Apple Watch Ultra 2 อาจเปิดตัวคู่กับ Apple Watch Series 9 ปลายปีนี้

iPhonemod - 28 June 2023 - 10:31

ข่าวลือล่าสุด Apple Watch Ultra 2 อาจเปิดตัวคู่กับ Appl […] More

The post Apple Watch Ultra 2 อาจเปิดตัวคู่กับ Apple Watch Series 9 ปลายปีนี้ appeared first on iMoD.

Stardew Valley เตรียมลง Apple Arcade วันที่ 21 ก.ค. 2023 นี้

iPhonemod - 28 June 2023 - 10:07

เกมทำฟาร์ม ปลูกผัก ยอดฮิตในดวงใจอย่าง “Stardew Va […] More

The post Stardew Valley เตรียมลง Apple Arcade วันที่ 21 ก.ค. 2023 นี้ appeared first on iMoD.

[ลือ] อยากให้ Apple Vision Pro น้ำหนักเบาลง ต้องเสียเงินซื้ออุปกรณ์เสริมเอง

MacThai - 28 June 2023 - 10:00

จากการทดสอบภายในองค์กรของแอปเปิลเอง พบว่าพนักงานไม่กี่คนที่ได้มีโอกาสลองสวมใส่ Apple Vision Pro ต่อเนื่องกันนาน 2-3 ชั่วโมง แล้วพบว่ามันหนักหัวเกินไป ทำให้แอปเปิลต้องรีบเตรียมแก้ปัญหานี้ต่อไป

โดย Mark Gurman จาก Bloomberg รายงานว่าหลังจากเปิดตัว Vision Pro และแอปเปิลให้สิทธิ์พนักงานในการเข้าถึง และลองสวมใส่อุปกรณ์ใหม่ดู ก็มีบางคนที่บ่นด้วยว่ามันหนักเกินไป แม้จะใส่ต่อเนื่องในเวลาไม่กี่ชั่วโมง

ซึ่งไม่มีใครรู้น้ำหนักของ Apple Vision Pro อย่างแท้จริง เพราะแอปเปิลยังไม่เคยเปิดเผยข้อมูลตัวเลขตรงนี้อย่างชัดเจน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะอุปกรณ์นี้มีส่วนประกอบของอะลูมิเนียมและกระจกมากกว่า แทนที่จะเป็นพลาสติกเช่นเดียวกับ XR headset ของเจ้าอื่น

แต่ก็มีรายงานเพิ่มเติมบางส่วนว่าแอปเปิลตั้งใจแก้ไขด้วยสายรัดเหนือศีรษะเพื่อช่วยให้กระจายน้ำหนักมากขึ้น ซึ่งสายรัดที่เป็นอุปกรณ์เสริมนี้ จะไม่รวมกับแพ็กเกจที่ซื้อ Apple Vision Pro

หรือที่หมายความว่า ใครอยากใช้แบบน้ำหนักเบาต้องเสียเงินเพิ่มนั่นเอง และสำหรับผู้ที่ต้องสวมแว่นตาเวลาใช้งาน ก็ต้องเสียเงินค่าเลนส์สายตาของ Zeiss ที่เป็นสิ่งจำเป็นเพิ่มอีกเช่นกัน

และในระหว่างนี้ที่ Apple Vision Pro ยังไม่เปิดตัว ก็เป็นเพราะแอปเวอร์ชันอัปเดตอย่าง ปฏิทิน แผนที่ หนังสือ และอีเมล ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ในงาน WWDC เลยโชว์ได้เพียงแค่บางแอปเท่านั้น ทำให้แอปเปิลต้องเร่งจ้างพนักงานเพิ่มอีกหลายพันคน เพื่อพัฒนาการทำงานของ VisionOS บนแอป iOS และ iPadOS ให้ดียิ่งขึ้น

เพื่อทำให้ Apple Vision Pro เวอร์ชันสมบูรณ์พร้อมใช้งานมากที่สุด โดยคาดว่าชุด Develop Kit สำหรับ Apple Vision Pro ของนักพัฒนาจะพร้อมให้ใช้งานเดือนกรกฎาคมนี้ ซึ่งยังไงก็สามารถสร้างระบบนิเวศของแอปให้สมบูรณ์ได้ก่อนจะวางจำหน่ายจริง

ที่มา – GSMARENA, Times of India

The post [ลือ] อยากให้ Apple Vision Pro น้ำหนักเบาลง ต้องเสียเงินซื้ออุปกรณ์เสริมเอง appeared first on Macthai.com.

Porsche ร่วมพัฒนาเรือยอร์ชพลังงานไฟฟ้า ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าของ Macan รุ่นใหม่ เริ่มต้นมีแค่ 25 ลำ

Brand Inside - 28 June 2023 - 09:38

Porsche ร่วมมือ Frauscher Shipyard ผู้ผลิตเรือเดินสมุทรจากออสเตรีย พัฒนาเรือยอร์ชพลังงานไฟฟ้า ติดตั้งเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนของรถพลังงานไฟฟ้า Porsche Macan ที่กำลังจะเปิดตัวในอนาคต มีกำหนดส่งมอบรุ่น First Edition จำนวน 25 ลำ ในปี 2024

Porsche

Porsche ร่วมพัฒนาเรือยอร์ชพลังงานไฟฟ้า

Lutz Meschke รองประธาน และสมาชิกคณะกรรมการบริหาร ผู้กำกับดูแลส่วนงานการเงิน และเทคโนโลยีสารสนเทศของ Porsche AG กล่าวว่า ทั้งสองบริษัทได้ร่วมกันพัฒนาเรือยอร์ช Frauscher x Porsche 850 Fantom Air ที่มากับสมรรถนะสูง ไม่ต่างกับรถสปอร์ตของแบรนด์

Frauscher x Porsche 850 Fantom Air ใช้พื้นฐานเดิมจากเรือ Daycruiser รุ่น Frauscher 858 Fantom Air โดยไม่มีการปรับเปลี่ยนใด ๆ ลำตัวเรือมีมิติความยาว 8.67 ม. กว้าง 2.49 ม. โดย Porsche มีหน้าที่พัฒนาเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน

ระบบดังกล่าวนำมาจาก Macan รถยนต์ SUV ขนาดเล็กที่จะเปิดตัวในอนาคต ประกอบด้วยแบตเตอรี่ Lithium-Ion ความจุรวมประมาณ 100 kWh พร้อมเทคโนโลยีแรงดันไฟฟ้า 800-volt ของ Porsche ทำให้เรือยอร์ชลำนี้สามารถชาร์จพลังงานได้ทั้งจากสถานี DC fast-charging และ AC charging

Frauscher 858 Fantom Air สามารถรองรับผู้โดยสารจำนวนสูงสุดได้ถึง 9 คน มีสระว่ายน้ำพร้อมเบาะนอนสำหรับอาบแดดจำนวน 2 ตำแหน่ง และพวงมาลัยควบคุมหางเสือ สมอเรือทำจาก Stainless Steel พร้อมอุปกรณ์ที่ช่วยหย่อนและดึงสมอเรือขึ้นจากน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Frauscher x Porsche มีกำหนดพร้อมส่งมอบในปี 2024 และสามารถพรีออเดอร์เรือรุ่นพิเศษ First Edition ที่ผลิตขึ้นจำนวน 25 ลำ โดยเรือยอร์ชจะได้รับการประกอบขึ้นที่ Frauscher Shipyard ใน Ohlsdorf ประเทศออสเตรีย โดย Frauscher จะรับหน้าที่ในการส่งมอบผลิตภัณฑ์ทั้งหมด รวมไปถึงการดูแลด้านบริการหลังการขาย

อ้างอิง // Porsche

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post Porsche ร่วมพัฒนาเรือยอร์ชพลังงานไฟฟ้า ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าของ Macan รุ่นใหม่ เริ่มต้นมีแค่ 25 ลำ first appeared on Brand Inside.

LINE เผย คน Gen Y เล่น LINE 100 นาที/วัน 82% มีกลุ่มเพื่อทำงาน และ 88% ทำงานผ่าน LINE บนคอม

Brand Inside - 27 June 2023 - 19:23

LINE ประเทศไทย เปิดข้อมูลพฤติกรรมการใช้งาน LINE เพื่อทำงานของคนไทย พบ Gen Y เล่น LINE 100 นาที/วัน และ 82% มี LINE กลุ่มเพื่อพูดคุยงาน ทั้ง 88% ของคนวัยนี้ยังทำงานผ่าน LINE บนคอมพิวเตอร์  เตรียมนำ AI เข้ามาช่วยเสริมประสิทธิภาพการใช้งานให้ดียิ่งขึ้น

LINE

LINE เผย Gen Y ขับเคลื่อนเศรษฐกิจผ่านแชต

นรสิทธิ์ สิทธิเวชวิจิตร รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ LINE ประเทศไทย เล่าให้ฟังว่า กลุ่มคน Gen Y ที่มีอายุตั้งแต่ 28-42 ปี กำลังเป็นวัยทำงานหลักของประเทศไทย และพวกเขาต่างมีความเชี่ยวชาญเทคโนโลยี ทั้งเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในยุคที่ไทยกำลังเข้าสู่สังคมสูงวัย

ทั้งนี้ LINE พบว่า คน Gen Y มีการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยผ่านแชตในแอปพลิเคชัน LINE เนื่องจากคนกลุ่มนี้มากถึง 82% ที่ใช้งาน Group Chat บน LINE เพื่อการทำงาน โดยมีการใช้ LINE Call ควบคู่กันด้วย และมีมากถึง 88% ที่ใช้งาน LINE บนคอมพิวเตอร์ สะท้อนชัดถึงการใช้ LINE เพื่อการทำงาน

“Gen Y ยังเป็นกลุ่มที่มีช่วงเวลาการใช้งาน LINE นานที่สุดถึงประมาณ 100 นาทีต่อวัน ในส่วนด้านการบริโภคจับจ่าย ยังพบว่าเจน Y เป็นกลุ่มที่มีการใช้จ่ายบน LINE มากที่สุด ด้วยยอดผู้ใช้จ่าย ซื้อของผ่าน LINE มากกว่ากลุ่มวัยอื่น ๆ ถึง 2 เท่า และระหว่าง 8 โมงเช้าถึงเที่ยงวัน ในวันจันทร์ถึงศุกร์ จะมีการเข้าใช้งาน LINE OA มากที่สุด”

LINE

เตรียมนำเทคโนโลยี AI ยกระดับบริการ

จากการใช้งาน LINE เพื่อการทำงานเติบโตต่อเนื่อง LINE จึงมีแผนการสำรวจและวิจัยเรื่องการใช้งาน Group Chat ในเชิงลึก เพื่อนำมาพัฒนาฟีเจอร์ทั้งสำหรับชีวิตส่วนตัว และการทำงาน ทั้งมีแผนการนำเทคโนโลยี AI ทั้งในส่วนที่ LINE พัฒนาเองและจากภายนอก เข้ามาเพื่อช่วยเสริมประสิทธิภาพการใช้งานให้ดียิ่งขึ้น

ในด้านการทำธุรกิจ LINE OA ยังมีการใช้งานต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมียอดการเปิดใช้งานสูงถึง 6 ล้านบัญชี อีกทั้ง ยังมีกลุ่มเครื่องมือจาก LINE OA Plus ซึ่งเป็นกลุ่มเครื่องมือที่คิดค้น และพัฒนาโดยทีมนักพัฒนาของ LINE ในประเทศไทย เพื่อตอบโจทย์ในเชิงธุรกิจมากขึ้น จากเดิมที่อาจถูกใช้เพื่อการสื่อสารกับผู้บริโภคเป็นหลัก

เช่นเดียวกับ LINE OpenChat ที่ปัจจุบันมีการใช้งานสูงสุดถึง 10 ชม./วัน ถือเป็นบริการที่สร้างปรากฏการณ์ในเชิงสถิติการเข้าใช้งานที่ยาวนานที่สุด หรือ Always On เมื่อเทียบกับบริการอื่น ๆ บนแพลตฟอร์ม ปัจจุบันมีจำนวนผู้ใช้งานประจำ 17 ล้านคนต่อเดือน และเตรียมเปิดบริการ LIVE Talk ที่พูดคุยแบบเรียลไทม์ได้

LINE

Chat Economy ที่มี LINE อยู่เบื้องหลัง

“LINE ประเทศไทย จะสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงของประเทศไทย ด้วย Chat Economy ที่เกิดขึ้นโดยวิถีของคนไทย สู่เศรษฐกิจรูปแบบใหม่ที่สามารถก้าวข้ามการเปลี่ยนแปลงเชิงเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และพัฒนาประเทศไทยให้มีศักยภาพการแข่งขันในแบบฉบับของเราเองได้ในที่สุด”

หากเจาะไปที่บริการอื่น ๆ ของ LINE จะมีการเดินหน้าในเชิงธุรกิจเช่นกัน อาทิ LINE TODAY ที่จะมีการขยายความร่วมมือกับพันธมิตรที่หลากหลายมากขึ้น จากแหล่งรวมข่าวสาร สาระมากมาย สู่ธุรกิจแห่งความหลากหลายของคอนเทนต์ LINE STICKERS ที่จะขยายขอบเขตธุรกิจ licensing เพื่อผลักดันศักยภาพอุตสาหกรรมคาแรคเตอร์ในไทย

LINE MELODY ที่จะขยายธุรกิจจากการทำธุรกิจเพลง สู่การเป็นผู้ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมดนตรี และ LINE HORO ที่จะขยายธุรกิจจากบริการดูดวง ขอพร ทำบุญออนไลน์ สู่การบริจาค Donation on LINE ที่ล่าสุดโครงการบริจาคโลงศพ และการระดมทุนรับบริจาคช่วยเหลือสังคมมียอดเงินบริจาคมากกว่า 2 ล้านบาทภายในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post LINE เผย คน Gen Y เล่น LINE 100 นาที/วัน 82% มีกลุ่มเพื่อทำงาน และ 88% ทำงานผ่าน LINE บนคอม first appeared on Brand Inside.

VST ECS รุกตลาดสินค้าสัตว์เลี้ยง ชิงตลาด 4,000 ล้านบาท เสริมแกร่งธุรกิจตัวแทนจำหน่ายสินค้าไอที

Brand Inside - 27 June 2023 - 18:03

วีเอสที อีซีเอส (ประเทศไทย) หรือ VST ECS ผู้จัดจำหน่ายสินค้าไอที ส่งอุปกรณ์สัตว์เลี้ยง 2 แบรนด์ AiRROBO และ VOOCOO รุกตลาดสินค้า และบริการสำหรับสัตว์เลี้ยง 4,000 ล้านบาท เสริมแกร่งรายได้ฝั่งสินค้าไอที ด้าน Hato Group เผย คนเลี้ยงแมวมีค่าใช้จ่ายมากกว่าคนเลี้ยงสุนัขถึง 3 เท่า

VST ECS

VST ECS เร่งทำตลาดสินค้าอุปกรณ์สัตว์เลี้ยง

สมศักดิ์ เพ็ชรทวีพรเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วีเอสที อีซีเอส (ประเทศไทย) จำกัด เล่าให้ฟังว่า ตลาดธุรกิจสัตว์เลี้ยงในไทยเติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่โรคโควิด-19 ระบาด โดยปัจจบันธุรกิจสินค้า และบริการเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงมีมูลค่า 3,954 ล้านบาท และธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงมีมูลค่า 40,638 ล้านบาท

“คาดว่าในปี 2026 มูลค่าตลาดสัตว์เลี้ยงในประเทศไทยจะมีมูลค่ากว่า 66,748 ล้านบาท โดยเติบโตเฉลี่ยปีละ 8.4% เมื่อนับจากปี 2021 แสดงให้เห็นโอกาสในการเติบโตของธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ทำให้บริษัทตัดสินใจรุกตลาดสินค้าอุปกรณ์สำหรับสัตว์เลี้ยงเพิ่มเติม”

เบื้องต้น VST ECS จะทำตลาดสินค้า 2 แบรนด์ประกอบด้วย AiRROBO ห้องน้ำแมวอัจฉริยะ ราคา 9,990 บาท และ ชุดเครื่องตัดแต่งขนพร้อมดูดขนสัตว์ ราคา 2,990 บาท กับ VOOCOO แบรนด์อุปกรณ์สำหรับสัตว์เลี้ยง เช่น เครื่องให้อาหาร, น้ำพุไร้สาย, ถังเก็บอาหารสุญญากาศ, หวีแปรงขน, กระเป๋า, สายจูง เป็นต้น

VST ECS

เจาะลึกตัวเลขตลาดสัตว์เลี้ยงในประเทศไทย

จากฐานข้อมูลเพื่อการขึ้นทะเบียนสุนัข-แมว (Pet Register) พบว่า ในช่วงปี 2017–2021 อัตราการเลี้ยงสัตว์ในไทยเพิ่มมากขึ้นทุกปี แต่อัตราการเกิดของเด็กไทยก็ลดลงทุกปี ชี้ให้เห็นว่าผู้บริโภคให้ความสนใจ และนิยมเลี้ยงสัตว์มากขึ้น

คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล พบว่า เหตุผลของการเลี้ยงสัตว์เลี้ยง 49% เลี้ยงสัตว์เพื่อเป็นลูก (Pet Parent) 34% เลี้ยงสัตว์เพื่อสถานะทางสังคม (Pet Prestige) และ 18% เลี้ยงสัตว์เพื่อช่วยเหลือ และช่วยบำบัดรักษา (Pet Healing) โดย 80.7% ของผู้ที่เลี้ยงสัตว์มีสถานะโสด และ 19.3% มีสถานะสมรสแล้ว

หากแบ่งเป็นประเภทของสัตว์เลี้ยงจะแบ่งได้ดังนี้

  • สุนัข 40.4% เนื่องจากสุนัขมีความซื่อสัตย์ ซุกซน ขี้เล่น ฉลาด แสนรู้ และคลายเหงาได้
  • แมว 37.1% เนื่องจากไม่ส่งเสียงดัง น่ารัก ขี้อ้อน เลี้ยงดูง่าย เป็นสัตว์ที่รักสะอาด และไม่มีกลิ่นเหม็น
  • Exotic Pet 22.6% เพราะสัตว์กลุ่มนี้ดูมีความแตกต่าง และอินเทรนด์ สามารถบอกตัวตนของผู้เลี้ยงได้

“เรามั่นใจว่าสินค้าเหล่านี้ ล้วนแล้วแต่เป็นไอเทมสุดล้ำที่เหล่าน้องหมาน้องแมวต้องมี ซึ่งจะตอบโจทย์ผู้บริโภคในยุคปัจจุบันที่ต้องการดูแลสัตว์เลี้ยงแสนรักให้เหมือนสมาชิกในครอบครัว และนอกจากสัตว์เลี้ยงที่จะได้รับความสุขจากสินค้าเหล่านี้แล้ว ผู้เลี้ยงยังได้รับความสะดวกสบายและช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายมากยิ่งขึ้นอีกด้วย”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ VST ECS VST ECS คาดว่าจะปิดรายได้ราว 34,000-35,000 ล้านบาท ในปี 2022 โดยมาจากสินค้ากลุ่มลูกค้าองค์กร 55% ที่เหลือเป็นสินค้าฝั่งผู้บริโภคทั่วไป นอกจากนี้ยังมีการทำตลาดจักรยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อเพิ่มความหลากหลายของรายได้

Hato Group มองคนเลี้ยงแมวจ่ายมากกว่าสุนัข 3 เท่า

สุพพัต ปิยะชัยวุฒิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮาโตะ เพ็ท เวลเนส เซ็นเตอร์ จำกัด เสริมว่า ปัจจุบันการเลี้ยงสัตว์ โดยเฉพาะแมวมีจำนวนมากขึ้น เนื่องจากผู้คนเริ่มลดความสำคัญในการมีบุตร และแมวค่อนข้างตอบโจทย์ในการเลี้ยงในที่ที่ไม่มีบริเวณกว้าง และไม่ต้องการเสียงรบกวน

“ตอนนี้คนเลี้ยงแมวเป็นลูก หรือหนึ่งในสมาชิกครอบครัว และไม่แปลกที่พวกเขาจะซื้อแมวตัวละ 50,000 บาท จน 2-3 แสนบาท เพื่อตอบรับความต้องการของพวกเขา และเมื่อสัตว์เลี้ยงมีราคาสูง พวกเขาก็ยินดีที่จะจ่ายเงินเลี้ยงดูให้ดีที่สุด โดยเราพบว่าคนเลี้ยงแมวยอมจ่ายมากกว่าคนเลี้ยงสุนัขถึง 3 เท่า”

ฮาโตะ เพ็ท เวลเนส เซ็นเตอร์ มีสถานบริการทั้งหมด 6 สาขา และในปี 2023 จะเปิดอีก 2 แห่ง ประกอบด้วยศูนย์ให้บริการเวลเนส เช่น สปา และอาบน้ำสัตว์เลี้ยง กับโรงพยาบาลอีกหนึ่งแห่ง และก่อนหน้านี้บริษัทได้ RS เข้ามาลงทุนในหุ้น 51% คิดเป็นมูลค่า 100 ล้านบาท เพื่อขยายธุรกิจ และสร้างรายปีถึง 100 ล้านบาทในสิ้นปี 2023

อ้างอิง // RS

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post VST ECS รุกตลาดสินค้าสัตว์เลี้ยง ชิงตลาด 4,000 ล้านบาท เสริมแกร่งธุรกิจตัวแทนจำหน่ายสินค้าไอที first appeared on Brand Inside.

คุยกับ ‘หมู – สุภาพ’ Doc Club & Pub โรงภาพยนตร์ขนาดเล็ก ที่ยืนหยัดในยุคสตรีมมิ่ง

Brand Inside - 27 June 2023 - 17:09

ลัดเลาะเข้าไปในซอย ศาลาแดง 1 ไปไม่กี่ก้าว ป้ายของ Doc Club & Pub เรียกความสนใจจากสายตา สถานที่นี้อาจเป็นที่คุ้นเคยสำหรับคอหนังนอกกระแสหรือสารคดี แต่สำหรับคนทั่วไปอาจยังไม่รู้จักที่นี่กันมากนัก เรามาเดินขึ้นบันไดไปพร้อมกัน แวะนั่งเล่นพูดคุย ในพื้นที่นี้กันหน่อย 

ก้าวขึ้นมาไม่กี่ชั้น ก็เจอกับประตูกระจก และป้ายของ Doc Club & Pub เมื่อก้าวพ้นประตูเข้าไป พื้นที่นี้ไม่ได้เป็นโรงหนังในภาพจำจากเจ้าใหญ่ๆ แต่เป็นพื้นที่ขนาดกำลังพอดี มีโซนคาเฟ่ให้สั่งอาหารและเครื่องดื่ม โซนนั่งทำงานแบบเงียบสงบ โซนเล่นบอร์ดเกมกับก๊วนเพื่อน ชั้นหนังสือขนาดใหญ่ให้ได้เลือกอ่าน

 

สิ่งนี้เป็นความตั้งใจของคุณหมู – สุภาพ ผู้ก่อตั้ง Doc Club & Pub ที่ต้องการให้พื้นที่นี้เป็นพื้นที่สร้างสรรค์ นอกจากจะได้เข้ามาดูภาพยนตร์ สารคดี กันแล้ว ยังมีพื้นที่ให้ได้พูดคุย ถกเถียง ตกตะกอน ถึงประเด็นต่างๆ ได้ด้วย 

ด้วยราคาของการนำเข้าหนัง สารคดี มีมูลค่าสูงเกินกว่าที่เราจะเดาได้ การเลือกสักเรื่องเข้ามาฉาย จึงกลายเป็นสิ่งที่ต้องคิดอย่างถี่ถ้วน และแตกต่างจากโรงหนังเจ้าใหญ่ จนเราเข้าใจได้ว่า Doc Club & Pub ไม่ได้คิดจะตั้งพื้นที่มาเพื่อแข่งขันกับเจ้าใหญ่ในตลาดแต่อย่างใด

แต่พื้นที่ขนาดเล็ก ที่มีเพียงโรงเดียวนี้ สามารถจำหน่ายตั๋วในราคาสบายกระเป๋า ในขณะที่อยู่กลางเมืองไม่แพ้โรงหนังเจ้าใหญ่ได้เพราะอะไร? 

“เรามองว่าหนังของเรา หลังจากเราดูเสร็จแล้ว ประเมินว่าหนังเรื่องนี้สื่อสารกับคนดูได้ยังไงบ้าง ถึงจะมาตัดสินใจว่าตกลงเอาเรื่องนี้นะ ตรงข้ามกับเจ้าใหญ่ เขาจะมองว่าหนังเรื่องนี้มันมีโอกาส จากใครเป็นผู้จัดจำหน่าย ใครเป็นผู้กำกับ เขาก็ซื้อมา แล้วก็มีการฉายโรงแล้วขายสตรีมมิ่ง ซึ่งมันก็เป็นคนละโมเดลธุรกิจกัน”

ด้วยความตั้งใจที่อยากให้พื้นที่นี้ เป็นมากกว่าโรงหนังนอกกระแส คำว่า Pub ในชื่อร้านจึงไม่ได้ตั้งไว้เก๋ๆ เมื่อเข้าช่วงค่ำ พื้นที่ตรงนี้กลายเป็นบาร์บรรยากาศครึกครื้น ที่มีลูกค้าแวะเวียนมาสั่งเครื่องดื่มมากมาย ตลอดจนเบียร์ทางเลือกในตู้ มีให้เลือกอีกนับไม่ถ้วน ซึ่งทั้งส่วนบาร์ คาเฟ่ อาหาร ของทานเล่น ถือเป็นอีกรายได้ของที่นี่ แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมดเสียทีเดียว การขายลิขสิทธิ์หนัง สารคดี นำเข้า ก็เป็นรายได้ของที่นี่อีกส่วนหนึ่งเช่นกัน ที่ช่วยประคับประคองให้กิจการดำเนินไปได้ ในราคาตั๋วยุติธรรมต่อกระเป๋าเงิน

“รายได้ส่วนหนึ่ง ไม่ได้มาจากค่าตั๋วอย่างเดียว เราขายสิทธิ์ให้กับสตรีมมิ่งเป็นรายได้อีกส่วนหนึ่ง ซึ่งตรงนี้มันก็แชร์กันไปกับส่วนอื่นๆ หนังแต่ละเรื่องมันไม่ได้มีเรตขายที่ตายตัว เราก็เลือกหาหนังที่คิดว่าเนื้อหามันตรงกับความต้องการ แล้วก็มองดูราคาที่มันคละเคล้ากันไป

หนังเรื่องไหนที่ยังไม่มีใครนำเข้ามา เราก็จะเลือกแต่หนังแนวนั้นมากกว่า เพราะว่าถ้าแข่งกันด้วยราคา เราเป็นค่ายเล็ก สู้ไม่ได้หรอก ถ้าเป็นหนังหนังอินดี้ ที่เป็นกระแสหลักหน่อย เราก็จะไม่ไปลงเล่นตลาดนั้น เพราะมันมีความเสี่ยง ราคามันสูง”

การขายสิทธิ์ให้กับสตรีมมิ่ง เป็นเหมือนการเช่าหนังเรื่องนี้ไปลงแพลตฟอร์มตัวเอง ในระยะเวลาที่กำหนด ไม่ได้ซื้อขาดอยู่บนแพลตฟอร์มตลอดไป ซึ่งวิธีนี้เป็นอีกช่องทางรายได้ของทั้งโรงเล็กและโรงใหญ่ 

 

นั่งคุยกันได้สักพัก จึงถามถึงหนังสือจำนวนมากที่อยู่บนชั้นหนังสือติดผนังสูงถึงเพดาน ส่วนหนึ่งเป็นของสะสมของคุณหมูเอง ตั้งแต่สมัยทำนิตยสาร Bioscope รวมถึงหนังสือที่มีไว้ให้เหล่านักอ่านได้มาแวะเวียนทำความรู้จักกับเล่มใหม่ๆ 

ทั้งหนังสือและตั๋วหนังเป็นความบันเทิงที่ถูกตั้งคำถาม เมื่อมองกลับมาที่ค่าแรงขั้นต่ำในแต่ละวัน สิ่งเหล่านี้กลายเป็นของฟุ่มเฟือย กลายเป็นความบันเทิงที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ทุกคน 

“เรามองว่าราคาตั๋วหนังมันเกินไป แล้วเราคิดว่ามันควรจะเป็นราคาที่เป็นมิตรกับคนดู แต่ว่าพอมาทำจริง ก็พบว่ามันมีปัจจัยอื่น ๆ เช่น เรื่องค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ ของเมืองไทย

สำหรับค่าครองชีพในประเทศไทยเนี่ย เราคิดว่ามันควรจะอยู่ที่แถว ๆ ร้อยบาทเท่านั้นแหละ ราคาหนังที่เป็นไปได้ของแต่ละเจ้า ก็มีแนวคิดในการทำราคาที่ไม่เหมือนกัน แต่เราคิดว่าราคานั้นเป็นราคาที่สมเหตุสมผลที่สุด”

พอเป็นเรื่องปากท้องแล้ว ไม่มีทางที่จะเลี่ยงการเมืองไปได้ วงการภาพยนตร์เป็นอีกหนึ่งกลุ่ม ที่ยังคงต้องการการสนับสนุนจากรัฐบาลในหลายๆ ด้าน ในวาระที่ได้เปลี่ยนรัฐบาลใหม่ครั้งนี้ Brand Inside เลยถามถึงความคาดหวังที่จะได้เห็นจากรัฐบาลใหม่ หรือนโยบายใด ๆ ที่ช่วยสนับสนุนวงการภาพยนตร์ให้ดีกว่าที่เป็นอยู่

“ช่วงท้ายของรัฐบาลที่แล้วเนี่ย คณะกรรมการภาพยนตร์แห่งชาติ เรียกว่าประชุมกันปีละหน ซึ่งมันไม่มีทางที่จะขับเคลื่อนอะไรได้แน่ๆ อย่างแรกเลยก็คือ ภาครัฐที่มีนโยบายต่ออุตสาหกรรมนี้อย่างไร พอมันไม่ได้ถูกเอามาพิจารณา ในครม. ในรัฐบาล มันก็ไม่เคยที่จะถูกหยิบยกปัญหาเพื่อมาแก้ไข

และอีกเรื่องหนึ่งที่มันเป็นปัญหาไม่ต่างกันก็คือ ตัวพรบ.ภาพยนตร์เอง ที่ผ่านมาเนี่ย ฉบับที่ 1 ปี 2473 มันก็ออกมาโดยรัฐบาลในสมัยสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ก็ออกมาเพื่อที่จะควบคุมสื่อใหม่ ๆ ในยุคสมัยนั้น มันเริ่มต้นด้วยการเอาหนังข่าวมาฉาย ซึ่งเราจะเห็นความเปลี่ยนแปลงของสิ่งที่เกิดขึ้นบนโลกนี้ ต่าง ๆ นานา รวมไปถึงความเปลี่ยนแปลง ในเรื่องของการเมืองการปกครองต่าง ๆ ที่มันเกิดขึ้น

ผมมองว่า ถ้าสิ่งที่จะเกิดขึ้นใหม่ในรัฐบาลชุดนี้ ในสภาชุดใหม่นี้ ก็คือการออกกฎหมายพรบ.ภาพยนตร์ ที่มีลักษณะที่เป็นการส่งเสริม สนับสนุน มากขึ้น อันนี้ก็คือสิ่งที่คาดหวังไว้”

 

ดูหนังจบสักเรื่อง ออกมาดื่มสักแก้ว แล้วถกประเด็นที่ตกตะกอนจากจอเงิน จะดีแค่ไหนหากเรามีพื้นที่แบบนี้ให้มากขึ้นอีกสักหน่อย ให้การดูหนังไม่ใช่เรื่องรีบร้อน หากยังไม่มีแพลนไปไหน แวะมานั่งเล่นกันที่ Doc Club & Pub พื้นที่แห่งความสร้างสรรค์ แม้จะไม่ใช่คอหนังก็ยังเอ็นจอยกับพื้นที่นี้ได้เช่นกัน

“เราเชื่อออย่างหนึ่งก็คือว่า ดูหนังเสร็จ มันมีเรื่องที่เราอยากจะแชร์ แล้วคิดว่าคนอื่นก็อยากจะแชร์ สิ่งที่อยากจะแชร์ก็ไม่เหมือนกัน ในสังคมตอนนี้ เราอาจอยู่ในโซเชียลมีเดียมากเกินไป ถ้าเกิดการพบหน้ากัน การสนทนาก็จะเปลี่ยนไปอีกแบบนึง 

เราก็เชื่อว่าการสนทนาแบบนี้ เป็นการแลกเปลี่ยนในเชิงสร้างสรรค์ มากกว่าที่จะเอาชนะคะคานกันในโลกอินเทอร์เน็ต อยากให้พื้นที่ของเรามันทำหน้าที่แบบนี้”

 

“Public Space ในบ้านเรามันขาด เราคิดว่าพื้นที่นี้ มันน่าจะช่วยมาเติมเต็มให้กับคนได้มาเจอโอกาสใหม่ ๆ ได้มาฟังความคิดเห็นใหม่ ๆ ได้มาแลกเปลี่ยนกับคนใหม่ ๆ”

 

ในพื้นที่เล็ก ๆ นี้ เปี่ยมไปด้วยความฝันอันยิ่งใหญ่ ที่อยากผลักดันวงการภาพยนตร์ให้ไปได้ไกลอย่างที่ควรจะเป็น มีตัวเลือกอันหลากหลาย ไม่ใช่แค่ Blockbuster ที่จับจองรอบฉายค่ายใหญ่ เพียงเพราะทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำ ภาพยนตร์ควรเป็นสื่อบันเทิงที่เข้าถึงได้และมีทางเลือกที่หลากหลายมากกว่านั้น 

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post คุยกับ ‘หมู – สุภาพ’ Doc Club & Pub โรงภาพยนตร์ขนาดเล็ก ที่ยืนหยัดในยุคสตรีมมิ่ง first appeared on Brand Inside.

อัปเดตแอป iPhone ,iPad สำหรับนักเรียน นักศึกษา 2023

iPhonemod - 27 June 2023 - 15:03

วันนี้ทีมงานจะพามาแนะนำแอปพลิเคชันสำหรับนักเรียน นักศึก […] More

The post อัปเดตแอป iPhone ,iPad สำหรับนักเรียน นักศึกษา 2023 appeared first on iMoD.

แพทย์รังสิตเฮลท์แคร์กรุ๊ป เตรียมขาย IPO 54 ล้านหุ้น รับเทรนด์รักสุขภาพ พร้อมแข่งโรงพยาบาลในตลาด

Brand Inside - 27 June 2023 - 14:14

บมจ. แพทย์รังสิตเฮลท์แคร์กรุ๊ป หรือ PHG เดินหน้าเสนอขาย IPO 54 ล้านหุ้น เสริมแกร่งการดำเนินธุรกิจกว่า 36 ปี หวังนำเงินทุนขยายอาคารจอดรถ, อาคารผู้ป่วย รวมถึงการซื้อเครื่องมือแพทย์ รับลูกค้าฝั่งประกันสังคม และลูกค้าทั่วไปเพิ่มขึ้นต่อเนื่องผ่านกระแสรักสุขภาพเติบโต

แพทย์รังสิตภาพจาก แพทย์รังสิต กลุ่มแพทย์รังสิต เตรียม IPO

รณชิต แย้มสอาด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. แพทย์รังสิตเฮลท์แคร์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ PHG เล่าให้ฟังว่า PHG ประกอบธุรกิจหลักคือให้บริการทางการแพทย์ภายใต้ กลุ่มโรงพยาบาลแพทย์รังสิต ซึ่งมีประสบการณ์ในธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนกว่า 36 ปี และมีจุดเด่นคือบริการศูนย์หัวใจ 24 ชั่วโมง

“เรามีศักยภาพในการผ่าตัดหัวใจแบบเปิด หรือ Open Heart Surgery เป็นหน่วยบริการที่รับการส่งต่อเฉพาะด้านการทำหัตถการรักษาหลอดเลือดโคโรนารีผ่านสายสวน ระดับ 1 ของ สปสช. ถือเป็นโรงพยาบาลเอกชนแห่งเดียวในเขต 4 ซึ่งประกอบด้วย นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง ลพบุรี สิงห์บุรี สระบุรี และนครนายก”

PHG จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก หรือ IPO จำนวน 54 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 1 บาท คิดเป็น 18 % ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออก และเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญในครั้งนี้ โดย PHG จะเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในหมวดธุรกิจบริการ (SERVICE) / การแพทย์ (HELTH)

ส่วนขณะที่ผลประกอบการสำหรับงวดปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2563-2565 และสำหรับงวด 3 เดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2566 บริษัท ฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 104.64 ล้านบาท 317.48 ล้านบาท 293.10 ล้านบาท และ 44.55 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิร้อยละ 6.73 ร้อยละ 15.99 ร้อยละ 14.27 และร้อยละ 9.11 ตามลำดับ

ปัจจุบัน PHG เป็นผู้ให้บริการทางการแพทย์ภายใต้โรงพยาบาลจำนวน 3 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลแพทย์รังสิต โรงพยาบาลแพทย์รังสิต 2 และโรงพยาบาลเฉพาะทางแม่ และเด็กแพทย์รังสิต สามารถรองรับผู้รับบริการทางการแพทย์จากคนในจังหวัด กรุงเทพตอนเหนือ ปทุมธานี และจังหวัดใกล้เคียง

ส่วนในมุมลูกค้าจะให้บริการทั้งกลุ่มลูกค้าภายใต้สวัสดิการภาครัฐ 50% และกลุ่มลูกค้าทั่วไป กับลูกค้าชาวต่างชาติ  50% โดยปัจจุบันกลุ่มโรงพยาบาลแพทย์รังสิต มีจำนวนเตียงจดทะเบียนรวมทั้งหมด 270 เตียง ประกอบด้วยโรงพยาบาลแพทย์รังสิต โรงพยาบาลแพทย์รังสิต 2 และ โรงพยาบาลเฉพาะทางแม่และเด็กแพทย์รังสิต จำนวน 155 เตียง 59 เตียงและ 56 เตียง ตามลำดับ

สำหรับวัตถุประสงค์ในการนำเงินระดมทุนที่ได้จากการเสนอขายหุ้น IPO เพื่อใช้เป็นเงินลงทุนในโครงการช่วงปี 2566-2569 ประกอบไปด้วย

  • เพื่อเป็นเงินทุนในโครงการก่อสร้างอาคารจอดรถภายในปี 2567
  • เพื่อเป็นเงินทุนในโครงการก่อสร้างอาคารผู้ป่วยใหม่ที่ 1 ภายในปี 2567
  • เพื่อเป็นเงินทุนในโครงการก่อสร้างอาคารผู้ป่วยใหม่ที่ 2 ภายในปี 2569
  • เพื่อเป็นเงินทุนในการซื้อเครื่องมือ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ภายในปี 2567
  • เพื่อชำระคืนเงินกู้ยืมแก่สถาบันการเงินบางส่วนภายในปี 2566
  • เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจภายในปี 2566

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post แพทย์รังสิตเฮลท์แคร์กรุ๊ป เตรียมขาย IPO 54 ล้านหุ้น รับเทรนด์รักสุขภาพ พร้อมแข่งโรงพยาบาลในตลาด first appeared on Brand Inside.

กลุ่มไมเนอร์ ทุ่ม 546 ล้านบาท ซื้อกิจการเจ้าของแบรนด์ Sizzler ยกระดับการขยายธุรกิจในอนาคต

Brand Inside - 27 June 2023 - 13:38

บมจ. ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จํากัด หรือ MINT เข้าซื้อกิจการ Singco Trading เจ้าของเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญาแบรนด์ร้านอาหาร Sizzler ยกเว้นในประเทศสหรัฐอเมริกา, กัวเตมาลา และเปอร์โตริโก้ หวังผลค่าสิทธิในการใช้สินทรัพย์ทางปัญญา รวมถึงโอกาส และความยืดหยุ่นในการขยายธุรกิจในอนาคต

Sizzler

MINT เข้าซื้อกิจการเจ้าของแบรนด์ Sizzler

บมจ. ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จํากัด หรือ MINT แจ้งว่า MFG International Holding (Singapore) Pte. Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ MINT ได้เข้าทําสัญญาเพื่อซื้อหุ้นบริษัท Singco Trading Pte. Ltd. ในสัดส่วนร้อยละ 100 โดยมีรายละเอียดดังนี้

  • วันที่เกิดรายการ 27 มิถุนายน 2566 (วันตกลงเข้าทําสัญญา)
  • ผู้ซื้อ MFG International Holding (Singapore) Pte. Ltd.
  • ผู้ขาย CFG Finance Pty. Ltd.

ทั้งนี้ CFG Finance Pty. Ltd. มิได้มีความสัมพันธ์ในฐานะเป็นผู้ถือหุ้น หรือกรรมการของบริษัท ดังนั้นผู้ขายจึงมิได้เป็นบุคคลเกี่ยวโยงตามประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่องการเปิดเผยข้อมูล และการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในรายการที่เกี่ยวโยงกัน พ.ศ. 2546 ดังนั้นรายการดังกล่าวมิได้เข้าข่ายเป็นรายการที่เกี่ยวโยงตามประกาศดังกล่าว

ส่วนลักษณะของรายการ ทาง MFG International Holding (Singapore) Pte. Ltd. เข้าซื้อหุ้นบริษัท Singco Trading Pte. Ltd. ในสัดส่วนร้อยละ 100 บริษัทนั้นมีทุนจดทะเบียน 9,652,771 ดอลลาร์สิงคโปร์ แบ่งออกเป็น 978,917,378 หุ้น มีธุรกิจเป็นเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญาแบรนด์ร้านอาหาร Sizzler ยกเว้นในประเทศสหรัฐอเมริกา, กัวเตมาลา และเปอร์โตริโก้

ภายหลังการเข้าซื้อหุ้นดังกล่าว บริษัท Singco Trading Pte. Ltd. จะถือเป็นบริษัทย่อยของ MINT โดยมูลค่ามูลค่ารายการซื้อหุ้นร้อยละ 100 คิดเป็น 21 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (เทียบเท่า 546 ล้านบาท) ซึ่ง MINT กระแสเงินสดภายในบริษัทเพื่อดำเนินการ และเข้าเป็นเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญาแบรนด์ร้านอาหาร Sizzler ยกเว้นในประเทศสหรัฐอเมริกา กัวเตมาลาและเปอร์โตริโก้ ช่วยเรื่องค่าสิทธิในการใช้สินทรัพย์ทางปัญญา รวมถึงเพิ่มโอกาส และความยืดหยุ่นในการขยายธุรกิจในอนาคต

อ้างอิง // SET

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post กลุ่มไมเนอร์ ทุ่ม 546 ล้านบาท ซื้อกิจการเจ้าของแบรนด์ Sizzler ยกระดับการขยายธุรกิจในอนาคต first appeared on Brand Inside.

รีบย้ายรูปและวิดีโอด่วน! Apple เตรียมปิดบริการ ‘My Photo Stream’ แล้ว

MacThai - 27 June 2023 - 10:00

แอป ‘My Photo Stream’ นั้นมีให้ใช้งานมาตั้งแต่สมัยสตีฟ จ็อบส์ ในปี 2011 แต่เพราะแอปเปิลดันให้เหล่าสาวกไปใช้ ‘iCloud Photos’ มากขึ้น ก็ถึงเวลาแล้วที่จะต้องปิดบริการอัปโหลดสื่อจากช่องทางที่ไม่ได้ไปต่อ

โดยแอปเปิลประกาศตั้งแต่เดือนก่อนไปแล้ว ว่ามีแผนที่จะหยุดให้บริการ My Photo Stream ช่วงซัมเมอร์นี้ และวันนี้ก็เป็นวันครบกำหนดสำหรับการอัปโหลดสื่อจากอุปกรณ์หนึ่งไปยังอุปกรณ์หนึ่ง แบบไม่ต้องซิงก์เอง เพราะใช้ฟีเจอร์ iCloud ฟรี 1,000 รูปพอดี

เรียกได้ว่าเป็นการปิดฉากบริการฟรีมีประสิทธิภาพไปแล้ว หลังให้เหล่าสาวกอัปโหลดสื่อต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ หรือวิดีโอมานานเป็นทศวรรษ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายสำหรับคนที่ใช้อุปกรณ์ของแอปเปิล เพราะสามารถแสดงทุกรูปได้ 30 วัน เพียงแค่เชื่อมต่อกับ Wi-Fi เพื่อเซฟลงอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้

และหลังจากนั้นแอปเปิลก็เปิดตัว iCloud Photo Library หรือที่คุ้นกันกับชื่อ iCloud Photos เป็นบริการซิงก์รูปภาพ วิดีโอและสื่อมีเดียต่าง ๆ มาแทน แต่ต้องสมัครสมาชิก และเสียค่าใช้จ่ายสำหรับคนต้องการเพิ่มพื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูลคลาวด์ แม้จะฟรี 5GB อยู่แล้วก็ตาม แต่จะมีให้เลือกตั้งแต่ 50GB ถึง 2TB

ส่วนบริการซิงก์มีเดียเก่าอย่าง My Photo Stream จะไม่สามารถใช้งานได้ในวันที่ 26 กรกฎาคมเป็นต้นไป โดยข้อมูลที่เคยจัดเก็บไว้จะถูกลบออกจากคลาวด์ทั้งหมด ใครที่ยังมีเก็บไว้อยู่ หรือต้องการเก็บรูปไว้บนอุปกรณ์อื่น ทาง MacThai แนะนำให้รีบย้ายไปเซฟไว้ที่ iCloud Photos หรือ Photo Library ก่อนวันปิดตัวบริการนี้ครับ

ที่มา – 9To5Mac

The post รีบย้ายรูปและวิดีโอด่วน! Apple เตรียมปิดบริการ ‘My Photo Stream’ แล้ว appeared first on Macthai.com.

LINE MAN Wongnai ชี้ทำโฆษณายุคนี้ต้อง Personalized ชูจุดแข็ง O2O ยกระดับ Customer Journey ทั้งโลกออนไลน์และออฟไลน์ 

Brand Inside - 26 June 2023 - 15:42

LINE MAN Wongnai เผยการทำโฆษณาบนแพลตฟอร์มต้องยึดวิธี Personalized เข้าใจผู้บริโภคอย่างแท้จริง พร้อมชูจุดแข็ง O2O เชื่อมต่อผู้ใช้-ไรเดอร์-ร้านอาหาร ยกระดับ Customer Journey ทั้งโลกออนไลน์และออฟไลน์ ตอกย้ำจุดแข็งการเป็น End-to-end Food Ecosystem เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคแบบครบวงจร

ภายในงาน CREATIVE TALK CONFERENCE 2023 FESTIVAL จิโรจ โหราไทย Head of Business Development จาก LINE MAN Wongnai ได้ฉายภาพเกี่ยวกับแพลตฟอร์มโฆษณาแห่งอนาคต ในหัวข้อ “The Future of Ads Platforms” เมื่อวันที่ 22 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยระบุว่า LINE MAN Wongnai ได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์คนไทยทุกช่วงเวลา ตั้งแต่ตื่นนอนยันเข้านอน เรียกได้ว่าเป็น Customer Journey ที่เชื่อมต่อโลกออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกัน มีมิติด้าน O2O หรือ Online & Offline Intergration เป็นจุดแข็งและกลยุทธ์สำคัญของ LINE MAN Wongnai ในฐานะแพลตฟอร์มดิจิทัลที่มีผู้ใช้คนไทยมากกว่า 10 ล้านคน เชื่อมต่อไปยังร้านค้าและไรเดอร์จำนวนมากทั่วประเทศ ซึ่งบริษัทได้เปิดช่องทางให้แบรนด์ต่าง ๆ เข้าถึงฐานลูกค้ากลุ่มนี้ผ่านรูปแบบการนำเสนอตำแหน่งของสื่อโฆษณาทั้งรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ที่เชื่อมโยงกัน ซึ่งไฮไลท์สำคัญในปีนี้จะสะท้อนให้เห็นภาพของการเป็น O2O ที่ชัดเจน

ทำโฆษณาให้สำเร็จในมุม LINE MAN Wongnai ต้อง Personalized เข้าใจลูกค้า

นายจิโรจ เผยถึงหัวใจหลักในการทำโฆษณาบนแพลตฟอร์มให้ประสบความสำเร็จในปัจจุบัน ระบุว่า LINE MAN Wongnai มีการเก็บข้อมูลพฤติกรรมของผู้บริโภคในการค้นหาร้านอาหารบนแพลตฟอร์ม โดยใช้วิธี Personalized ตามประวัติการสั่งอาหารของผู้ใช้แต่ละคนเพื่อแนะนำร้านอาหารให้ตรงใจผู้บริโภคมากขึ้น  โดยธรรมชาติของกลุ่มผู้ใช้งาน LINE MAN เป็นกลุ่มที่มีความต้องการซื้อแล้วได้สินค้าทันที (instant gratification) หากแพลตฟอร์มพัฒนาการแนะนำข้อมูลให้กับผู้บริโภคได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพ ก็จะสามารถเปลี่ยนเป็นยอดขายจริงได้ทันที

สิ่งสำคัญสำหรับการโฆษณา คือ การไล่ตามให้ทันความคาดหวังที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของผู้บริโภค ที่มองหาความสะดวกสบายและความเป็น Personalized เพิ่มมากขึ้น ความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีจะมีบทบาทสำคัญในการโฆษณาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จากเมื่อก่อนมีร้านค้าปลีกที่ต้องไปเลือกซื้อของที่ร้าน ปัจจุบันถูกพัฒนามาสู่บริการแบบออนดีมานด์ที่เชื่อมโลกออฟไลน์กับออนไลน์เข้าด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ ผู้บริโภคที่เคยรอได้ กลายเป็นอยากได้เดี๋ยวนี้ จากเดิมคอนเทนต์เนื้อหากว้าง ๆ เข้าถึงทุกคน กลายเป็นต้องเฉพาะเจาะจงแบบบุคคล

LINE MAN Wongnai

“ในฐานะแพลตฟอร์มออนดีมานด์ของไทย เราเล็งเห็นความสำคัญของผู้บริโภคที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา โดยเฉพาะวิวัฒนาการของธุรกิจค้าปลีกที่เข้าสู่การขายบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ มาสู่การส่งผ่านทางเดลิเวอรี ที่ย่นระยะเวลาให้ของถึงมือผู้บริโภคได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ LINE MAN Wongnai มุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการทำให้ธุรกิจต่าง ๆ ที่ต้องการปรับตัวสู่ยุคเดลิเวอรีสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายผ่านแพลตฟอร์มของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพ” จิโรจ กล่าวทิ้งท้าย

LINE MAN Wongnai มีโซลูชันการตลาดที่ครบวงจรตอบโจทย์การทำการตลาดแบบ Full-funnel Marketing ตั้งแต่ Awareness สร้างการรับรู้ของผู้บริโภค ผ่านโฆษณาออนไลน์ In-app banner ในแอป LINE MAN และโฆษณาออฟไลน์บนกระเป๋าของไรเดอร์ Consideration สร้างปฏิสัมพันธ์ผ่านคอนเทนต์และ KOLs สายอาหาร ความงาม ท่องเที่ยว ไลฟ์สไตล์ของ Wongnai Activation ยกระดับประสบการณ์ร่วมของลูกค้ากับแบรนด์ผ่านกิจกรรมออฟไลน์ อย่างเทศกาลอาหารและเอ็กซ์คลูซีฟอีเว้นเฉพาะของแบรนด์ Conversion เพิ่มการตัดสินใจซื้อของลูกค้า ด้วยการแจกสินค้าตัวอย่างผ่านออเดอร์ LINE MAN และ Loyalty กระชับความสัมพันธ์กับผู้ใช้ผ่านการมอบคูปองส่วนลดพิเศษ LINE MAN จากแบรนด์

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post LINE MAN Wongnai ชี้ทำโฆษณายุคนี้ต้อง Personalized ชูจุดแข็ง O2O ยกระดับ Customer Journey ทั้งโลกออนไลน์และออฟไลน์  first appeared on Brand Inside.

KBank จัดการขยะใน 4 อาคารหลัก ตั้งเป้าเป็น Zero Waste to Landfill ภายในปี 66 นี้

Brand Inside - 26 June 2023 - 15:19

KBank เดินหน้าสู่เป้าหมาย Net Zero อย่างต่อเนื่อง ปรับเปลี่ยนการดำเนินงานภายในองค์กรเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในทุกมิติ พร้อมปักธง 4 อาคารหลัก มีของเสียไปสู่หลุมฝังกลบเป็นศูนย์ (Zero Waste to Landfill) ภายในปี 2566 นี้

kbank

พร้อมทั้ง เดินหน้าโครงการจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ รณรงค์สร้างการรับรู้และเปลี่ยนพฤติกรรมพนักงานภายในองค์กร ควบคู่กับการออกแคมเปญออนไลน์สำหรับบุคคลทั่วไปร่วมสนุกผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียของ KBank Live ตลอดเดือนมิถุนายน มุ่งหวังเป็นหนึ่งในจุดเริ่มต้นที่ดีที่จะช่วยสร้างความเข้าใจและการลงมือปฏิบัติจริงให้เกิดขึ้นในทุกภาคส่วน สร้างแรงกระเพื่อมให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรมไปด้วยกัน

กฤษณ์ จิตต์แจ้ง กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ ภาวะโลกรวน (Climate Change) ได้ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม เศรษฐกิจ และชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนทั่วโล ธนาคารกสิกรไทยตระหนักถึงความจำเป็นเร่งด่วนในเรื่องนี้ โดยได้ประกาศความมุ่งมั่นในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Commitment) ตั้งแต่ปี 2564 เพื่อสนับสนุนความพยายามของประชาคมโลกในการเปลี่ยนผ่านด้านสิ่งแวดล้อมครั้งนี้ 

หนึ่งในเป้าหมายสำคัญที่ธนาคารวางไว้ คือ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์จากการดำเนินงานของธนาคารภายในปี 2573 (ค.ศ.2030) โดยธนาคารได้เดินหน้าสร้างการเปลี่ยนแปลงภายในองค์กรอย่างต่อเนื่อง อาทิ การใช้ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ การใช้รถยนต์ไฟฟ้า การใช้น้ำมันที่มีส่วนผสมของน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพ การวางแผนปรับเปลี่ยนวัสดุในการทำงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การปรับกระบวนการทำงานและการให้บริการของธนาคารไปสู่ดิจิทัลเพิ่มมากขึ้นเพื่อให้การปล่อยคาร์บอนลดลงให้ได้มากที่สุด ควบคู่กับการส่งเสริมบุคลากรและทุกภาคส่วนให้มีความรู้ ความเข้าใจ เกิดพฤติกรรมที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมบนหลักปฏิบัติที่ถูกต้องและยั่งยืน

kbank

ภารกิจสำคัญอีกประการ คือ การจัดการขยะที่เกิดขึ้นจากการประกอบกิจกรรมในธุรกิจธนาคารโดยเฉพาะอาคารหลัก 4 แห่งของธนาคาร ได้แก่ สำนักงานใหญ่พหลโยธิน อาคารราษฎร์บูรณะ อาคารแจ้งวัฒนะ และอาคาร KBTG ซึ่งมีพนักงานหมุนเวียนใช้งาน รวมประมาณกว่า 8,000 คน ดังนั้น การลดการสร้างขยะและการแยกขยะให้ถูกวิธีตั้งแต่ต้นทางจะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างมีนัยสำคัญ ด้วยเป้าหมายสูงสุด คือ การทำให้ของเสียจากอาคารไปสู่หลุมฝังกลบเป็นศูนย์ (Zero Waste to Landfill) ในที่สุด ทั้งนี้ ธนาคารกสิกรไทยได้นำร่องดำเนินการเรื่องนี้ ตั้งแต่ปี 2565 ที่อาคาร KLOUD by KBank ต้นแบบพื้นที่ “กรีน” แห่งแรกในสยามสแควร์ ซึ่งเปิดให้บริการแก่ลูกค้าและบุคคลทั่วไป มีการใช้พลังงานหมุนเวียนร้อยละ 100 จากแหล่งหมุนเวียน และนับเป็นอาคารแรกของธนาคารที่มีระบบการจัดการโดยลดปริมาณของเสียไปสู่หลุมฝังกลบเป็นศูนย์ (Zero Waste to Landfill) 

เพื่อขับเคลื่อนการจัดการขยะให้เกิดผลลัพธ์อย่างยั่งยืน ธนาคารได้ตั้งเป้าหมายการจัดการขยะในอาคารสำนักงานหลักไปสู่หลุมฝังกลบเป็นศูนย์ สำหรับ 4 อาคาร ภายในปี 2566 นี้ โดยเดินหน้าติดตั้งถังขยะ 6 ประเภท เพื่อคัดแยกขยะ 6 ชนิด ได้แก่ เศษอาหาร วัสดุรีไซเคิล ขยะเผาเป็นพลังงาน ขยะปนเปื้อน ขยะอันตราย และขยะอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมกำหนดระบบการจัดการขยะของแต่ละถังอย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะสมตามหลัก Zero Waste ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางสุดท้าย เพื่อให้เหลือของเสียไปสู่หลุมฝังกลบน้อยลงและเป็นศูนย์ในที่สุด ควบคู่กับการให้ความรู้แก่พนักงานตระหนักถึงความสำคัญ มีความเข้าใจ และกระตุ้นให้เกิดการลงมือปฏิบัติจริง ผ่านแคมเปญสำหรับพนักงานในองค์กร “ทิ้งถูกไม่ถูกทิ้ง” ด้วย 3 ขั้นตอนง่าย ๆ “เท-แยก-ทิ้ง” โดยชวนพนักงานทั้งหมดมาเริ่มเปลี่ยนพฤติกรรมในการแยกขยะก่อนทิ้ง เน้นการให้ความรู้วิธีการแยกขยะและทิ้งให้ถูกถัง เพื่อให้ขยะไม่ถูกทิ้งอย่างไร้ค่า สามารถนำไปจัดการต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมสร้างพฤติกรรมการทิ้งขยะให้ถูกต้อง 

kbank

นอกจากนี้ ธนาคารให้ความสำคัญกับการส่งเสริมให้ลูกค้าและประชาชนเปลี่ยนผ่านไปสู่สังคมคาร์บอนเป็นศูนย์ไปด้วยกัน ด้วยการสนับสนุนให้เกิดการแยกขยะอย่างเป็นระบบด้วยการสื่อสารผ่านช่องทางต่าง ๆ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชนในวงกว้าง ล่าสุด ธนาคารกสิกรไทยจัดกิจกรรมแคมเปญออนไลน์ “แยกครั้งนี้…พี่ภูมิใจ” เชิญชวนบุคคลทั่วไปให้โพสต์ภาพวิธีการแยกขยะในแบบของตัวเอง พร้อมอธิบายว่าการแยกขยะจะช่วยโลกได้อย่างไร โดยมีผู้สนใจร่วมสนุกผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียของ KBank Live อย่างต่อเนื่อง ตลอดเดือนมิถุนายน 2566 ซึ่งเป็นเดือนแห่งวันสิ่งแวดล้อมโลก ความเห็นที่ได้รับคัดเลือกจะได้รับรางวัลเป็นถังขยะรีไซเคิลแบบกล่องกระดาษ จำนวน 300 รางวัล

kbank

กฤษณ์ กล่าวตอนท้ายว่า เดือนแห่งวันสิ่งแวดล้อมโลกเป็นหมุดหมายหนึ่งที่กระตุ้นเตือนให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของเรื่องนี้ โดยธนาคารมุ่งมั่นในการดำเนินงานต่าง ๆ สู่ Net Zero อย่างต่อเนื่อง และมุ่งหวังให้แผนงานและแคมเปญสื่อสารของธนาคารที่เกิดขึ้นจะเป็นหนึ่งในจุดเริ่มต้นที่ดีที่จะช่วยสร้างความเข้าใจและการลงมือปฏิบัติจริงให้เกิดขึ้นในทุกภาคส่วน นำไปสู่การปรับเปลี่ยนธุรกิจและไลฟ์สไตล์ที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และช่วยกันสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นจริง เพื่อร่วมกันส่งมอบโลกที่ดีกว่าให้คนรุ่นต่อไป

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post KBank จัดการขยะใน 4 อาคารหลัก ตั้งเป้าเป็น Zero Waste to Landfill ภายในปี 66 นี้ first appeared on Brand Inside.

7 สิ่งที่ทำให้ MacBook Air 15” น่าซื้อ

iPhonemod - 26 June 2023 - 14:50

พาชม 7 สิ่งที่ทำให้ MacBook Air 15″ รุ่นใหม่ที่ใช […] More

The post 7 สิ่งที่ทำให้ MacBook Air 15” น่าซื้อ appeared first on iMoD.

ธนจิรา ตัวแทน Pandora กับ Marimekko และเจ้าของแบรนด์ HARNN เตรียม IPO ในตลาดหลักทรัพย์

Brand Inside - 26 June 2023 - 12:25

บมจ. ธนจิรา รีเทล คอร์ปอเรชั่น หรือ TAN ผู้นำเข้า และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์แฟชั่นระดับลักชัวรี เช่น Pandora กับ Marimekko เตรียมยื่นแบบไฟลิ่งต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อเสนอขาย IPO ไม่เกิน 77.5 ล้านหุ้น เตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย SET

Tanachira

รู้จักธุรกิจ ธนจิรา

ธนพงษ์ จิราพาณิชกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ธนจิรา รีเทล คอร์ปอเรชั่น หรือ TAN เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัทฯ ประกอบธุรกิจนำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์และแฟชั่นจากต่างประเทศที่เป็นแบรนด์ชื่อดังระดับโลก เพื่อจัดจำหน่ายในประเทศไทย และต่างประเทศ ประกอบด้วย

  • Pandora เครื่องประดับเงินชั้นนำจากประเทศเดนมาร์ก
  • Marimekko ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ที่โดดเด่นด้านลายพิมพ์และสีสันจากประเทศฟินแลนด์
  • Cath Kidston ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์กลิ่นอายโมเดิร์นวินเทจจากประเทศอังกฤษ

นอกจากนี้ ยังมีแบรนด์ผลิตภัณฑ์ของกลุ่มบริษัทฯ 2 แบรนด์ ได้แก่ HARNN ผลิตภัณฑ์บอดี้แคร์ สกินแคร์ สปา และอโรมาเทอราพี และ Vuudh ผลิตภัณฑ์เครื่องหอมสไตล์ไทยร่วมสมัย กลุ่มบริษัทฯ ยังได้ขยายธุรกิจไปยังธุรกิจสปา มี 4 แบรนด์ย่อย ได้แก่

  • HARNN Heritage Spa
  • The Spa by HARNN
  • By HARNN
  • Scape by HARNN

ทั้งหมดนี้มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่แตกต่างกัน ตั้งแต่ระดับลักซ์ชัวรี อัปเปอร์สเกลหรือบูทีค ลักชัวรีแอนด์ไลฟ์สไตล์ และพรีเมียม รวมถึงกลุ่มบริษัทฯ ยังมีการประกอบธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องอื่น เช่น ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ภายใต้ชื่อ Marimekko pop-up café และ Cath Kidston Tearoom อีกด้วย

Tanachira

เน้นกลุ่มลูกค้า Y-W-N

ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทฯ มีช่องทางการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายเพื่อเพิ่มช่องทางการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายหลัก ทั้งกลุ่มลูกค้ารายย่อย ที่เรียกว่า กลุ่ม Y-W-N (Youth-Women-Neitizens) ที่เป็นคนรุ่นใหม่ ผู้หญิงวัยรุ่นและวัยทำงานที่มีรายได้ปานกลางถึงสูง และกลุ่มลูกค้าธุรกิจ เช่น โรงแรม, ตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ เป็นต้น

ทางบริษัทมีช่องทางจัดจำหน่ายสินค้า และให้บริการผ่าน 3 ช่องทางหลัก ได้แก่

  • หน้าร้านสาขาคอนเซปต์ สโตร์ และช้อปอินช้อป โดย ณ 31 ธ.ค. 2565 กลุ่มบริษัทฯ มีจำนวนสาขารวม 129 สาขา แบ่งเป็น ในประเทศ 114 สาขา และต่างประเทศอีก 15 สาขา
  • ช่องทางการจัดจำหน่ายแบบออนไลน์ กลุ่มบริษัทฯ เล็งเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคหลังการแพร่ระบาดโควิด-19 จึงเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มการซื้อขายออนไลน์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งแพลตฟอร์มการซื้อขายผ่านโซเชียลมีเดีย
  • ช่องทางการจัดจำหน่ายอื่น ๆ เช่น การขายผ่านตัวแทนจำหน่ายในต่างประเทศ การจำหน่ายให้แก่ลูกค้าองค์กร  และงานอีเวนต์ต่าง ๆ ที่จัดขึ้นเป็นครั้งคราวสำหรับการจำหน่ายสินค้าลดราคา และการจำหน่ายบัตรกำนัลสำหรับสปา

ล่าสุด บริษัทฯ ได้แต่งตั้ง บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 77.5 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 25.8 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ

ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญครั้งนี้ โดยบริษัทฯ มีแผนนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้เป็นส่วนหนึ่งของเงินลงทุนสำหรับการขยายระบบนิเวศทางธุรกิจ ชำระคืนเงินกู้ยืมให้กับสถาบันการเงิน และชำระคืนเงินกู้อื่นๆ ที่กลุ่มบริษัทฯ อาจมีขึ้นในอนาคต รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนและการดำเนินการต่างๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อกิจการ

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post ธนจิรา ตัวแทน Pandora กับ Marimekko และเจ้าของแบรนด์ HARNN เตรียม IPO ในตลาดหลักทรัพย์ first appeared on Brand Inside.

คุยกับ Index Living Mall คนยุคใหม่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม เฟอร์นิเจอร์ยุคใหม่ก็ต้องใส่ใจเช่นกัน

Brand Inside - 26 June 2023 - 12:10

กระแสเรื่องรักษ์โลกมาแรงขึ้นเรื่อยๆ ส่วนหนึ่งเพราะคนไทยรับรู้ได้ถึงอากาศที่ร้อนขึ้นแบบชัดเจน ยิ่งปีนี้จะมีปรากฏการณ์เอลนีโญ แปลง่ายๆ ว่า ฝนจะไปตกหนักที่อเมริกาใต้แต่แห้งแล้งหนักๆ ที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมีประเทศไทยอยู่ในนั้นด้วย ดังนั้นคนไทยต้องสนใจเรื่องนี้จริงจังแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ รวมถึงภาคธุรกิจเองก็ต้องเข้ามามีส่วนร่วมด้วยเช่นกัน

index living mall

เรื่อง ESG หรือ Environment, Social และ Governance จึงเป็นเรื่องที่ธุรกิจยุคใหม่ต้องทำและถูกบังคับให้ทำด้วย แต่ก็เป็นประเด็นที่น่าติดตามต่อไม่น้อย เพราะสินค้าและบริการที่สอดคล้องกับด้าน ESG จะทำให้มีต้นทุนที่สูงขึ้น และส่งผลให้ค่าสินค้าหรือบริการสูงขึ้นตามไปด้วย ในสถานการณ์ที่เศรษฐกิจชะลอตัวทั่วโลกแบบนี้ คนจะยอมจ่ายเงินมากขึ้นเพื่อดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างนั้นหรือ?

ต้นทุนเพิ่มขึ้นจริง แต่ก็ต้องทำจริง สิ่งแวดล้อมรอไม่ได้

กฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ ILM บอกว่า เป็นเรื่องจริงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ภาคธุรกิจต้องเข้ามาสนใจเรื่องสิ่งแวดล้อมและสังคม และก็เป็นความจริงที่สุดที่ต้นทุนในการทำธุรกิจสูงขึ้นประมาณ 30% ดูง่ายๆ การจะผลิตเฟอร์นิเจอร์ที่ลดการใช้งาน ลดการใช้สารเคมี จัดการฝุ่นและขยะ ปรับเปลี่ยนการขนส่ง ทุกอย่างคือต้นทุนทั้งหมด แต่ก็เป็นสิ่งที่ต้องทำ และทำทันที

index living mall

ILM ทำเรื่อง ESG มาตลอดหลายปีที่ผ่านมา สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจของตลาดตอนนี้คือ พฤติกรรมผู้บริโภคที่มาสนใจสินค้าและบริการที่ตอบรับกับความยั่งยืน สะท้อนให้เห็นว่าเรื่องนี้เป็นสิ่งที่แบรนด์ต้องให้ความสำคัญมากขึ้น แม้ราคาจะสูงกว่า สินค้าบางชิ้นก็ไม่ได้มีสีสันสวยงามเพราะมาจากวัสดุรีไซเคิล แต่ก็ได้รับความสนใจอย่างคาดไม่ถึง สร้างยอดขายให้ไม่น้อยเช่นเดียวกัน

สำหรับ 5-6 ปีที่ผ่านมา ILM เน้นตั้งแต่เรื่องพลังงาน มีการติดตั้ง Solar Roof Top ด้านบนของ Index Living Mall เพื่อใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์มากขึ้น มีการจัดการ Waste Management การจัดการวัสดุส่วนเกินที่เกิดจากการผลิต, กระบวนการผลิตมีการติดตั้งระบบช่วยลดฝุ่นไม่ให้ฟุ้งกระจาย เพราะรู้ว่าปัญหา PM2.5 คือสิ่งที่กระทบกับชีวิตผู้บริโภค

index living mall

Eco-Product Design ออกแบบอย่างไรให้ตอบโจทย์สิ่งแวดล้อม และคนใช้งาน

หนึ่งในรูปแบบที่ ILM สร้างสรรค์เพื่อให้ได้สินค้าที่เน้นสิ่งแวดล้อมคือการทำ Eco-Product Design ที่เน้นตั้งแต่การออกแบบผลิตภัณฑ์ การผลิต จัดจำหน่ายและส่งถึงลูกค้า

กฤษชนก บอกว่า หนึ่งในสิ่งที่น่าสนใจคือการ Upcycled Product เช่น เฟอร์นิเจอร์ไม้สัก ทุกคนรู้ว่าไม้สักมีจำนวนจำกัดแต่ยังเป็นวัตถุดิบที่มีความต้องการ ดังนั้นในการผลิตเฟอร์นิเจอร์ไม้สัก จะใช้วิธีนำไม้สักเก่ามาเข้ากระบวนการเพื่อผลิตเป็นเฟอร์นิเจอร์ใหม่ ดีไซน์ใหม่ ในราคาที่ย่อมเยาลง และยั่งยืนเพราะสามารถใช้ได้นาน

index living mall

สินค้าตกแต่งบ้าน เช่น พลาสติกรีไซเคิลมีการจัดโซนสินค้าประเภทนี้โดยเฉพาะ ผ้าม่านที่กระบวนการผลิตใช้น้ำน้อย ไม่ใช้สารฟอกขาวซึ่งเป็นอันตรายกับสิ่งแวดล้อม ผ้าม่านที่ช่วยป้องกันความร้อนในบ้าน ช่วยผู้บริโภคในการประหยัดไฟฟ้าจากการเปิดแอร์ ก็ได้รับการตอบรับที่ดีมาก

นอกจากนี้ในกระบวนการ Waste Management ปกติ ILM มีการจัดการขยะเพื่อให้ง่ายต่อการรีไซเคิลอยู่แล้ว ทั้งกระดาษ พลาสติก ทำได้อย่างถูกวิธี รวมถึงเรื่องการขนส่ง มีการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในการขนส่ง โดยอยู่ระหว่างการทดลองขนสินค้าจากศูนย์กระจายสินค้า ไปที่สาขา Index Living Mall เพื่อลดการปล่อยคาร์บอน ถ้าทำได้ดีเตรียมขยายผลในการใช้งาน รวมถึงการส่งไปถึงบ้านลูกค้าด้วย

index living mall

จับมือชุมชนคีรีวง พัฒนาสินค้าใหม่ สร้างรายได้ให้ชุมชน

ILM มีสินค้าใหม่ที่เพิ่งเปิดตัว คือ ชุดห้องนอน Summer Theme ใช้ผ้ามัดย้อมครามธรรมชาติ จากชุมชนคีรีวง จ.นครศรีธรรมราช โดยเข้าไปร่วมมือกับชุมชน ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นธรรมชาติทั้งหมด มีการช่วยพัฒนาเทคนิคในการผลิตเพื่อมาใช้งานร่วมกับเฟอร์นิเจอร์ ตัวไม้ทำจากไม้ยางพารา ที่เป็นป่าปลูก 100% ไม่ได้ตัดไม้จากป่าธรรมชาติ และมาจากไม้ยางพาราที่ไม่ผลิตน้ำยางแล้ว ยังไงก็ต้องโค่นทิ้งแน่นอน ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มจากไม้ยางพาราที่ไม่มีน้ำยางแล้ว

แต่แน่นอนว่าการทำเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ ก็ยังจำเป็นต้องใช้ไม้เป็นส่วนประกอบ ดังนั้น ILM ได้ร่วมมือกับ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) จัดโครงการปลูกต้นไม้ในพื้นที่ต่างๆ เป็นการคืนไม้ให้กับธรรมชาติด้วย ซึ่งที่ผ่านมาก็ทำมาตลอด แต่จากนี้ไปจะเน้นมากขึ้นกว่าเดิม

index living mall

จริงอยู่ที่ว่า นี่คือสินค้ากระแส แต่ไม่ใช่กระแสชั่วคราว เป็นกระแสระยะยาวแน่นอน โลกฝั่งตะวันตกให้ความสนใจเรื่องนี้มาก และเชื่อว่าโลกฝั่งตะวันออกจะสนใจเรื่องนี้มากขึ้นเรื่อยๆ แม้หลายคนอาจจะมองว่า โลกร้อนไม่เกี่ยวอะไรกับเรา แต่ตอนนี้เห็นชัดว่า อากาศร้อนมากขึ้น ฝุ่น PM2.5 เรียกว่า คนได้รับความเดือดร้อนแล้วโดนตรง ซึ่งธุรกิจต้องปรับตัวและเข้ามามีส่วนช่วยในจุดนี้ให้มากขึ้น เชื่อได้ว่าในอีกไม่เกิน 10 ปี ถ้าไม่ช่วยกันจะเจอกับปัญหาที่หนักขึ้นอีก

พฤติกรรมผู้บริโภคตระหนักเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ดูจากสินค้าของ ILM ก็ได้รับการตอบรับที่ดี พลาสติกรีไซเคิล สีไม่สวย ราคาสูงกว่า แต่ก็ยังขายได้ดีเกินคาด แปลว่ามีคนจำนวนมากที่ยินดีจะจ่าย ซึ่งก็เป็นสิ่งที่น่าดีใจ และสินค้าลักษณะนี้ก็จะออกสู่ตลาดมากขึ้นเรื่อยๆ แต่จะเร็วพอที่จะช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อมหรือไม่ เป็นคำถามที่ทุกคนต้องช่วยกัน รวมถึงภาคธุรกิจด้วย

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post คุยกับ Index Living Mall คนยุคใหม่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม เฟอร์นิเจอร์ยุคใหม่ก็ต้องใส่ใจเช่นกัน first appeared on Brand Inside.

Pages