dtac ได้จัดงานนำเสนอผลงานของสตาร์ทอัพจากโครงการบ่มเพาะสตาร์ทอัพ dtac Accelerate Batch 4 ไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งนอกจากทีมที่ได้รับรางวัลที่ Blognone รายงานไปแล้วนั้น สตาร์ทที่ได้นำเสนอผลงานในครั้งนี้มีดังนี้ครับ
สตาร์ทอัพ MedTech ที่เริ่มจากแนวคิดของการดูแลผู้ป่วยและผู้สูงอายุที่บ้าน ที่ผู้ป่วยมีแนวโน้มจะฟื้นตัวเร็วกว่าที่โรงพยาบาล แต่ปัญหาการหาคนดูแลที่มีความรู้ Health at Home จึงเข้ามาแก้ปัญหาตรงนี้ โดยทำหน้าที่เป็นผู้คัดสรร caregiver ที่ผ่านการฝึกอบรมและได้รับการรับรอง พร้อมทั้งโคกับบริษัทประกันเรื่องค่าใช้จ่ายให้ด้วย
สตาร์ทอัพด้านสุขภาพ ที่ให้บริการด้านการออกกำลังกายและควบคุมอาหาร โดยโซลูชันของ Plan for Fit คือการเร่งกลไกเผาผลาญ (boost metabolism), ขจัดไขมันในร่างกาย (reduce fat gradually) และรักษาหุ่นให้คงที่ (maintain the shape) ซึ่ง Plan for Fit ก็มีให้ทั้งแผนการออกกำลังกาย พร้อมโค้ชส่วนตัว รวมถึง nutrition plan ให้ด้วย
สตาร์ทอัพที่นำแนวคิด sharing economy มาสู่ตู้เสื้อผ้าของคุณผู้หญิง เพื่อแก้ปัญหา "งานนี้ใส่ชุดอะไรดี?" โดยทาง WEARandSHARE จะเป็นตัวกลางให้สำหรับผู้ที่ต้องการปล่อยให้เช่าชุดของตัวเอง และผู้ที่ต้องการหาชุดใส่ พร้อมทั้งมีบริการซักรีดให้หลักการใช้งานและระบบประกันความเสียหายของชุด ซึ่งนอกจากชุดที่ผู้อื่นปล่อยเช่าแล้ว ยังมีชุดแบรนด์เนมต่างๆ ให้เลือกด้วย
สตาร์ทอัพที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างร้านอาหารที่ต้องการวัตถุดิบ และซัพพลายเออร์ โดยนอกจากจะเป็นคนกลางแล้ว ยังมีระบบจัดการและสรุปยอดสั่งซื้อให้เสร็จสรรพ
บริการแพลตฟอร์ม beauty on-demand สำหรับคุณผู้หญิง มีบริการให้ทั้งแต่งหน้า ทำผม สปา ทำเล็บและโยคะ โดยการเรียกบริการทั้งหมดทำผ่านแอพพลิเคชันและเลือกวันเวลาที่ต้องการ
เป็นสตาร์ทอัพที่พัฒนาแว่นตาสำหรับผู้พิการทางสายตา โดยใช้บอร์ดของ Raspberry Pi 2 พร้อมกล้องขนาดเล็กและชุดหูฟัง เพื่อให้ผู้บกพร่องทางสายตาสามารถมองเห็นสิ่งต่างๆ ผ่านการรับฟังเสียง เบื้องต้นแว่นของทาง Visionear สามารถอ่านบาร์โค้ด ตรวจสอบสี ตรวจสอบการเปิดปิดของหลอดไฟ และแยกแยะธนบัตร
สตาร์ทอัพด้าน FinTech ที่ให้บริการแพลตฟอร์มจัดการด้านการลงทุน โดยทีมนักวิเคราะห์และผู้จัดการกองทุน พร้อมทั้งให้ความรู้ คำแนะนำด้านการลงทุน
สตาร์ทอัพที่ทำหน้าที่เป็น marketplace สำหรับฟรีแลนซ์ โดยทาง FastWork จะเป็นผู้คัดเลือกฟรีแลนซ์ด้วยตัวเอง เพื่อให้ผู้ว่าจ้างมั่นใจว่าได้ฟรีแลนซ์ที่มีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกัน FastWork ก็จะเป็นคนถือเงินค่าจ้างเอาไว้ก่อน และพร้อมจ่ายให้กับฟรีแลนซ์หลังทำงานเสร็จ ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาทั้งฝั่งของฟรีแลนซ์ที่ไม่ได้เงินหลังงานเสร็จ และบริษัทที่จ้างงานแล้วไม่ได้งานตามที่ตกลง
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- Kubernetes คืออะไร [Part 1] เกิดขึ้นมาอย่างไร? ทำไมต้องใช้มัน? | Cloudnone EP.14
- CI/CD ยังไงดี ตั้งเซิร์ฟเวอร์เอง vs เช่าคลาวด์ | Cloudnone EP.13
- รู้จักโน้ตบุ๊กบนคลาวด์ เช่าใช้งาน Jupyter Notebook ที่ไหนดี | Cloudnone Ep.12
- สรุปข่าวใหญ่ปี 23 และคาดการณ์เทรนด์ปี 24 ในวงการ Cloud | Cloudnone EP.11
- สรุปของใหม่และสาระสำคัญจาก AWS re:Invent 2023 | Cloudnone Special EP
Comments
Visionear
ผมชอบเจ้านี้
โหไอเดียแจ่มแมวมากๆ
ทำไมบางอย่างมันเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวมากกกกก แต่เราก็คิดไม่อออก
ทั้งหมดนี้มีคนทำอยู่แล้ว ไม่เว้นแม้แต่แว่นที่ดูมี innovation มากที่สุด
แต่เป็นรูปแบบอื่นไม่ใช่ แบบ application startup ดูของทุกค่ายแล้ว (รวม sme)ส่วนใหญ่จะเป็น matching และ การเปลี่ยนรูปแบบบริการให้เป็น automate แต่ยังหาอันที่น่าลงเงินไม่มี
ส่วนใหญ่ติดคอขวดเรื่องหลังบ้านทั้งนั้นเลย เพราะรายได้ไม่พอมาจ่ายหลังบ้านที่ต้องวุ่นวายมาก
หรือ การหมุนเวียนเม็ดเงินสู่ผู้ร่วมวงจรไม่ส่งผลดีพอ อันนี้เป็นปัญหาแก้ไม่ตก ทำๆไปพอผู้ร่วมไม่คุ้มจากปังกลายเป็นพัง
ที่จริงน่าจัดให้คนครีเอทีฟแบบนี้ได้เจอกับมือโปร (ผมคนนึงยินดีแนะนำน้องๆ)
เพราะเข้าใจว่าสังคมไทยประสบการณ์ไม่ค่อยมีกันตอนเรียน ส่วนคนทำงานต้องยอมทิ้งความฝันกันไป หรือมีแต่คนเก่งแค่ภาพแค่หัวโขน
ถ้าทำได้ก็น่าจะเรียลลิตี้ได้กว่านี้ ไม่เหมือนพวกหลอกตัวเองผ่านสื่อว่าสำเร็จแต่หนุ่ม โดยมีเบื้องหลังอะไรที่มันดำๆอีกมาก
เอาใจช่วยคนรุ่นใหม่ไม่อยากให้ท้อและโดนตัดตอน แต่ทำธุรกิจ หลังบ้านต้องแน่นบอกเลย