Tags:
Node Thumbnail

Symantec ผู้ผลิตซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสรายใหญ่ออกมาให้สัมภาษณ์กับ Wall Street Journal ระบุว่ากระบวนการป้องกันความปลอดภัยในทุกวันนี้เปลี่ยนไปจากเดิม และซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสก็ไม่ใช่สินค้าทำเงินอีกต่อไป

บทสัมภาษณ์นี้สัมภาษณ์ Brian Dye รองประธานฝ่ายความมั่นคงข้อมูล ระบุว่า Symantec ไม่ได้มองว่าซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสเป็นสินค้าทำเงินแล้ว จากแต่เดิมซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสมักช่วยป้องกันเครื่องจากแฮกเกอร์ได้แต่ทุกวันนี้มันช่วยได้ 45% ของการโจมตีเท่านั้น

การที่ Symantec มองว่าซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสไม่ได้เป็นสินค้าสำคัญเหมือนแต่ก่อน ไม่ได้แปลว่าบริษัทจะเลิกขายซอฟต์แวร์ แต่ซอฟต์แวร์รุ่นใหม่ๆ จะมีส่วนประกอบอื่นๆ นอกเหนือไปจากการป้องกันไวรัส ชุดซอฟต์แวร์ของ Symantec เริ่มรวมเอาการวิเคราะห์พฤติกรรมน่าสงสัย, ซอฟต์แวร์จัดการรหัสผ่าน, ชุดป้องกันสแปม, และเครื่องมือตรวจสอบลิงก์ก่อนคลิก

โลกของการรักษาความปลอดภัยเริ่มเปลี่ยนไปในยุคหลัก บริษัทให้บริการรักษาความปลอดภัยเริ่มมุ่งเป้าไปยังกระบวนการจัดการปัญหาในกรณีที่ระบบถูกเจาะเข้าไปได้ และพยายามลดผลกระทบจากการถูกเจาะแต่ละครั้ง (อ่านข้อมูลเพิ่มเติมในงานเสวนาของ Blognone ที่ RSA ก็แนะนำให้ลูกค้าจัดงบประมาณป้องกันระบบถูกเจาะ เท่าๆ กับส่วนตอบสนองต่อการถูกเจาะระบบ)

ธุรกิจซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสของ Symantec ยังมีมูลค่าถึง 40% ของรายได้บริษัท และทำกำไรได้ดีกว่าส่วนบริการรักษาความปลอดภัย

ที่มา - Wall Street Journal

Get latest news from Blognone

Comments

By: pexza
AndroidUbuntuWindows
on 6 May 2014 - 15:36 #700956
pexza's picture

ก็จริงครับ เพราะตามความรู้สึกของผม ตอนตัดสินใจซื้อชุดป้องกันไวรัส ก็มองข้าม Antivirus ไปเลย ไปมองที่ชุด Internet Security แทน ซึ่งในที่สุดก็เลือก Norton 360 จ่ายทีเดียวเอาให้ครบ ๆ ไปเลย

By: wichate
Android
on 7 May 2014 - 01:06 #701161

ถ้า antivirus ตัวไหนโฆษณาว่าสามารถป้องกัน baidu เข้าเครื่องได้ 100% ลูกค้าก็แห่กันมาใช้เพียบแล้วครับ ดันไม่มีใครฉวยโอกาศเรื่องนี้ ตอนนี้ก็ยังไม่สาย เคยเห็นคนไทยทำ ตัวป้องกัน autorun ช่วงนี้ช่วยทำตัวป้องกัน baidu ให้ทีเถอะ

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 7 May 2014 - 01:20 #701170 Reply to:701161
hisoft's picture

บางคนเขาชอบจริงชอบจังนะครับ ขนาดว่าเราไปบอกว่าไม่ดีแล้วหาว่าเราใช้ไม่เป็นเลยทีเดียว