ความพยายามพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตชิปเป็นการแข่งขันที่ดุเดือดอย่างมากในช่วงปีหลังๆ ที่ผู้พัฒนาชิปรายอื่นๆ นอกจากอินเทลพยายามเร่งการพัฒนาสายการผลิตอย่างดุเดือด ทำให้ผู้ผลิตมักระบุว่าชิปของตนเองเป็นชิปเทคโนโลยีขั้นสูง ตอนนี้ผู้ผลิตจำนวนมากก็ระบุว่าชิปขอตัวเองเป็น 10 นาโนเมตรเหมือนกันไปหมด เจ้าเทคโนโลยีการผลิตอย่างอินเทลก็ออกมาปกป้องว่าการระบุว่าผลิตด้วยเทคโนโลยี 10 นาโนเมตรไม่ได้บอกทุกอย่าง
อินเทลชี้แจงว่าการระบุเทคโนโลยีมักใช้ตัวเลขง่ายๆ ที่คำนวณจากระยะห่างระหว่างเกตของทรานซิสเตอร์คูณกับระยะห่างระหว่างเส้นโลหะ ซึ่งการนำค่าจากกฎง่ายๆ เช่นนี้ก็เป็นตัวเลขที่คำนวณได้ง่าย อย่างไรก็ตามปัญหาสำคัญคือตัวเลขนี้ไม่ได้แสดงถึงความหนาแน่นของทรานซิสเตอร์ต่อพื้นที่ ซึ่งเป็นตัวเลขที่แสดงให้เห็นว่าวงจรมีความหนาแน่นสูงจริงหรือไม่
อินเทลยังแสดงกราฟระบุว่าบริษัทยังคงเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีการผลิตอยู่ ด้วยจำนวนทรานซิสเตอร์ต่อพื้นที่ที่หนาแน่นสูงกว่าคู่แข่งอื่นๆ แม้จะไม่ได้ระบุคู่แข่งในกราฟก็ตามที
ที่มา - Intel
Comments
ระยะหว่าง -> ระยะห่าง หรือเปล่าครับ?
ชิปขอตัวเอง -> ชิปของตัวเอง
บล็อกส่วนตัวที่อัพเดตตามอารมณ์และความขยัน :P
รระบุ ---> ระบุ
ตรงหัวข้อข่าว
แปลว่าขนาดชิปของคนอื่นเล็กกว่า?
แปลว่า 10nm ของคนอื่นเป็นได้แค่ 14nm ของ Intel ครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ที่เคยเกิดกับชิป apple A9 ที่ผลิตโดย Samsung 14nm กินไฟมากกว่าทั้งที่เล็กกว่า TSMC 16nm ใหญ่กว่าสิทธิภาพดีกว่า Samsung น่าจะคล้ายกัน อินเทลจะบอกว่าถึงจะมาที่หลังแต่ให้สิทธิภาพดีกว่าคู่แข่งอะไรแบบนี้
แปลว่าเจ้าอื่นเล็กว่า แต่ใส่มาน้อยกว่า รึปล่าวครับ
เปล่าครับ มันหมายถึงเจ้าอื่นทำความละเอียดได้เพียงบางส่วน แต่วงจรที่ใช้งานจริงไม่ได้ใช้งานละเอียดขนาดนั้น วงจรต่างๆ ในไลบรารีไม่ได้พยายามใช้ความละเอียดสูงสุด ซึ่งเหตุผลมีได้สารพัด อาจจะพัฒนาไลบรารีไม่ทัน หรือไม่ก็กระบวนการผลิตไม่ดีพอ หากใช้ความละเอียดสูงสุดแล้ว yield rate อาจจะต่ำจนใช้งานจริงไม่ได้
ประเภทว่าวงจรออกแบบที่ 20nm หมดแล้วมีแค่บางจุดวางชิดกัน 10nm ก็บอกว่าผลิตด้วยเทคโนโลยี 10nm แล้ว
lewcpe.com, @wasonliw
สรุปคือทั้งแผง อาจจะมี20nm อยู่ถึง90% มี10nmอยู่10%
แต่ด้วยการแข่งขันทางการตลาด เลยต้องโฆษณาว่าผลิตที่10nm ไม่งั้นเดี๋ยวขายไม่ออก หรือขายไม่ได้ราคา
ผมเข้าใจถูกมั้ยครับ
งั้น ควรวัดความหนาเน่ต่อพื้นที่หรือเปล่าครับแบบจอภาพ 5555
The Dream hacker..
แต่ผมว่าผู้ใช้ไม่ได้มองลึกขนาดความหนาแน่นหรือปริมาณของทรานซิสเตอร์หรอกครับ
ประสิทธิ์ภาพ/ราคา จบครับ คือต่อให้ผมรู้ว่าอะไรคืออะไร แต่ก็มีสิ่งทำไม่ได้เช่น เลือก L3 cache ในcpuได้อิสระ
The Last Wizard Of Century.
พิจารณาขนาด และ ปริมาณทรานซิสเตอร์..คำถามคือ ปริมาณทรานซิสเตอร์ต่อพื้นที่เท่าไร จึงเกิดประสิทธิภาพและคุณภาพ รวมถึงปริมาณความร้อนที่เกิดและcostด้วย
มันก็จริงเหมือนที่ Intel บอกนะ บางอย่างก็ต้องดูประสิทธิภาพโดยรวม แต่บังเอิญว่าความแตกต่างเหล่านี้ ถ้ามองจากระดับของผู้ใช้งานแล้ว มันดูไม่ออก(มั้ย) สุดท้ายแล้วก็ดูที่ราคาว่าจ่ายไหวแค่ไหน 555
..: เรื่อยไป
น่าจะเหมือน Core i7 ของเราไม่เท่ากัน อะไรแบบนี้
เหมือนร้านอาหารบอกว่าวิธีการทำของเราดีกว่า
แต่อีกร้านราคาถูกกว่า อร่อยกว่า อิ่มกว่า
ขอถามเป็นความรู้หน่อยครับ
ปัจจุบัน - intel เป็นเจ้าตลาด PC และ Notebook แทบทุกยี่ห้อใช้ intel
อนาคต - โลกกำลังเดินไปสู่ตลาด mobile แต่ผมยังไม่เคยเห็น chip ที่มาจาก intel มาจับตลาดมือถือ-tablet ได้อย่างจริงจังเลย เสร็จ qualcomm หมด apple ก็ทำ chip เอง แถมมีอีกสารพัดชิปเต็มไปหมดเอามาใช้กับมือถือ
คำถามคือในอนาคตมีโอกาสไหมครับที่ intel จะตกขบวน mobile แล้วก็โดนทิ้งไว้ข้างหลังเหมือนกับบริษัทเทคโนโลยีอื่นๆ ครับ
อารมณ์แบบโกดักเจ๊งเพราะการมาของกล้องดิจิตอลประมาณนั้นอะครับ?
หรือว่า intel มีธุรกิจอื่นๆ ด้วยนอกจากการผลิตชิปครับ
ถามว่ามีโอกาสไหมก็มีโอกาสทั้งหมดล่ะครับ Nortel, Nokia, SGI, DEC, MySpace โลกไอทีเวลาที่บอกว่ายิ่งใหญ่ไม่ได้แปลว่าจะอยู่ค้ำฟ้า
อินเทลเองก็ยอมรับว่าไม่สำเร็จในตลาด mobile คำอธิบายของเขาในช่วงหลังๆ จึงเปลี่ยนโทนไปว่ายิ่งคนใช้ mobile เยอะขึ้น เซิร์ฟเวอร์ก็ต้องขยายอยู่ดี
lewcpe.com, @wasonliw
มือถือ อาจจะไม่รุ้ง แต่ Core M กับ พวก Tabtel นี้ผมว่าไปได้ดีมากเลยนะครับ ถ้าอนาคต Core M ที่หลัก 10 nm การใช้พลังงานน้อยกว่านี้ มีสิทธิ์ได้ไปอยู่ใน Smart phone เหมือนกัน แต่ถ้าจะไป ผมว่า OS ต้องเป็น Windows ถึงจะมีโอกาสรอด
ในอนาคตยังคงจำเป็นต้องใช้ PC แหละครับ พีซีจะไม่หายไปไหน โอเอสพวก windows,mac,linux หลายตัวก็ยังคงต้องใช้ซีพียูของ intel
จริงๆ แล้วฝั่ง mobile มันจะโตไปพร้อมกับ server ครับ
ฝั่ง server นี่ตอนนี้ intel กินหมดครับไม่มีใครแย่งได้ ส่วน arm นี่ทุกวันนี้ power/performance แพ้ intel หมดที่งานความเร็งสูงๆ (ซึ่งมันก็เกี่ยวกับขนาด transister / เทคโนโลยีที่ใช้ผลิตนั่นแหละ)
Intel มีโรงงานครับ ตอนนี้ก็ทำ lte modem ให้ iphone บางรุ่นอยู่ ถ้าจำเป็นจริงๆ ก็ซื้อ arm license มาทำชิพขายได้ แต่ Intel อยากทำ X86 ที่ตัวเองมีลิขสิทธมากกว่า และก็มองหาทางอยู่ อย่างหนึ่งคือซื้อ License GPU ของ AMD มาแปะกับ cpu ของตัวเองเพื่อให้ X86 เล็กลง โดยยังมี performance สูงกว่า
ปัญหาคือตลาดมอง ARM บนมือถือ comparable สูงกว่า ต้นทุนถูกกว่า performance สามารถตามทันได้ ค่ายมือถือคงไม่เอา intel ที่แพงเสมอตันเสมอปลายแน่
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ดูจาก Atom ที่ Intel พยายามบุกมาทาง Asus ใน Zenphone รุ่นแรก รุ่นสอง
แล้วจากนั้นก็ประกาศยุติการผลิตไป
จน Asus Zenphone รุ่นสาม ต้องไปใช้ chip เจ้าอื่น
แล้วไม่สามารถทำราคาได้แบบสองรุ่นแรก
ผมคิดว่า Intel คงเห็นว่าไม่คุ้ม
หรือไม่ก็ติดปัญหาอะไรซักอย่างถ้าจะบุกต่อ
เช่น สถาปัต x86 มันประหยัดไฟ สู้ ARM ไม่ได้?
หรือ การขึ้นจาก OpenGL ในมือถือเป็น Vulkan
ถ้าจะตามให้ทัน ต้องทำ Driver/ออกแบบ chip ใหม่??
ปัญหาส่วน modem 3G,4G ที่ต้องจ่ายลิขสิทธิ์ให้ qualcomm???
(ตอนประกาศยุติ เห็นว่าจะไปทำพวก network infrastructure ก่อน)
ฯลฯ
แต่ถ้าจะบอกว่า Intel ตกขบวนมือถือแล้วจะกลายเป็น บ.ตกยุค แล้วโดนทิ้งไว้ข้างหลังมั๊ย?
ผมว่า "ไม่" เพราะ know-how semi-conductor computer (ชิปซิลิก้อน) บ.Intel ยังคงเป็น #1
ไม่ผลิตชิปมือถือ ก็ไปผลิตชิปสำหรับเซิฟเวอร์ หรือ IoT ก็ได้
ถ้าจะโดนทิ้งจนตกยุค ก็คือ Intel ต้องตกขบวน quantum computer หรือ bio computer
ก็ถูกในมุมนึง เพราะตอนนี้ผู้ผลิตชิปมือถือหลายเจ้า โฆษณาว่าไป 10nm แล้ว แต่พลังคำนวณจริงๆยังห่างชั้นกับทางฝั่ง intel มาก
ซึ่งยุคนึงแต่ละค่ายแข่งกันโฆษณาที่เทคโนโลยีการผลิตว่าเล็กลงเรื่องๆ แต่ก็ไม่ได้บ่งชี้ถึงประสิทธิภาพที่ได้ ว่ามากขึ้นด้วยไหม นอกจากตรงนี้ก็ทำให้ผู้ใช้ไขว้เขวได้ คิดว่าcpu ในมือถือแรงกว่า cpu ในpc
คนที่สงสัยแนะนำให้อ่านบทความนี้จาก WCCF ครับ ถึงจะเป็นช่วง 14nm แต่ก็แก้ข้อสงสัยได้ดีมาก
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
มันก็จริงครับ คำเหล่านี้เมื่อก่อนถูกใช้กันแค่ในแวดวงหลังบ้านหรือการอ้างอิงเชิงเทคนิค แต่ตอนหลังถูกยกขึ้นมาขายเพื่อสร้างคุณค่าในการตลาดเป็นหลัก
สุดท้ายคนบริโภคส่วนใหญ่ก็พิจารณาจากปัจจัย 2-3 อย่างหลักๆ (ของ CPU)
- ประสิทธิภาพ (แรงไหม)
- คุ้มค่า (สมราคาไหม)
ตัวเลขไม่ได้บอกทุกอย่างจริงๆ รออินเทลออกมาลุยตลาด mobile cpu แบบเต็มๆซักที
Samsung Qualcom Huawai Mediatek แซงไปหลายก้าวแล้ว
เหมือนจะได้ยินจาก intel เป็นเจ้าแรก ๆ นะ ที่ยกเอามาตรฐานการผลิตมาเป็นจุดขาย เห็นตั้งแต่ 22nm
เม้นท์นี่ทำผมจุกให้ความแก่ของตัวเองเลย ผมยังจำสมัย CPU ยังใช้ micrometer วัดอยู่เลย (Pentium III Katmai [0.25um] เป็นตัวแรกที่ได้จับ)
ผมจุกหนักเข้าไปอีก ตัวแรกที่ได้ใช้ 8088 จำความถี่ไม่ได้ ส่วนตัวแรกที่เป็นเจ้าของ 386sx 16MHz
อย่าได้ใส่ใจตอนนี้ผมยังนั่งคอมไฟล์ 8MHz อยู่เลยครับ:P
ก็ต้องถามว่าเอาตัวไหนมาเทียบกัน เกิดเอาตัวที่แพงกว่า 2-3 เท่ามาเทียบมันก็คุ้มค่าอยู่หรือเปล่าครับ? ถ้าจะเลือกเจ้าอื่น
ถ้าดูจากกราฟผมไม่ค่อยอยากจะเชื่อเท่าไรว่ามันจะต่างกันถึงขนาดนั้นนะ ทางที่ดีควรระบุรุ่นที่เปรียบเทียบเพื่อให้เห็นกันชัดๆไปเลย