By: mk 
on 9 March 2010 - 08:22
Tags:
แม้ว่าโลกเราจะเริ่มเข้าสู่ยุค 64 บิตกันมานานแล้ว แต่การเปลี่ยนไปเป็น 64 บิตอย่างสมบูรณ์ยังต้องเดินทางไกลกันอีกมาก ในกรณีของโปรแกรมยอดนิยมอย่าง Microsoft Office 2010 ถึงแม้มีทั้งรุ่น 32 และ 64 บิต แต่ไมโครซอฟท์กลับแนะนำว่าใช้รุ่น 32 บิตจะดีกว่า
เหตุผลคือ add-in จำนวนมากของ Microsoft Office นั้นยังทำงานได้เฉพาะแบบ 32 บิตเท่านั้น แม้กระทั่งโปรแกรมของไมโครซอฟท์เองอย่าง Outlook Social Connector
ไมโครซอฟท์แนะนำว่าถ้าจะใช้รุ่น 64 บิต ควรจะมีเหตุผลว่าจำเป็นต้องทำงานกับเอกสารขนาดใหญ่ หรือต้องการใช้ Excel ให้เข้าถึงหน่วยความจำขนาดใหญ่กว่า 2GB
ที่มา - PC Pro
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- Kubernetes คืออะไร [Part 1] เกิดขึ้นมาอย่างไร? ทำไมต้องใช้มัน? | Cloudnone EP.14
- CI/CD ยังไงดี ตั้งเซิร์ฟเวอร์เอง vs เช่าคลาวด์ | Cloudnone EP.13
- รู้จักโน้ตบุ๊กบนคลาวด์ เช่าใช้งาน Jupyter Notebook ที่ไหนดี | Cloudnone Ep.12
- สรุปข่าวใหญ่ปี 23 และคาดการณ์เทรนด์ปี 24 ในวงการ Cloud | Cloudnone EP.11
- สรุปของใหม่และสาระสำคัญจาก AWS re:Invent 2023 | Cloudnone Special EP
Comments
จะว่าไป โลกของ 64-bit ผมว่ามันเป็นโลกของการทำงานระดับลึกในทุกๆ ด้านอะนะ (ตั้งแต่ 3D ยัน Accounting)
ชาวบ้านร้านตลาดทั่วไปก็ยังคง 32-bit ต่อไปได้อีกนานแสนนาน
ผมเข้าใจงี้ถูกมั้ยครับ?
จริง
อย่างน้อยๆ Sony Ericsson PC Suite ก็ใช้กับ Outlook 2010 32bit ไม่ได้ -*-
ถือว่าป่วยไหม ?
ถูกทุกวันนี้ก็ยังใช้ 32 บิตอยู่เพราะเหตุผลที่ว่าโปรแกรมบางตัวมันใช้งาน 64 บิตไม่ได้
ใช้ 64 บิทแล้วเครื่องดูรวนๆยังไงไม่รู้คับ
ทุกวันนี้ผมใช้ 64bit ละ
เคยใช้ Windows 7 64bit อยู่สัปดาห์นึง ก็ใช้งานได้ดี แต่ติดที่ใช้ NetMeeting ไม่ได้ เลยต้องถอยกลับมาใช้ Windows 7 32bit แทน แล้วก็ patch OS ให้ใช้หน่วยความจำได้เกิน 4GB เอา
32bit พอทำpatchแล้ว เครื่องคุณอาจมองเห็นแรมเต็ม4GBได้
แต่ใช้งานจริงๆก็ได้แค่ 3.12GB เพราะมันเป็นขีดจำกัดของระบบเลขฐานยกกำลัง2ครับ
ทางทฤษฎีแล้วระบบ64bitสามารถใส่แรมได้ถึง 16 exabytes (1สิบล้านเท่าของหน่วยGB, 'เวอร์มากๆ)แต่โดนขีดจำกัดโดยhardwareและ os อย่างwindows7 64bitให้ใส่ได้สูงสุด 32GB ram
จำได้ว่าถ้ามี PAE ก็ใช้เกินนั้นได้ครับ เห็นแว๊บๆในนี้
x86 ที่ patch แล้วก็เป็นการเรียกใช้ PAE ครับ
แต่ต้องอย่าลืมว่าโปรแกรม 32bit ทุกตัวหากไม่เรียกใช้ API เสริม(ซึ่งโดยปกติแล้วไม่ค่อยมีโปรแกรมไหนเรียกใช้) จะสามารถใช้ RAM ได้สูงสุด 2GB ต่อ 1 process เท่านั้นครับนั่นคือหากจะใช้แรม 4GB+ บน OS 32bit ให้คุ้มจะต้องเปิดโปรแกรมหลายๆตัวที่กิน RAM เยอะๆ สุดท้ายแล้วผลที่ได้ก็จะเกิด performance degradation (เนื่องจากโปรแกรมเหล่านั้นต้องแย่งใช้ CPU และ memory bandwidth กันเอง) ซึ่งโดยปกติแล้วคงไม่มีใครใช้โปรแกรมที่กิน RAM เกินหนึ่ง GB ต่อระยะเวลาหนึ่งๆเกิน 2 ตัวหรอกครับ ผมจึงมองว่า patch ไปก็ไม่ได้ช่วยอะไร(สำหรับคนธรรมดาทั่วไป ซึ่งถ้าใช้มากกว่านั้นหันไปใช้ x64 และโปรแกรม 64 บิตจะดีว่า)
ส่วน x64 นั้นแตกต่างกันเพราะโปรแกรม 64bit ตัวหนึ่งๆ จะใช้ RAM ได้ถึง 8TB ครับ (แต่ตอนนี้ตัว OS ยัง support ไม่ถึง จำนวนแรมที่เยอะขนาดนั้น คือโปรแกรมใช้ได้ แต่ OS ใช้ไม่ได้)
แต่ยังไงก็แล้วแต่ตอนนี้ผมก็ยังต้องใช้ x86 อยู่ครับ(แต่ไม่ได้ patch นะ)
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ที่ผมลองทดสอบกับอีกเครื่อง เป็น Windows 7 32bit, 8GB แล้วลอง allocate หน่วยความจำ ก็สามารถ allocateได้เกิน 4GB ครับ แต่จะติดข้อจำกัดที่แต่ละ process จะ allocate หน่วยความจำได้แค่ 2GB ครับ
ผมเจอปัญหาไม่มี Driver การ์ด LAN -_-
I need healing.
แนะนำให้ใช้ 64bit สำหรับนักวิเคราะห์ข้อมูล
เพราะ PowerPivot ใน Excel 2010 เก็บข้อมูลได้มากกว่า 1 ล้านแถว
และใช้ Ram แทน Disk ยิ่งมี Ram มากยิ่งดี
โปรแกรมอย่าง SuperSpeed RAMDisk แม้ว่าจะใช้ 32-bit ก็ใช้พื้นที่แรมส่วนที่เหลือได้ทั้งหมดนะครับ
แต่ยังไงๆ ถ้าเครื่องไม่มีปัญหาอะไรพิเศษกับ 64-bit ผมก็แนะนำให้ใช้ OS 64-bit อยู่ดีไม่ว่าจะใช้โปรแกรม 32 หรือ 64 ก็ตาม
ใช้โปรแกรมที่เป็น 32bit ก็ยังใช้ OS 64bit ได้นี่เนอะ
แต่ MS ก็มาแปลกๆอีกแล้ว ทำทั้งทีก็ไม่ทำให้หมด
ผมชอบ64bitตรงที่มันใช้โปรแกรมได้ทั้ง32และ64bit (ถึงจะใช้32bitบางอันที่เก่าๆไม่ได้)
แต่ทำให้เครื่องได้ใช้งานแรมที่มากขึ้นได้(4GB+)
น่าจะเร่งพัฒนาให้เร็วกว่านี้