ไม่รู้สิ ผมว่า mario / zelda สนุกดีเสมอต้นเสมอปลาย

ส่วนเกมส์ของ pc / ps4 / xbox one มันแทบจะเป็นอันเดียวกัน ถ้ามี pc อยู่แล้วซื้อ Wii U ดูคุ้มค่ามากกว่า

โดยเฉพาะแนวทาง ps4 เล่น ps2 ใด้ "แต่ต้องซื้อเกมส์ใหม่อีกครั้ง" ทำให้รู้สึกว่าช่วงนี้ sony ไม่น่าคบหา

ผมกลับเห็นต่างนะ

ถ้าดูพัฒนาการเครื่อง Console ของ Nintendo ผมกลับมองว่าทุก console จะพยายามฉีกแนวออกจากแบบเดิมๆ โดยมีทั้งประสบความสำเร็จบ้าง (Wii, NDS/3DS, N64) และล้มเหลวบ้าง (GC, Wii U) คละกันไป ซึ่งเกมจากค่าย Nintendo เอง เช่น ตระกูล Mario หรือ Zelda ก็จะมีการปรับเปลี่ยนวิธีการเล่นตาม console นั้นๆ

เพราะฉะนั้นที่บอกว่ามันน่าเบื่อและไม่มีอะไรใหม่ๆ คงจะไม่ถูกต้องซะทีเดียว .. แต่สิ่งใหม่ๆ ที่ Nintendo พยายามทำอาจจะไม่ได้ถูกจริตและตอบโจทย์คอเกมเมอร์ทุกคน (โดยเฉพาะสาย Hardcore) และหลายครั้งค่ายเกมอื่นๆ ไม่ซื้อไอเดียเหล่านี้ ก็เลยไม่ได้นำเทคโนโลยีเหล่านี้ไปต่อยอดต่อ ทำให้เครื่องเกมที่ไม่ประสบความสำเร็จขาด content ดีๆ เหล่านี้ไป

ผมเชื่อว่าถ้า Nintendo เปลี่ยนวิสัยทัศน์โดยเลือกที่หยุดพัฒนารูปแบบการเล่นอันหลากหลาย และเลือกที่จะทำ hardware แข่งสเปคตรงๆ กับ Sony และ Microsoft ผมว่า Nintendo น่าจะกินส่วนแบ่งตลาดได้เยอะกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน แต่ในระยะยาวตลาดเกมคงถึงจุดอิ่มตัวในเร็ววันเหมือนวงการโทรศัพท์มือถือ ณ ปัจจุบัน (ขาด innovation เพราะเน้นแต่แข่งสเปคกัน) และก็อาจจะดึงกันลงเหวไปหมด

บางครั้งเราก็ต้องการคนที่กล้าฉีกกฏเดิมๆ แล้วออกแบบอะไรใหม่ๆ มาลองในตลาด อาจจะล้มเหลวบ้าง แต่ก็ยังดีกว่าหยุดการพัฒนารูปแบบการเล่นแล้วลงแข่งในตลาดที่รอวันอิ่มตัวในอนาคตอันใกล้

ยังไงผมก็ยังชอบ mario กับ Zelda ที่สุดอยู่ดี และจะตามเล่นเกมสองตระกูลนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าเขาจะเลิกทำล่ะครับ เอ้อ... แต่ mario นี่ผมชอบแบบ 2D side scholl นะครับ ตรงกันข้าม zelda นี่เพิ่งจะมาเล่นเมื่อไม่นานมานี้ (NDSL) อันนี้ชอบแบบ 3D มากกว่า

PS Vita ผมนี่ก็เครื่องเล่น PJD ที่มีแผ่น Ragnarok เสียบคาไว้ (ทำไม) orz

บอกว่าไม่มีอะไรใหม่นี่ได้ลองเล่นรึเปล่าครับ หรือเห็นกราฟฟิกตกยุคก็เหมารวมแล้ว
Mario มี 2D platform ที่มาเป็นประจำทุก gen ก็จริง แต่ก็มีภาคใหม่ที่หลุดกรอบเดิมอย่าง Galaxy, 3D
Zelda ถ้าไม่นับ Phantom Hourglass กับ Spirit Track เกมเพลย์ก็แทบไม่เคยซ้ำกัน
ถ้าถามถึง IP ใหม่ ก็ Spltoon ไงครับ 3rd Person Shooting เกมแรกของนินเทนโด แต่ชนะ TGA 2 รางวัลรวด
ถ้าสิ่งที่นินเทนโดทำเรียกว่าเพลย์เซพ COD, Assassin's Creed, Street Figther นี่เรียกว่าอะไรดี
Innovative นี่ไม่ง่ายนะครับ นินเทนโดลองมาเยอะมาก เปรี้ยงบ้างแป้กบ้างเรื่องปกติ

ลองดูยอดขายของเกม Mario ครับ แล้วจะเข้าใจว่าทำไม Nintendo ถึงยังสร้างอยู่ :P

ปกติเดินๆ อยู่แล้วสะดุดขาตัวเองบ่อยไม๊ครับ

"Nintendo ติดอยู่กับโลกยุคเดิม ติดอยู่กับความสำเร็จแบบเดิม ไม่กล้าทำอะไรใหม่"
"Innovative ที่พยายามใส่มา มันก็ดีตั้งแต่ Wii เป็นต้นมา"

เอาเฉพาะด้าน handheld นี่ Nintendo ถือว่าเทพมากๆ นะครับ ตั้งแต่ gameboy classic และรุ่นพัฒนาต่อยอดยุคหลังๆ (light, color) หรือจะ gameboy advace กับรุ่นพัฒนาต่อยอดอย่าง sp หรือจะแหวกกันสุดๆ อย่าง nintendo ds กับรุ่นพัฒนาต่อยอด (ndsl, ndsi) หรือเครื่องเกมมือถือแบบ 3D อย่าง 3DS

ถ้าเป็นคนเล่นเกม console/handheld แล้วล่ะก็ ผมว่าไม่มีใครกล้าใช้คำว่า "ไม่กล้าทำอะไรใหม่" กับปู่แน่ๆ ล่ะครับ

title ใหม่ก็มี xeno blade, splatoon นิครับ

โลกยุคใหม่ ไม่ยึดติดกันความสำเร็จ
กล้าคิดกล้าทำของ Sony กับ Microsoft

จอยเหมือนเดิม
ปุ่มตำแหน่งเดิม
เพิ่มทัชแพด
ซีพียูใช้ x86
ใส่การ์ดจอ
เพิ่มแรมมาก
เกมส์เด่น Final Fantasy ... ภาคที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้
Tomb Raider ... ภาคที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้
Winning ... ภาคที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้
Metal Gear Solid ... ภาคที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้
Halo ภาค 5
Call of Duty ... ภาคที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้

โลกยุคเดิม ติดอยู่กับความสำเร็จแบบเดิม
ไม่กล้าทำอะไรใหม่ของ Nintendo

จอยออกแบบใหม่
เพิ่มปุ่ม ย้ายตำแหน่ง เพิ่มกลไก
เพิ่ม touch screen
เครื่องแรงขึ้น 3 เท่า

เครื่องพกพา
มี 2 screen
จอ 3D
เพิ่มปุ่ม analog
cpu แรงขึ้น

เพื่อเล่น Zelda ... ภาคที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้
กับ Mario ... ภาคที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้

Innovative ของเกมส์ในปัจจุบันของญี่ปุ่นแทบทุกค่าย
เลิกทำ console ไปทำ เกมส์มือถือ free to pay, pay to win
หรือประชดโลก หนีไปทำตู้ปาจิงโกะ มันซะเลย เหมือน konami
ครับ

ไม่มีไร อยากบ่นบ้างเฉยๆ
ขอบคุณที่อ่านจนจบฮะ

ฉีกหน้าตัวเองonline

"ส่วน Innovative ที่พยายามใส่มา มันก็ดีตั้งแต่ Wii เป็นต้นมา แต่มันก็ Indy เกินไปสำหรับ WiiU ไม่มีค่ายเกมไหนเอาไปใช้ไปพัฒนาต่อ เพราะมันไม่จำเป็น และไม่ได้ทำให้เกมสนุกขึ้น" - ตรงนี้ผมไม่เห็นด้วยเท่าไหร่

คือ เอาจริงๆ Innovation ของ Nintendo มีมาตั้งแต่ยุคแรกจนถึงปัจจุบัน ไม่เคยเปลี่ยน (ไม่ใช่พึ่งมีมาตอน Wii) จะเห็นได้จากการพัฒนา Famicom -> Super Famicom (อัพสเปคเครื่อง เพิ่มแรมตลับ เพิ่มปุ่มจอย) -> N64 (ทำเกมส์ 3D กับเปลี่ยนจอย) -> GC (เปลี่ยนตลับมาเป็น mini disc กับเปลี่ยนจอย) -> Wii (แผ่นเกมส์เป็น DVD กับเปลี่ยนจอย) -> Wii U (เพิ่มจอกับระบบประมวลผลบนจอยมันซะเลย)

ที่ยกตัวอย่างมาข้างต้นยังไม่รวมถึงเหล่า handheld devices (GB -> GBC -> GBA -> NDS -> 3DS) ซึ่งแนวทางของ Nintendo เหมือนจะพยายามรวบ handheld + console เข้าด้วยกัน (NX?)

Innovation ที่ยกตัวอย่างข้างต้นนั้น เอาจริงๆ ก็ไม่ได้ indy หรือล้มเหลวโดยสิ้นเชิง .. เอาง่ายๆ Wii U ขายในญี่ปุ่นได้มากกว่า PS4 ซะอีก แค่แนวคิดนี้อาจจะไม่เป็นที่นิยมของชาติตะวันตก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นไอเดียที่ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง

ผมกลับมองว่าเรื่อง region lock ต่างหากที่เป็นอุปสรรคที่ Nintendo สร้างขึ้นเอง และทำให้การนำเกมดีๆ จากค่ายของญี่ปุ่นเพื่อนำไปสูตลาดโลกเป็นไปได้อย่างยากลำบาก (สังเกตจาก Xbox One ก็เคยมีไอเดียที่จะทำเรื่องนี้ แต่เจอ PS4 หักหน้าว่าจะไม่เอาด้วย หลังจากนั้นไม่กี่วัน Microsoft รีบพลิกกลับบอกไม่ทำแล้ว)

สุดท้ายนี้ ไม่มีใครรู้หรอกครับว่า Innovative ideas ต่างๆที่ Nintendo พยายามเข็นออกมาจะเป็นที่นิยมในหมู่นักเล่นเกมทั่วโลกหรือเปล่า เพราะ ถ้ารู้ Nintendo คงไม่ประสบปัญหาเรื่องยอดขายอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เพราะฉะนั้นเราก็ได้แต่หวังว่า Nintendo จะนำเสนอไอเดียการเล่นเกมแนวใหม่บน NX อย่างที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน แล้วสามารถจับตลาดนักเล่นเกมได้ทุกตลาดทั่วโลกอย่างที่เคยทำได้ในอดีตมาแล้วหลายครั้ง