Tags:
Node Thumbnail

มาถึงวันนี้ คำว่า Digital Transformation หรือการปรับตัวสู่ดิจิทัล เป็นคำที่พูดกันทั่วไป และในภาคธุรกิจเองก็ใช้คำนี้กันอย่างแพร่หลาย

ในฐานะบริษัทไอทีองค์กรรายใหญ่ Cisco ก็เป็นอีกบริษัทที่พูดเรื่องรอบการทำ Transformation ครั้งนี้ และเมื่อเร็วๆ นี้ Blognone มีโอกาสสัมภาษณ์คุณวัตสัน ถิรภัทรพงศ์ กรรมการผู้จัดการซิสโก้ ประเทศไทย และภูมิภาคอินโดจีน ที่ให้ข้อมูลในเชิงลึกว่า Cisco มองเรื่องการเปลี่ยนแปลงนี้อย่างไร ทั้งในฝั่งขององค์กรลูกค้า และการเปลี่ยนแปลงของตัว Cisco เอง ที่ไม่สามารถทำธุรกิจแบบเดิมๆ ได้อีกแล้วเช่นกัน

No Description

วัตสัน ถิรภัทรพงศ์ กรรมการผู้จัดการซิสโก้ ประเทศไทย และภูมิภาคอินโดจีน

ธุรกิจต้องปรับตัวสู่ดิจิทัล (Digital Transformation) อันนี้คนพูดกันเยอะ คำถามคือปรับตัวอย่างไร

เรามองว่าลูกค้าภาคธุรกิจจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองใน 3 ด้าน ได้แก่

  • กระบวนการธุรกิจ (processes and business models) ปรับโมเดลธุรกิจให้สอดคล้องกับโลกยุคที่เก็บข้อมูลได้จากทุกจุดในกระบวนการธุรกิจ
  • พนักงาน (workforce) ทำอย่างไรพนักงานจะทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • ลูกค้า (customers) ลูกค้าแต่ละคนจะมีประสบการณ์ของตัวเอง (personalized experience)

No Description

ในเมื่อทุกธุรกิจต้องเปลี่ยนแปลง Cisco จะเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างไร

ตั้งแต่ Chuck Robbins ซีอีโอคนปัจจุบันเข้ามารับตำแหน่ง แนวทางการเปลี่ยนแปลงตัวเองของ Cisco ก็ชัดเจนขึ้นมาก

ทิศทางที่เห็นได้ชัดเจนคือเรามุ่งไปทางซอฟต์แวร์มากขึ้น และเน้นการขายเป็นบริการแบบ as a service มากกว่าการขายเป็นกล่องๆ แล้วจบกันไป

แนวคิดของซอฟต์แวร์ Cisco ยืนอยู่บนหลักการ 4 ข้อคือ simple, automated, secure, intelligent ซอฟต์แวร์ของเราทุกตัวต้องมีคุณสมบัติเหล่านี้

No Description

Cisco บริษัทแม่กำลังเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างหนัก แล้ว Cisco Thailand พร้อมแค่ไหน

ตอนแรกที่ Chuck มารับตำแหน่งใหม่ๆ ต้องยอมรับว่าภาพยังไม่ชัดเจนว่าบริษัทจะไปในทิศทางไหนอย่างไร คนในทีมฝั่งประเทศไทยก็ต้องตีความกันว่า แต่ละอย่างที่ออกมาแปลว่าอะไร แต่ตอนนี้หลายอย่างชัดเจนขึ้นแล้ว พนักงานเองก็เข้าใจแล้วว่าบริษัทต้องการอะไร

การเปลี่ยนแปลงที่จับต้องได้เลยคือ องค์กรหลายแห่งอยากให้ Cisco เข้าไปร่วมสร้าง (co-create) โซลูชันใหม่ๆ แทนการจัดซื้อเพียงอย่างเดียว ผลิตภัณฑ์เป็นอย่างไรก็ใช้ไปอย่างนั้น กลายมาเป็นการให้เราเข้าไปดูความต้องการของธุรกิจ เพื่อพัฒนาโซลูชันร่วมกัน

ในฝั่งของช่องทางการขาย (channel/partner) ก็ต้องพัฒนาช่องทางแบบใหม่ๆ เพราะการขายซอฟต์แวร์หรือบริการ เช่น งานด้านความปลอดภัย ก็แตกต่างไปจากการขายอุปกรณ์เครือข่ายแบบเดิมๆ เราก็ต้องปั้นทีมใหม่ๆ เข้ามาอุดช่องโหว่ตรงนี้ และออกมาตรการใหม่ๆ กระตุ้นให้คู่ค้าของเรามีแรงจูงใจมากขึ้น เช่น อาจได้สิทธิประโยชน์มากขึ้นถ้าขายซอฟต์แวร์แบบ subscription ได้

สุดท้ายก็คือบริการใหม่ๆ อย่างตลาด IoT ตอนนี้ Cisco Thailand ก็กำลังปั้นทีมงานด้านนี้ขึ้นมารองรับตลาดในอนาคตอยู่

No Description

Chuck Robbins ซีอีโอของ Cisco

ในโลกยุคที่บริษัทไอทีฝั่ง Enterprise มีสินค้าเหมือนๆ กันหมด อะไรคือความแตกต่างของ Cisco

จุดขายหลักของ Cisco ยังเป็น network ตามแนวคิด networks see everything มองว่าใช้เครือข่ายเป็นเซ็นเซอร์ จากนั้นค่อยต่อยอดจากข้อมูลในเครือข่ายอีกที ทำให้สามารถพลิกแพลงต่อได้มาก

เมื่อมีข้อมูลที่วิ่งผ่านเครือข่ายแล้ว เราก็เพิ่มระดับของบริการอื่นๆ เข้ามา เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล (analytics) ความปลอดภัย (security) ซึ่งตรงนี้คนที่มีโซลูชันแบบ end-to-end จากสุดปลายถึงอีกปลายถือว่าได้เปรียบกว่า ในวงการก็เหลือเพียงไม่กี่รายแล้ว

ว่ากันว่า SDN (Software-Defined Network) จะมาฆ่าสินค้าเดิมของ Cisco

Cisco ไม่ได้ปฏิเสธ SDN แต่ในบริษัทเราเรียกมันอีกชื่อหนึ่งว่า Application Centric Infrastructure (ACI) แนวคิดของเราเชื่อว่ากระบวนการทุกอย่างจะถูกทำให้เป็นอัตโนมัติ (automated) ในระยะยาว ซึ่ง ACI หรือ SDN ก็สอดคล้องกับทิศทางนี้

ตอนนี้ผลิตภัณฑ์ฝั่ง ACI ของเราเริ่มเสถียร ลูกค้าก็ให้ความสนใจกันมากขึ้นเรื่อยๆ และเราก็เปิดให้คู่ค้ารายอื่นๆ (third party) เข้ามาเชื่อมต่อระบบของเราผ่าน ACI เช่น ผลิตภัณฑ์กลุ่ม load balance หรือความปลอดภัย ตรงนี้สามารถต่อยอดได้อีกมหาศาล เช่น ถ้าเราเก็บทราฟฟิกทุกอย่างในศูนย์ข้อมูลได้ ไม่เพียงแต่วิเคราะห์สถิติย้อนหลังได้ แต่เราสามารถพยากรณ์ไปยังอนาคตได้ด้วย

จะอยู่อย่างไรถ้าหากลูกค้าองค์กรรุ่นใหม่ๆ ไปใช้ Public Cloud กันหมด

ต้องบอกว่าองค์ประกอบของการประมวลผล (computing) มีทั้งหมด 3 อย่างหลักๆ คือ compute, storage, network โดย 2 ส่วนแรก (compute/storage) สามารถย้ายไปรันบนคลาวด์ได้ทั้งหมดแล้ว แต่ส่วนของ network ยังมีบางส่วนที่ต้องอยู่ในสถานที่ทำงานอยู่

ช่วงที่คลาวด์บูมใหม่ๆ เราเห็นคำพยากรณ์ว่าทุกอย่างจะย้ายไปอยู่บนคลาวด์ทั้งหมด ตอนนี้พิสูจน์แล้วว่าคำกล่าวนี้ไม่จริง เพราะองค์กรขนาดใหญ่ไม่สามารถย้ายระบบไปอยู่บนคลาวด์ได้ทั้งหมด ลูกค้ากลุ่มนี้ยังมีอยู่มาก ยุทธศาสตร์ของเราคือส่งเสริมการเชื่อมต่อระหว่าง private cloud ขององค์กรกับ public cloud

ในขณะที่อีกทาง เราก็พยายามสร้างบริการใหม่ๆ ที่อยู่บนคลาวด์ทั้งหมด เพื่อรองรับลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ บริการพวกนี้จะอยู่ในรูป Software as a Service (SaaS) ที่เริ่มเห็นกันบ้างแล้วอย่าง WebEx หรือ Spark Bot เป็นต้น

Get latest news from Blognone

Comments

By: lingjaidee
ContributoriPhoneAndroid
on 18 April 2017 - 03:30 #980052
lingjaidee's picture

อ้าว ผมนึกว่าคุณวัตสันแกอยู่ IBM ..


my blog

By: -Rookies-
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 18 April 2017 - 07:28 #980057 Reply to:980052

คนละวัตสัน ตึ่งโป๊ะ!


เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!