ตอนที่ BlackBerry ตัดสินใจออก Priv สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ตัวแรกของบริษัท หนึ่งในสิ่งที่บริษัทชูเป็นพิเศษคือการได้รับอัพเดตตรงที่ต่อเนื่องและรวดเร็ว และถึงแม้อัพเดต Marshmallow จะมาถึง แต่หลังจากที่ Nougat ออก บริษัทก็เงียบมาโดยตลอดถึงเรื่องการอัพเดตรุ่นใหญ่ให้กับ Priv จนกระทั่งวันนี้ทางบริษัทยืนยันแล้วว่า Priv จะไม่ได้รับอัพเดตขึ้นเป็น Nougat อย่างแน่นอน

เงียบหายไปพักใหญ่ๆ กับ BlackBerry Mobile ในยุคของ TCL หลังจากเปิดตัว BlackBerry KEYone ในงาน MWC 2017 ช่วงต้นปี

ล่าสุดในงาน IFA 2017 บริษัท TCL ก็เปิดตัวรุ่นอัพเกรดของ KEYone ในชื่อว่า "Black Edition" เปลี่ยนจากสีเงิน-ดำ มาเป็นสีดำล้วน และอัพเกรดสเปกจากรุ่นปกติ แรม 3GB, สตอเรจ 32GB มาเป็นแรม 4GB สตอเรจ 64GB ส่วนอย่างอื่นเหมือนเดิมทุกประการ

BlackBerry KEYone Black Edition จะเริ่มวางขายในไตรมาสนี้ในบางประเทศ ราคา 649 ยูโร (25,500 บาท) ส่วนในสหรัฐอเมริกาจะวางขาย KEYone รุ่นแรม 3GB สีดำ Space Black เฉพาะกับเครือข่าย AT&T ราคา 499 ดอลลาร์

เราเห็นข่าว BlackBerry ขายสิทธิของแบรนด์สมาร์ทโฟนให้กับบริษัท TCL ของจีน และหันไปทำธุรกิจด้านซอฟต์แวร์องค์กรอย่างเต็มตัว และรายได้-กำไรในช่วงต้นปีนี้ออกมาดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการของ BlackBerry ในไตรมาสล่าสุด (มีนาคม-พฤษภาคม 2017) กลับอาการน่าเป็นห่วง บริษัทมีรายได้จากการดำเนินงาน 235 ล้านดอลลาร์ และมีกำไร 671 ล้านดอลลาร์ ซึ่งมากกว่ารายได้ด้วยซ้ำ

เหตุผลเป็นเพราะในไตรมาสนี้ BlackBerry ได้ค่าชดเชยด้านสิทธิการใช้งานมาจาก Qualcomm เป็นเงิน 815 ล้านดอลลาร์ด้วย ถ้าหักรายได้ส่วนนี้ไป บริษัทจะกลับมาขาดทุนทันที

BlackBerry เตรียมย้ายบริการ BBM บริการแชทซึ่งเคยเป็นที่นิยมอย่างมาก จากปัจจุบันที่อยู่ในศูนย์ข้อมูลที่ประเทศแคนาดา มาไว้กับ Google Cloud Platform ในเอเชียแทน

การย้ายศูนย์ข้อมูลในครั้งนี้ เนื่องจากปัจจุบัน BlackBerry ก็ได้เลิกพัฒนาผลิตภัณฑ์เอง และให้ไลเซนส์กับผู้ผลิตฮาร์ดแวร์แทนไปสักพักแล้ว และเนื่องจากผู้ผลิตฮาร์ดแวร์มักจะอยู่ในเอเชีย ดังนั้นผู้ใช้ BBM ก็มักจะอยู่ในเอเชีย ทำให้การย้ายขึ้นไปสู่คลาวด์ในทวีปเอเชียน่าจะช่วยให้ประสิทธิภาพโดยรวมของระบบดีขึ้น

ที่มา - VentureBeat

ถึงแม้ในฝั่งคอนซูมเมอร์ BlackBerry จะไม่ประสบความสำเร็จนัก แต่ด้วยจุดเด่นของ BBM ในฐานะแพลตฟอร์มแชทเข้ารหัสที่มีความปลอดภัยและน่าเชื่อถือ ทำให้ BlackBerry ตัดสินใจหันมาให้บริการ Communication Platform as a Service (CPaaS) ด้วย BBM Enterprise SDK สำหรับแอพฝั่งองค์กร

ชุด SDK ยังคงเข้ารหัส end-to-end ทั้งแชท, วิดีโอคอลและว๊อยซ์คอล เป็นโซลูชันแบบ IP-Based ทำงานบนเครือข่าย NOC ของ BlackBerry พร้อมฟีเจอร์แชทต่างๆ อาทิ แก้ไขข้อความ, แจ้งเตือน, สัญลักษณ์บอกการส่งและอ่านข้อมูล, โน้ตเสียง, กรุ๊ปแชทและแชร์ไฟล์ ขณะที่ UI ยังคงมีความเป็น BBM แบบเดิม

LINE ประกาศหยุดซัพพอร์ตระบบปฏิบัติการที่ไม่ค่อยมีใครใช้กันแล้วอย่าง BlackBerry, Firefox OS, Nokia Asha ในวันที่ 3 กรกฎาคม 2017 เป็นต้นไป และคนที่ใช้ LINE บน Windows 8 Store ก็จะไม่สามารถดาวน์โหลดไคลเอนต์ได้อีกเช่นกัน

LINE แนะนำให้ผู้ใช้ย้ายข้อมูลไปยังแพลตฟอร์มอื่นที่ยังซัพพอร์ต เช่น Android, iOS, Windows Phone

ในช่วงไล่เลี่ยกัน LINE ยังออกแอพเวอร์ชัน 7.2.0 บน Android ที่มีของใหม่คือแสดงรายชื่อเพื่อนที่เพิ่งอัพเดตโพรไฟล์ (recently updated profiles) ไว้เป็นอีกหมวดหมู่, เพิ่มเอฟเฟคต์ใน video call, เซฟภาพที่ส่งจากแชทแบบความละเอียดดั้งเดิม (original resolution) ด้วย

BlackBerry รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ของปีการเงินบริษัท 2017 (ธันวาคม 2016-กุมภาพันธ์ 2017) รายได้รวม 297 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรจากการดำเนินงาน 13 ล้านดอลลาร์

การเปลี่ยนจากบริษัทขายฮาร์ดแวร์ มาเป็นซอฟต์แวร์และบริการมีความชัดเจนมากขึ้น BlackBerry มีรายได้จากส่วนนี้ถึง 193 ล้านดอลลาร์ หรือ 65% ของรายรวม โดยซีอีโอ John Chen กล่าวว่าเขารู้สึกยินดีกับตัวเลขที่ออกมา ซึ่งทำได้ดีกว่าที่วางเป้าหมายไว้ทุกมิติ

รายได้จากซอฟต์แวร์ที่ BlackBerry ขายนั้นเป็นกลุ่มลูกค้าองค์กร ทำให้มีรายได้เข้ามาแบบสม่ำเสมอ และเขามั่นใจว่าตลอดปีนี้ธุรกิจซอฟต์แวร์จะเติบโตขึ้นไปอีก และมีกำไรมากขึ้นกว่าเดิม

ที่มา: BlackBerry และ Tech Trader Daily

TCL ออกโทรศัพท์ภายใต้สิทธิ์แบรนด์ BlackBerry เป็นตัวแรกในชื่อรุ่น BlackBerry KEYone โทรศัพท์แอนดรอยด์มีคีย์บอร์ดจริง

KEYone จะใช้ซอฟต์แวร์ของ BlackBerry เหมือนเดิม ตั้งแต่ระบบรักษาความเป็นส่วนตัว DTEK และแพตช์ซอฟต์แวร์รายเดือนเหมือน BlackBerry รุ่นอื่นๆ

ในแง่ฮาร์ดแวร์มีคีย์บอร์ดแบบเดียวกับรุ่นดั้งเดิมของ BlackBerry และตัวคีย์บอร์ดยังคอนฟิกเรียกแอปได้เฉพาะอย่าง เช่น ปุ่ม F กดค้างเป็น Facebook ตัวเครื่องเท่ากับโทรศัพท์ทั่วไปเพราะคีย์บอร์ดจะไปกินที่หน้าจอจนเหลือ 2:3 เป็นขนาด 1620×1080 ซึ่งค่อนข้างแปลก ส่วนเซ็นเซอร์กล้องเป็น Sony IMX378 ตัวเดียวกับใน Google Pixel ที่ได้รับคำชมเป็นอย่างมาก เซ็นเซอร์ลายนิ้วมืออยู่ในปุ่ม spacebar

บริษัท BlackBerry ได้ประกาศเป็นพาร์ทเนอร์แบบระยะยาวกับ Optiemus Infracom Ltd ซึ่งเป็นบริษัทด้านการโทรคมนาคมของประเทศอินเดีย

สัญญาของ BlackBerry นั้น อนุญาตให้ทาง Optiemus สามารถออกแบบและผลิตอุปกรณ์ที่ใช้ซอฟต์แวร์ระบบความปลอดภัย Android ของ BlackBerry ได้ โดยการทำสัญญาครั้งนี้ของ BlackBerry น่าจะช่วยให้ทางบริษัทสามารถจับตลาดกลุ่มประเทศเกิดใหม่อย่างอินเดีย, เนปาล, บังกลาเทศ หรือศรีลังกาได้

อินเดียนั้นถือเป็นประเทศตลาดเกิดใหม่ที่สำคัญมาก เนื่องจากสามารถนำหน้าสหรัฐฯ ไปครองตำแหน่งตลาดสมาร์ทโฟนขนาดใหญ่ที่สองของโลกได้แล้ว ซึ่งการจับตลาดมือถือในประเทศตลาดเกิดใหม่เหล่านี้ถือเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับผู้ผลิตมือถือแทบทุกราย

BlackBerry ประกาศผลประกอบการไตรมาสล่าสุด (กันยายน-พฤศจิกายน 2016) ถือเป็นไตรมาสสุดท้ายก่อนเลิกขายฮาร์ดแวร์เอง และขายสิทธิให้บริษัทจีน TCL

ผลคือตัวเลขรวมยังออกมาแย่ รายได้รวม 289 ล้านดอลลาร์ ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 548 ล้านดอลลาร์เกือบครึ่ง หักลบออกมาแล้วไตรมาสนี้ขาดทุน 117 ล้านดอลลาร์ (แต่ยังดีกว่าไตรมาสก่อนที่ขาดทุนถึง 372 ล้านดอลลาร์) ถ้านับผลประกอบการ 9 เดือนตามปีงบประมาณ 2017 บริษัทขาดทุนไปแล้ว 1,159 ล้านดอลลาร์

หลังขายสิทธิ์แบรนด์สมาร์ทโฟนให้ TCL BlackBerry เตรียมหันไปลงทุนในธุรกิจใหม่อย่างระบบรถยนต์ไร้คนขับและเตรียมเปิดศูนย์วิจัย ภายในพื้นที่ของ QNX ในเมืองออตคาวาอย่างเป็นทางการในแคนาดาในวันนี้ ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่ง Justin Trudeau นายกรัฐมนตรีแคนาดาจะเดินทางไปร่วมงานนี้ด้วย

ทั้งนี้ใช่ว่า BlackBerry จะเป็นหน้าใหม่ในวงการรถยนต์เสียทีเดียว เพราะบริษัทลูกอย่าง QNX ที่ทำซอฟต์แวร์ฝังตัวก็หันมาเอาดีด้านซอฟต์แวร์รถยนต์มาซักระยะแล้ว โดยก่อนหน้านี้รถยนต์ไร้คนขับรุ่นทดสอบของ QNX ที่ร่วมมือกับมหาวิทยาลัย Waterloo และ Erwin Hymer Group บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ก็ได้รับการรับรองจากทางการแคนาดา ให้ทดสอบรถยนต์บนถนนแล้ว

อย่างที่ทราบกันว่า Blackberry ช่วงสองปีที่ผ่านมาประสบปัญหารายได้หดตัวอย่างต่อเนื่อง ปิดบัญชีขาดทุนอย่างต่อเนื่องเกือบทุกไตรมาส แม้จะออกมือถือรุ่นเรือธงอย่าง DTEK60 ที่เป็นความหวังจะช่วยกอบกู้สถานการณ์แล้วก็ตาม

ล่าสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา BlackBerry ประกาศขายสิทธิ์ในแบรนด์ BlackBerry ให้กับบริษัทคู่ค้าตัวเอง TCL จากจีนที่เคยทั้งผลิตและออกแบบโทรศัพท์มือถือ Blackberry รุ่นล่าสุดของตัวอย่างอย่าง DTEK50 และ DTEK60 โดยในสัญญานี้ TCL จะทั้งออกแบบ, ผลิต, ขาย รวมถึงซัพพอร์ต สินค้าโทรศัพท์สมาร์ทโฟนภายใต้แบรนด์ BlackBerry ได้ทั่วโลก ยกเว้นในห้าประเทศ ได้แก่ อินเดีย อินโดนีเซีย ศรีลังกา เนปาล และบังกลาเทศ

ก่อนหน้านี้ WhatsApp เคยประกาศจะระงับการรองรับบน BlackBerryOS และ BlackBerry 10 ภายในสิ้นปีนี้ ล่าสุดประกาศขยายเวลาไปเป็นวันที่ 30 มิถุนายน 2017 แล้ว

นอกจาก BlackBerry 10 และ BlackBerry OS แล้วยังมี S40 และ S60 ของโนเกียที่จะระงับการรองรับในช่วงกลางปีหน้า ขณะที่แอนดรอยด์ 2.1, 2.2, WIndows Phone 7 และ iOS 6 จะสิ้นสุดการรองรับในช่วงสิ้นปีนี้

ที่มา - CrackBerry

John Chen ซีอีโอของ BlackBerry ให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg ว่าบริษัทจะยังทำสมาร์ทโฟนมีคีย์บอร์ดต่อไป ถึงแม้เปลี่ยนโมเดลมาเป็นการเอาท์ซอร์สแทนผลิตเอง

สมาร์ทโฟนสองรุ่นล่าสุดของบริษัทคือ DTEK50 และ DTEK60 ที่จ้าง Alcatel/TCL ทำให้ เป็นมือถือจอสัมผัสไม่มีคีย์บอร์ด ในขณะที่มือถือตัวสุดท้ายของบริษัทที่มีคีย์บอร์ดคือ Priv ที่เป็นคีย์บอร์ดแบบสไลด์

BlackBerry ได้ทำข้อตกลงร่วมกับ Ford ในการพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติในรุ่นแรก โดย BlackBerry ได้ส่งทีมวิศวกรเพื่อทำงานร่วมกับ Ford ในการรวมซอฟต์แวร์ BlackBerry เข้ากับตัวรถยนต์ในอนาคต โดยมีซอฟต์แวร์ทั้งระบบปฏิบัติการ QNX Nutrino, เทคโนโลยีความปลอดภัย Certicom และซอฟต์แวร์ประมวลผลเสียง

แผนเรื่องรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติของ Ford นั้นถือว่าค่อนข้างใหญ่พอสมควร โดยทางบริษัทวางแผนขายแท็กซี่ที่ขับเคลื่อนอัตโนมัติ 1 แสนคันต่อปีให้กับบริการเรียกรถในปี 2021 และจะขายรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติให้ผู้ใช้ทั่วไปในปี 2025 ซึ่งทาง Ford ต้องการพนักงานทำงานในด้านนี้มากขึ้น

หลังเปิดตัว DTEK50 ไปเมื่อกลางปี ตอนนี้ BlackBerry ได้เปิดตัว DTEK60 สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์รุ่นเรือธงที่จับเอา DTEK50 มาอัพเกรดภายใน โดยยังคงอิงการออกแบบ (reference design) ของ TCL และคล้ายกับ Alcatel Idol 4

DTEK60 มาพร้อมหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด QHD ครอบด้วยกระจกกันรอยและสารกันรอยเปื้อน ชิปเซ็ตใช้ Snapdragon 820 กล้องหลังความละเอียด 21 ล้านพิกเซล พร้อม PDAF และแฟลชคู่ กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล แบตเตอรี่ความจุ 3,000 mAh รองรับ QuickCharge 3.0 พร้อมพอร์ต USB-C และเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ไม่ระบุความจุแต่รองรับ MicroSD สูงสุด 2TB รันแอนดรอยด์ 6.0

หลังจากเปิดตัว PRIV ไปเมื่อปีที่แล้ว แต่ทำยอดขายไม่ได้ตามเป้า มาปีนี้ BlackBerry จึงเปิดตัว DTEK50 สมาร์ทโฟนที่จับตลาดระดับกลาง ออกมาเป็นตัวแรก และใช้วิธีการเอาท์ซอร์ส (คือจ้างคนอื่นออกแบบและผลิต ส่วนบริษัทยังคุมด้านซอฟต์แวร์และข้อกำหนดบางอย่าง) ให้กับ TCL ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนแบรนด์ Alcatel แทนเป็นรุ่นแรก ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของบริษัทที่ประกาศเมื่อตอนช่วงสิ้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา

ผมมีโอกาสได้ซื้อเครื่องมาใช้งานระยะหนึ่ง เลยขอถ่ายทอดเป็นรีวิวสั้นๆ ให้กับผู้อ่านครับ สเปกตามอ่านเอาจากข่าวเปิดตัวนะครับ

คำเตือน ภาพเยอะมาก

ข่าว BlackBerry ออกมาประกาศว่าเลิกพัฒนาฮาร์ดแวร์เอง แล้วเปลี่ยนไปเอาท์ซอร์สให้บริษัทอื่นกลายเป็นเรื่องที่สร้างความสับสนว่าตกลง BlackBerry วางตัวอย่างไรในตลาดสมาร์ทโฟน วันนี้ John Chen ซีอีโอของบริษัท ออกมาให้สัมภาษณ์ชี้แจงเพิ่มเติมกับ BNN สถานีข่าวท้องถิ่นของแคนาดาแล้ว

BlackBerry ประกาศหยุดทำฮาร์ดแวร์เองทั้งหมด 100% หันมาทำแต่ซอฟต์แวร์อย่างเดียว ส่วนงานด้านฮาร์ดแวร์จะใช้วิธีเอาซอร์สให้พาร์ทเนอร์รายอื่นแทน

ยุทธศาสตร์นี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะฮาร์ดแวร์ที่ออกมาก่อนหน้านี้ BlackBerry DTEK50 ก็ใช้วิธีเอาท์ซอร์สให้ TCL (ซึ่งปัจจุบันเป็นเจ้าของแบรนด์ Alcatel) ผลิตให้อยู่แล้ว ทิศทางของบริษัทจึงชัดเจนมากขึ้นว่าจะเดินหน้าต่อไปแบบไม่ทำฮาร์ดแวร์เอง เพื่อลดภาระการลงทุนของบริษัทลง

หลังจากที่เคยมีข่าวออกมาว่า BlackBerry จะเปิดสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่สองรุ่นและหนึ่งในนั้นคือ DTEK50 มาบัดนี้ก็มีข่าวของสมาร์ทโฟนตัวที่ 2 ซึ่งหลุดออกมา และไม่ใช่ใครที่ไหนหลุด แต่เป็น BlackBerry ทำหลุดเสียเอง

ข้อมูลดังกล่าวปรากฎเป็นสเปกเต็มของสมาร์ทโฟนที่ใช้รหัสในการพัฒนาว่า Argon (แสดงใน Title) แต่ข้อมูลภายในระบุอย่างชัดเจนว่าเป็น DTEK60 ซึ่งทาง CrackBerry ระบุว่าไม่เคยมีข่าวลือหรือข่าวหลุดเกี่ยวกับสมาร์ทโฟนรุ่นนี้แบบชัดเจน สเปกภายในถือว่าเทียบเท่าเรือธงของค่ายอื่นๆ หน้าจอใหญ่กว่า DTEK50 และมาพร้อมกับที่แสกนลายนิ้วมือ (อ่านสเปกเต็มท้ายข่าว) รวมถึงเป็น BlackBerry ที่ไม่มีแป้นพิมพ์จริงเหมือน DTEK50 โดยยังไม่มีรูปภาพหลุดออกมา

ความตลกร้ายอย่างหนึ่งคือ หน้าเพจข้อมูลที่ปรากฏนี้ ระบุชื่อไฟล์ใน URL ชัดเจนว่า "specifications-a-donotpublish.html"

ที่มา - BlackBerry ผ่าน CrackBerry

หลังมีการเผยแพร่ข้อมูลเรื่องการค้นพบช่องโหว่ QuadRooter BlackBerry ได้ประกาศอัพเดตอุดช่องโหว่ไปแล้ว 3 จาก 4 ช่องโหว่ ในการอัพเดตแพทช์ความปลอดภัยรายเดือนรอบล่าสุดไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งคล้อยหลังการอัพเดตของ Google ไม่นาน

ล่าสุดทาง BlackBerry ประกาศอีกครั้งว่า ทั้ง Priv และ DTEK50 ได้รับการอัพเดตแพทช์ อุดช่องโหว่ QuadRooter ทั้งหมดเป็นที่เรียบร้อยโรงเรียน BlackBerry แล้ว

ที่มา - The Register

ถึงแม้ BlackBerry มีผลประกอบการไตรมาสล่าสุดไม่ดีนัก แต่สิ่งหนึ่งที่บริษัททำได้ยอดเยี่ยมมาตลอด คือการอัพเดตแพตช์ความปลอดภัยของ Android ที่ตามหลังการออกแพตช์ของกูเกิลเพียงไม่กี่วันเท่านั้น

ล่าสุด BlackBerry ประกาศอัพเดตซอฟต์แวร์รอบเดือนสิงหาคม 2016 คล้อยหลังการออกแพตช์ Nexus ของกูเกิล เพียงวันเดียว โดยอัพเดตนี้ใช้ได้ทั้งกับ BlackBerry Priv และ DTEK50 สมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดด้วย

นอกจากการอุดช่องโหว่ความปลอดภัยแล้ว อัพเดตตัวนี้ยังปรับปรุงฟีเจอร์หลายอย่าง เช่น BlackBerry Hub, คีย์บอร์ด, แอพกล้อง, ปฏิทิน, แอพจดโน้ต เป็นต้น

BlackBerry Bold สุดรักของ Kim Kardashian ศิลปินสาวและขวัญใจแร็ปเปอร์ Kanye West ได้หลับอย่างสงบ เธอเสียใจจนถึงขนาดไปหาเครื่องเก่ารุ่นนี้ใน eBay เพราะรุ่นนี้เลิกผลิตไปแล้ว และเธอก็โพสต์ทวิตเตอร์ว่า "ฉันไปหา BlackBerry Bold ที่ eBay มาแล้วนะ แต่มันไม่มีแล้ว ฉันรู้ว่าวันนี้ต้องมาถึงสักวัน ฉันเตรียมใจไว้แล้วแต่คำถามคือ ฉันจะยังคงใช้ BlackBerry ต่อ หรือจะ Samsung หรือจะอย่างอื่นดี"

ล่าสุดไม่ต้องรอคำตอบแล้ว เพราะทาง Alex Thurber ผู้บริหาร BlackBerry บอกสำนักข่าว TMZ ว่า ทางบริษัทจัดส่งมือถือรุ่นใหม่ระบบแอนดรอยด์ที่มีระบบความปลอดภัยให้เธอแล้วจ้า

เมื่อวานนี้ BlackBerry ประกาศว่าบริษัทได้ปล่อย BlackBerry Hub+ แอพ Hub ที่รวมเอาการติดต่อสื่อสารและข้อความทั้งหมดของ BlackBerry ที่เคยอยู่บน BlackBerry 10 และภายหลังนำมาไว้บน Android กับเครื่องที่บริษัทจำหน่าย (PRIV และ DTEK50) ลง Play store แล้ว

ในที่สุด BlackBerry ก็เปิดตัว DTEK50 สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์รุ่นที่สองแล้ว ตามที่มีข่าวออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทาง BlackBerry อ้างว่า DTEK50 เป็นสมาร์ทโฟนบางที่สุดที่บริษัทเคยผลิตมาและเป็นสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ที่ปลอดภัยที่สุด

DTEK50 ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 617 พร้อมหน้าจอขนาด 5.2 นิ้ว ความละเอียด FullHD แรม 3GB กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซลพร้อมแฟลช LED กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล ความจุ 16GB รองรับ micro SD สูงสุด 2TB แบตเตอรี่ 2,610 mAh และรันแอนดรอยด์ 6.0 Marshmallow