สัตยา นาเดลลา ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนหลังจากประกาศถึงพนักงานทุกคนว่า ไมโครซอฟท์จะเป็นบริษัทแห่ง "การเพิ่มผลผลิตและแพลตฟอร์ม" แทน "อุปกรณ์และบริการ" ที่สตีฟ บัลเมอร์ อดีตซีอีโอริเริ่มไว้ ขอสรุปประเด็นจากหนังสือพิมพ์ The Seattle Times และเว็บไซต์ The Verge ดังนี้
- นิยามของ "การเพิ่มผลผลิต" (productivity) ในกลยุทธ์ใหม่นั้นกว้างกว่าที่ผู้คนทั่วไปคิดกัน โดยนาเดลลากล่าวว่าการเพิ่มผลผลิตหมายถึงความสามารถที่จะลดเวลาที่ผู้คนใช้ทำสิ่งต่างๆ และให้พวกเขาทำสิ่งต่างๆ ได้ดีขึ้น ผ่านเครื่องมือที่สามารถทำนายสิ่งต่างๆ และทำสิ่งเหล่านั้นแทนพวกเขาได้ [1] เขายกตัวอย่างการเพิ่มผลผลิตโดยกล่าวถึง Cortana กับพนักงานขายที่เพิ่งเสร็จสิ้นการพูดคุยดีลว่า Cortana รู้ตารางนัดหมาย ดังนั้นจึงรู้ว่าพนักงานคนนั้นไปติดต่อบริษัทอะไร กับใคร และที่ไหน ดังนั้น Cortana เสมือนทำงานด้าน CRM ให้พนักงานขายคนนั้น [2]
- กลยุทธ์ครอบคลุมถึง "แพลตฟอร์ม" ด้วย เพราะแพลตฟอร์มทำให้บริษัทสามารถเข้าถึงสิ่งที่คู่แข่งขายหรือให้บริการลูกค้าได้ อาทิ Salesforce.com หรือ Dropbox [1]
- กลยุทธ์ใหม่นี้ไม่ได้หมายความว่าไมโครซอฟท์จะเน้นตลาดผู้ใช้องค์กร โดยนาเดลลามองว่าทุกคนบนโลกใบนี้เป็น "dual user" คือเป็นทั้งผู้ใช้องค์กรและผู้ใช้ตามบ้าน [1] แต่เมื่อเขาถูกถามว่าบริษัทจะให้ความสำคัญกับการโน้มน้าวใครมากกว่า ระหว่างผู้ใช้ตามบ้านกับผู้ใช้องค์กรรายใหญ่ (ต้นฉบับบอกบริษัทใน Fortune 500) [2] เขากล่าวว่าการโน้มน้าวผู้ใช้ตามบ้านสำคัญที่สุด บนพื้นฐานของบริษัทที่แข็งแกร่งในฝั่งผู้ใช้องค์กร ซึ่งจุดนี้ทำให้กูเกิลและแอปเปิลยังไม่ชนะไมโครซอฟท์เสียที ถึงแม้ว่าผู้คนทั่วไปจะคิดว่าสองคู่แข่งชนะไมโครซอฟท์แล้วเพราะบริษัทเหล่านั้นชนะในฝั่งผู้ใช้ตามบ้านก็ตาม
- ในเรื่องธุรกิจฮาร์ดแวร์นั้น นาเดลลาเน้นย้ำว่าบริษัทสนับสนุน Xbox เต็มที่ (ก็คือย้ำอีกครั้งว่าจะไม่ขายธุรกิจ Xbox ออกไปนั่นเอง) และเขาจะพูดถึงส่วนแบ่งตลาดแท็บเล็ตและดีลซื้อธุรกิจมือถือและบริการจากโนเกียเพิ่มเติมในการรายงานผลประกอบการของบริษัทที่จะมีขึ้นวันอังคารหน้า อย่างไรก็ตามเขาเน้นว่าไมโครซอฟท์ไม่ได้ทำฮาร์ดแวร์เพื่อมีส่วนแบ่งในตลาดฮาร์ดแวร์ แต่ทำฮาร์ดแวร์เพื่อที่บริษัทจะนำเสนอแพลตฟอร์มและซอฟต์แวร์เพิ่มผลผลิตในทางที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว (unique) [1], [2]
- อนาคตคือโลกที่มีอุปกรณ์หลากหลายขนาดหน้าจอมาก ระบบโดยรวมต่างๆ (ecosystems) ที่ครอบอุปกรณ์หลากหลายขนาดหน้าจอเหล่านั้นไว้ และบริการบนกลุ่มเมฆที่จะมีให้ใช้งานในทุกระบบโดยรวม เป้าหมายของบริษัทคือการให้เซอร์วิสต่างๆ ของไมโครซอฟท์ (อาทิ สไกป์) ไปปรากฏอยู่ทุกหน้าจออุปกรณ์ต่างๆ ในระบบโดยรวมทั้งหมดที่มี รวมถึงต้องการให้ระบบโดยรวมของบริษัทบนอุปกรณ์ทุกประเภท (เข้าใจว่าหมายถึงระบบโดยรวมของ Windows) มีส่วนแบ่งตลาดสูงขึ้น [2]
- ต้องมีการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมองค์กรเพื่อให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ Mobile-First Cloud-First แต่เขาปฏิเสธที่จะสอบถามเกี่ยวกับข่าวลือที่ว่าบริษัทอาจปลดพนักงานออกร้อยละ 10 เพราะดีลธุรกิจมือถือจากโนเกียและกำไรหด [1]
ที่มา: [1]: The Seattle Times, [2]: The Verge
Comments
องค์การ => องค์กร
ถ้าทำได้คุณเก่งมาก คุณคิดถูกเห็นด้วยหมด แต่ถึงตอนนี้ งานคุณยากมาก (ตัวที่เห็นชัดว่าจะไปก่อน xbox vs android tv)
ข้อสุดท้ายพนักงาน Microsoft อ่านแล้วคงต้องลุ้นเหนื่อย..
ขอให้ 925 ได้ไปต่อใน WP9 ก็พอใจแล้วครับ
ทำไมอยู่ๆรู้สึก เหมือนว่าจะเอา Windows ให้ Install ลงใน Android ได้หว่า -*-
เริ่มต้นด้วยการทำ WindowsPhone Launcher ลงแอนดรอยด์ก่อนเลย
ข่าวนี้คุณ nuntawat เขียนได้ดี อ่านง่ายกว่าที่ผ่านมาเยอะมากครับ
ยังไงนะครับ? เฉพาะข่าวที่มีเนื้อหาเยอะ?
ข่าวก่อนหน้าส่วนมากเวลาที่ผมอ่านจะรู้สึกเหมือนว่าสำนวนที่ใช้มันยังไม่สุดน่ะครับ มันรู้สึกว่ามีความเป็น geek อยู่ในเนื้อหาสูงพอควร และบางประโยคก็ยังไม่ค่อยจะ simpliflied เท่าที่ควร
ข่าวนี้อ่านแล้วรู้สึกว่าลงตัว สรุปได้เยี่ยม สำนวนก็เรียบลื่น
ตอนแรกผมนึกว่าคุณ mk เป็นคนเขียน แต่อ่านแล้วรู้สึกว่าไม่น่าใช่ก็เลยเลื่อนขึ้นไปดูชื่อคนเขียนข่าว
ผมขออนุญาตพูดตรงๆ ว่าข่าวก่อนๆ ที่คุณ nuntawat เขียน อ่านแล้วเหมือนอ่านข่าวที่เขียนโดยคุณ lew ครับ
ลองอ่านหัวข้อ "เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย" ที่หน้านี้ดู
ครับ ผมว่าผมเขียนเหมือนเดิมนะ -.-" จะลองกลับไปอ่านข่าวเก่าๆ และเทียบดูกับข่าวนี้ครับ
Totally agree