Tags:
Node Thumbnail

เมื่อเดือนก่อน Wall Street Journal ได้รายงานตัวเลขผลประกอบการของ Xiaomi ในปี 2013 ระบุว่ามีรายได้ 4,420 ล้านดอลลาร์ และมีกำไร 566 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเติบโตจากปี 2012 แบบเท่าตัว แต่ล่าสุดสำนักข่าว Reuters ได้เปิดเผยตัวเลขในเอกสารที่ Xiaomi รายงานต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์จีน ซึ่งแตกต่างไปอย่างมาก

ข้อมูลการเงินอย่างเป็นทางการของ Xiaomi เผยว่าบริษัทมียอดขายในปี 2013 อยู่ 4,300 ล้านดอลลาร์ (26,580 ล้านหยวน) ใกล้เคียงกับตัวเลขของ Wall Street Journal แต่ส่วนของกำไรสุทธินั้นอยู่ที่ 56.15 ล้านดอลลาร์ (347.48 ล้านหยวน) ซึ่งน้อยกว่าที่ออกมาก่อนหน้านี้มาก และถือว่ามีกำไรน้อยกว่าปี 2012 เสียอีก สะท้อนว่าแผนธุรกิจของ Xiaomi นั้นไม่ได้เน้นขายของถูกแต่ยังสามารถทำกำไรได้ในระดับที่สูงอย่างที่มีข่าวก่อนหน้านี้

ในเอกสารยังเปิดเผยว่าซีอีโอ Lei Jun ปัจจุบันถือหุ้นใน Xiaomi อยู่ 77.8% แต่ไม่มีการเปิดเผยรายชื่อผู้ถือหุ้นส่วนที่เหลือ

ที่มา: Reuters

Get latest news from Blognone

Comments

By: gotobanana
iPhoneAndroidBlackberrySymbian
on 15 December 2014 - 14:48 #772954
gotobanana's picture

โพล่มาแล้ว จะเอากำไรมาจากไหนนัก ถ้าไม่ขายให้ได้เยอะๆอย่างเดียว

By: menu_dot on 15 December 2014 - 15:03 #772959

เขาไม่ได้หวังกำไร จากธุรกิจ มือถืออยู่แล้วครับ เขามีช่องทางหารายได้จากทางอื่น

ยอมรับไหมครับ ว่า ตอนนี้ Brand xiaomi เข้มแข็งกว่า samsung ในด้านคามคุ้มค่าแล้ว

By: By_Myself
ContributoriPhoneWindows PhoneAndroid
on 15 December 2014 - 16:26 #772981 Reply to:772959

"กำไร​สุทธิ" ทั้ง​บริษัท​นะครับ


/>o</

By: menu_dot on 15 December 2014 - 17:09 #772992 Reply to:772981

ผมว่ามันเป็น ขั้นตอนการเติบโ๖ของเขาครับ แผนระยะยาว บ้างบริษัทใช้เงินสร้าง Brand มากมาย อาจยังทำไม่ได้เท่านี้เลยนะครับ สินค้าเขาก็พึ่งออก ได้ไม่กี่ปี ผมว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ฉลาด ของคนมาที่หลังแล้วครับ

ผมว่าที่น่าห่วงคือ samsung mobile นะครับ

By: tgst
ContributoriPhoneWindows PhoneWindows
on 15 December 2014 - 17:14 #772993 Reply to:772959
tgst's picture

ช่องทางอื่นก็ดูจะ Margin บางเฉียบเหมือนกันนะครับ ตอนนี้ก็เห็นพยายามจะลอกซัมซุงเต็มที่ จัดหนักขนเครื่องใช้ไฟฟ้าและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆมาเพียบ แต่เห็นราคาแล้ว ไม่รู้เอากำไรมาจากไหน

ก็ถ้าเป็นยุทธศาสตร์เพื่อแย่งส่วนแบ่งการตลาดและทำให้แบรนด์มีชื่อติดอยู่ในกลุ่มลูกค้าในระยะเริ่มแรกก็คงไม่มีปัญหาอะไรน่ะครับ แต่ถ้าในระยะยาวยังยืนยันจะใช้ยุทธศาสตร์ที่มี Margin บางเฉียบแบบนี้แถมไม่มีช่องทางหารายได้จากทางอื่นมาด้วยก็น่าเป็นห่วงอยู่

By: menu_dot on 15 December 2014 - 18:55 #773018 Reply to:772993

ผมว่ากลยุทธ์ เขาจะใช้เหมือน google search คือ ตั้งเป้า ครอง market share ก่อน ค่อยคิดหาวิธีทำกำไรที่หลัง (อาจจะมีในใจแล้วก็ได้)

เพราะเขาควบคุม software เอง นั่นคือ คุมผู้ใช้ได้เช่นกัน

ตอนนี้ xiaomi ยังไม่มีขายทุกประเทศเลย นั่นคือเขาจะกินที่ละประเทศ แล้วเพิ่ม ฐานลูกค้า และสร้าง Brand ให้แข็งขึ้น อีกหลายปีครับกว่าจะขยายตัวรองรับทั้งโลก สร้าง Brand ในแต่ละประเทศก็ต้องใช้เวลา ทุน ทรัพยกร (กำไรโตช้าแต่แน่นอน) แต่ Brand นี้โตเร็วมากนะครับ ผมว่า

By: jack8855
iPhoneAndroidRed HatSymbian
on 15 December 2014 - 20:34 #773041 Reply to:772993
jack8855's picture

ก็ลอกการตลาดรุ่นพี่พี่อีกซิครับ
แตกไลน์สินค้า แบ่งระดับ อัพดีไซน์อีกหน่อย ก็โกยกำไรได้แล้วครับ

By: menu_dot on 16 December 2014 - 03:44 #773084 Reply to:772959

ช่วงแรกของการเติบโต ต้องเอาเงินไปลงทุน ไม่ว่ากัน

By: By_Myself
ContributoriPhoneWindows PhoneAndroid
on 15 December 2014 - 16:31 #772984

5​5555​ กำไร​น้อยหยั่งกะ​ imobile​
Advanc​ dtac​ บ้าน​เรา​ยัง​กำไรมากกว่า​​ ​xiaomi​ อีก


/>o</

By: jack8855
iPhoneAndroidRed HatSymbian
on 15 December 2014 - 16:50 #772989
jack8855's picture

Xiaomi ต้องการปฏิวัติภาพลักษณ์ในอดีต "จีนแดง ถูก ห่วย อะไหล่ก๊องแก๊ง"
เพื่อจะเป็นแบรนด์แห่งชาติ อย่างแบบฝั่งหลีใต้

นึกถึงพวก IEM BA เหยียบหมื่น แต่จีนทำได้ทั้งคุณภาพและราคาถูกกว่ามาก

By: PH41
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 15 December 2014 - 17:22 #772995
PH41's picture

อยู่สภาพที่ไม่ถูกผู้ถือหุ้นกดดันสินะ

By: Lenon
iPhone
on 15 December 2014 - 22:49 #773056

ปัญหาของ "ของจีน" คือ แพงเมื่อไหร่คนเลิกซื้อทันที เห็นหลายโปรดัคส์ตั้งใจจะมาสร้างมาร์เก็ทแชร์ก่อนให้ตลาดคุ้นเคย ปรากฏพอนานวันเข้า กาลเวลามันพิสูจน์ "คุณค่า"ของแบรนด์ กลายเป็นมาร์เก็ทแชร์ก็งั้นๆ กำไรก็ยังไม่มีอีก

By: put4558350
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 15 December 2014 - 23:24 #773059 Reply to:773056
put4558350's picture

พูดังกะ huwewi, lenovo (รวมถึง moto และ think pad) ไม่ไช้ของจีน

Xiaomi เกิดในปี 2010 ถึงวันนี้ 4 ปีเท่านั้น กาลเวลาไม่ทันใด้พิสูจน์คุณค่าของแบรนด์ แต่อัตราความเติบโตในตลาดถือว่าเยอะจนน่าจับตา

มาร์เก็ทแชร์ต่ำเนื่องจากกำลังการผลิต เพราะความใหม่ของ บ. - จนทำให้เอาไปขายใด้ไม่ครบทุกประเทศ - เป็นปัญหาเล็กไม่น่าสนใจ

เทกนิกในการประกอปสินค่าอันเดียวกับสินค้าราคาสูงมากที่เราๆซื้ออยู่จีนก็มีหมด ปัญหาใหญ่คือของถูกจากจีนอาจจะติดกตหมายของหลายประเทศ ถึงการเจาะกำแพงกตหมายและภาพลัพธ์เก่าๆจะน่าปวดหัว แต่ถ้ามีเงินและเวลามากพอก็สามารถเจาะใด้ (และ Xiaomi กำลังทำอยู่ โดยไช้ thin margin marketing ซื้อชื่อเสียง)


samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo

By: Lenon
iPhone
on 16 December 2014 - 13:23 #773238 Reply to:773059

ครับ แล้ว thinkpad ทุกวันนี้คนชื่นชมเหมือนสมัย IBM ทำไหมครับ ส่วน Lenovo กับ Moto ผมว่าสถานะยังเป็นแบบ "รอดู" นะครับ ยังพูดไม่ได้เต็มปากว่ามีคนเทใจให้แบบที่เรียกในทางการตลาดว่า Customer Royalty ได้

ยอดขายไม่ได้พิสูจน์คุณค่าของแบรนด์นะครับ

ส่วนเรื่องของคุณภาพของดีไม่ดีนั้น ผมขอเล่าตามประสบการ์ณการทำงานกับบริษัทแห่งนึงของจีนละกันนะครับ มันอาจจะมีผิด มีถูก แต่ผมพูดคุยกับเพื่อนร่วมวงการก็มีความเห็นไปในลักษณะเดียวกันว่า ของจีนไม่ดี ไม่ใช่เพราะคนจีนไม่มีโนฮาวรึทำไม่เป็นนะครับ แต่ปัญหามันอยู่ที่แนวคิด ลักษณะการบริหาร รวมถึงความไม่เป็นระบบของตัวคนจีนเเองนั่นตะหาก พูดให้เห็นภาพคือ จะก่อปราสาททราย แต่คนก่อเป็นคนไม่ละเอียดแถมใจร้อนไร้แบบแผน คุณจะก่อปราสาทใหญ่ยังไงก็ได้เพราะมีเงิน แต่ฐานปราสาทมันก็เป็นแบบพรุนๆน่ะล่ะฮะ ฉะนั้น คุณค่าไม่เกิดเพราะของมีคุณภาพไม่ดีนั้นเพราะที่ผ่านมาการจัดการภายในเข้าขั้น "แย่มาก" ตะหาก

ตัวอย่างบริษัทที่ผมเคยทำและยกมานี่เป็นบริษัทที่ได้ชื่อว่ายอดส่งออกทั่วโลกของโปรดัคส์ชนิดนั้นเป็นอันดับ 1 ของจีนนะครับ ไม่ใช่ไปเอาประสบการ์ณจากบริษัทไก่กาบริษัทเถ้าแก่กงสีที่ไหนมาเล่า

By: By_Myself
ContributoriPhoneWindows PhoneAndroid
on 16 December 2014 - 00:34 #773067 Reply to:773056

คนทำของถูกมามขายของแพง มันลบภาพลักษณ์ไม่ได้ง่ายๆหรอกครับ วิชาการตลาดก็บอกเอาไว้ รถญี่ปุ่น ทำรุ่น luxury ออกมาขายยังแพ้รถยุโรปเลย จนต้องรีแบรนด์ออกเป็นยี่ห้อใหม่ใหม่ ขนาด samsung การตลาดเก่งๆ ยังลบภาพลักษณ์ ของถูก ไปสู้ apple ในรุ่นเรีอธงไม่ได้เลย แล้ว Xiaomi จะเหลือหรอ
ผมเห็นกำไรนี่ขำเลยบริษัทผลิตมือถืออันดับ 3 ของโลกขายมือถือทั้งจีนและข้างเคียง ยอดขาย 132000 ล้าน กำไรประมาณ 1700 ล้าน แปลงเป็นบาทแล้ว เทียบ%margin ยังแพ้ imobile house brand ของไทย เลย ไม่ต้องพูดถึง samsung กับ Apple imobile ยอดขายประมาณหมื่นล้าน กำไร 800 ล้าน เป็นผมไปทำอย่างอื่นละกำไรแบบนี้


/>o</

By: 0FFiiz
Windows PhoneAndroidWindows
on 16 December 2014 - 00:32 #773069
0FFiiz's picture

ผมว่าแบรนด์จีนมีอะไรแปลกๆ ให้เซอร์ไพร์เยอะเหมือนกันนะ
แบบ Baidu ก็ไม่รู้โผล่มาจากไหน
อยู่ๆ ก็ดังเปรี้ยง แถมเหมือนจะมีเงินทุนมหาศาล

Xiaomi เอง ก็อาจมีพลังงานบางอย่างหนุนอยู่ก็เป็นได้
มันดูเหลือเชื่อเกินไปหน่อย ขายถูกขนาดนี้

By: freeriod on 16 December 2014 - 01:12 #773076
freeriod's picture

apple ใช้เวลา 1วันในการหากำไรเท่านี้

By: nrml
ContributorIn Love
on 16 December 2014 - 11:23 #773210
nrml's picture

ต้องจับตาดูต่อไปว่ากลยุทธ์และวิธีการคิดของ Xiaomi จะสำเร็จหรือไม่ ผมว่าในยุค Social network ครองเมืองแบบนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ แต่ก็ต้องระวังอย่างหนึ่งคือเพราะถ้าไม่แน่จริงก็มักจะมาไวไปไว

By: maytee
iPhone
on 16 December 2014 - 11:41 #773214

เป็นบริษัทที่ไม่ค่อยแสวงหากำไรดีนะ ไม่เหมือนพี่เปิ้ลเน้นแสวงหากำไร

By: Allenby
iPhone
on 16 December 2014 - 12:27 #773225
Allenby's picture

จากตัวเลขนี้ ถ้าดีดคร่าวๆออกมาก็เท่ากับ กำไรสุทธิ 2% ของยอดขาย หลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้ว ซึ่งในราคาสินค้าที่ขายมันต้อง +margin ไปมากกว่านั้นอยู่แล้ว เพราะต้องให้ครอบคลุมกับค่าใช้จ่ายด้วย

แต่สำหรับบริษัทที่เป็นส่วนบุคคลแบบนี้ ส่วนที่น่าคิดคือค่าใช้จ่ายนี่แหละครับ ว่าในค่าใช้จ่ายนั้นมันมีอะไรอยู่บ้าง ต้นทุนมันสูง ค่าแรงที่จ่ายมันแพง หรือว่าเจ้าของแอบเอาบริษัทมาใช้อะไรส่วนตัวหรือเปล่า เพราะน้อยแบบนี้มันน่าแปลกสำหรับบริษัทเอกชน ขนาดปตท.ที่มีกระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่ปีที่แล้วยังกำไรสุทธิ 4% เลย