถึงขนาดต้องออกแบบรูปลักษณ์เกมโดยอาศัยข้อมูลการตลาดเพียงอย่างเดียวเลยนี่