ซัมซุงเริ่มวางขาย Galaxy Note Edge ในสหรัฐอเมริกาวันที่ 14 พฤศจิกายนนี้ โดยจะขายเครื่องผ่านเครือข่ายรายใหญ่ทุกรายในสหรัฐ
ราคาเครื่องเปล่าแบบไม่ติดสัญญา AT&T ขายอยู่ที่ 945.99 ดอลลาร์ (ประมาณ 31,000 บาท) ราคาแบบติดสัญญาสองปีอยู่ที่ 399.99 ดอลลาร์ (ไม่รวมค่ารายเดือน) ส่วนเครือข่ายอื่นๆ อย่าง Sprint และ T-Mobile ใช้วิธีผ่อนจ่าย 24 เดือน รวมแล้วต้องจ่ายทั้งหมด 840-870 ดอลลาร์
ที่มา - VentureBeat, AT&T
Comments
Bye Bye Samsung
ปล.เหมือนบริษัทแม่ยังไม่รู้ว่าทำไมยอดขายตกสินะ ?
เอาน่ะ ให้เวลาเค้าค้นหาตัวเองอีกหน่อย สายป่านยาวอยู่แล้ว ขายรุ่นล่างๆ มาโปะก็ได้ :-p
ราคาปกติมากเลยนะครับ พอๆกับ i6 plus
Note 4 No contract ก็ 825 เหรียญแล้ว
อันนี้จอโค้งเพิ่มอีก 120 เหรียญเอง
นั่นคือขึ้นราคามา 15%
ข้าว 30 บาท ขึ้นเป็น 35 บาท..
May the Force Close be with you. || @nuttyi
ตัวนี้เขาวางระดับไว้เหนือกว่า note4 (ตัว top ของ samsung น่าจะเป็นรุ่น Edge นี่แหละ) มันถึงได้แพงซะขนาดนี้
โห apple ตั้งราคาซะแพงเลย
อ้าว samsung หรอ โทษ โทษครับ
ผมว่าจากข่าวก่อนๆ ที่อ่านผ่านๆ มา ตั้งราคาประมาณนี้ก็ถือว่าเหมาะสมแล้วครับ เพราะคงเน้นขายเฉพาะกลุ่มจริงๆ
หากตั้งราคาถูกกว่านี้อาจจะจับลูกค้าได้กลุ่มกว้าง หรือกลุ่มทั่วๆไปก็ได้นะครับ ผมมั่นใจว่า ซัมซุงเค้าไม่ได้ต้องการวางสินค้าเป็นสินค้าเฉพาะกลุ่มหรอกครับ เพราะขายได้น้อยและไม่นิยมเท่า กลุ่มทั่วๆไป แต่ตั้งราคาขนาดนี้อาจจะเพราะผลิตออกมาน้อย เลยขายลองตลาดก่อน
พอดีผมอ่านข่าวนี้ "ประธานซัมซุงบอก Galaxy Note Edge เน้นโชว์แนวคิด ไม่เน้นขายตลาดกว้าง"แล้วทำให้นึกโยงมาถึงเรื่องราคาที่ตั้งไว้ตอนนี้น่ะครับ
อยากได้อ่ะ แต่จัด Note 4 ไปแล้ว
โน้ตเอชอาจจะขายยากเพราะว่า
คนถนัดซ้ายใช้โดยการกลับหัวเครื่องครับ
ผมว่ามองว่ามันการตลาดได้เลยนะครับ
ซัมซุงยังไงก็ไม่ได้ก่ะจะขายได้เยอะอยู่แล้ว
แต่ด้วยรูปลักษณ์ที่เห็นแล้วรู้ เป็นเอกลักษณ์ขนาดนี้ ถ้าขายแพงคนก็จะเข้าใจว่าใครถืออยู่ก็คือคนมีตัง
positivity
Samsung ก็ออกมาบอกแล้วนิครับ ว่าไม่เน้นขาย เน้นโชว์เทคโนโลยี เลยตั้งราคามาสูง คงจบเหมือนรุ่น Galaxy Round
note edge ยั่งพอเห้นประโยชน์ แต่ Round นี้ทำมาเพื่อ .....ไม่มีประโยชน์ยั่งทำทำให้ใช้งานลำบากอีก นี้ครับ
ใช้คลำทางไงครับ ลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆ อันไหนโดน ก็อันนั้น
กลัวอย่างเดียว สามเดือนถัดไปลดไป 10%
Ton-Or