ในบรรดาซอฟต์แวร์ระดับองค์กรนั้น ที่ผ่านมาไมโครซอฟท์มีระบบการคิดค่าไลเซนส์ค่อนข้างตรงไปตรงมา คือคิดตามจำนวนซีพียูตรงๆ ตามจำนวนซ็อกเก็ต โดยไม่สนใจจำนวนคอร์ภายในแต่ละซ็อกเก็ต แต่ใน System Center 2016 ไมโครซอฟท์จะปรับแนวทางการคิดค่าไลเซนส์
กฎการคิดค่าไลเซนส์ใหม่ ได้แก่
ถ้าองค์กรไหนใช้เซิร์ฟเวอร์ใหญ่ๆ อยู่หรือเตรียมจะอัพเกรดไปใช้เซิร์ฟเวอร์ที่ซีพียูเกิน 8 คอร์ก็คงต้องเตรียมค่าไลเซนส์เพิ่มกันครับ
ที่มา - The Register
Comments
นะ ทาส ms ต้องกระเป๋าหนักแลกบริการ
ดูเหมือน Oracle จะต้องกระเป๋าหนักกว่านะครับ
ในระดับโลกเค้ายังไม่เลิกทาสกันอีกเหรอ แต่ได้ยินมาว่าลูกค้าเจ้าอื่นอย่าง Oracle ก็เจอแบบนี้มาก่อนนี่นา
ออราเคิลเป็นแบบนี้มานานแล้วครับ (ลูกค้าคงชินกันแล้ว)
lewcpe.com, @wasonliw
ผมว่าเค้าก็ไม่ได้บังคับว่าจะต้องใช้นะครับ เพราะจะสร้าง OS มาใช้เองหรือแข่งกับเค้า เค้าก็ไม่ได้มาเรียกค่าคุ้มครองแต่อย่างใด
เพื่อความอยู่รอด สมัยก่อน CPU server ประสิทธิภาพไม่เท่าไหร่
สมัยนี้แค่เครื่องเดียว 4 Socket 144 คอร์ ถ้าคิดแค่ Socket ก็ได้แค่ 4 ลายเส้น แต่ถ้าคิดคอร์อย่างเดียว ได้ 72 คอร์ รวมเทรดด้วย 72 ก็เท่ากับ 144 คอร์ ซี่งมีความเร็วกว่า 800-1000 Gflops. จึงทำให้ Microsoft ต้องปรับกลยุทธ์ใหม่ไม่งั้น รายได้จะลดลง บริษัทผู้ใช้เซิร์ฟเวอร์มีกำไรเพิ่มขึ้นโดยที่ไม่ต้องเปลืองค่าไลเส้น
Note.
Xeon E7-8890V3 18 Cores. 36 Threads. Price 7174$ ต่อ ชิ้น
4 Socket use DDR4 1866 up to 1000 Gflops (อันนี้แค่เดายังไม่มีใครทดสอบว่าวิ่งถึงหรือไม่)
อีกหน่อยจะคิดตาม Gflops มั้ยนะ
ปรับไป ปรับมา ลูกค้าเปลี่ยนกลับไปไช้ linux หมด
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
กำลังจะด่า พอมาดูราคาดีๆ มันก็ไม่ได้มีผลกับตระกูล E5 สอง Socket ที่สั่งเป็นประจำอยู่แล้ว
ต้องกลุ่ม E7 รุ่นใหญ่ๆ ครับ เจอกันเป็นเท่าตัว
lewcpe.com, @wasonliw
ว่าไป เคนื่องที่ผมใช้ดันเป็น E5 10core นี่สิ :-)
เกินมาสองคอร์ จ่ายเพิ่ม 1 license สินะครับ
ผลักดันให้ลูกค้าย้ายขึ้น cloud ทางอ้อม..
ดีนะผมใช้ linux