แล้วถ้าเกิด sony ดึง hotz ไปเป็นพนง.ดีไซน์ฮาร์ดแวร์ระดับสูง จนเรียกว่าพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส
แต่สิ่งที่ sony กำลังทำอยู่ตอนนี้อาจจะเรียกได้ว่าเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นวิบัตินะคับ ผมว่า
และเมื่อ sony ชนะ hotz ด้วยอำนาจทางการเงินแล้ว sony อาจจะต้องลงทุนเพิ่มพัฒนาฮาร์ดแวร์ให้โคตรสุดยอด
เพื่อรองรับการโจมตีระลอกใหม่ ที่เงียบสงัดและรุนแรงมากกว่าเดิม ทำให้ต้นทุน/หน่วยสูงมากขึ้น
คงเหมือนการใส่พานถวายคู่แข่ง แล้วก็บลาๆๆๆๆๆๆๆๆ

ผมมองว่า Hotz อาจจะไม่ได้มีความสามารถที่จะส่งเสริมการออกแบบเครื่องนะครับ อันนี้ต้องดูกันว่าทำได้จริงหรือเปล่า

การถอดชิ้นส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าให้เป็นชิ้น ๆ แล้วดูว่ามันทำงานยังไง กับการสร้างเครื่องใช้ไฟฟ้าโดยต้องวิ่งหาชิ้นส่วนมาประกอบเอง (รวมทั้งการคิดว่าจะให้เครื่องใช้ชิ้นนี้มันทำงานอะไรได้บ้าง) ความยากต่างกันราวฟ้ากับดินเลยครับ อยากให้มองคนละแบบกันนะ

คือ Engineering != Reverse Engineering ครับ

ผมมองว่า SONY ต้องรักษาภาพลักษณ์ไม่ยอมให้โดนแฮคมากเปนอันดับ 1
จากเหตุผลที่กล่าวไปแล้วว่า PS3 หากินกับความเชื่อใจในการที่คนทำเกมจะเอาเกมมาลง
จุดนี้แหละที่สำคัญสุดๆ ว่า SONY ทุ่มทุมทั้งหมดที่มีเพื่อสร้างเครื่องที่จะไม่มีคนแฮค แล้วใช้ความเชื่อถืออันนี้ไปรีดไถเงินคืนมาจากผู้ผลิตเกมมากมาย (ถ้าจำไม่ผิด ต้นทุนทำเกมลง PS3 แพงกว่าคอนโซลเครื่องอื่น)

ต่างกับ Windows ที่แฮคกันกระจุยอยู่แล้ว เน้นการปล่อยให้คนใช้งานไปเรื่อยๆมากกว่า
แล้วค่อยไปกดดันให้คนซื้อ Windows แท้ใช้ในภายหลัง เช่นองค์กรณ์ใหญ่ๆ

คือโมเดลทางธุรกิจต่างกันมาก ไม่ใช่แค่ว่าโซนี่ไปซื้อตัวคนแฮคมาแล้วจบ
โมเดลของโซนี่คือต้องทำทุกอย่างเพื่อคงภาพลักษณ์ "ไม่มีทางแฮคได้" ไม่ว่าจะต้องจ่ายไปมากแค่ไหน ในเมื่อโซนี่เลือกทางนี้ก็ต้องทำไปตามนั้น
อย่างที่บอกครับ ไม่งั้นคอนโซลเครื่องหน้า เสียความไว้วางใจจากผู้ผลิตเกม โซนี่ก็เจ๊งเท่านั้น

แล้วมีของอะไรที่ไม่ต้องซื้อเต็มราคาครับ ? ผมว่าของทุกอย่างก็มีราคาเต็มของมันอยู่ที่ว่าคนขายจะเสนอวิธีขายออกมาแบบไหน

ถ้าเทียบอย่างนั้นแล้วจะแตกต่างจากการขาย app บน iphone/android ตรงไหนครับ ในเมื่อบางคนซื้อ ipod touch มาเพื่อเล่นเกม แต่ก็ยังเจลเบรกได้ (เทียบกะ itouch น่าจะใกล้เคียงสุดแล้วมั้งคับ)

ผมว่าทางประเด็นหลังเรื่องการที่ os โดนเจาะแล้วสามารถเล่นเกมเถื่อนได้ น่าจะเป็นทางบริษัทมากกว่าที่ต้องหาทางปิดช่องโหว่ แบบที่ apple กับ develop กำลังเล่นเกมแมวจับหนูกัน แต่ไม่น่าจะมาเอาผิดกับ hacker แบบนี้ครับผม ^^

คือที่อยากจะสื่อคือ คนที่จ่ายเงินซื้อของราคาแพงมา น่าจะมีสิทธิ์ที่ได้เลือกครับ ว่าเราจะได้อะไรจากการลงทุนของเรา/และถ้าเราอยากได้สิ่งนี้ เราต้องแลกกับอะไรบ้าง

ของที่ไม่ซื้อเต็มราคา?

ก็อย่างที่เห็นๆอยู่ว่า PS3 กับมือถือติดสัญญามันไม่ได้มาเต็มราคาอย่างเห็นได้ชัดเจนอยู่แล้วล่ะครับ ซึ่งสินค้าดังกล่าวเหมือนกันตรงที่มันมาพร้อมกับการคาดหวังว่าเราจะใช้บริการของเค้าซึ่งเค้าก็นับรวมไปเป็นส่วนลดในต้นทุนเครื่องที่ซื้อมาอยู่แล่ว ซึ่งก็อย่างที่คุณว่าซึ่งมันเป็นลักษณะการขายแบบนึงเท่านั้น ซึ่งแทบทุกคนที่รู้ถึงส่วนนี้ก็ย่อมรู้อยู่แก่ใจว่าต้นทุนที่แท้จริง มันไม่ได้เท่ากับที่เราจ่ายไปเลย

ถ้าคุณจะบอกว่า PS3 ราคาในปัจจุบันนั้นเป็นราคาที่แท้จริงที่บริษัทได้เงินมาชดเชยเท่ากับต้นทุนพัฒนาล่ะก็ ดูยังไงมันก็ไม่ใช่แน่ๆใช่มั้ยล่ะครับ? ซึ่งก็ไม่ต่างกันเลยกับการซื้อมือถือติดสัญญา แล้วนำมาใช้ต่างประเทศที่คนบ้านเรานิยมกันนักหนาเลย ซึ่งมันก็เป็นสิ่งที่ผิดกฏหมายแน่นอนอยู่แล้ว เพราะราคาสินค้าที่เต็มจำนวนมันคำนวนไปอยู่ในค่าบริการรายเดือนแล้วด้วยนั่นเอง คิดวาคงเห็นภาพนะครับ

แล้วถ้าจะเทียบกับของอย่าง iPod Touch ที่ JB นอกจากเรื่องที่ราคามันสมกับต้นทุนหรือไม่แล้ว คุณก็ยังต้องหันไปดูในส่วนที่ว่า เพลง/เกมที่ได้นั่นมันมาจากแหล่งไหนบ้างล่ะครับ? โอเคว่า iPodtouch อาจะได้เพลงเกม ฟรีๆมาจากแหล่งที่ถูกกฏหมาย แต่ลองมองในมุมของ PS3 JB จะได้เกมมาจากไหน? ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าผิดกฏหมายแทบจะแน่นอน 100% ซึ่งตรงนี้มันต่างกันไงครับ และอีกอย่าง Apple ก็ไมได้เต็มใจจะให้ JB สักหน่อย แต่ทางแก้มันไม่มีแล้วต่างหาก แถมยังโดนใช้ช่องว่างทางกฏหมายปิดปากซะอีก แต่อย่างน้อย Apple ก็ไม่ได้ขายเครื่องขาดทุนเหมือน 2 กรณีข้างต้น ซึ่งมันก็พอกล้อมแกล้มไปได้

ซึ่งในความเป็นจริงการจะให้คนมานั่งอุดรูรั่วทุกรูให้ได้ก่อนเครื่องจะออกมามันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วในทางปฏิบัติ เมื่อเครื่องมันมีรูรั่วที่แก้ไม่ได้แบบนี้ การใช้กฏหมายบังคับใช้ผมว่าก็สมควรแก่เหตุแล้วครับ

และถ้าหากจะบอกว่าจะ JB เพื่อไปพัฒนา SW ทำเอง หรือ Homebrew ล่ะก็ กรณีแบบนี้ก็เหมือนกับการที่เราจะเอามือปิดตาไว้ข้างนึงเพื่อเห็นแก่ประโยชน์ของคนส่วนน้อยที่นำตัว JB ไปใช้อย่างไม่ขัดต่อกฏหมาย แต่ทั้งที่โดยสภาพทั้งคนทำ และคนนำไปใช้ก็รู้อยู่แก่ใจว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการนำไปใช้ผิดๆนั้นมันย่อมมีมากกว่าอยู่แล้ว ผมว่ามันไม่ใช่อะไรที่ควรจะทำเลย และยังเป็นการเอาแต่ได้ฝ่ายเดียวซะมากกว่าเพราะไม่คิดถึงต้นทุนที่ผู้พัฒนาลงทั้งเงินทุน ลงแรงงานไปเลย เหมือนทำนาบนหลังคนเลยนะครับ การที่ต้องเอาผิดกับ Hacker นั่นแหละถูกต้องแล้วเพราะเป็นผู้ตัดสินใจนำเผยแพร่ต่อสาธารณะ ทั้งๆที่คาดเห็นได้อยู่แล้วว่ามันจะนำพาความเสียหายมาให้ผู้อื่นอย่างแน่นอน ทั้งยังสนับสนุนการละเมิดกฏหมายซะอีกทอดหนึ่ง การจะปัดความรับผิดให้ไปไล่จับเฉพาะคนที่นำไปใช้ในแง่มุมที่ผิดกฏหมายนั้นมันเป็นข้ออ้างที่ใช้เพื่อปัดความรับผิดให้ไปทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ซะมากกว่าหนทางแก้ไขนะครับ

คือผมก็เข้าใจที่คุณจะสื่อว่า "คนที่จ่ายเงินซื้อของราคาแพงมา น่าจะมีสิทธิ์ที่ได้เลือก ว่าเราจะได้อะไรจากการลงทุนของเรา" แต่คุณลืมมองไปหรือเปล่าว่าราคาแพงที่คุณว่ามามันคือแพง...ในมุมมองของคนซื้อ แต่มันไม่ใช่ราคาที่เป็นต้นทุนของผู้ผลิตที่เห็นว่ามันถูกมากกว่าต้นทุน และถ้าอยากได้ PS3 Unlock จริงๆ มันย่อมมีราคาสูงกว่าที่เป็นอยู่แน่นอน เพราะงั้นการ JB นี้จะกลายเป็น ซื้อของราคาถูกเพื่อนำไปแก้ไขให้ใช้งานได้แบบคนที่ซื้อของแพงเสียมากกว่าครับ

ซึ่งทางแก้ก็น่าจะเป็นว่า Sony ออกมายอม Offical Unlock ให้โดยจ่ายเงินเพิ่มตามต้นทุนที่แท้จริงของเครื่อง PS3 นั่นแหละครับจึงจะเป็น การเลือกสิ่งที่ต้องการให้คุ้มกับการลงทุนจริงๆ อย่างที่คุณว่ามาครับ

งงเหมือนกันครับว่าทำไมกด reply ไม่ได้ ขออนุญาต reply ที่อันนี้แทนนะครับ

ผมว่าของที่เต็มราคานั้นบางครั้งเราจ่ายแพงว่าที่เป็นจริงเสียครับ ง่าย ๆ เลย iphone ในอเมริกา เครื่องละ 200 usd + 70 USD/เดือน *24 = 1880 USD นี่ยังไม่รวมภาษีที่ต้องจ่ายแตกต่างกันไปตามรัฐ เทียบกับที่เราไปซื้อเครื่องเปล่า 600 usd ผมว่ายังไงที่ติดสัญญา ก็จ่ายแพงกว่าเห็น ๆ เพราะ AT&T มีแพลนที่ถูกกว่าที่ไม่บอกแก่ลูกค้า ถ้าลูกค้าไม่ถามเช่นกัน ถึงเค้าจะเอาไปอันลอค ไปใช้งานที่เมืองไทย แต่ก็ยังต้องจ่ายค่าสัญญาจนครบ 2 ปีอยู่ดี

ผมว่านี่มากกว่าคือมูลค่าแฝงที่ทางบริษัท ได้เงินจากเราไป ไม่มีบริษัทไหนขายของแล้วตั้งใจขายขาดทุนตั้งแต่แรกหรอกครับ มีแค่จะใช้วิธีไหน ที่ได้เงินมากกว่าจะทั้งแบบทันที ผ่อนจ่าย แบบติดสัญญา รวมถึง PS3 ด้วยเช่นกัน ผมไม่คิดว่า SONY ขาย PS3 ในราคาที่ขาดทุนนะครับ SONY เป็นบริษัทที่ขึ้นชื่่ออยู่แล้วเรื่องการขายของแพงกว่าชาวบ้านเค้า ถึงทุกวันนี้ PS3 จะราคาลดลงกว่าตอนเปิดตัวเยอะมาก แต่ลองคิดถึงช่วงนั้นสิครับ ว่า SONY ได้เงินไปเข้ากระเป๋าไปเท่าไรแล้ว

สมมติมีนักเล่นเกมที่สะสมเกมแผ่นแท้ของ PS2 มาตั้งนานและตอนแรกก็เล่นกับ PS3 ได้ คนขายก็โฆษณาว่าเล่นได้ แต่ต่อมา PS3 กลับไม่สามารถเล่นได้ ต้องทำการเจลเบรกเพื่อให้เล่นได้ << แบบนี้ต่างหากครับ ที่ผมหมายถึงว่าคนเราควรจะมีสิทธิ์ทำอะไรกับอุปกรณ์ที่เราซื้อมาได้

เรื่องอื่น ๆ ผมเห็นด้วยครับว่าประเด็นอยู่ที่การแจกจ่าย software ที่ใช้ในการ jailbreak ครับ แต่หลังจากการ JB แล้วใครจะนำไปใช้งานแบบไหน อันนี้ต่างหากครับที่ผมว่ามันขึ้นกับสามัญสำนึกของ Jailbreakers ไม่ใช่ให้ Sony มาเป็นคนตัดสินใจให้ว่าคุณ JB ได้หรือไม่

ในกรณีของการ JB เพื่อเล่นเกมเถื่อนผมเห็นด้วยแน่นอนว่าผิดกฏหมาย แต่ทาง SONY ก็ต้องปกป้อง developer ของตัวเองด้วยการพยายามออก update software ที่ปิดรูโหว่จาก hacker เป็นมาตรการที่ควบคู่กันเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับ developer ครับไม่ใช่ฟ้อง hacker เพียงอย่างเดียว (อาจจะทำอยู่แล้วก็ได้ตอนนี้)

แต่เรื่องการออก PS3 แบบ official unlock ก็เป็นทางแก้ที่เป็นอุดมคติ ที่ไม่มีทางเกิดขึ้นได้จริงแน่นอน เพราะงั้นอะไรคือทางออกที่แท้จริงครับ ? ผมว่าก็ยังไม่มีเพราะฝ่ายนึงก็ไม่ใช่พระ แต่เป็นพ่อค้าหน้าเลือดรายใหญ่เช่นกัน

ที่ Reply ไม่ได้เพราะเค้าห้ามเดิน 5 ชั้นครับ กลัวพิระมิด = ="

ผมยังยืนยันนะครับว่า PS3 นั้นขายต่ำกว่าราคาทุนแน่นอนมาตั้งแต่เริ่ม การที่เอา Plan มือถือมาเทียบนั้นว่าบางทีเราก็จ่ายเงินซื้อแพงกว่าในของที่เท่ากันนั้นมันก็ไม่ตรงประเด็นซะทีเดียวเพราะว่ามันก็มีลูกค้าบางกลุ่มที่มีการใช้งานตรงกับ Plan ดังกล่าวและตัดสินใจซื้อด้วยตนเอง ไม่ใช่ว่าทุกคนโดนหลอกให้ใช้ Plan แพงๆเสมอนี่ครับ บางคนคิดว่าการผ่อนจ่ายพร้อม Plan แบบนี้มันคุ้มค่าต่อชีวิตเค้า หรือมันสะดวกสบายต่อการจ่ายเงินของเค้ามันก็มี และเยอะซะด้วย ไม่อย่างนั้นระบบนี้อยู่ไม่ได้หรอกครับถ้าซื้อแยก + จ่ายตามปกติมันถูกกว่าเสมอจริงๆ มันขึ้นอยู่กับพฤติกรรมขจองผู้ใช้ซะมากกว่า ก็อย่างที่บอกแหละครับว่าสำหรับ PS3 นั้นมันเป็นการคาดหวังว่าคุณจะใช้เกมแท้ เพราะค่าเกมนั้นแบ่งไปทั้งชดเชยค่าเครื่องให้ Sony และค่าเกมให้บริษัทเกมด้วย

ที่ว่าการเล่นเกม PS2 ได้แล้วอยู่ๆมาเล่นไม่ได้ สิิ่งที่ควรจะทำจริงๆคือเรียกน้องไปทาง Sony ให้แก้ไขโดยตรง หรือไม่ก็ฟ้องศาลตามกฏหมายครับ ซึ่งกฏหมายคุ้มครองผู้บริโภคมันมีอยู่แล้ว ถ้าพิสูจน์ได้จริงๆว่าเค้าเคยกล่าวอ้างไว้ การ JB แก้ปัญหานั้นมันเป็นเหมือนศาลเตี้ยดีๆนี่เองครับ

สรุปง่ายๆว่าถ้า PS3 มันเคยทำอะไรได้แล้วอยู่ๆทำไม่ได้ คุณก็ควรจะฟ้อง Sony ตามกฏหมายซะ ส่วนการที่มันปกติทำไม่ได้แต่เราไปแก้ให้มันทำได้ ถ้าอยู่ๆ Sony จะปิดไม่ให้ทำเพราะมันผิดวัตถุประสงค์ของเค้านั่นเองครับ PS3 ขายเพื่อให้เล่นเกม ซื้อเกม การที่จะเอาไปทำ Homwbrew หรือ Sever มันไม่ใช่วัตถุประสงค์หลักของ Sony ครับ ดังนั้นการ JB ไม่ใช่ทางออกที่เหมาะสมแน่นอน เพราะมันก่อความเสียหายมหาศาล จากนคนส่วนใหญ่ที่นำไปใช้แบบผิดๆมากกว่าเพื่อประโยชน์ของกลุ่มคนเล็กน้อยที่จะนำไปใช้อย่างถูกวิธี

ส่วนการออก Software มาปิดรูโหว่ที่ Hacker ใช้มันไม่สามารถทำได้แล้วนะครับ เพราะโดนไปถึง Root Key แล้ว ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกแะไรเพราะเรื่องแบบนี้มันขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้นเองว่าจะโดนเมื่อไหร่

สั้นๆนะครับ คุณยกตัวอย่างมือถือ ซึ่งผมเห็นด้วยกับ reply ถัดๆมาว่า ไม่ตรงซะทีเดียว
สุดท้ายแล้วมือถือคุณจ่ายครบแน่ครับ ไม่ว่าจะมากับค่าบริการอันสูงส่งหรือค่ายกเลิก
แต่ผมก็เข้าใจถึงสิ่งที่คุณสื่อครับ :)

ที่ผมยกตัวอย่างแพลนมือถือมา เพื่อจะสื่อว่ายังไง เราก็ต้องจ่ายสินค้า "ราคาเต็ม" ครับ ไม่ว่าจะจ่ายยังไง ด้วยวิธีไหน ไม่ใช่ว่าลูกค้าใช้คุ้มหรือไม่คุ้มครับ

http://gizmodo.com/#!344141/ps3-production-cost-down-50-sony-finally-breaking-even

อันนี้เป็นลิงค์ทีบอกว่า sony ขาย ps3 800 USD ครับ ซึ่งต้นทุนการผลิตอยู่ที่ 400 USD เท่านั้นเมื่อปี 2006 ตอนที่ PS3 เปิดตัวใหม่ ๆ

ผมเข้าใจที่คุณต้องการสื่อแล้วครับ ไม่มีอะไรจะถกต่อครับ :)

ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด แต่ข้อเท็จจริงสั้นๆ คือ

"โซนี่เป็นผู้เลือกที่จะตั้งราคาขายนั้นเองกับมือ" ครับ

โซนี่ขายขาดทุน ก็เพราะโซนี่เลือกที่จะตั้งราคานั้นเอง ลูกค้าถือว่าซื้อแล้วมีกรรมสิทธิ์ในเครื่องนั้นโดยสมบูรณ์

ส่วนโมเดลการได้กำไรจากส่วนแบ่งการขายแผ่น นั่นเป็นอีกเรื่องนึง เป็นเรื่องภายในของโซนี่ ไม่ใช่เรื่องของลูกค้าที่จะไปใส่ใจรับรู้กับมันกับมัน ขาดทุนแล้วไง ก็คุณตั้งราคาขายเอง ส่วนจะมาเอากำไรกับแผ่นเกม ถ้าลูกค้ามองว่ามันสมควรก็ตกลงซื้อขาย ก็เท่านั้น

ไม่งั้น ถ้าผมซื้อ PS3 มาใช้ดูหนังบลูเรย์อย่างเดียว ผมทำโซนี่ขาดทุนแน่ อย่างนี้โซนี่ต้องมาบีบคอให้ผมซื้อแผ่นเกมของเขาไหมครับ ไม่งั้นเขาขาดทุน... ก็ในเมื่อผมซื้อมาผมจะทำอะไรกับเครื่องก็ได้ ผมแค่อยากจะดูบลูเรย์อย่างเดียวเท่านั้น

เหมือนกัน ถ้าคนใช้เขาจะเอาไปแฮค เอาไปทำอะไร อย่างมากก็แค่หมดประกัน แต่ไม่เกี่ยวกับว่าจะทำให้โซนี่ขาดทุน เพราะคุณเป็นคนตั้งราคาขายแบบนั้นมาเอง แล้วโค๊ดที่นาย geohot ปล่อยมา มันก็ไม่ได้ไปละเมิดลิขสิทธิ์ของโซนี่ ถ้ามองอย่างตรงไปตรงมา จริงไหม

ไอ่ประเด็นที่โซนี่ว่ามา มันเป็นผลทางอ้อม จริงๆ ไม่ได้เห็นด้วยกับการละเมิดลิขสิทธิ์เกมนะครับ แต่นั่นก็เป็นเรื่องอีกเรื่องนึง ที่โซนี่ก็ต้องไปหาทางป้องกันแบบอื่น ไม่ใช่เป็นคนมาละเมิดสิทธิ์ลูกค้าที่ซื้อเครื่องและมีกรรมสิทธิ์ถูกต้องเองซะงั้น