Take-Two Interactive Software บริษัทแม่ของค่ายเกมชื่อดังอย่าง 2K Games, Rockstar Games และ Double Take Comics มีซีรี่ส์เกมที่โด่งดังมากมายอย่าง GTA, BioShock, Civilization ถือเป็นหนึ่งในค่ายเกมที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง แต่ในกระแสปัจจุบันที่ค่ายเกมต่างออกเกมใหม่ถี่ขึ้นเรื่อย ๆ ทาง Take-Two กลับเห็นต่างออกไป ส่งผลให้เกิดคำถามขึ้นมาว่า เหตุใดทาง Take-Two จึงมีมุมมองที่แตกต่างจากค่ายอื่น ๆ
ล่าสุดที่งาน MKM Partners event ตัวแทนจาก Take-Two คุณ Strauss Zelnick ผู้เป็น CEO ออกมาพูดคุยและอธิบายว่าเพราะเหตุใดทาง Take-Two ถึงไม่ออกเกมใหม่ทุก ๆ ปี เหมือนที่คู่แข่งต่าง ๆ ทำกัน
แนวคิดการมี GTA หรือ Red Dead ภาคใหม่ออกมาทุกปี อาจฟังดูดี แต่ Zelnick กล่าวว่า ความเป็นจริงแล้วมันมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก และอาจทำให้คุณภาพของเกมด้อยลงได้
“สมมติว่า พวกเรานำแฟรนไชน์ของเราทั้งหมด มาออกเกมใหม่ทุก ๆ ปี และทิ้งอย่างอื่นไปให้หมด ตามที่คำนวณแล้ว เราจะอยู่ในสภาพที่ดีกว่านี้ แต่มันหมายถึงอะไรกันแน่? มันหมายถึงเราจะต้องเพิ่มทีมพัฒนาของเราอีกเท่าตัว มันหมายถึงเราต้องมาประเมินคุณภาพของเกมกันใหม่ และมันหมายถึงเราจะต้องรับความเสี่ยงที่ลูกค้าจะรู้สึกเบื่อหน่ายกับแฟรนไชส์เหล่านี้"
"หนึ่งในจุดที่เยี่ยมที่สุดของ Take-Two คือแฟรนไชส์ของพวกเราให้ความรู้สึกที่ว่ามันจะคงอยู่ตลอดไป แฟรนไชน์ของพวกเราเป็นที่รักใคร่และมีความยั่งยืน ในขณะที่คู่แข่งของพวกเรากำลังทำให้แฟรนไชส์ของพวกเขามอดไหม้ลงอย่างรวดเร็ว หมายความว่าพวกเขาต้องสร้างแฟรนไชส์ใหม่ขึ้นมาเรื่อยๆ ซึ่งเป็นอะไรที่ยากมาก”
Zelnick เน้นว่าถ้านับรวมเกมจาก Rockstar Games และ 2K Games ด้วยแล้ว บริษัทมีเกมทั้งหมด 11 แฟรนไชส์ แต่ละแฟรนไชส์มียอดจำหน่ายรวมกันไม่ต่ำกว่า 5 ล้านหน่วย นอกจากนี้ Take-Two ยังมีถึง 54 เกมที่มียอดจำหน่ายไม่ต่ำกว่า 2 ล้านหน่วย “ในธุรกิจนี้ เราไม่เป็นรองใครแน่นอน” Zelnick กล่าว
แฟรนไชส์ของ Take Two ที่โด่งดังคือ GTA, Red Dead, NBK 2K, WWE 2K, Civilization, BioShock และ Borderlands
เป้าหมายของ Take-Two คือไปให้ถึงจุดที่มีแฟรนไชส์มากพอที่จะออกเกมใหม่ได้ทุกปี โดยไม่ซ้ำแฟรนไชส์เดิม และปล่อยให้แฟรนไชส์อื่น ๆ มีเวลาพักในระหว่างนั้น “มันจะทำให้พวกเรามีกำหนดการออกเกมที่ทรงพลังได้ โดยที่ไม่ต้องทำให้แฟรนไชน์ของเรามอดดับไป สิ่งนี้คือเป้าหมายของเรา”
Take-Two กำหนดเป้าหมายนี้มาตั้งแต่ปี 2007 แม้ในช่วงเวลาดังกล่าว ทาง Take-Two ยังต้องพึ่งพาแฟรนไชส์ GTA อย่างมากก็ตาม
ที่มา – GameSpot
Comments
สงสัย Valve เอาแนวคิดนี้ไปใช้เหมือนกัน เลยไม่ออกมันซะเลย HL3
แนวคิดเดียวกันกับ blizzard เลย
ถ้าทำทัน โดยไม่ต้องรีบหรือเผา ออกทุกปีไม่ใช่ปัญหาอะไร แต่มานั่งเซ็ทเป็นเป้าหมาย แล้วต้องรีบทำให้ทันเส้นตายก็อย่าเลย
ดูอย่าง Last Guardian สิ 55555555555555
EA Ubi โดนไปเต็มๆ
ค่ายแรกบั๊กอย่างฮา ค่ายถัดมาบั๊กอย่างเครียด - -*
เห็น Call of Duty แล้ว สะท้อนใจ
Call นี่ไม่เหมือนกัน Assassin Bug เอ๊ย Creed นะครับเพราะทีมพัฒนามีสามทีม แต่ละทีมมีเวลา 3 ปีทำแยกกันไปเรื่อยสลับกันออก
แล้วพวกซีรีส์ NBA 2K กับ WWE 2K ล่ะพี่ ได้ข่าวว่าออกมาทุกปี
Coder | Designer | Thinker | Blogger
เกมแนวกีฬามันใช้เวลาสั้นกว่าเพื่อนเป็นปรกตินะครับ
หัดเอาอย่าง Nintendo ซะบ้าง 55555
ผมคิดว่าในที่นี้ควรใส่เป็นชื่อเกมเต็มๆดีกว่าครับ Red Dead Redemption
Red Dead Redemption ไม่ใช่ตัวต้นเฟรนไชน์เดี่ยวๆนะครับ ก่อนหน้านั้นมีเกมชื่อ Red Dead Revolver ซึ่งเป็นภาคแรกของตระกูล เพราะงั้นใช้แค่คำว่า Red Dead คิดว่าเหมาะสมแล้วครับ
โอะ ขอบคุณครับ พึ่งรู้เหมือนกัน
เห็นด้วยนะ
เกมดีๆ มันเป็นอะไรที่ไอเดียต้องตกตะกอน
รวมทั้งเวลาในการขัดเกลาหลายๆอย่าง