Nikon ได้เปิดตัวกล้องเรือธงของตัวเอง D4S ภาคต่อของรุ่นเก่า D4 อย่างเป็นทางการ หลังจากที่ได้เผยรายละเอียดของกล้องไปก่อนหน้าในงาน CES 2014 ส่วนที่ปรับปรุงก็อย่างที่เคยว่าไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะปรับปรุงระบบโฟกัสอัตโนมัติและการถ่ายวิดีโอ สำหรับรายละเอียดของ Nikon D4S มีดังนี้
- เซนเซอร์ CMOS แบบฟูลเฟรมใหม่ (ฟอร์ตแมต FX ของ Nikon) ความละเอียด 16.2 ล้านพิกเซล 4928 x 3280
- ถ่ายวิดีโอ ในระดับ 1080p ได้สูงสุด 60 ภาพต่อวินาที
- ถ่ายรัวเร็วสุด 11 ภาพต่อวินาที
- สามารถต่อสาย HDMI เพื่อโอนวิดีโอที่ถ่ายมาแต่ยังไม่ได้บีบอัดไปบันทึกยังอุปกรณ์บันทึกอื่น ๆ (ไม่ต้องบันทึกลงการ์ดที่ตัวกล้อง) เพื่อนำไปทำต่อในโปรแกรมตัดต่อวิดีโอขั้นสูงได้
- ระบบประมวลผล EXPEED 4 ใหม่ เพื่อคุณภาพการถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอที่ดียิ่งขึ้น
- จุดโฟกัส 51 จุด
- ISO 100-25,600 (ขยายได้เป็น 50-409,600)
- ม่านชัตเตอร์การันตีที่ 4 แสนครั้ง
- ตัวกล้องทำจากวัสดุแมกนีเซียมอัลลอยด์ พร้อมซีลกันน้ำกันฝุ่น
- จอ LCD หลังกล้อง ขนาด 3.2 นิ้ว ความละเอียด 921,000 พิกเซล
- View Finder ครอบคลุม 100% พร้อมปรับปรุงระบบสับกระจก ถึงแม้จะถ่ายภาพด้วยความเร็วสูง 11 ภาพต่อวินาทีก็ยังสามารถติดตามวัตถุผ่าน View Finder ได้
- ไฟล์ RAW SIZE S ถ่ายภาพไฟล์ RAW 12-bit แบบไม่บีบอัด ความละเอียด 2464 x 1640 เล็กกว่า RAW ปกติประมาณครึ่งหนึ่ง
- มี Gigabit Ethernet ทำให้โอนไฟล์ภาพได้เร็วกว่าเดิม
- แบตเตอรี่ EN-EL18a แบบลิเธียมไอออน แบตก้อนเดียวสามารถถ่ายภาพได้ 3,020 ภาพในโหมดถ่ายธรรมดา และ 5,960 ภาพในโหมดถ่ายรัว
- ช่องใส่การ์ด 2 ช่อง รองรับทั้งการ์ด CF และ XQD
- ตัวกล้องน้ำหนัก 1.35 กิโลกรัม
เปิดราคาตัวกล้องอย่างเดียวยังไม่รวมภาษีที่ 6499.95 ดอลลาร์ (ประมาณ 2 แสนบาท) ครับ
ที่มา - dpreview
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- Kubernetes คืออะไร [Part 1] เกิดขึ้นมาอย่างไร? ทำไมต้องใช้มัน? | Cloudnone EP.14
- CI/CD ยังไงดี ตั้งเซิร์ฟเวอร์เอง vs เช่าคลาวด์ | Cloudnone EP.13
- รู้จักโน้ตบุ๊กบนคลาวด์ เช่าใช้งาน Jupyter Notebook ที่ไหนดี | Cloudnone Ep.12
- สรุปข่าวใหญ่ปี 23 และคาดการณ์เทรนด์ปี 24 ในวงการ Cloud | Cloudnone EP.11
- สรุปของใหม่และสาระสำคัญจาก AWS re:Invent 2023 | Cloudnone Special EP
Comments
ครัช :P
iso ดันได้โหดจริงๆ
อยากให้กล้องใหม่ส่งภาพไปมือถือโดยตรงได้หมดจริงๆ
กล้องมือถือจะเท่าละนะ
ไหนลองเอากล้องมือถือดัน ISO สัก 4 แสนมาให้ผมดูเป็นขวัญตาสักหน่อยสิครับ
ถ้านับเรื่องความละเอียดอย่างเดียวเกินไปแล้วครับ(Lumia 1020)
ไหนเอากล้องมือถือ fullframe มาให้ดูหน่อยสิครัช
กล้องมือถือที่ดีที่สุดอย่าง Lumia 1020 ยังมีค่า dynamic range ประมาณแค่ Nikon D80 และ noise ใน high ISO 3200 ที่ให้คุณภาพของภาพห่วยกว่ามาก พูดง่ายๆ ตลาดกล้อง DSLR ในปัจจุบันยังนำหน้ากล้องมือถือในด้านคุณภาพอยู่เยอะมาก แน่นอนความสะดวกก็เรื่องหนึ่งคุณภาพก็เรื่องหนึ่ง
Nikon D4 ตัวก่อนตัวในข่าว จากที่เคยจับ ISO 6,400 ทำงานได้ดีโดยไม่มี noise บนความเร็ว shutter สูงมากๆ ที่ 1/200s รูรับแสง f/4 ยังถ่ายได้สบายๆ แต่ถ้ามือถือ f/2 ISO 3200 อาจหมายถึงต้องมือนิ่งมากๆ ระดับ 1/3s ก็ได้ภาพที่เบลอเกินกว่าจะรับได้แล้ว
แต่ทั้งหมดที่ว่ามา เป็นการเทียบที่อยู่ในมุมมองที่ว่า ถ้าเราไปถ่ายรูปในงานแต่งงานเราจะเลือกหยิบอะไรไปรับงานถ่ายงานแต่งงาน กล้องพวก Nikon D4 มันเอาไว้ตอบโจทย์พวกมืออาชีพที่ซีเรียสกับคุณภาพงานเป็นหลักครับ
ผมหมายถึงความละเอียดนะ ไม่เอาพวกความเร็วชัตเตอร์ ซูม
ความละเอียดกล้องแบบนี้ไม่จำเป้นหรอกครับ สำคัญคือ iso ที่ดันได้มากแล้วภาพยังคมชัดเพราะถ้าจะซูม เปลี่ยนเลนส์ไปเลยดีกว่า ภาพคมกว่าเยอะ
ความละเอียดไม่ใช่อะไรที่จำเป็นต้องเพิ่มเพื่อหนีกันครับ ณ ปัจจุบันความละเอียดระดับนี้ถือว่าพอแล้ว
Resolution ไม่บ่งบอกคุณภาพของภาพครับ
อย่าง Lumia 1020 ต่อให้เอา .DNG ไฟล์เต็มมาย่อเหลือ 6MP ผมว่าก็ยังทำได้ไม่ดีเท่าไฟล์ 6MP ของ DSLR ยุคแรกๆเช่น D70/300D เลยครับ
กล้องมือถือความละเอียด 40 ล้าน 20 ล้าน
โพสต์ลงเฟสบุ๊ค ใช้สามแสน -_-
โอเค ไม่พูดถึงเรื่อง operation เอาภาพล้วนๆก็ได้
Pixel เยอะ แต่ว่าแต่ละ pixel ไม่มีคุณภาพ
-มี noise มาเยอะ ก็ต้องเกลี่ยกลบ ย่อภาพให้ดูเนียนๆ เสีย detail ไปอีก
-Dynamic range ต่ำ เก็บภาพที่มีส่วนมืดมากกับสว่างมากในภาพเดียวกันได้ไม่ดี ต้องมาใช้โหมด HDR เพื่อชดเชยให้ Dynamic range พอจะเกือบเท่า DSLR รุ่นล่างๆ ถ่ายโหมดนี้ก็มีข้อเสียเยอะอีก
-Tonal Range ไม่เนียน ถ้าจอไม่กากเกินไปนัก จะดูออกว่าความเป็นปื้น กับการไล่สี ไล่โทน ของ มือถือกับกล้องดีๆมันต่างกัน
เท่านี้นะ ไม่นับเรื่องการความเร็ว และ operation อื่นๆ :)
ความละเอียดเยอะ ไม่ได้หมายความว่าภาพที่ถ่ายมาจะมีคุณภาพสูงนะครับ มันคนละเรื่อง
พิกเซลเยอะ แต่คุณภาพไม่ได้ คหสต คือเปลือง เมม/ HDD มากกว่าได้ประโยชน์ครับ
เห็นราคาเฉพาะ Body ก็เงิบแล้ว
จะมีกี่คนที่ซื้อเอาไว้ถ่ายเล่น หมายถึงไม่ได้เอามาทำอาชีพนะครับ
ผมเคยซื้อไว้ถ่ายเล่นนะ แต่แพงสุดที่รับได้ก็ 3 หมื่นกว่าที่จ่ายไป แต่หลักแสนแบบนี้ก็ไม่ไหวอ่ะ ถ้าเงินเดือน 2 แสนขึ้นอาจจะรับได้ - -*
มีอยู่พอสมควรเลยนะครับ คนในกลุ่มถ่ายภาพที่ผมเคยอยู่ส่วนใหญ่ถ่ายภาพเป็นงานอดิเรก
แต่หลายคนในนั้นก็ถอย D3/3s ตั้งแต่ออกใหม่ๆ เลนส์แพงระยับอีกเยอะแยะ
ป.ล. ออกตัวก่อนว่าไม่ได้อิจฉาหรือจิกกัดครับ สิ่งนี้เป็นความสุขของเขา แล้วเขาก็ไม่มีปัญหาเรื่องเงินในการซื้อมาใช้ ก็ไม่เดือดร้อนใครครับ :)
ตัวกล้องอย่างเดียวหนักกิโลกว่า ... จะเป็นลม >.<
คิดถึงตอนประกอบเข้ากับ 70-200mm f/2.8 และ Flash SB-900 ซึ่งน้ำหนักรวมกันประมาณ 4kg แล้วยืนถือถ่ายรูปทั้งวัน ท่ามกลางผู้คนนับร้อยที่เบียดเสียดกันซิครับ
มองด้านข้าง มองด้านบน มองด้านหลัง รู้สึกมันยุ่บยั่บยั้วเยี้ยไปหมดเลย
นี่คือสิ่งที่ตากล้องมืออาชีพที่ไม่ต้องการละสายตาจาก view finder ต้องการครับ ลองแล้วจะติดใจ ><
ผมชอบนะครับปุ่มเยอะๆ ตอน Sony ตัดปุ่มออกจาก Alpha ผมยังเซ็งเลย (T^T)
คุ้นมือแล้วจะรักเลยครับ ปุ่มเยอะ ๆ นี่ ชีวิตง่ายขึ้นมาก
+1
คุ้นมือแล้วมือมันไปเองเลยเวลาต้องการปรับอะไร ตามองใน วิวไฟเดอร์ แล้วคิด พอ
แต่กล้องที่ต้องเข้าเมนู บ่อยๆ จังหวะมันเสียไปมาก ต้องหยุดถ่าย มาปรับจากจอ
(ในบางสถานกาณ์นะครับ )
เมื่อไหร่จะมีโฟกัสของวิดีโอแบบ Dual Phase ติดมาด้วยหนอ....
น้ำตาจะไหล
แต่ถ้ากล้อง DSLR รุ่นเล็กๆ ขายได้มากขึ้น จะดีสำหรับคนไทยมากกว่านี้ครับ, ตัวนี้ทำที่ญี่ปุ่น
High ISO king ตัวต่อไปสินะ
ใช้กล้องมาตั้งแต่ iso สูงสุดแค่ 800
Educational Technician
ผมนี่ดันสูงๆตลอดครับ เพื่อสปีดชัตเตอร์ ฮี่ๆ
ดันเท่าที่จะดันได้ จนกว่าน้อยซ์จะบานอ่ะ
bad habit.
try "twice local length" ( เช่นซูม 100 ใช้ 1/200 )
หรือถ้าวัตถุเคลื่อนไหวไวมากจนเท่านี้ไม่พอ ค่อยเพิ่มดีกว่ามั้งครับ noiseน้อย เวลาแต่งรูป ใช้ brush กด automask มันทำได้ง่ายขึ้นด้วย.
ปล. แสงน้อยก็จัดไป กลั้นหายใจถ่ายด้วย speed ต่ำกว่าทางยาวโฟกัสนิดนึง เอาภาพเนียนๆ
ก็แล้วแต่คนชอบล่ะครับ ผมนี่เอะอะกด ISO 100 ยันเลย วันดีคืนดีคนก็แยกร่างได้
แล้วแต่ลักษณะงานครับ
งานที่มีเวลาปั้นเช่นถ่ายแบบ ถ่ายอาหารผมก็พยายามใช้ ISO ต่ำสุดเท่าที่จะทำได้
แต่งานที่ทุกวินาทีเรียกกลับไม่ได้เช่น event, คอนเสิร์ท, การแสดง
ผมเน้นได้ภาพก่อนครับ iso สูงหน่อยก็ช่าง ดีกว่า iso ต่ำแล้วได้ภาพเบลอๆ
ตามนั้นครับ มันต้องแล้วแต่งาน
ที่ผมจะตอบ reply แรกนั่นคือ ถ้าสูงไว้ก่อนตลอดเวลาโดยไม่ดูว่าเรากำลังถ่ายอะไร มันคงไม่ดีเท่าไหร่
ถ้าแบบไม่ค่อยขยับ ใช้ตามที่ผมบอกก็พอแล้ว ถ้ายังเบลอก็ค่อยเพิ่มสปีดตามเข้าไปอีกที ตามสถานการละกันนะ
กล้องผม 3200 ก็ noise กระจายแล้วเคยปรับ 25600(สูงสุด) ภาพนี่ดูไม่ได้เลย
ดีทุกอย่าง ยกเว้น..ราคา :-(
และน้ำหนัก