ปัญหาปวดใจของผู้ผลิตคอนเทนต์แบบวิดีโอคือมักถูกผู้ใช้บางรายคัดลอกผลงานไปเผยแพร่บนช่องทางตัวเองเพื่อผลประโยชน์ (ฝรั่งเรียกว่า freebooting) ล่าสุด Facebook ออกเครื่องมือ Rights Manager ช่วยจัดการปัญหาเหล่านี้แล้ว
เครื่องมือนี้จะช่วยให้แอดมินเพจอัพโหลดวิดีโอแท้ของตัวเองขึ้นเพจได้สะดวกขึ้น และช่วยค้นหาวิดีโอที่เหมือนกันใน Facebook ให้ และรองรับการดูแล Live Video ได้ด้วย (เช่นการบันทึกรายการสดไปเผยแพร่ต่อ) พร้อมแจ้งเตือนเจ้าของผลงานแท้ และเตือนให้ผู้ดูดคลิปจัดการนำคลิปออกด้วย ยังไม่เปิดในวงกว้างแต่ผู้สนใจสามารถเข้าไปลงทะเบียนใช้งานได้ก่อนแล้ว และยังมี API ให้นักพัฒนานำไปใช้งานต่อด้วย
ที่มา - Facebook Rights Manager ทาง TechCrunch
Comments
แล้วถ้าดูดมาจาก Youtube จะรู้ไหม
ถ้าผมเอาคลิปที่ทำเอง โพสต์ใน Youtube และ Facebook มันจะรู้ได้ยังไงครับว่าผมไม่ใช่พวกดูดคลิป เพราะทั้งสองจะต้องเหมือนกันแน่นอน
คือในเนื้อหาข่าวบอกว่าเฉพาะ Video ใน facebook ครับ
แค่ใน Facebook ก็มีเพจนึงยิ้มแล้วครับ
หวังว่าคงไม่เป็นปัญหาเหมือนที่ YT ล่ะนะ
บน Youtube เดี๋ยวนี้มีปลิงประเภทใหม่แล้ว แค่ดูดเอาคลิปไม่กี่วิแล้วมาสาวความให้ยืดกว่าเดิม เพื่อ?
ตอนนี้น่าจะยังตรวจสอบได้เฉพาะ video ในเฟซด้วยกันเอง แต่ในเชิงเทคนิคแล้วการตรวจสอบข้ามแพลตฟอร์มไป YouTube ก็ยากแหละ
หวังให้ facebook ฉลาดพอที่จะตรวจจับแบบ mirror-flip ด้วยเน้อ ทั้งแนวตั้งแนวนอน ถ้าจะหนีเราทำได้หมดแหละ
youtube เราก็เจอเยอะที่ mirror ซ้ายเป็นขวาแล้วคลิปก็ยังอยู่ต่อไป แต่เชื่อว่ามีก้าวแรกแล้วก้าวต่อไปน่าจะทำได้ไม่ยากละ
ยุคสมัยแห่งการเป็นแอดเพจนี่มันอยู่ยากจริงๆ
คลิปที่มีการ edited ล่ะครับ
สมัยนี้ไม่ค่อยมีใครดูดแล้วอัพแบบทื่อๆ แล้ว
WE ARE THE 99%
จะได้เรื่องไหมหนอ
ถ้าสามารถตรวจสอบวีดีโอข้าม Platform กับ Youtube, DailyMotion, Vimeo ฯลฯ ได้ด้วยจะดีมาก เจ้าของคลิปจะได้ไม่ต้องมากังวลโดนดูดไปโพสที่อื่น
ปล. เคยมีเคสภาพถ่ายธรรมดาโดนก็อบและอ้างเป็นงานตัวเอง แต่เจ้าของงานกลับโดนบล็อกหรือแจ้งว่าละเมิดลิขสิทธิ์ ทำอะไรกับคนก็อบไม่ได้ ระบบแบบนี้เชื่อถือไม่ได้เลย ไม่รู้ว่าทาง Facebook จัดการปัญหานี้แล้วหรือยัง (หรือถ้าใช้เป็นระบบ Bot อยู่ ก็ควรเปลี่ยนเป็นใช้คนตรวจสอบแบบเดิมดีกว่า)
Get ready to work from now on.
ผมว่าข้ามแพลตฟอร์มนี่ถ้าจะยาก
เพราะFacebook เค้าก็กำลังจะตั้งตัวเป็นศูนย์รวมวิดีโอแห่งใหม่ แข่งกับเจ้าอื่นๆเช่นกัน
สิ่งที่แต่ละเจ้าใครจะอยู่ใครจะไป ในวงการVideo ก็คงขึ้นอยู่กับ ความสามารถในการป้องกันการโดนดูดคอนเทนต์ไปลงที่อื่น และอัตราตอบแทนของเจ้าของคลิปครับ
เพราะถ้าป้องกันได้ปุ๊ป คนที่จะสามารถเอาไปเผยแพร่ที่อื่นต่อได้ก็จะมีแต่เจ้าของคลิปเท่านั้นไงครับ
แต่ผมว่าสุดท้ายก็ป้องกันไม่ได้อยู่ดี เพราะมันก็ยังมีโปรแกรมแคปหน้าจออยู่ดีครับ
กังวลพวกสำนักข่าวบางค่ายจะหัวหมอมากกว่า