แคนนอนเปิดตัวกล้องอเนกประสงค์ ME20F-SH กล้องขนาดเซ็นเซอร์เต็มเฟรมถ่ายวิดีโอความละเอียด Full HD ได้ด้วยความไวแสงสูงถึง ISO 4,000,000 ทำให้สามารถถ่ายภาพได้ชัดเจนในสภาพแสงที่แทบมืดสนิท
ตัวกล้องส่งภาพออกทางพอร์ต HDMI และ 3G/HD-SDI สำหรับส่งภาพเป็นยังเครื่องบันทึกภาพ และทำงานร่วมกับชุดรีโมต RC-V100 ได้
เริ่มขายเดือนธันวาคมนี้ ราคาตั้งอยู่ที่ 30,000 ดอลลาร์หรือประมาณ 1,100,000 บาท
ที่มา - Canon
Comments
ผมเคยนึกว่า Sony A7S เป็นฟูลเฟรม 12mp (มี 4K) ราคา 2498$ เพื่อ ISO 4แสน นี่ Extreme แล้วนะ
เจอ Canon ฟูลเฟรม แต่ความละเอียด 2.3mp (ได้ถึงแค่ Full HD) ราคา 30000$ เพื่อ ISO 4ล้าน เข้าไป
ตัวนี้น่าจะออกแบบมาสำหรับบันทึกภาพสัตว์ป่าเวลากลางคืนน่ะครับ เลยต้องขาย ISO สูง ๆ (ส่องสัตว์ในที่มืดได้) และความละเอียดต่ำ (ไม่เปลืองเนื้อที่จัดเก็บ)
มันไม่เหมือนกล้องส่องสัตว์ทั่วไปที่พวกนั้นเป็นภาพขาวดำ (โทนเขียว) แต่ตัวนี้เขาเป็นภาพสีเลยนะ
ส่วนหนึ่งความละเอียดต่ำๆ noise มันน้อยครับเลยทำให้ลาก ISO ไปได้สูงๆ
ความละเอียดน้อย เพราะเอาไปเพิ่มขนาด Pixel เพื่อทำให้รับแสงได้มากขึ้นครับ
พื้นที่การจัดเก็บไม่เกี่ยวกับความละเอียด Sesnor เลย
เพราะมันถูกจำกัด Resolutions ด้วยขนาดวิดีโออยู่แล้ว (Full HD) และ Bit rate ของข้อมูล
ต้องกล้องส่งภาพ
--> ตัวกล้องส่งภาพ ?
--> กล้องต้องส่งภาพ ?
เป็นยัง -> ไปยัง
ธํนวาคม -> ธันวาคม
มันควรไปอยู่ตามหอดูดาวนะ ตัวนี้
น่าใช้ดีครับ ความละเอียดของจุดบนเซนเซอร์มากกว่า A7S พอสมควร ก็จะช่วยในเรื่องการผลัก ISO ให้สูงขึ้นได้โดยคุณภาพของภาพยังเหลืออยู่ครับ ใน Spec เขียนว่า 0.0005 Lux ก็ถือว่าดีทีเดียวสำหรับงานเฉพาะทางหรือถ่ายหนังกลางคืนครับ ถ่ายในเมืองที่มีแสงสีบ้างอยู่แล้วแต่ต้องพยายามคงความคมชัดก็อาจจะใช้ที่ 51200 หรือ 124000 ก็ยังพอทำงานได้ครับ การใช้จริงที่ ISO สูงสุดของกล้องคงใช้ลำบากอยู่ครับ แต่ 1080 ที่ ISO เท่านี้ก็ถือว่าล้ำหน้าอยู่พอสมควรละครับ
รอ Sensor ใน Generation หน้าครับ เพราะตอนนี้ Resolution ที่ 4K ก็เพียงพอแล้ว ความใหญ่ของจอภาพที่ 85 นิ้วสำหรับทีวี และภาพในโรงภาพยนตร์ก็เพียงพอแล้ว FPS ที่มีตั้งแต่ 24-60 ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว Dolby Atmos ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว Colorspace ที่ 16 Bit ในปัจจุบันก็ถือว่าเพียงพอแล้ว Dynamic Range ที่ 12-16 Stops ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว
มากกว่านี้ถือเป็นกำไรชีวิตละครับ แต่ถ้าได้แค่นี้ก็เพียงพอตอบโจทย์ของ Limitation มนุษย์ครับ
ส่วนที่ยังน่าจะปรับอีกคือ FPS ที่ 1000 FPS และการผลักไปถ่ายในความมืดที่ Sharpness สูงๆได้ดียิ่งขึ้น (ซึ่งก็ต้องมาตอบโจทย์ว่า Sensor มันสามารถทำให้ช่องเก็บภาพมันเล็กลงได้อีกแค่ไหน ยิ่งเล็กยิ่งมีพื้นที่สำหรับเก็บภาพ หรือจะแบ่งไปเก็บภาพเพิ่มเพื่อให้มี FPS มากขึ้น) ส่วนการส่งถ่ายข้อมูลของ Sensor ไปสู่ส่วนเก็บข้อมูลก็พัฒนาเร็วอยู่แล้ว น่าจะตามทันได้ไม่ยากครับ
ไม่เกิน 10 ปีน่าจะมีกล้องที่ตอบโจทย์การใช้งานของการทำหนัง ทีวี สารคดี งานภาพอุตสาหกรรม ฯลฯ ได้เพียงพอต่อความต้องการ "พื้นฐาน" ของมนุษย์นะครับ .... ถือว่าเดินไปในทิศทางที่ดีครับ
ขอบคุณครับ สวัสดีครับ
อ่านแล้วงงครับ
" ความละเอียดของจุดบนเซนเซอร์มากกว่า A7S พอสมควร" ??
A7s มี 12mp ถ่าย 4K ได้, ตัวนี้มีแค่ 2mp ถ่ายได้สุดแค่ FullHD นี่มันละเอียดกว่ายังไงครับ
อีกจุดคือ
"Sensor มันสามารถทำให้ช่องเก็บภาพมันเล็กลงได้อีกแค่ไหน"
หมายถึงอะไรครับ ขนาด Sensor รึเปล่า? ถ้าใช่ก็งงอีก ว่าลดให้เล็กมันก็ได้รับแสงน้อยลง แล้วเกี่ยวกับเพิ่มพื้นที่สำหรับเก็บภาพยังไง หรือหมายถึง Storage ยังไง
ถ้าว่างผ่านๆมาอ่านเจอ อธิบายหน่อยก็ดีนะครับ
ผมเขียนผิดเองครับ .... ความจริงแล้วมันมีทางไปเยอะครับ ไม่ใช่แค่ทางที่ผมเขียนไปครับ แล้วแต่ผู้ผลิตกล้องจะเลือกแนวทางน่ะครับ : )
คือกล้องนั้นจะมี Sensor เป็นขนาดครับ ขนาดของ Sensor กล้องนั้นส่วนใหญ่เป็นมาตรฐานครับ เพราะว่าเลนส์ที่ใช้มันจะออกแบบมาสำหรับให้แสงตกพอดีๆกับ Sensor ครับ เช่นเลนส์ Full Frame, APS-C, 4/3 หรือ Micro 4/3 เป็นต้นครับ
ดังนั้นสิ่งที่สำคัญคือทำให้แต่ละ Sensor ที่ขนาดเท่ากันมีคุณภาพมากที่สุดต่อ "พิกเซล" (Pixel) ครับ ซึ่งแต่ละ Pixel นั้นจะเรียงตัวกันเป็นแถวๆจนครบทั้ง Sensor ครับ
ยิ่ง Pixel มาก .... Resolution ก็มากขึ้นตามไปด้วยครับ ... แต่ปัญหาคือยิ่งมันเล็ก คุณภาพในการทำงานต่อ Pixel ก็ต้องสัมพันธ์กันด้วยครับ เหมือนตาดวงเล็กลงก็ต้องใช้งานได้ดีด้วยครับ แต่ถ้าตาดวงใหญ่ๆมันก็จะมองเห็นภาพง่ายขึ้นครับ
ดังนั้นใน A7S นั้นซึ่งเก่งในที่มืดมากๆ มีขนาด Full Frame แต่มี Pixel เล็กๆที่ยอดเยี่ยมมากมายทำให้ถ่ายได้ 4K กับ 12MP แต่ละ Pixel นั้นมีขนาด 8.4 Micron ครับ ส่วน Canon ตัวที่ว่านี้ Sensor มีขนาดเท่ากันเลยครับ แต่กลับได้แค่ 2MP เพราะว่า Pixel ของ Sensor มีขนาดตั้ง 19 Micron ครับ "ความละเอียดของการเก็บแสง" ของตัว Canon เลยมากกว่าต่อ 1 Pixel น่ะครับ แบบว่ามืดกว่าแต่ Pixel ผมตาโตกว่า เลยมองเห็นง่ายครับ แต่ถ้าเป็น Resolution แล้วภาพที่ได้จะมีขนาดเล็กกว่า A7S ครับ
ส่วนที่ผมบอกว่าทำให้ช่องเก็บภาพเล็กลงหมายถึง ทำให้ Pixel เล็กลงน่ะครับ จะได้มี resolution เพิ่ม ... เวลาถ่าย High Speed ที่ FPS สูงๆ วิธีคือ
012012012012012
120120120120120
201201201201201
สมมุติว่าตัวเลขด้านบนแทน "Pixel" นึงบน Sensor ครับ ... เวลากล้องถ่ายปกติเราอาจจะได้ภาพที่ 24, 25, 30, 60 FPS ในขนาดเต็มใช่ไหมครับ ? ... ทีนี้พอเราเร่ง FPS สูงกว่าที่ Sensor ขนาดเต็มรับได้ วิธีการคือ Sensor จะลดขนาดตัวเองลง แล้วให้ Pixel ข้างเคียงรับภาพแทน (ภาพจาก Pixel 1 และ Pixel 2) ในระยะเวลาที่เหลื่อมกันครับ ก็จะได้ FPS จาก 0 FPS จาก 1 และ FPS จาก 2 มารวมกันครับ ... ยิ่งเราอยากได้ FPS มาก ... Resolution ยิ่งลดลงเพราะเราไปใช้ Pixel มาช่วยงานเก็บข้อมูลมากขึ้นครับ .... ดังนั้น Pixel ที่ผมอยากให้เล็กเพราะใน ขนาด Sensor เท่าเดิม Sensor เล็กหมายความว่าจะมี Pixel เยอะขึ้น (Resolution เต็มๆใหญ่ขึ้น) แต่พอปรับลดลงมาก็จะได้ FPS ที่สูงขึ้นในคุณภาพของภาพที่ใหญ่ขึ้นนั่นเองครับ
ส่วนที่มันเกี่ยวกับพื้นที่เพราะว่าในวินาทีหนึ่งข้อมูลมันก็จากมากขึ้นน่ะครับตาม FPS ถ้ากล้องสมัยก่อน 24 FPS ที่ Full HD คือกล้องก็ต้องเขียนไฟล์ 24 ภาพในขนาด Full HD ... ทีนี้ Sensor เทพขึ้น ได้ 100FPS ที่ Full HD ... กล้องต้องรองรับการเขียนไฟล์ที่มากขึ้นที่ 100FPS ครับ
ยังไม่รวมว่าถ้าแต่ละ Pixel มัน Effective ขึ้นนะครับ .... ข้อมูลต่อ Pixel ก็จะมากขึ้นตามไปด้วยครับ เช่น Dynamic Range, Color Bit Depth ฯลฯ ครับ
หวังว่าอธิบายไม่งงไปนะครับ : )
ขอบคุณครับ สวัสดีครับ
อ่อ เข้าใจละครับ
งั้นขอ discuss ต่อ
จริงๆ ผมไม่ชอบแนวทางการแบ่งพื้นที่ 0 1 2 มาเก็บเป็นคนละเฟรมเลยครับ มันทำให้ 1 เฟรม เซ็นเซอร์ได้แสงแค่ 1/3 จากที่ควรจะเป็น และเสี่ยงต่อ artifact รบกวนต่างๆถ้าจัดการไม่ดีพอ ทางที่ชอบมากกว่าคือแบบ Stacked sensor ที่เอา DRAM มาแปะไว้หลัง BSI Sensor ความเร็วสูงทำให้อ่านได้เร็วขึ้นมาก (อย่างที่ Sony RX100 mark IV และ RX10 mark II ถ่าย 120FPS ที่ Full HD และ 1000FPS ที่ 1136 x 384) ซึ่งการเร่ง FPS สูงๆย่อมทำให้เซ็นเซอร์รับแสงเป็นเวลาสั้นลงเหมือนกัน แต่เสี่ยงต่อ artifact น้อยกว่าน่ะครับ ท่านว่าไหม?
ผมว่า Dynamic range มากขึ้นไม่ทำให้ข้อมูลลง Storage มากขึ้นนะครับ ถ้า Bit Depth ยังคงเท่าเดิม เราแค่สามารถฟิตปริมาณแสงช่วงที่กว้างขึ้นลงใน 14bit (หรือ 12 หรือ 8...) แทนที่มันจะหลุดขาวสุดหรือดำสุดไป
ผมไม่ค่อยเห็นด้วยกับคำว่า "ความละเอียดของการเก็บแสง" ในบริบทที่ท่านใช้ครับ ท่านน่าจะหมายถึง "ปริมาณแสง" มากกว่า
-พื้นที่ขนาดของ pixels ใหญ่ขึ้น ผมว่า แค่ทำให้ pixels ได้รับแสงมากขึ้นและมี well capacity มากขึ้น แน่นอนว่ามันจะไวแสงขึ้น แต่ "ความละเอียดของการเก็บแสง" (ตามที่ผมตีความ ควรจะหมายถึงพวก bit depth และ dynamic range) น่าจะขึ้นอยู่กับตัว ADC อีกทีว่าจูนมายังไงนะครับ
อย่าง A7r (หรือ Nikon D810 ฯลฯ) มี DR ดีกว่า A7S ที่ iso ต่ำๆ หมายถึงว่าเขาเก็บ information ต่อ 1 pixels มาได้เยอะกว่า A7s แบบนี้ไม่รู้ว่าเรียกว่า A7r มีความละเอียดในการเก็บแสงเยอะกว่า(ที่ iso ต่ำๆ) ไหมนะครับ
ขอบคุณครับ
แนวทางอื่นก็ได้นะครับ แนวทางนี้เป็นแนวทางที่ออกจะแย่มากเลยครับในความเป็นจริงแล้ว
Dynamic Range ไม่มีผลกับขนาด Storage ครับ Bit Depth มีครับผม ตอนนี้ใช้กันในกล้องธรรมดาก็ 8 แต่กล้องถ่ายหนังรุ่นใหญ่ๆหน่อยก็ 16 ครับ แต่ Dynamic Range มากขึ้นใน Bit ต่ำก็จะไม่มีผลดีครับ ถ้า Dynamic Range สูงขึ้น, Color Space สูงขึ้น แต่ Bit การเก็บข้อมูลต่ำก็จะเก็บไม่ครบถ้วนเท่าที่ควรจะเป็นครับ ก็เลยคล้ายๆกับเป็นเรื่องทางอ้อมมากกว่าครับ
เห็นด้วยครับ ... ผมเขียนไม่ค่อยเคลียร์เองครับผม
พวกสาย A7 นี่ยังไม่ได้ศึกษาจริงจังครับ ผมเองมีแค่ A7s เท่านั้นครับ เลยไม่แน่ใจว่าเค้าปรับแต่งให้แต่ละ A7 ต่างกันอย่างไรบ้างน่ะครับ ... แต่ก็อยากรู้เหมือนกันนะครับ ... คิดว่าสมัยนี้ Hardware แต่ละเจ้านี่ใกล้กันครับ แต่การจูนตัว Hardware และเป้าหมายของแต่ละกล้องจะต่างกันทำให้ค่าความสามารถต่างกันด้วยครับ ... เป็นพวกสาย STR, VIT, AGI, DEX ไปซะงั้นครับ ฮาๆๆๆ
ขอบคุณครับ สวัสดีครับ
อยากเห็นภาพตัวอย่าง iso 4,000,000 จัง ^^
http://www.digitaltrends.com/photography/canons-new-video-camera-sees-in-the-dark-better-than-your-eyes-can/
Redirect virus?
อันวิดีโอปี 2013 นั่นรึเปล่าครับ?
อยากเห็นของใหม่แบบ FullHD บ้างครับ :D แต่ในตัวอย่างเก่านั่นก็เจ๋งมากแล้ว
เอาไปให้โอปอเลยชีจะได้เลิกมาบ่นในโฆษณาว่าถ่ายร฿ปแล้วมืดต้องซัมซวยสักที:P
555