LG เคยประกาศเอาไว้ว่าจะเปิดตัวมือถือใหม่ V20 พร้อม Android 7.0 Nougat เวอร์ชันใหม่ล่าสุด ถึงแม้เรายังไม่รู้ว่า LG V20 จะเปิดตัวจริงๆ เมื่อไร (เพราะ Nougat ก็ยังไม่ออกรุ่นจริง) แต่ LG ก็เริ่มทดสอบ Nougat กับมือถือเรือธงรุ่นก่อนหน้าอย่าง LG G5 แล้ว

อย่างไรก็ตาม โครงการนี้จำกัดเฉพาะ LG G5 รุ่นขายในเกาหลีใต้กับเครือข่าย LG U+ เท่านั้น แถมยังจำกัดจำนวนผู้ทดสอบแค่ 2,000 คน

ถือเป็นสัญญาณอันดีของ LG ว่าเอาจริงกับ Nougat พอสมควรครับ

ที่มา - LG via Android Community

อินเทลประกาศความร่วมมือกับ ARM รองรับชุดบล็อคออกแบบพื้นฐาน Artisan Physical IP สำหรับผลิตชิปในโรงงานของอินเทล ทำให้ลูกค้าที่ต้องการสั่งผลิตซีพียูสามารถใช้บล็อกพื้นฐานในการออกแบบซีพียูของตัวเองได้ โดย LG Electronics เป็นลูกค้ารายแรกที่ประกาศสั่งผลิตชิป ARM ด้วยเทคโนโลยีสูงสุด 10nm

อินเทลเปิดธุรกิจรับผลิตชิปมาตั้งแต่ปี 2010 และผลิตชิปที่เป็นคอร์ ARM มาตั้งแต่ปี 2013 แต่ก่อนหน้านี้โรงงานของอินเทลไม่เคยซัพพอร์ตบล็อคซีพียูเหล่านี้โดยตรง

ค่าย LG ออกมาให้ข่าวสั้นๆ ว่าจะเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงประจำครึ่งหลังของปี โดยใช้ชื่อว่า LG V20 ในเดือนกันยายนนี้

ข้อมูลของ LG V20 ตอนนี้ยังบอกแค่ว่าจะรัน Android 7.0 Nougat มาตั้งแต่ต้น ถือเป็นครั้งแรกที่ LG สามารถเปิดตัวสมาร์ทโฟนไล่หลังระบบปฏิบัติการรุ่นล่าสุดของกูเกิลด้วย

LG V20 เป็นภาคต่อของ LG V10 ที่เปิดตัวในเดือนตุลาคมปีที่แล้ว และได้รับคำชมไปพอสมควรจากลูกเล่นทั้งหน้าจอคู่ และกล้องหน้าคู่

ผลประกอบการไตรมาสล่าสุดของ LG Mobile ออกมาไม่ดีนัก เหตุเพราะ LG G5 มือถือเรือธงรุ่นต้นปีไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ต้องรอดูว่า LG จะสามารถแก้มือกับ V20 ได้แค่ไหนครับ

LG ประกาศผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ปี 2016 มีรายได้ 14 ล้านล้านวอน โตขึ้น 4.8% และกำไร 584.6 พันล้านลอน เติบโตขึ้น 140% จากปีก่อนหน้า โดยเป็นผลมาจากธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน (Home Appliance & Air Condition) และธุรกิจทีวี-เครื่องเสียง (Home Entertainment) ทำกำไรได้มากเป็นประวัติการณ์

อย่างไรก็ตาม ตัวปัญหากลับกลายเป็นธุรกิจมือถือ LG Mobile Communications ที่รายได้ 3.3 ล้านล้านวอน (โต 12%) แต่กลับขาดทุน 153.5 พันล้านวอน อันเป็นผลจากยอดขาย LG G5 ที่ไม่เป็นไปตามเป้า ยอดขายสมาร์ทโฟนของไตรมาสนี้ 13.9 ล้านเครื่อง โตขึ้น 3%

LG Mobile ประเมินว่าในไตรมาสที่ 3 สถานการณ์จะกลับมาดีขึ้น อันเป็นผลจากการเปิดตัวสมาร์ทโฟนระดับกลางซีรีส์ K และ X รวมถึงสมาร์ทโฟนซีรีส์ V ตัวใหม่ด้วย

ท่ามกลางกระแสความนิยมของหน้าจอ LED ที่มีมากขึ้นเรื่อยๆ ทาง LG Display ประกาศลงทุนเพิ่มสายการผลิตในโรงงานผลิตหน้าจอ OLED ทั้งขนาดเล็กและขนาดกลางอีกกว่า 1.75 พันล้านเหรียญสหรัฐ

สายการผลิตนี้จะพร้อมเริ่มการผลิตจำนวนมากประมาณครึ่งหลังของปี 2018 และคาดว่าจะผลิตเพิ่มเติมได้ประมาณ 15,000 แผ่นต่อเดือน ทั้งนี้คาดว่าการลงทุนครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งความพยายามของ LG Display ในการตีตลาดสู้ Samsung Display ที่ครองตลาดผู้ผลิต OLED อยู่ในขณะนี้

ที่มา - Engadget

ช่วงนี้เราเห็นข่าวความร่วมมือระหว่างบริษัทไอทีกับบริษัทรถยนต์ออกมาเรื่อยๆ รายล่าสุดคือ LG Electronics ประกาศจับมือ Volkswagen Group ของเยอรมนี ร่วมกันพัฒนารถยนต์ที่เชื่อมต่อเน็ตได้ (connected car)

จุดสำคัญของความร่วมมือนี้คือการทำงานร่วมกันระหว่างรถยนต์ต่อเน็ตของ Volkswagen กับบ้านอัจฉริยะของ LG เพื่อให้เจ้าของรถสามารถควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ในบ้านได้ระหว่างขับขี่ ทั้งสองบริษัทเคยร่วมกันพัฒนารถยนต์ต้นแบบมาก่อนแล้วในปี 2015

LG ประเทศไทยเปิดตัว OLED TV E6T สมาร์ททีวีความละเอียด 4K ระดับไฮเอนด์ พร้อมคำนิยาม Perfect Picture on Glass ที่ต้องการสื่อถึงความสมจริงและสมบูรณ์แบบของการแสดงผลบนหน้าจอ

E6T รุ่นนี้เปิดตัวมาพร้อมกับเทคโนโลยี OLED HDR ใหม่ของทาง LG ที่เพิ่มช่วงรับแสงของภาพให้สูงกว่าปกติ และเทคโนโลยีเม็ดพิกเซลเป็นแหล่งกำเนิดแสงด้วยตัวเอง ทำให้สามารถแสดงผลสีดำได้ดำสนิท ขณะที่ยังคงแสดงสีสันได้สมจริงและเป็นธรรมชาติ พร้อมรองรับการชมแบบ 3 มิติ

สมาร์ททีวีรุ่นนี้รันอยู่บน webOS 3.0 พร้อมด้วยระบบเสียงที่ทาง LG พัฒนาร่วมกับ Harman Kardon บนความบางของตัวเครื่องเพียง 6.5 มิลลิเมตร วางจำหน่ายในขนาด 65 นิ้วราคา 249,990 บาท

จากความล้มเหลวในยอดขายของเรือธงตัวล่าสุดอย่าง G5 ทำให้ทาง LG สั่งปลด Cho Juno ประธานฝ่ายธุรกิจมือถือ ไปดูแลฝ่าย Program Management Office ซึ่งตั้งขึ้นมาใหม่ภายใต้ธุรกิจมือถือ โดยยังไม่มีการแต่งตั้งคนที่จะเข้ามานั่งตำแหน่งนี้แทน

Program Management Office หรือ PMO เป็นฝ่ายที่ดูแลเรื่องการพัฒนาอุปกรณ์ การผลิต การตลาดและการจำหน่าย โดยมี Oh Hyung-hoon อดีตหัวหน้าฝ่ายวิจัยมานั่งเป็นประธาน ขณะเดียวกัน LG ก็แต่งตั้ง Kim Hyung-jeong รองประธานอาวุโสมานั่งเก้าอี้หัวหน้าฝ่ายวิจัยแทน

ทั้งนี้ LG ฝั่งธุรกิจมือถือกำลังประสบปัญหาครั้งใหญ่ หลัง Gartner รายงานว่าส่วนแบ่งตลาดในช่วงไตรมาสแรกของปีรั้งอันดับ 7 ของโลก มีส่วนแบ่งอยู่ที่น้อยกว่า 4%

เว็บไซต์ Business Korea รายงานว่า LG ประสบความสำเร็จในการพัฒนาสมาร์ทโฟน ที่รองรับการชาร์จไร้สายด้วยคลื่นแม่เหล็กในรูปแบบของ Magnetic Resonance ซึ่งจะช่วยให้ชาร์จแบตเตอรี่ได้ไกลสูงสุด 7 เซนติเมตร และกำลังอยู่ระหว่างการวางแผนเพื่อนำออกสู่ตลาดด้วย

การชาร์จแบบนี้จะแตกต่างจากการชาร์จไร้สาย ที่อาศัยหลักการเหนี่ยวนำแม่เหล็กตรงที่ว่า สมาร์ทโฟนจะไม่จำเป็นต้องอยู่ติดกับแท่นชาร์จ รวมถึงชาร์จได้รวดเร็วกว่า กำลังไฟที่สามารถรองรับได้สูงสุดถึง 7 วัตต์

นอกจาก LG ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนของจีนหลายเจ้าอย่าง Huawei, Oppo และ Meizu ก็เตรียมนำเทคโนโลยีมาใช้ในสมาร์ทโฟนของตัวเองเร็วๆ นี้เช่นกัน

ในปีที่ผ่านมานอกเหนือจากสมาร์ทโฟนเรือธงอย่าง G5 แล้ว LG ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนตระกูล X เป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางที่มี 2 รุ่น คือ X Cam สมาร์ทโฟนกล้องคู่ และ X Screen สมาร์ทโฟนที่มีจอที่ 2 ขนาดเล็กเพิ่มขึ้นมา และล่าสุด LG ได้ร่วมมือกับ Marvel เตรียมออกสมาร์ทโฟนบรรดา X ในรูปแบบธีม X-Men ซึ่งนอกจากจะมีทั้ง X Cam และ X Screen ที่จะออกแบบพิเศษมาให้ชมแล้ว ยังมีสมาร์ทโฟนรุ่นน้องที่เตรียมเปิดตัวอีก 4 รุ่นในธีม X-Men นี้ด้วย

นักวิจัยด้านความปลอดภัยของ Check Point พบ 2 ช่องโหว่ ที่ทำให้สมาร์ทโฟน LG ทุกรุ่นตกอยู่ในความเสี่ยงว่าอาจถูกแฮคเครื่องได้ โดยทาง Check Point ได้แจ้งเรื่องช่องโหว่เหล่านี้ให้ LG รับทราบและดำเนินการแก้ปัญหาแล้ว ก่อนที่ทาง Check Point จะนำเรื่องนี้มาเปิดเผยในงานประชุม LayerOne 2016 ที่ Las Vegas

ช่องโหว่เหล่านี้ ถูกพบเฉพาะในสมาร์ทโฟนของ LG เท่านั้น

LG กลับมาทำตลาดมือถือในประเทศไทยอีกครั้งหลังจากหยุดขายไปเมื่อปลายปีที่แล้ว การกลับมารอบนี้ใช้วิธีจับมือกับร้าน TG Fone นำมือถือเข้ามาขายสองรุ่นคือ LG G5 SE (G5 รุ่น Snapdragon 652) และ LG Stylus 2 มือถือจอใหญ่มีปากกา

สินค้าจะเริ่มเปิดจองในวันที่ 19 พฤษภาคมนี้ ทั้งที่งาน Thailand Mobile Expo และร้าน TG Fone โดย LG G5SE ราคา 21,900 บาท และ LG Stylus 2 8,790 บาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว (TG Fone เป็นคนจัดจำหน่าย แต่เข้าศูนย์บริการ LG ได้ตามปกติ)

LG ได้เปิดตัวกล้องแอคชันที่ทาง LG เคลมว่าเป็นกล้องตัวแรกที่รองรับ LTE ได้ทั่วโลก โดยกล้องของ LG รองรับการถ่ายวิดีโอที่ความละเอียด UHD 30fps, FullHD 60fps และ HD 120fps ขณะที่การถ่ายทอดสดรองรับที่ความละเอียด HD 30fps ส่วนความละเอียดของภาพถ่ายอยู่ที่ 12.3 ล้านพิกเซล

ตัวกล้องรองรับ micro SD ได้สูงสุดถึง 2TB แรม 2GB และรองรับการเชื่อมต่อผ่าน LTE, 3G, Wi-Fi 802.11 b,g,n, Bluetooth 4.1 และ USB Type-C น้ำหนักอยู่ที่ 95 กรัม พร้อมมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP67 อยู่ใต้น้ำได้ลึกสุด 1 เมตรนาน 30 นาที ขณะที่แบตเตอรี่อยู่ที่ 1,400 mAh ซึ่งสามารถถ่ายวิดีโอที่ความละเอียด HD ได้สูงสุด 4 ชั่วโมง

ส่วนราคาและวันวางจำหน่ายจะมีการประกาศอีกครั้งครับ

คณะกรรมการการค้าของสหรัฐฯ (FTC) ส่งจดหมายเปิดผนึกไปยัง 8 บริษัทไอทีชั้นนำในสหรัฐ ไล่ไปตั้งแต่ Apple, BlackBerry, Google, HTC, Microsoft, Samsung, LG และ Motorola ให้รายงานถึงนโยบายและกระบวนการแก้ปัญหาช่องโหว่ด้านความปลอดภัยและการอัพเดตแพทช์บนสมาร์ทดีไวซ์ ให้กับทาง FTC

ประเด็นสำคัญที่บริษัทไอทีเหล่านี้ จะต้องรายงานแก่ FTC คือรายละเอียดของอุปกรณ์ที่วางขายตั้งแต่ปี 2013, ช่องโหว่ที่อุปกรณ์เหล่านั้นได้รับผลกระทบ, รายละเอียดว่าได้แก้ปัญหาช่องโหว่เหล่านั้นหรือไม่และเมื่อไหร่ และปัจจัยที่ส่งผลต่อการติดสินใจอัพเดต (หรือไม่อัพเดต) แพทช์เพื่ออุดช่องโหว่ด้านความปลอดภัย

ITC (คณะกรรมการการค้าของสหรัฐอเมริกา) ได้เริ่มทำการสืบสวนผู้ผลิตสมาร์ทโฟน 7 ราย ว่าผลิตภัณฑ์ของบริษัทดังกล่าวละเมิดสิทธิบัตรเกี่ยวกับการเล่นไฟล์สื่อหรือไม่ ซึ่งงานนี้หากผลการสืบสวนออกมาว่าเป็นการละเมิดจริง ITC จะสั่งระงับการนำเข้าผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องมาขายในสหรัฐอเมริกา

ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนที่ว่านั้นมีด้วยกัน 8 แบรนด์ (จาก 7 บริษัท) ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นแบรนด์อันเป็นที่รู้จักกันดีทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น Samsung, Sony, LG, HTC, ZTE, Lenovo, Motorola และ BlackBerry

ขณะที่การใช้งานลายนิ้วมือเพื่อความปลอดภัยบนสมาร์ทโฟนเริ่มแพร่หลายมากขึ้น ผู้ผลิตหลายเจ้าเลือกที่จะใส่เซ็นเซอร์อ่านลายนิ้วมือไว้บนปุ่มโฮมด้านหน้า บ้างก็ย้ายไปไว้ด้านหลัง แต่ล่าสุดทาง LG ได้ประกาศว่าสามารถพัฒนาเซ็นเซอร์อ่านลายนิ้วมือขนาดเล็ก ที่สามารถติดตั้งเอาไว้ภายใต้หน้าจอที่บางกว่า 0.03 มิลลิเมตรของสมาร์ทโฟนได้แล้ว

โมดูลเซ็นเซอร์แบบใหม่นี้ทาง LG ระบุว่ามีความแม่นยำไม่แพ้แบบที่อยู่บนปุ่มโฮมแม้แต่น้อย ทั้งนี้ LG ไม่ได้เปิดเผยว่าจะนำมาใช้บนสมาร์ทโฟนของตัวเองเมื่อไหร่ ระบุแต่เพียงว่ามีการพูดคุยกับผู้ผลิตสมาร์ทโฟนเจ้าอื่นๆ ในการนำโมดูลอ่านลายนิ้วมือนี้ไปใช้บนสมาร์ทโฟนภายในปีนี้

หลังเปิดตัวมาตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สื่อนอกบางเจ้าก็เริ่มได้ LG G5 มาทดสอบและปล่อยรีวิวออกมาบ้างแล้ว อย่างทาง Android Police ที่ระบุว่า ถึงแม้ LG เหมือนจะพยายามตีตื้นขึ้นมาในตลาดเรือธงด้วย LG G3 และ G4 ก็ตาม แต่ทว่า G5 ที่ออกมาล่าสุดนั้น เหมือน LG ทำพังด้วยมือของตัวเองก็ไม่ปาน และเมื่อดูราคาที่แพงพอๆ กับ Galaxy S7 แล้ว G5 แทบจะไม่มีอะไรดึงดูดให้ซื้อเลยก็ว่าได้

Cho Ju-no ประธานฝ่ายธุรกิจมือถือของ LG ให้สัมภาษณ์ว่ามือถือเรือธงตัวล่าสุด LG G5 สร้างความแตกต่างให้กับลูกค้าได้มากกว่าผลิตภัณฑ์ของคู่แข่ง

เขาพูดถึง iPhone SE ว่าเป็นการออกสินค้าใหม่โดยใช้เทคโนโลยีเก่า ซึ่ง LG จะไม่มีวันทำแบบนี้

Cho ยังเล่าแผนการเปิดตัว LG Pay ว่าจะเปิดตัวในครึ่งแรกของปีนี้ ส่วนแนวคิดเรื่องโมดูลของ LG G5 ที่ถอดเปลี่ยนได้ บริษัทยังไม่ตัดสินใจว่าจะใช้กับมือถือรุ่นอื่นๆ ในอนาคตด้วยหรือไม่

หลังมีข่าวออกมาไม่กี่วัน LG ก็จัดงานสัมมนาสำหรับนักพัฒนาที่สนใจสร้างมอดูลสำหรับ LG G5 ขึ้นที่กรุงโซลไปเรียบร้อยแล้ว ในงานทาง LG ได้กล่าวถึงชุดเครื่องมือสำหรับพัฒนาซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์มอดูลต่างๆ พร้อมแผนการเปิดเว็บไซต์เป็นพื้นที่กลางให้นักพัฒนามาประกาศขายมอดูลของตนเองได้ด้วย

LG เรียกกลุ่มอุปกรณ์มอดูลสำหรับถอดเปลี่ยนกับเครื่อง G5 รวมๆ ว่า LG Friends ซึ่งเว็บไซต์ให้นักพัฒนามาขายมอดูลกันในอนาคตก็จะใช้ชื่อ lgfriends.com โดยเว็บไซต์นี้จะเปิดให้บริการในวันที่ 21 เมษายน ซึ่งทาง LG ก็จะเปิดให้ผู้สนใจใช้งานได้ทั้งในนามของบริษัทหรือนักพัฒนาอิสระ

LG ประกาศเตรียมจัดงานสัมมนาสำหรับนักพัฒนา โดยจะมีการให้ความรู้และให้คำปรึกษาเรื่องการสร้างมอดูลสำหรับ LG G5 สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นล่าสุดของ LG ที่มีจุดเด่นเรื่องการถอดเปลี่ยนชิ้นส่วนมอดูลท้ายตัวเครื่องได้

ตอนเปิดตัว G5 ทาง LG ได้เปิดตัวมอดูลที่สามารถถอดเปลี่ยนได้ 2 แบบ คือ CAM Plus ซึ่งเน้นสำหรับควบคุมการถ่ายภาพ และ Hi-Fi Plus มอดูลสำหรับระบบเสียง ซึ่งทาง LG ก็ตั้งเป้าหวังให้ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ภายนอกหันมาทำมอดูลสำหรับ G5 กันด้วย จึงเป็นที่มาของงานสัมมนานี้ โดยในตอนนี้ LG ยังไม่ระบุวันและสถานที่จัดงานอย่างชัดเจน

สิ่งที่น่าสนใจคือมีผู้ให้ความเห็นว่าการที่ LG ลงทุนจัดงานเพื่อจูงใจนักพัฒนาในการสร้างมอดูลของ G5 นั้น อาจเป็นไปได้ว่าแนวคิดมอดูลสำหรับสมาร์ทโฟนอาจเป็นแผนระยะยาวที่ LG จะนำไปใช้กับผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ๆ ในอนาคตด้วย

ที่มา - Android Authority

นอกจากจะเปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงตัวใหม่ที่จะไม่มีขายในไทยอย่าง LG G5 ไปแล้ว ในงานเดียวกัน LG ยังมาโชว์ของใหม่สำหรับใช้ในยุคสมาร์ทโฮมอย่าง LG Rolling Bot หุ่นยนต์พ่อบ้านตัวกระปุ๊กลุ๊ก

LG Rolling Bot เป็นหุ่นยนต์ทรงกลมหน้าตาคล้าย BB-8 แต่เปลี่ยนเป็นสีขาว ขนาดประมาณ 6 นิ้ว พร้อมกับฟีเจอร์ที่เพิ่มขึ้นมากกว่าการบังคับไร้สายด้วยสมาร์ทโฟนได้ เพราะ LG Rolling Bot ทำได้มากกว่าด้วยการเชื่อมต่อกับ Wi-Fi ในบ้านเพื่อเดินลาดตระเวนสอดส่องในบ้านด้วยกล้องความละเอียด 8 เมกะพิกเซลที่ถ่ายได้ทั้งภาพนิ่งและ วิดีโอ

LG เปิดตัวอุปกรณ์เสริมหลายอย่างที่ใช้คู่กับ LG G5 มือถือเรือธงรุ่นล่าสุด โดยใช้ชื่อเรียกอุปกรณ์เสริมเหล่านี้ว่า LG Friends

เริ่มจากแว่นสามมิติ LG 360 VR ที่เชื่อมต่อกับ LG G5 ผ่านสายเคเบิล ให้ประสบการณ์เหมือนชมทีวีจอใหญ่ 130 นิ้วห่างออกไป 2 เมตร ตัวแว่นมีความละเอียดสูง 639 ppi และรองรับคอนเทนต์แบบ VR จากแอพ Google Cardboard ได้ด้วย แว่นมีน้ำหนักเพียง 118 กรัม ไม่หนักหัว แถมยังพับได้พกพาสะดวก

LG เปิดตัว LG G5 ด้วยแนวทางการเปลี่ยนแบตเตอรี่ด้วยการเปลี่ยนโมดูลท้ายเครื่องตามข่าวลือก่อนหน้านี้

ตัวเครื่อง G5 เองมีสเปคสมเป็นรุ่นท็อป ดังนี้

วันนี้ LG Electronics ประกาศความร่วมมือกับ B&O Play บริษัทลูกของ Bang & Olufsen ที่จำหน่ายสินค้าด้านเครื่องเสียงและภาพ ที่จะพัฒนาในด้านเสียงของโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ของ LG ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

มือถือรุ่นแรกที่จะได้ใช้ผลงานจากความร่วมมือนี้ คือโทรศัพท์มือถือ LG G5 (ระบุไว้ในข่าวประชาสัมพันธ์อย่างชัดเจน) โดย B&O Play เข้ามาร่วมออกแบบระบบเสียงให้กับโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่นี้ด้วย

อนึ่ง Bang & Olufsen เคยมีความร่วมมือกับผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์หลายราย ไม่ว่าจะเป็น Vertu หรือ HP ซึ่งปัจจุบันในกรณี HP ยังมีความร่วมมือกันอยู่

LG Innotek บริษัทลูกของ LG ที่เน้นการพัฒนาเซ็นเซอร์หลากชนิด วันนี้ออกมาเปิดตัวเซ็นเซอร์ตัวใหม่สำหรับอุปกรณ์ไอทีสวมใส่ที่มีจุดเด่นอยู่ที่ขนาดบางเพียง 1 มม.

เซ็นเซอร์ตัวใหม่มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ชีวภาพที่รองรับฟีเจอร์อย่างการวัดชีพจร วัดออกซิเจน วัดระดับความเครียด (stress levels) โดยในความบาง 1 มม. ตัวเซ็นเซอร์นี้ประกอบไปด้วยโฟโตไดโอด ไฟ LED 5 ตัว และแผงวงจร

นอกจากความบางแล้ว LG Innotek ยังระบุว่าเซ็นเซอร์ตัวนี้กินพลังงานน้อยกว่ารุ่นอื่นในตลาดถึง 20% และแม่นยำกว่า โดยมีอัตราความผิดพลาดในการวัดชีพจรบวกลบไม่เกิน 5 ครั้งต่อนาที เทียบกับรุ่นก่อนหน้าที่บวกลบ 8 ครั้งต่อนาที