คณะผู้ศึกษาจาก Internet Commerce Security Laboratory ของมหาวิทยาลัย Ballarat ในออสเตรเลีย ได้สุ่มไฟล์ torrent จำนวน 1,000 ไฟล์จาก tracker จำนวน 23 แห่ง และสามารถแยกแยะได้ดังนี้
หมวดหมู่ยอดนิยมคือ ภาพยนตร์ เพลง และรายการทีวี และ 10 อันดับแรกที่มีคน seed มากที่สุดคือภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดไปซะเก้า และอัลบั้มของ Lady Gaga อีกหนึ่ง
ผลการศึกษานี้สอดคล้องกับการศึกษาของมหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน ซึ่งบอกว่า 99% ของไฟล์ BitTorrent นั้นผิดกฎหมาย
ที่มา - Ars Technica
Comments
ภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดมากที่สุดจริงเหรอ นึกว่าหนังโป๊
ผมว่าน่าจะรองๆลงมานั่นแหละ ;P
บางเว็บต้องเป็น power user ถึงจะเห็น content เหล่านี้ ทำให้ตรวจสอบได้ไม่หมดครับ :P
.torrent จากเวปส่วนใหญ่มักจะไม่มีหนังโป้ครับ
... แต่ผลการศึกษาก็ไช้อะไรไม่ใด้อยู่ดี เพราะความจริงแล้ว p2p เป็นแค่ technology เท่านั้น
การเอา p2p มาแจกหนังถูกกตหมายอย่าง vuze หรือ vodo ก็มี
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
"ใช้เเพื่อการศึกษาไม่ผิด"
"ก็อยากขายแพงๆเอง ใครมันจะบ้าซื้อล่ะ"
"ขอบคุณมากครับที่เอาสิ่งดีๆมาแจก ขอให้เจริญในหน้าที่การงาน"
"มันไม่ใช่การขโมย มันเป็นสังคมแห่งการแบ่งปัน"
555
ถ้ามีคนมาแบ่งปัญเงินในบัญชีคุณบ้าง คุณคงยินดี
อะไรครับเนี่ย
เค้าประชด= ='
May the Force Close be with you. || @nuttyi
เค้าไม่เกทมุขครับ
"ถ้าผมเป็นคนทำซอฟท์แวร์ ผมจะขายราคาถูกๆให้เหมาะกับค่าครองชีพคนไทย"
เน้นคำว่า "ถ้า"
โปรแกรม ThaiSoftware Dictionary สอ เสถบุตร Version 7 ราคาขาย 250 บาทไทย ย้ำ 250 บาทไทย ยังไม่ค่อยจะซื้อกัน ดังนั้นประเด็นราคา ซอฟท์แวร์ราคาแพงเกินไป ผมว่าไม่ใช่สาเหตุที่แท้จริง
หาที่ซื้อยาก ไม่รู้จะไปซื้อที่ไหน ทำไมซื้อซอฟต์แวร์ต้องไปซื้อตามห้าง ทำไมไม่จิ้มๆ เอาจากหน้าเว็บ?
ถ้ามีวางขายเหมือนแผงหนังสือ มีให้เลือกลองดูก่อนแบบร้าน SE-ED ผมว่าจะจะขายได้ง่ายขึ้น
ปัจจุบันพอผมอยาได้ตัวไหนผมก็ต้องมานั้งค้นหาว่าโปรแกรมนี้ของใคร ใครได้สิทธ์จำหน่าย มีวางขายที่ไหนบ้าง ก็ไปหาดูตามนั้นแล กว่าจะได้มาลอง
ปัญหาจริงๆ ก็คงเป็นเรื่องจิตสำนึกของผู้ใช้ หากมีแล้ว อย่างอื่นๆ ผมว่าไม่ใช่ปัญหาครับ
- หาที่ซื้อยาก เป็นเพราะคนไม่นิยมซื้อของแท้ ของแท้เลยกลายเป็นของหายากไป
- ทำไมซื้อซอฟต์แวร์ต้องไปซื้อตามห้าง ถ้าหากคนนิยมของแท้และซื้อกันมากๆ เชื่อว่าอีกหน่อยมันจะมีขายตามตลาดเร่ ตลาดสด หรือร้านสะดวกซื้อ เหมือนแผ่นเพลง แผ่นหนังแท้ เหมือนหนังสือพิมพ์ เพราะราคาซอฟท์แวร์(ไทย) มันไม่แพงมาก ไม่กี่ร้อย อย่างซอต์ฟแวร์ที่ยกตัวอย่าง ราคาก็แค่ 250 หนังไทยบางร้านยังแพงกว่าอีก
ทำไมไม่จิ้มๆ เอาจากหน้าเว็บ? - สัดส่วนผู้ที่เข้าถึงอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงในไทยจำได้ว่ายังไม่ถึงครึ่ง และการซื้อขายผ่านเว็บไซต์ต้องใช้บัตรเครดิต ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่ไม่มี การจ่ายชำระในรูปแบบอื่นๆ ก็ยังยุ่งยากอยู่ดี และเหมือนเดิม ถ้าคนไทยซื้อของแท้กันเยอะๆ เดี๋ยวมันก็โผล่ที่ร้านสะดวกซื้อเอง
ทำไมไม่จิ้มๆ เอาจากหน้าเว็บ? - สัดส่วนผู้ที่เข้าถึงอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงในไทยจำได้ว่ายังไม่ถึงครึ่ง
..........
นี่เรากำลังพูดถึง "คนโหลดบิต" อยู่นะครับ
May the Force Close be with you. || @nuttyi
อ๋อออออออ ตีความผิดครับ ขออภัย ผมเข้าใจว่าคนซื้อของแท้บ่นว่าหาซื้อยาก ทำไมไม่จิ้มเอาที่หน้าเว็บ
เห็นด้วยครับแต่อยากจะเสริมว่า...
แต่ ต้องมีการตลาดที่ตอบโจทย์ของ ผู้ซื้อได้ ถูกหลักด้วยครับ...
ยกตัว อย่างๆ nokair online หรือ app store (thailand) เป็นความสมดุลย์ที่ลงตัว ระหว่าง ราคา, ความสะดวก และ การตลาด....
ดังนั้น... ผมให้ไม่แตกครับ! อาจารย์(ชื่ออะไรจำไม่ได้แล้ว) มาเองรึเปล่าเนี่ย :D
ประสบการณ์ส่วนตัวนะครับ เคยซื้อเวอร์ชั่น 5 ประมาณ 4-5 ร้อย (ถ้าจำไม่ผิด) แล้วทำให้รู้สึกว่าขั้นตอนการ activate ยุ่งยากมากครับ ขนาดจะย้ายเครื่อง จะลงวินโดวส์ใหม่ (เป็นคนชอบได้ลงวินโดวส์ใหม่บ่อย ๆ) แล้ว activate ทีก็ยุ่งยาก แต่ตอนหลัง ๆ ไม่รู้พัฒนาตรงนี้ไปหรือยัง
ผมซื้อนะ สองสามกล่องแล้วได้
จนกระทั่งเลิกใช้วินโดวส์นี่ล่ะ ถึงได้ไม่รู้จะใช้ยังไง เลยเลิกใช้
ไลเซนส์หายไปแล้ว!
lewcpe.com, @wasonliw
สังคมแห่งการแบ่งปันนี่ได้ยินแทบทุกที่เลย= ='
May the Force Close be with you. || @nuttyi
ชอบ ๆๆๆ
ขอเติมอีกประโยคเท่ห์ ๆ
การโพสต์ ขอบคุณ แค่นี้คุณยังทำไม่ได้ก็อย่าดูดไฟล์นี้เลย
เพราะการดูดไฟล์นี้มันทำยากกว่าการพิมพ์ว่า ขอบคุณ
+100 "สังคมแห่งการแบ่งปัน" หุหุ
พยายามนึกของที่ถูกกฎหมายใน BitTorrent
- Client เกมส์ Online
- iso Linux distro ต่างๆ
นึกไม่ออกแล้ว ..
:: DigiKin8 ::
แถมบางอย่างที่เค้าแจกฟรีในเว็บ
เค้าก็ไม่ได้เต็มใจปล่อยทางบิตอีกตะหาก= ='
(อย่างน้อยเข้าเว็บเค้าก็ได้ค่าแบนเนอร์)
May the Force Close be with you. || @nuttyi
มหาลัย Ballarat มีอินเตอร์เน็ตใช้แล้วเหรอ :D
@TonsTweetings
ในความคิดของผมมันก็มองได้หลายมุมนะครับ
ผมยกตัวอย่างจากมังงะเรื่อง Gummn ภาค last order
ที่วีเซลแฮกเกอร์ชื่อดังได้ขโมยเทคโนโลยี "ไม่แก่ไม่ตาย" มาเผยแพร่ (ปล่อยใน bit :P ) ทำให้สังคม , เทคโนโลยี พัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด จนมนุษยชาติสามารถเดินทางขยายเผ่าพันธ์ไปได้ทั้งระบบสุริยะจักรวาล
โลกความเป็นจริงมันไม่ใช่แบบนั้นน่ะสิครับ
ประเด็นของผมคือตั้งคำถามกับระบบ "ลิขสิทธิ์" น่ะครับ
ดังเช่นแนวทางของพรรคโจรสลัดครับ
พอจะยกตัวอย่างในโลกจริงได้ไหมครับ
Windows XP พอได้ไหมครับ 555
มีความรู้หลายอย่างที่ไม่เคยได้รับการคุ้มครองด้วยระบบทรัพย์สินทางปัญญา เช่นคณิตศาสตร์ มันก็ไปต่อของมันได้นะ ไม่ได้หยุดความเจริญทางนี้แต่อย่างใด
เรื่องนี้ข้อโต้แย้งหลายอย่างข้างบนๆ มันดูมีเหตุ และจริงๆ ผมก็เชื่อว่ามันมีเหตุผล
จุดสำคัญคือกฏของเราทุกวันนี้มัน recognize ทรัพย์สินทางปัญญา ถ้าอยากเปลี่ยนมันจริงๆ ไม่ใช่หาความชอบธรรมให้การทำผิดของตัวเองไปวันๆ ก็ควรหาทางตั้งพรรคการเมือง, เข้าชื่อเปลี่ยนกฏหมาย ฯลฯ ตามช่องทางที่มันเป็นไปได้ ไม่ใช่ฝ่าโดยบอกว่ากฏข้อนี้เราไม่เห็นด้วย อย่างนั้นสังคมคงอยู่กันยาก
lewcpe.com, @wasonliw
+1 ตรงนี้เลย "ไม่ใช่หาความชอบธรรมให้การทำผิดของตัวเองไปวันๆ"
โปรแกรมที่ผมใช้ทุกตัวผมซื้อมาอย่างถูกลิขสิทธิ์
ผมถึงได้พูดอย่างเต็มปากว่า "ผมไม่สนับสนุนการละเมิดลิขสิทธิ์"
เพียงแต่ผมตั้งคำถามถึงระบบลิขสิทธิ์ในปัจจุบัน
เมื่อคลื่นซึนามิอันบ้าคลั่งของความก้าวหน้าเทคโนโลยีพัดถาโถมเข้าสู่สังคม
ทำให้คนบางกลุ่มคิดจะหยุดด้วยการสร้างเขื่อน(DRM ,Block web)หรือออกกฏหมายเพื่อเอาโทษกับสั่งฟ้าฝน
แต่บางกลุ่มพยายามสร้างเรือเพื่อที่จะอยู่ลอยเหนือคลื่นนั้น (google แจกให้คนทั่วไปใช้ฟรีแต่เก็บเงินกับคนอีกกลุ่ม ,วงดนตรีชื่อดังเปิดให้ download เพลงฟรี)
เมื่อก่อนนี้ที่เริ่มมีวิทยุ คนก็คิดกันว่าต่อไปจะขายเพลงกันยังไงเมื่อสามารถฟังเพลงได้ฟรีๆ แต่ก็ผ่านมาได้เพราะการฟังเพลงในวิทยุมันมี "ข้อจำกัด"
ผมคิดว่าการที่จะมาคิดเรื่องบทลงโทษหรือปลุกจิตสำนึก เจ้าของ Product น่าจะมาคิดเรื่อง "ข้อจำกัด" น่าจะดีกว่าครับ
ปอลิง : ผมเป็น developer คนนึงที่ไม่กลัวคนจะเอาโปรแกรมผมไปใช้ฟรีๆเลยครับ กลัวไม่มีคนใช้มากกว่า -*-
0.3%นี่ผมว่าเยอะแล้วนะ ตอนแรกคิดว่าผิดกฎหมายหมดเลยต่างหาก
ทำไงได้ ก็ได้ดูก่อนโรงนี่นา
ผมไปโหลดไฟล์เพลงวงอินดี้ใน mininova ประจำครับ บางวงเทพมากๆ เอามาปล่อยฟรี ( ด้วยความเต็มใจ ) ให้ลอง สนใจก็ตามซื้อตามหากันต่อ
0.3% นี่ก็เยอะละนะ
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
ถ้างั้นสรุปได้ไหมว่าเครื่องใหนลงบิตไว้ มีีโอกาสระเมิดลิขสิทธิ์ถึง99.7%