บริษัทวิจัยตลาด Ipsos ของฝรั่งเศสเปิดเผยผลสำรวจพฤติกรรมการใช้ระบบจ่ายเงินผ่านมือถือของคนจีน พบข้อมูลน่าสนใจดังนี้
ผลสำรวจนี้สะท้อนว่าจีนกลายเป็นประเทศที่มีการเติบโตของการจ่ายเงินผ่านมือถือสูง โดยตัวเลขเฉลี่ย 4 ปีย้อนหลังนั้น โตถึงปีละ 195% ซึ่งมี WeChat Pay ครองส่วนแบ่งการจ่ายเงินสูงสุด มีผู้ใช้งาน 938 ล้านคน
ที่มา: China Daily
Comments
สงสัยมานานแล้ว การจ่ายเงินพวกนี้มีบริษัทตัวกลางที่เก็บค่าธรรมเนียมแบบบัตร VISA มั้ยครับ หรือว่าเหมือนการโอนเงินแล้วร้านค้าได้รับเงินเต็มๆ
ธุรกิจ Payment Gateway ก็เหมือนการลงทุนเรื่องคมนาคมครับ ส่วนใหญ่ทำแล้วจะขาดทุน แต่ขาดทุนเพื่อให้ธุรกิจในภาคส่วนอื่นได้รับความสะดวกสบายมีรายได้เพิ่มขึ้น
ในมุมมองของผมเขาน่าจะไม่เก็บนะครับ ยอมขาดทุนตรงนี้เพื่อให้ได้ข้อมูลมาใช้งาน เพราะข้อมูลการใช้จ่ายที่ได้มานั้นสามารถเอาไปต่อยอดเพื่อประกอบการทำธุรกิจอื่นๆ ได้อีกมาก เช่น การนำเสนอสินค้า โฆษณา และใช้ประเมินพฤติกรรมผู้บริโภคได้อย่างแม่นยำโดยใช้ Big Data และ Machine Learning ดังนั้นการจูงใจผู้คนให้เข้ามาร่วมกันใช้งานใน Platform มากๆ ช่วยให้มีข้อมูลเยอะขึ้น สามารถสร้าง Model ต่างๆ ได้แม่นยำมากขึ้น นำไปสู่การหารายได้จากธุรกิจข้างเคียง ช่วยให้เกิดผลกำไรเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลครับ
ดูอย่างแอป 7-11 เป็นตัวอย่าง นอกจากจะไม่เสียค่าธรรมเนียมแล้ว ยังลดให้อีก 5% ทุกครั้งที่มีการใช้จ่าย สุดท้ายผมคิดว่าจะต้องมีการนำข้อมูลไปใช้วิเคราะห์ต่อยอดกับกิจการอื่นๆ อย่างแน่นอน
SPICYDOG's Blog
Payment Gateway ส่วนใหญ่เก็บเงินครับ แต่เก็บกับผู้ขาย (ถ้าแก่พอจะเคยเจอร้านบางแห่ง รับบัตรเครดิตแต่ชาจเงินเพิ่ม รู้สึกว่าเดี่ยวนี้ห้ามแล้ว)
ส่วนแอปก็กำลังจะเป็น Payment Gateway อันใหม่ เก็บกับผู้ขายเหมือนกัน ใครครอบครองตลาดได้ก่อนก็จะใด้เปรียบ ดังนั้นเลยมีการลดแลกแจกแถม แอป 7-11 สุดท้ายก็คงจะเปิดให้ร้านอื่นๆไช้บริการ แล้วรับเงินจากผู้ขายเมื่อผู้ซื้อไช้จ่าย
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ทุกวันนี้ ผมยังเจออยู่นะครับ จ่ายบัตรชาจ 2-3%
คิดว่ามีเก็บค่าธรรมเนียมอยู่ล่ะครับ ไม่น่าจะพัฒนาระบบให้ฟรีๆ แต่คิดว่าค่าธรรมเนียมน่าจะไม่แพงมาก โดยเน้นเป็น mass user
อยากได้แบบนี้บ้าง ขอแอปที่ใช้งานได้แค่แอปเดียว เชื่อมต่อกันทุกระบบ ไม่ต้องติดตั้งหลายตัว
แต่ผลข้างเคียงที่ตามมาก็จะเป็นเรื่องของความปลอดภัยล่ะเนอะ ^^'a
~ HudchewMan's Station & @HudchewMan~
ในไทยก็ทำมานานแล้วครับสังคมไร้เงินสด ส่วนมากจะไร้เงินสดตอนสิ้นเดือนแล้วด้วยครับ
ครับ ^^"
กลางเดือนก็ไร้เงินสดแล้วครับ
T_T
T_T
เราอยู่ในสังคมนี้นานแล้ว T_T
ของเราคงยาก จะมาบอกให้อาม่า อาซิ่ม รับบัตรพวกนี้ สอนกันตาย แถมการให้แม่ค้าเข้าระบบ คงจะยอมกันหรอก โดนสูบภาษีสิจ๊าาาาาาา
ไทยคงรอไปอีกนาน ชั่วชีวิตเลยเอ้า ~
เงินสดก็ไม่มี เครดิตก็ไม่มี ไม่มีอะไรเลย เมียไม่ให้
พ่อบ้านใจกล้า เราอย่าไปยอมครับ สู้ๆ
ประเทศเราก็เริ่มแบบไม่มีตัวกลาง Payment Gateway ด้วย ก็น่าสนใจว่าจะเป็นอย่างไรต่อไปครับ อนาคตคงต้องไร้เงินสดกันแน่ ๆ แต่ถ้าระบบธนาคารยังมีความผิดพลาด แล้วไม่ค่อยรับผิดชอบกันแบบตรง ๆ ผมว่าจะให้คนรุ่นพ่อรุ่นแม่มาเชื่อถือคงยาก
ดูจากข่าวนับเงินแล้วแยกกองเงิน หรือว่าอยู่ ๆ เงินหายไปจากบัญชี คือกรณีพวกนี้ธนาคารแก้ไขปัญหาให้ลูกค้าได้ยุ่งยากและช้ามาก ทั้ง ๆ ที่ข้อมูลอยู่บนระบบคอมพิวเตอร์หมด
That is the way things are.
ระบบไร้เงินสดคนกลัวก็กลัวไปครับ เห็นเยอะมากตามเฟสบุ๊ค+พันทิปเรื่องความเชื่อมั่น (ทั้งๆที่ไม่เคยหาข้อมูลแท้ๆ)
แต่สำหรับคนที่ศึกษาข้อมูลมันมาเค้าพร้อมจะใช้มันครับ ใครไม่ใช้ก็ปล่อยไป
ประเทศไทยรัฐเป็นคนทำเองครับ เป้าหมายคือดึงคนนอกระบบภาษีเข้ามาในระบบภาษีให้ได้มากที่สุด คิดแล้วว่าเงินที่เคยหลุดรอดจากการจ่ายภาษีเอามาทำระบบนี้แล้วมันจะคุ้ม ว่ากันอย่างนั้นเถอะ
จินตนาการล้ำลึกแท้
ไม่ใช่จินตนาการนะครับ อันนี้ตอนหน่วยงานราชการมาพูดถึงประโยชน์ก็มีบอกไว้ครับ
ไม่ใช่จินตนาการครับ ที่คิดว่าจินตนาการนี่ก็คือกำลังจินตนาการรึเปล่า?
บ้านเมืองเขาไม่มีตำรวจตั้งด่านหรือ ถ้าวันไหนผมไม่พกเงินติดตัวแล้วเจอด่านก็ซวยยาว
ขอทานยังมี QR เลยคุณไม่ต้องห่วงเลย
เดี๋ยวมีบริการจ่ายค่าปรับผ่าน QR Code ตรงจุดโดนจับเลย พร้อม Print ใบสั่งผ่านมือถือให้เรียบร้อย ล้อเล่นครับ คงยากเจอระเบียบราชการเข้าไปก็ลำบากแล้ว
ต้องทำให้ไม่มีค่าธรรมเนียมทั้งคนจ่ายคนรับครับ ถึงจะแทนเงินสดได้
ขนาดบัตรเดบิต ธนาคารออกโปรโมชั่นค่าคิด 0.5% ร้านอาหารหลายร้านยังอยากรับเงินสดอยู่เลย
เงินหาย คิดเกิน จ่ายผิด จ่ายขาด
ใครรับผิดจำนวนเงิน
เน็ตล่ม โทรศัพท์พัง ไฟฟ้าดับ เซิฟเวอร์ล่ม
โทษใครดี
โทรศัพท์ อินเตอร์เน็ต ค่าบริการโทรศัพท์ ไม่ฟรี
คนจนทำไง
ใครใคร่ใช้ใช้ครับ
มันเป็นเรื่องของการกำหนดตัวกลางแลกเปลี่ยนครับ มีโทรศัพท์ มีเงินในบัญชี มีบัตรเครดิต แต่ชาวบ้านรับแต่เงินสด มันก็เป็นปัญหาถูกมั้ยครับ?
ยุคนึงตามชายแดนก็รับแต่เงิน USD นะครับ
ถามว่าคนจนทำไง ผมก็ถามว่า ไม่มีเงินอยู๋แล้ว แล้วจะเอาอะไร? เงินสดก็ยังไม่มี ต่อให้เป็นเงินสดแบบเดิมคนจนก็ไม่ได้มีเงินใช้อยู่แล้วป่ะครับ
แค่จะบอกว่า ถ้าคิดให้เป็นปัญหา มันก็เป็นปัญหา ถ้าตัวกลางที่ใช้แทนมูลค่าถูกปฏิเสธ มันก็เป็นปัญหาหมดล่ะครับ แค่ไปเที่ยวตปท.ยังต้องแลกเงินเลย เอาเงินสด THB ไปจ่ายในอเมริกาก็ไม่มีคนรับนะ
เป็นหน้าที่ของผู้จ่ายจะต้องไปหาแลกตัวกลางที่ใช้แทนมูลค่าเอง
ระบบทุนนิยมก็แบบนี้ละครับ เข้าใจ
ไม่มีเงินก็ตายไปซะ
ก็ไม่เชิงนะครับ เพียงแต่คุณจะอยู่ในสังคมที่ต้องใช้ทุนไม่ได้แค่นั่นเอง
ไปอยู่แบบชาวเขาก็ใช้ทุนน้อยลงหน่อย
ผมสงสัยอยู่อย่างหนึ่ง ประเด็นเรื่องคนไทยชอบโยนว่า คนแก่ คนบ้านนอก จะไม่มีวันเรียนรุ้อะไรได้ใหม่ ใช้อะไรไม่เป็นสักอย่าง นี่มันจริงหรือเปล่า? หรือเป็นแค่มายาคติคอยปิดกั้นไม่ให้เปลี่ยนแปลงอะไรกันสักอย่าง
เพราะในเมืองจีน ก็อาม่าอาซิ้ม ขอทาน กรรมกร พ่อค้าแม่ค้าแผงลอยแก่ๆนี่แหละ ที่ใช้ e-payment กันเป้นล่ำเป็นสัน คนเฒ่าคนแก่จีนพวกนี้ ไอคิวสูงกว่าคนแก่ไทยสักกี่มากน้อยเชียว
ความสำเร็จของ e-payment ของจีน ก็นับที่จุดนี้แหละ ถ้าสิ่งนี้ใช้ได้เฉพาะในแวดวงนักศึกษามหาลัยกับพนักงานบริษัทอาบุไม่เกิน 30 คงไม่สามารถนับว่าเป้นความสำเร็จได้
จริงครับ แต่มันไม่ได้เยอะขนาดนั้น แม่แท้ ๆ ผม ปัจจุบันเกษียณแล้ว ไม่ต้องเอาตอนนี้ก็ได้ แต่ตอนผมยังวัยรุ่นนี่แหละ กว่าจะสอนให้กดรีโมททีวีเป็น ใช้เวลาเป็นเดือน ๆ พอเปลี่ยนทีวีทีนึง เดือดร้อนกันทั้งบ้าน ต้องสอนใหม่ เพราะแม่ผมไม่เรียนรู้อะไรเลย (ใช้จำอย่างเดียว ไม่สังเกตว่าปุ่มที่กด ๆ ไปเนี่ย มันแพทเทิร์นเดียวกันทั่วโลกนั่นแหละ) ช่วงเปลี่ยนยุคจากโทรศัพท์บ้านเป็นมือถือก็เหนื่อยนิดหน่อย ตอนนั้นมือถือมันไม่ต่างจากโทรศัพท์บ้านมาก (เปลี่ยนจากหมุนแป้นเป็นกดตัวเลข) พอเปลี่ยนเป็น Smart Phone เท่านั้นแหละ เดือดร้อนกันทั้งบ้านอีกรอบ สอนยังไงก็ไม่จำ สุดท้ายเลยต้องไปซื้อ Feature Phone มาให้ใช้ ตอนนี้ยังกลัว ๆ อยู่ ถ้า Feature Phone หายไปจากตลาดอย่างสมบูรณ์ แม่ผมจะอยู่ยังไง (ต้องเป็นแบบมีปุ่มกดเท่านั้นนะ จอสัมผัสก็ไม่ได้) นี่แหละครับแม่ผม ละไม่ใช่คนบ้านนอกด้วย อยู่ อ.เมืองนี่แหละ
ส่วนแม่ยายผม อยู่บ้านนอกสุด ๆ มีอาชีพทำนามาสามสี่ชั่วอายุคนละ ปัจจุบันรู้จักหมด ไลน์ เฟซบุ๊ค ทีวีดิจิตอล เติมเงินมือถือ กด ATM แค่ใช้ไม่เป็น (เพราะไม่ได้จำเป็นต้องใช้) แต่อะไรที่ต้องใช้ สอนแป็บเดียวก็เป็น ทั้ง ๆ ที่แม่ยายไม่ได้เคยออกไปไหน ไม่เคยไปทำงานในกรุงเทพฯ ทำนานมาตลอดชีวิต ตรงข้ามกับพ่อตา ไปรับจ้างก่อสร้างมาทั่วประเทศ กทม. ก็เคยมา แต่เหมือนแม่แท้ ๆ ผมเด๊ะ ไม่รับรู้เทคโนโลยีอะไรทั้งสิ้น ปัจจุบันแค่รีโมททีวียังกดไม่เป็นเลย ขนาดเครื่องซักผ้า (แบบถังคู่) ไมโครเวฟ เตาอบแบบฝาครอบ ฯลฯ ใช้ไม่เป็นซักอย่าง (แต่แม่ยายผมใช้เป็นหมดด้วยการสองแค่ครั้งหรือสองครั้ง) ใช้เป็นแต่เครื่องมือช่างแบบเดิม ๆ ที่แกเคยใช้มา (ซื้อเครื่องมือช่างแบบใหม่มาก็ไม่ใช้นะเออ)
แค่อยากบอกว่าคนรุ่นพ่อ-แม่เราที่ไม่รับเทคโนโลยีเลยมันมีอยู่จริง และมีไม่น้อยด้วย (เพื่อนบ้านแฟนผมก็เป็นแบบนี้เพียบ) แต่คนยุคนี้เกิดมาพร้อมกับเทคโนโลยีพวกนี้ ผมยังไม่เคยเจอใครที่เรียนรู้เรื่องพวกนี้ไม่ได้เลยเหมือนรุ่นพ่อ-แม่เราเลยครับ
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
ไม่เกี่ยวกับบ้านนอกหรอกครับแค่ว่าเขาอยากเรียนรู้หรือเปล่าหรือจะให้คนอื่นช่วยอย่างเดียวแค่นั้นหล่ะครับ อายุไม่สำคัญหรอก 60 ขขึ้นไปบางคนยังรู้โซเชียลมากกว่าคนอายุน้อยๆอีก เรื่องการใช้งานอ่ะนะแต่เรื่องการโดนหลอกนั่นอีกเรื่อง
ตัวผมเองอยู่ในกลุ่มไม่พกเงินสดสักพักใหญ่แล้ว แต่ที่เหนือกว่าไม่พกแม้กระทั่งโทรศัพท์ โดยเฉพาะตอนจ่ายเงินจะสกิดคนข้างๆ