หลังเหตุการณ์ปัญหาแบตเตอรี่ระเบิดใน Samsung Galaxy Note 7 ทางซัมซุงก็ให้สัญญาว่าจะนำบทเรียนครั้งนี้ไปปรับปรุงกระบวนการผลิตครั้งใหญ่ เริ่มจากเพิ่มการตรวจสอบความปลอดภัยของแบตเตอรี่ 8 ขั้นตอน (8-Point Battery Safety Check) ตั้งแต่การผลิต เพื่อยกระดับความปลอดภัยในสมาร์ทโฟนรุ่นถัดไป

กระบวนการตรวจสอบมีทีมนักวิจัยกว่า 700 คน ทดสอบสมาร์ทโฟนกว่า 2 แสนเครื่อง แบตเตอรี่กว่า 3 หมื่นชิ้น ผลการตรวจสอบปัญหาแบตเตอรี่โดยคนในซัมซุงและผู้เชี่ยวชาญจากภายนอก พบว่า ปัญหาเกิดจากทั้งการออกแบบและกระบวนการผลิตแบตเตอรี่จากผู้ผลิตแบตเตอรี่สองราย (ไม่เปิดเผยชื่อ)

เพื่อเป็นหลักประกันว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก ซัมซุงจึงกำหนดมาตรการอย่างเข้มงวด ดังนี้

ตรวจสอบความปลอดภัยของแบตเตอรี่ 8 จุด

• ทดสอบความคงทน ตั้งแต่การประกอบแบตเตอรี่ แรงกดในอุณหภูมิต่างๆ การชาร์จยาวนาน
• ทดสอบด้วยสายตา ตรวจสอบเปรียบเทียบตัวอย่างแบตเตอรี่ ระหว่างแบตเตอรี่ของซัมซุงกับตัวอย่างแบตเตอรี่ที่ได้รับการยืนยันตามมาตรฐาน
• เอ็กซเรย์แบตเตอรี่ ค้นหาความผิดปกติอย่างการบิดของขั้วไฟฟ้า (อันเป็นสาเหตุหนึ่งของการระเบิด)
• ถอดแยกส่วนประกอบของแบตเตอรี่โดยละเอียด ตรวจสอบการเชื่อมแถบขั้วไฟฟ้า และการบุเทปฉนวน
• ตรวจจับการรั่วไหลของกระแสไฟ
• ตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่ โดยทดสอบความเปลี่ยนแปลงของกระแสไฟฟ้าในสภาพอุณหภูมิปกติ
• จำลองการใช้งานแบบผู้บริโภค ทดสอบการทำงานของแบตเตอรี่โดยจำลองการใช้งานของผู้บริโภค จำลองการใช้งานในสถานการณ์ต่างๆ
• ทดสอบการชาร์จแบตเตอรี่ ทดสอบในขณะที่ชาร์จ และคายประจุไฟฟ้า ผ่านการทดสอบชาร์จ และใช้งานจากนั้นก็ชาร์จซ้ำเป็นจำนวนมาก

ใช้มาตรการตรวจสอบความปลอดภัยหลายชั้น

เริ่มใช้มาตรการความปลอดภัยตั้งแต่เริ่มต้นออกแบบแบตเตอรี่ ไปจนถึงวัสดุที่นำมาประกอบ รวมทั้งเพิ่มพื้นที่ว่างระหว่างแบตเตอรี่กับแผงวงจร, ปรับปรุงอัลกอริทึ่มใหม่สำหรับการควบคุมอุณหภูมิของแบตเตอรี่ขณะทำประจุไฟฟ้า, ควบคุมกระแสไฟฟ้า และระยะเวลาที่ใช้ประจุไฟฟ้า

นอกเหนือจากทดสอบแบตเตอรี่ 8 จุดตามที่ได้กล่าวไปแล้ว ทีมนักวิเคราะห์ยังทดสอบเครื่องในสภาพอากาศสุดขั้ว ทั้งด้านในและนอกเครื่อง จำลองสถานการณ์การใช้งานแบบผิดวิธี เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ซ้ำเดิม