Tags:
Node Thumbnail

Singtel Innov8 (อ่านว่า "อินโนเวท") เป็นหน่วยลงทุนในสังกัดของ Singtel โอเปอเรเตอร์รายใหญ่ของเอเชียจากสิงคโปร์ หน้าที่ของ Innov8 คือเป็น corporate venture capital (CVC) ที่ออกไปลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีทั่วโลก เพื่อสนับสนุนการทำธุรกิจของ Singtel ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ในยุคที่บริษัทยักษ์ใหญ่ของไทยแทบทุกรายประกาศทำ CVC ต้องถือว่า Innov8 เป็นต้นแบบของ CVC รายแรกๆ ในภูมิภาคนี้ (เริ่มทำปี 2011) และถือเป็นรายที่ประสบความสำเร็จมากรายหนึ่งด้วย

ในโอกาสที่คุณ Edgar Hardless ซีอีโอของ Innov8 เดินทางมายังเมืองไทย Blognone ก็มีโอกาสได้สัมภาษณ์เพื่อรับทราบประสบการณ์เหล่านี้

No Description

อะไรคือเป้าหมายของ Innov8

Innov8 เป็น corporate venture capital (CVC) ในเครือ Singtel ดังนั้นเป้าหมายในการลงทุนจึงไม่ใช่ผลกำไรเป็นตัวเงินเหมือนกับ VC ทั่วไป แต่เป็นการลงทุนเพื่อสนับสนุนธุรกิจโอเปอเรเตอร์และดิจิทัลของ Singtel ให้ก้าวหน้าต่อไปได้ เราจึงเข้าไปลงทุนในบริษัทด้านต่างๆ เช่น เทคโนโลยีเครือข่าย ระบบความปลอดภัย AI ฯลฯ เพื่อเข้าถึงและนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้กับ Singtel

การวัดผลยังไม่จำเป็นต้องกลับมาเป็นตัวเงินอย่างการขายหุ้น IPO หรือบริษัทถูกซื้อกิจการโดยยักษ์ใหญ่ แต่อาจเป็นว่าเราไปลงทุนในบริษัทเจ้าของเทคโนโลยีส่งคลื่นความถี่ cellular ที่ประหยัดพลังงานกว่าเดิม 5% เมื่อนำมาใช้กับฐานลูกค้าของ Singtel กว่า 600 ล้านคนในเอเชีย-แอฟริกา แค่นี้ก็ลดต้นทุนได้มหาศาลแล้ว

กรอบการลงทุนของ Innov8 เลือกลงทุนอย่างไร

Innov8 มีงบประมาณสำหรับลงทุน 250 ล้านดอลลาร์ ต้องบอกว่ากองทุนของเราจะมีขนาดเม็ดเงินคงที่เสมอ ต่อให้ลงทุนแล้วได้กำไรกลับมา เราก็จะนำกลับมาเติมในกองทุนให้เป็น 250 ล้านดอลลาร์เช่นเดิม (evergreen fund) ด้วยเหตุผลอย่างที่กล่าวไปแล้วว่าเป้าหมายหลักไม่ใช่ผลตอบแทนเป็นตัวเงิน แต่เป็นการลงทุนเชิงยุทธศาสตร์

ตอนนี้เรามีบริษัทที่เข้าไปลงทุนประมาณ 60 บริษัท รายชื่อบริษัทเราไม่ได้เปิดเผยทั้งหมด (มีบางส่วนบนเว็บ Innov8) สัดส่วนการลงทุนแบบคร่าวๆ คือลงทุนในสหรัฐอเมริกาประมาณ 50%, อิสราเอล 25% และที่เหลือคือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (มีบริษัทไทย 2 รายที่ไม่เปิดเผยว่าเป็นบริษัทใด)

ที่ผ่านมา บริษัทที่เราเข้าไปลงทุนสามารถเติบโตระดับ Unicorn ได้ 3 รายคือ Jasper, Rocket Wireless และ Arista ซึ่งทั้งสามรายเป็นบริษัทในสหรัฐ แต่นอกจากบริษัทระดับ Unicorn ก็ยังมีอีกหลายบริษัทที่ exit ด้วยมูลค่าที่ดี

No Description

Edgar Hardless ซีอีโอของ Innov8

อะไรคือเหตุผลที่ Singtel เน้นการลงทุนในสหรัฐอเมริกาและอิสราเอลเป็นหลัก

กรณีของสหรัฐอเมริกาคงตรงไปตรงมา เพราะเป็นตลาดไอทีที่ใหญ่ที่สุดในโลก นวัตกรรมด้านดิจิทัลที่ก้าวหน้าที่สุดในโลกย่อมอยู่ในสหรัฐ

ส่วนอิสราเอล เหตุผลคือเป็นประเทศที่มีบริษัทสตาร์ตอัพด้าน network และ security ที่โดดเด่นมากแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งสอดคล้องกับธุรกิจของ Singtel อยู่แล้ว

แนวคิดของ Singtel คือการนำนวัตกรรมเหล่านี้ที่เกิดในสหรัฐและอิสราเอล เข้ามาสู่ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ดังนั้นเวลาเราไปคุยกับสตาร์ตอัพเหล่านี้ หลายบริษัทไม่ได้ต้องการเงินลงทุนเพียงอย่างเดียว แต่ในทางกลับกันก็สามารถใช้ประโยชน์จากเครือข่ายของ Singtel ในการเข้ามาทำตลาดเอเชียเช่นกัน ถือเป็นจุดแข็งอีกอย่างหนึ่งของเรา

มองสภาพตลาดสตาร์ตอัพในประเทศไทยอย่างไร

ในฐานะที่ Singtel Innov8 เข้ามาเกี่ยวข้องกับสตาร์ตอัพในไทยตั้งแต่แรกๆ (ผ่าน AIS ที่เป็นบริษัทในเครือ Singtel) ก็ต้องบอกว่าวงการสตาร์ตอัพไทยพัฒนาขึ้น ทั้งในเชิงคุณภาพและปริมาณ แต่เรื่องพวกนี้ต้องใช้เวลายาวนานกว่าจะเห็นผล อย่างในซิลิคอนวัลเลย์เองก็ต้องใช้เวลา 50-60 ปีกว่าจะสั่งสมมาได้ขนาดนี้ ดังนั้นต้องใจเย็นๆ

สิ่งที่แวดวงสตาร์ตอัพไทยยังขาดแคลนมากคือ ยังขาด experienced mentor หรือผู้ประกอบการที่เคยประสบความสำเร็จมาแล้ว รู้วิธีการบริหารสตาร์ตอัพ รู้วิธีการขยายตลาดไปนอกประเทศ ซึ่งประสบการณ์ของคนเหล่านี้จะเป็นประโยชน์มากต่อสตาร์ตอัพรุ่นใหม่ๆ และข้อได้เปรียบของสตาร์ตอัพในสหรัฐอเมริกาคือมีคนแบบนี้เยอะมาก คนที่เป็น serial entrepreneur ทำบริษัทสำเร็จมาแล้วหลายครั้ง

ข้อจำกัดของสตาร์ตอัพไทย และรวมถึงสตาร์ตอัพในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประเทศอื่นๆ ด้วย คือยังขาด mindset ในการออกสู่ภูมิภาคนี้ เพราะตลาดประเทศเดียวไม่ใหญ่พอที่จะสร้างบริษัทขนาดใหญ่ได้ ทำธุรกิจไปถึงระดับหนึ่งแล้ว ยังไงก็ต้องพัฒนาตัวเองเป็นบริษัทระดับภูมิภาค

No Description

ในฐานะที่ Innov8 เป็น CVC ที่ประสบความสำเร็จ มีบทเรียนอะไรอยากบอก CVC รุ่นใหม่ๆ บ้าง

สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องรู้ตัวเองให้ชัดว่า เป้าหมายของการตั้ง CVC คืออะไรกันแน่ ทุกบริษัทที่ตั้ง CVC รู้ดีว่านวัตกรรมอยู่ภายนอกบริษัท แต่จะนำนวัตกรรมมาใช้ให้เหมาะกับธุรกิจเดิมของบริษัทอย่างไรให้เหมาะสม เป็นเรื่องที่แต่ละบริษัทต้องหาคำตอบกันเอง ดังนั้นการรู้ว่าเราต้องการอะไรจากโครงการ CVC จึงเป็นเรื่องสำคัญมาก

ในฐานะนักลงทุนด้านเทคโนโลยี คุณมองว่าเทคโนโลยีอะไรน่าจับตา

  • AR/VR เป็นเรื่องใหญ่ โดยเฉพาะ AR ที่ผสานเข้ากับโลกความจริงได้ดีกว่า VR
  • machine learning
  • การนำหุ่นยนต์มาใช้ในกระบวนการผลิต หรือที่เรียกว่า Robotic Process Automation (RPA)
Get latest news from Blognone

Comments

By: Mylive
Windows Phone
on 2 July 2017 - 10:06 #996116
Mylive's picture

มุมมอง​นี้​ ไมโครซอฟท์​มาถูกในเรื่อง​ AR แทนจะไปมุ่ง​ VR​ เหมือนบริษัท​อื่นๆ​