Tags:
Node Thumbnail

Plastc สตาร์ทอัพที่นำเสนอไอเดียในการรวมบัตรเครดิตราว 20 ใบลงไปในบัตรพลาสติกใบเดียว พร้อมเชื่อมต่อบลูทูธกับสมาร์ทโฟน เพื่อให้ผู้ใช้เลือกบัตรในการใช้งาน ประกาศล้มละลายและไม่สามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์ให้กับผู้ที่สั่งพรีออเดอร์ได้เลย แม้จะได้เงินทุนจากพรีออเดอร์ถึง 9 ล้านเหรียญก็ตาม

Plastc ให้เหตุผลในอีเมลที่ส่งหาผู้สั่งพรีออเดอร์ว่า ไม่สามารถปิดดีลในการระดมทุนราว 3.5 ล้านเหรียญในรอบ Series A ได้ทั้งๆ ที่มีการ์ดตัวจริงมาโชว์นักลงทุนแล้ว โดยเงินก้อนนี้จะถูกนำมาใช้ในกระบวนการผลิตสำหรับผู้พรีออเดอร์ด้วย ก่อนจะโดนนักลงทุนอีกกลุ่มปฏิเสธในขั้นตอนสุดท้ายอีกครั้ง ทำให้เงินอีกราว 6.75 ล้านเหรียญที่คาดว่าจะได้หายไปเช่นกัน

ที่มา - Gizmodo

alt="Plastc_Card_front_and_back.0.0"

Get latest news from Blognone

Comments

By: sonkub
AndroidWindows
on 21 April 2017 - 17:52 #980819

อ่าว อุส่ารอ

By: Sikachu
ContributoriPhoneIn Love
on 21 April 2017 - 17:59 #980820
Sikachu's picture

ผมจ่ายไป $115 อุตสาห์เชียร์แทบตาย ... ละลายแม่น้ำไปเรียบร้อยฮะ ?


บล็อกของผม: http://sikachu.com

By: caznova
AndroidRed HatUbuntuWindows
on 21 April 2017 - 19:39 #980828 Reply to:980820
caznova's picture

มีผมเป็นเพื่อน

By: phenocalypse
ContributorAndroidWindows
on 21 April 2017 - 20:27 #980830

มีแนวโน้มจะเหมือนทัวร์โชกุนไหมครับ

By: errin on 21 April 2017 - 20:54 #980831

เห็นต่างชาติเค้าวิเคราะห์กันว่าน่าจะล่มตั้งแต่เริ่มแล้วเพราะคงไม่มีใครอยากให้ข้อมูลบัตรของตัวเองกับเจ้าอื่น

By: foizy
AndroidUbuntuWindows
on 21 April 2017 - 21:14 #980834 Reply to:980831

เห็นด้วยตามนี้ครับ ผมว่าโปรเจคมาเพื่อเป็นไอเดียมากกว่า ทางที่ทำได้คือไปจด Patent รอไว้จากโปรดักส์ตัวที่ออกมาแล้ว ให้มันกว้างๆเข้าไว้

เพราะสุดท้ายแล้วผมมองว่า Visa/Mastercard เอง (หรือนับแค่รายใหญ่ของโลกมีแค่ China UnionPay, RuPay, Visa, MasterCard, American Express, Discover, Diner's Club, and JCB. แค่นี้เอง) เท่านั้นที่จะออกโปรดักส์พวกนี้ได้ .. เพื่อคงกรอบการใช้งานบัตรให้อยู่ในเครือตัวเอง (พูดถึงบัตร Co-branding ทั้งหลาย)

มันไม่เหมือน payment method แบบอื่นๆ (SS Pay, ApplyPay, Google Payment) ที่ใช้บัตรใบไหนก็มีแนวโน้มจะเป็นใบนั้นไปเรื่อยๆ อันนี้มันให้อิสระในการย้ายค่ายสูงเกินไป

By: lew
FounderJusci's WriterMEconomicsAndroid
on 22 April 2017 - 01:22 #980866 Reply to:980834
lew's picture

ผมมองว่ามันเหมือน Apple Pay เลยนะครับ เอาบัตรไปผูกกับ token ในอุปกรณ์อื่นที่ไม่ใช่ตัวบัตรเอง ในที่นี่คือบัตรอีกใบแทนที่จะเป็นไอโฟน

แต่พลังการเจรจาน่าจะต่างกันมาก


lewcpe.com, @wasonliw

By: foizy
AndroidUbuntuWindows
on 22 April 2017 - 10:40 #980922 Reply to:980866

ผมเข้าใจว่า Plastc คือเก็บข้อมูลของการ์ด (และชิพ) บนบัตรตัวเองนะครับ (หรือมันเขียนเปลี่ยนข้อความไปแล้วหลังจากที่เข้าไปดูช่วงแรก) ไหนจะมีเครื่องอ่านการ์ดอีก ซึ่งหลักๆมันเป็นเรื่องความปลอดภัยมากกว่า ดังนั้นตอนเอาไปรูด ถอนเงิน ... หากมีปัญหา หากเอาไปใช้ก๊อปการ์ดอื่นแบบผิดทาง อะไรแบบนี้ บน transaction ที่เกิดมันน่าจะ เทียบเท่าใช้บัตรจริง ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้น คนแบกรับปัญหาที่จะเกิดขึ้นน่าจะเป็นธนาคาร

ต่างกับ Apple Pay ที่ถ้ามีปัญหา apple pay รับก่อน

บริษัทออกบัตรเครดิตนี่จริงๆไม่รับความเสี่ยงอะไรเลย กินค่าธรรมเนียมนิ่งๆก็เพลินมากแล้วล่ะรับ

By: KittenWIthoutACause
AndroidWindows
on 22 April 2017 - 02:35 #980872 Reply to:980831

นอกจากจะไม่มีใครอยากผูก ส่วนแบ่งของค่าใช้จ่ายที่ได้จาก การรูดบัตร นี่ไม่มีใครอยากแบ่งแน่นอนครับ มันจึงเป็นไม่ได้เลยในทางธุรกิจ

By: KittenWIthoutACause
AndroidWindows
on 22 April 2017 - 02:33 #980871

มันเป็น project ที่เป็นไปไม่ได้อยู่แล้วอะครับ

By: jane
AndroidUbuntu
on 22 April 2017 - 13:51 #980969
jane's picture

เป็นไปได้ยาก
เพราะโลกเรากำลังเปลี่ยนมาใช้ EMV กันแล้ว ทำให้ copy private key ใน card ออกไปไม่ได้ง่ายแบบแถบแม่เหล็ก