Tags:
Node Thumbnail

วันนี้ Thai Netizen จัดงานประชุมว่าด้วยเทคโนโลยีและสิทธิพลเมืองครั้งที่ 2 "หน้าต่างมีหูประตูมีช่อง: ความเป็นส่วนตัวออนไลน์และการสอดส่องการสื่อสาร" ในการบรรยายปาฐกถานำ โดย พล.ต.ท.ดร.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้บัญชาการสำนักเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สทส.ตร.) ได้กล่าวถึงข้อเสนอให้มีการ "ขออนุญาต" ก่อนใช้แอพในประเทศไทย

คุณประวุฒิระบุว่าที่ผ่านมาการขอความร่วมมือขอหลักฐานนั้นขอไม่เคยได้ และการใช้สมาร์ตโฟนก็ตามตัวได้ยากเพราะไม่มีการจดทะเบียนเป็นระบบ ข้อเสนอคือให้มีการถ่ายภาพก่อนซื้อซิมมาใช้งาน ส่วนแอพพลิเคชั่นขออนุญาตก่อนใช้แอพในประเทศตามบริบทประเทศ โดยยกตัวอย่างประเทศแถบตะวันออกกลาง

งานยังคงดำเนินอยู่ตอนนี้ ที่มาจากทวีต @thainetizen

Get latest news from Blognone

Comments

By: zerosmith
AndroidUbuntuIn Love
on 25 September 2013 - 13:10 #631388
zerosmith's picture

อะไรเนี่ย ไปกันใหญ่แล้ว

By: animateex
iPhoneAndroidUbuntuWindows
on 25 September 2013 - 13:24 #631406 Reply to:631390
animateex's picture

ผมคิดว่าต้องมองเป็นเคสๆ ไปนะครับ ถ้าเราไม่มี tools ให้เค้าเลย การตรวจสอบก็เป็นไปไม่ได้ ที่สำคัญผมคิดว่าประชากรไทยรู้ไม่เท่าทัน(แต่ดันเข้าถึงเร็ว)ในเทคโนโลยีด้วย.. การมีกำแพงซักอันชะลอไว้หน่อยก็ไม่ได้เสียหายอะไร แต่ก็ต้องไม่ใช่ปิดกัน!!

By: kanchen
AndroidUbuntu
on 25 September 2013 - 13:14 #631392

ทำให้รู้ศึกว่าประเทศนี้เริ่มอยู่ยากแล้ว

By: nant
ContributorWindows PhoneRed HatUbuntu
on 25 September 2013 - 13:21 #631400 Reply to:631392

ถ้าเอาตามตรง เรื่องนี้ ทุกประเทศอยู่ยากครับ ไม่เว้นแม้แต่อเมริกา ประเทศไทยยังไม่นับวาเลวร้ายมาก เพราะคุณยังสามารถวิพากษ์วิจารย์ได้ทุกเรื่อง แม้แต่เรื่องสถาบัน ขอแค่เพียงคุณระวังคำพูด จะด่าเสียดสีหรือ ด่าเกือบตรงก็ได้ แต่อย่าด่าตรงๆ โดยไม่มีมูล

By: Independencer
iPhoneSymbianIn Love
on 25 September 2013 - 13:21 #631401 Reply to:631400
Independencer's picture

ผมว่ามันสลับประเทศกันแล้วนะครับ เหอะๆๆ

By: Chopper
iPhoneWindows PhoneAndroidSymbian
on 25 September 2013 - 15:22 #631550 Reply to:631401

ขออันเชิญบาโฟ สศจ.สมศักดิ์ เจียม

By: plyteam
iPhone
on 25 September 2013 - 13:35 #631420 Reply to:631400

เทียบกับประเทศอะไรอ่ะครับ เกาหลีเหนือ?

By: nant
ContributorWindows PhoneRed HatUbuntu
on 25 September 2013 - 13:42 #631427 Reply to:631420

อ่าว ผมเห็นเค้าโพสด่ากันเกือบตรงๆ เยอะแยะไป หรือว่าคุณไม่เคยเห็น

By: aomnaruk
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 25 September 2013 - 13:45 #631430 Reply to:631427

บางอย่างไม่เห็นจะเกี่ยวกันก็โดนกันเยอะครับ หรือคุณไม่เคยเห็น ?


"Those who make peaceful revolution impossible will make violent revolution inevitable." JFK.

By: nant
ContributorWindows PhoneRed HatUbuntu
on 25 September 2013 - 13:48 #631432 Reply to:631430

เช่น?

By: aomnaruk
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 25 September 2013 - 13:50 #631434 Reply to:631432

ผมคงไม่สามารถนำมาโพสในนี้ได้ครับไม่งั้นผมก็โดน ม.112 เล่นงานสิครับ :)


"Those who make peaceful revolution impossible will make violent revolution inevitable." JFK.

By: nant
ContributorWindows PhoneRed HatUbuntu
on 25 September 2013 - 13:58 #631437 Reply to:631434

คือ ผมพูดตรงๆ นะครับว่าผมไม่ได้พูดว่าประเทศไทยดีเลิศประเสริฐศรี
แต่ประเทศไทยก็ไม่ได้เลวร้ายมากเมื่อเทียบกับประเทศรอบข้าง ลองไปวิจารย์ผู้นำใน พม่า สิงคโปร์ มาเลย์ จีน กัมพูชา หรือตะวันออกกลางสิครับ

ผมขอย้ำอีกครั้งว่าผมไม่ได้พูดว่าเราไม่ตวรปรับปรุง

ป.ล. ที่คุณอ้างว่าเอามาลงไม่ได้ ถ้ามีหลักฐานก็เอามาลงได้ครับ ถ้าไม่เป็นการกล่าวหาโดยไม่มีมูล เพราะผม ยังไม่เคยคนที่เวิจารย์อย่างโอเคคนใหนจะถูกจับอย่างเป็นทางการ และอันที่จริงผมแค่ขอตัวอย่างเฉยๆ ครับ ถ้าจะคุยกรณาอย่าอุดปากตัวเองครับ กฏหมายเขียนไว้ว่าหมิ่นหรืออาฆาตมาตรร้าย คุณไปตีความกว้างๆ อุดปากตัวเอง

By: aomnaruk
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 25 September 2013 - 14:04 #631451 Reply to:631437

ผมมีหลักฐานครับแต่ใครจะรับประกันผมได้ว่าจะไม่โดนฟ้อง ม.112 ที่พูดคลุมไว้กว้างมากกกก แถมมีโทษพอๆกับการ "ฆ่าคนตายโดยไม่เจตตนา" คุณอาจจะเสี่ยงแต่ผมเลือกปลอดภัยไว้ก่อนครับ :-P


"Those who make peaceful revolution impossible will make violent revolution inevitable." JFK.

By: nant
ContributorWindows PhoneRed HatUbuntu
on 25 September 2013 - 14:19 #631455 Reply to:631451

งั้นขอเข้าเรื่องนะครับ ผมมั่นใจว่าผมสามารถอ่านเจอประเด็นที่คุณบอกว่ามีหลักฐานไดในเฟสบุคหลายๆ คน เช่น สศจ หรือเว็บต่างๆ ถึงแม้ว่าเค้าจะโดนถล่ม แต่ก็ไม่มีการแจ้งข้อหาเค้าอย่างเป็นทางการ รวมถึงคนในเฟสบุคจำนวนมาก ที่เผยแพร่ ก็ไม่มีการเอาผิดอย่างจริงจัง

สิ่งนี้คือสิ่งที่เรียกว่าการเปิดกว้างในประเทศอย่างไม่ต้องสงสัย ถึงแม้จะยังไม่สมบูรณ์ แต่ก็ควรจะพัฒนาขึ้น และแน่นอนครับ เมื่อเทียบกับประเทศรอบข้าง ณ ปัจจุบัน ก็ถือว่าเรามีอิสระกว่าหลายๆ ประเทศ นี่คือประเด็นที่ผมพูดในตอนแรก ประเด็นผมอยู่ตรงนี้

อนึ่ง เราสามารถใช้คำพิพากษาศาลฏีกาที่เคยตีความคำว่า "อาฆาตมาตรร้าย" และ "ดูหมิ่น" เป็นเกณฑ์ในการวินิจฉัยได้ครับว่าเข้าข่ายหรือไม่
และผมเคยอ่านเจอมาว่า สมมุติ เราด่าผู้หญิงว่า น่าเ_ด ก็ไม่ถือว่าเป็นการดูหมิ่นนะครับ เพราะฉะนั้นอย่าตีตนไปก่อนไข้ ว่าจะต้องโดนแน่ๆเลย

By: aomnaruk
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 25 September 2013 - 14:23 #631464 Reply to:631455

งั้นผมอยากให้คุณช่วยยกตัวอย่างเหตุการณ์ในประเทศ "พม่า สิงคโปร์ มาเลย์ " ที่คุณคิดว่าแย่กว่า ม.112 ในไทยให้ผมดูหน่อยละกัน เผอิญผมไม่ค่อยได้รับทราบข่าวว่าประเทศเหล่านี้มีการ censorship ที่รุนแรงกว่าในไทยครับ


"Those who make peaceful revolution impossible will make violent revolution inevitable." JFK.

By: nant
ContributorWindows PhoneRed HatUbuntu
on 25 September 2013 - 14:36 #631480 Reply to:631464

ผมขออนุญาติไม่ตอบนะครับ เพราะเป็นการออกนอกประเด็นผมคือเรื่องในประเทศไทย
พม่าผมคงไม่ต้องพูดนะครับ สิงคโปร์ก็เช่นกัน และผมอยากให้คุณลองไปหมิ่นอิสลามในมาเลย์ ที่นั่นวิจารย์ศาสนาไม่ได้นะครับ เพราะเป็นความเชื่อที่อยู่เหนือเหตุผลไม่เหมือนของไทยที่ยังพอมีกรอบให้วิจารย์ให้ด่า และแน่นอนครับ เคยมีคนโดนจับข้อหาหมิ่นอิสลามแค่วิจารย์ก็โดนแล้ว ประเทศไทย ทั้งวิจารย์ ทั้งดูหมิ่น คนส่วนใหญ่ยังไม่โดนเลย

By: PaPaSEK
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 25 September 2013 - 14:42 #631488 Reply to:631480
PaPaSEK's picture

แต่คุณเป็นคนบอกเองว่าประเทศไทยดีกว่าประเทศต่างๆ ดังกล่าว ฉะนั้นมันเป็นประเด็นเดียวกันครับ เพราะไม่งั้นที่คุณกล่าวมามันก็กล่าวลอยๆ

อันนี้คุณเปิดประเด็นเองอ่ะนะครับ จู่ๆ จะมาบอกว่าคนอื่นนอกประเด็นได้ไง

By: nant
ContributorWindows PhoneRed HatUbuntu
on 25 September 2013 - 14:44 #631492 Reply to:631488

คุณ PaPaSEK ขอแนะนำให้ไปอ่านจับใจความใหม่ครับ

By: nant
ContributorWindows PhoneRed HatUbuntu
on 25 September 2013 - 14:43 #631487 Reply to:631464

ลองไปรับชมครับ คู่นี่ถูกจับข้อหาหมิ่นอิสลามเนื่องจากโพสรูปอาหารที่ทำด้วยหมูในวันถือศีลอด พร้อมกับข้อความว่าอร่อย
จำคุก 8 ปี โดยไม่ได้รับการประกันตัว

ปhttp://www.huffingtonpost.com/2013/07/18/alvin-and-vivian-jailed-malaysia-sex-bloggers_n_3616657.html?utm_hp_ref=religion&ncid=edlinkusaolp00000009

นี่ขนาดไม่ได้หมิ่นตรงๆนะ

By: PaPaSEK
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 25 September 2013 - 14:46 #631495 Reply to:631487
PaPaSEK's picture

แล้วไทยดีกว่ายังไงครับ?

By: Fourpoint
Windows PhoneAndroidSymbian
on 25 September 2013 - 14:46 #631496 Reply to:631455

สศจ โดนกล่าวหา112 ไปแล้วนะครับ แต่อาจารย์เป็นคนดังในสังคม เลยได้ประกันตัว

ลองดูเคส พี่กล่าวหาน้อง ที่เพิ่งยกฟ้องไปสิครับ คนโดนกล่าวหาไม่ได้ประกันตัว ติดคุกฟรีไปเกือบปี ฟ้องกลับใครก็ไม่ได้ด้วย

ทั้งๆที่คดีฆ่าคนตายโดยส่วนใหญ่ ได้ประกันตัวไม่ยากครับ ยิ่งไม่ได้ลงนสพ. ประกันตัวง่ายๆทั้งนั้น

อย่างคดีอากงโดนลงโทษหนักกว่าคดีดร.ฆ่าเมีย? เรื่องคำว่าอาฆาตมาดร้าย ใช้อะไรหรือคำตัดสินเก่าเป็นเกณฑ์ไม่ได้เลยครับ ลองค้นคดีเก่าๆที่วีระ มุสิกพงศ์ดูครับ นิทานเปรียบเปรยที่ฟังดูไม่ได้เกี่ยวข้องกัน ยังโดนลงโทษจำคุกสี่ปีได้(ยุคเก่านะครับ ไม่ใช่สมัยนปช.)

ไม่ได้บอกว่าให้เปิดเสรีในการด่ากัน แต่บทลงโทษให้อยู่บนพื้นฐานความผิดของคำพูด ไม่ใช่ดันร้ายแรงกว่าหรือเทียบเท่าคดีฆ่าคนตาย

By: nant
ContributorWindows PhoneRed HatUbuntu
on 25 September 2013 - 14:56 #631503 Reply to:631496

นั่นคือสิ่งที่ควรปรับปรุงครับ

ก็เหมือนสิ่งที่ผมพูด เราควรปรับปรุงให้ดีกว่านี้ (ม 112 ไม่ควรนำมาใช้)
แต่ผมหมายถึงสิ่งที่ ปท ไทยดีกว่า คือมีการเปิดเกือบจะเสรีกว่าประเทศอื่นๆ ไงครับ
เทียบกับมาเลเซีย ที่นั่นเราไม่สามารถแตะต้องศาสนาได้ แค่โพสรูปที่ไม่หมิ่นตรงๆ ก็โดนแล้ว แต่ประเทศไทยเรายังวิจารย์ได้ ยังพูด ยังล้อได้ แต่เซ็นเซอร์ชื่อนิดๆ ก้พอ ผมจึงมองว่า จุดนี้ คือประเทศไทยดีกว่าครับ

By: soginal
AndroidIn Love
on 25 September 2013 - 14:58 #631511 Reply to:631503
soginal's picture

ที่คุณโพสนั่นมันหมิ่นตรงๆเลยครับ ไม่ใช่อ้อมๆนะ เพราะศาสนาเขากำหนดมาชัดเจน

By: nant
ContributorWindows PhoneRed HatUbuntu
on 25 September 2013 - 15:03 #631522 Reply to:631511

ในรูปนั่นไม่มีข้อความหมิ่นศาสนาใดๆ นะครับ แค่บอกว่าบักกุเต๋อร่อย แค่นี้ก็โดนซิว

By: PaPaSEK
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 25 September 2013 - 15:19 #631542 Reply to:631522
PaPaSEK's picture

เป็นกฏหมายของโซนตะวันออกกลางครับ ในช่วงเทศกาลถือศีลอด ห้ามทุกคนกินอาหาร ห้ามโพสต์รูป ห้ามขายอาหาร ไม่ว่าคุณจะเป็นอิสลามหรือไม่

กฏหมายนั้นก็ถูกตราขึ้นมาจากวัฒนธรรม ประเพณี และหลักของศาสนาอีกที ซึ่งเรื่องพวกนี้มีในทุกประเทศ

คำถามคือ การจะใช้แอพแล้วต้องขออนุญาตก่อนมันเข้าข่ายไหน แล้ววิธีการดำเนินการมันเป็นไปได้ในทางปฏิบัติหรือไม่เมื่อเทียบกับกฏหมายที่คุณยกตัวอย่างมา

By: ammarptn
AndroidUbuntuWindows
on 25 September 2013 - 15:42 #631563 Reply to:631522

เออ ทำไมจะไม่มีครับ นี้มันหมิ่นตรงๆ ในรูป เขียนซะเป็น Headline ตรงที่ว่า "Salamat Berbuka Puasa dengan Bak kut tah...."
แปล สุขสันกับการเปิดบวชด้วยบักกุเต๋ แปลง่ายๆอีกทีก็คือ มาเชิญเปิดบวชด้วยหมู ซึ่งมุสลิมไม่กินหมู และไม่มีใครนอกจากมุสลิมที่จะถือศีลอดในตอนนั้น ก็ถือว่าหมิ่นชัดเจนครับ หมิ่นก็โดนชิวตามระเบียบ แม้ว่าไม่ได้ระบุศาสนา แต่คนที่มีคอมมอนเซ็น เค้าก็เข้าใจได้นะครับว่า หมายถึงอะไร

By: mugaa
iPhoneWindows PhoneAndroidUbuntu
on 25 September 2013 - 15:02 #631517 Reply to:631496
mugaa's picture

ถ้าจะเทียบกัน ต้องเอาคดีดร.ฆ่าเมีย 4คน มาเทียบกับอากงนะครับ เพราะอากงโดนไป 4กระทง แต่ดร.ฆ่าเมียโดนไปกระทงเดียว หมื่นประมาท 4ครั้งก็โดน x4 เหมือนกันนะ

By: nant
ContributorWindows PhoneRed HatUbuntu
on 25 September 2013 - 15:06 #631528 Reply to:631517

อันนี้ขอนอกเรื่องนะครับ ผมรู้สึกตลกกับการบังคับใช้กฏหมายแบบนี้มากๆ (ไม่เกี่ยวกับข้างบน)

เช่น ยักยอกเงิน 100,000 บาท 10 ครั้ง คิดเป็น 10 กระทง
ยักยอกเงิน 1,000,000 บาทครั้งเดียวนับเป็น 1 กระทง

ผมเจอไอ้แบบนี้มาหลายครั้งแล้วรู้สึกประหลาดใจที่มันดู ขำๆ(เอาจริงๆ ก็ขำไม่ออก) กับการบังคับใช้กฏหมายไทย

By: errin on 25 September 2013 - 15:20 #631544 Reply to:631528

ผมว่ามันต่างกันนะครับ คือแปลว่าคุณทำความผิดถึง 10 ครั้ง ต่างกับ ทำความผิดครั้งเดียวมากครับ นั่นคือคุณทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า

อย่างน้อยๆก็แก้ต่างว่าทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบไม่ได้แหละ

By: Hoo
AndroidWindows
on 25 September 2013 - 15:33 #631558 Reply to:631528

เรื่อง ทฤษฏี ต่างกรรมต่างวาระ นี่มันอยู่ในนิติศาสตร์เลยนะครับ
มันมีเหตุมีผลของมันอยู่ ไม่ใช่เรื่องงี่เง่าแน่ๆ

ส่วนเรื่องหมิ่น
ผมว่าเด็กรุ่นใหม่ไม่เคยรู้นิยามว่า หมิ่นประมาท
หมายถึง "พูดให้คนอื่นเสียหาย ในเรื่องที่ตัวเองก็ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า"

เห็นเค้าบอก คนในคฤหาสถ์ทำโน่นนั่นนี่ ก็เฮ เชื่อๆๆ
เห็นเค้าบอก ปิดกั้นเสรีภาพ ก็เฮ เชื่อๆๆ
เห็นเค้าบอก หมิ่นประมาทความหมายไม่ชัด ก็เฮ เชื่อๆๆ

คนกลุ่มนี้ ฟังแต่บทสรุปจากคนที่ เค้าคิดว่าเป็นกูรู
แล้วถือว่าเป็นความจริงสูงสุดที่ ไม่มีวันจะโต้แย้งได้
โดยไม่เคย ไปอ่านเนื้อหารายละเอียดด้วยตัวเองเลย
ที่อ่าน ก็อ่านแต่ เนื้อหารายละเอียดที่มาจากกูรู เค้าตัดต่อบิดเบือนอย่างไรก็ไม่รู้
ชาบูๆ ไปเรื่อยๆ
เห็นแล้วอนาถ

By: Negator
AndroidWindows
on 25 September 2013 - 16:02 #631582 Reply to:631528

ไม่งอแงนะครับ โอ่เอ๊ๆ

By: Fourpoint
Windows PhoneAndroidSymbian
on 25 September 2013 - 15:24 #631534 Reply to:631517

คดีดร.นิด้าฆ่าเมีย คดีนี้ศาลพิพากษาลงโทษจำคุก 4 ปี
คำให้การจำเลยเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีจึงลดโทษเหลือ 2 ปี โดยให้รอลงอาญาไว้ 3 ปี
และให้บำเพ็ญประโยชน์ด้วยการสอนหนังสือเป็นเวลา 50 ชม.

คดีอากง โดนกระทงละ5ปี สี่กระทงรวมเป็น20ปีโดยไม่รอลงอาญา(เพราะ112 ไม่มีข้อยกเว้นความผิด) และห้ามประกันตัวตลอดการดำเนินคดี

กระทงเดียวก็ยังมากกว่าฆ่าคนตาย1คนเลยครับ สรุปว่าคุณก็ยอมรับว่า โทษของคำพูด สมควรรุนแรงกว่าการฆ่าคนตาย?

By: Sven
In Love
on 25 September 2013 - 16:08 #631589 Reply to:631534
Sven's picture

สิ่งที่ส่งผลกระทบกับความมั่นคงของประเทศ สามารถทำให้คนตายได้มากกว่า 1 คนไงครับ

โทษของคำพูดถ้ามันออกจากปากแล้วหายไปกับลมมันก็ไม่มีอะไร
แต่ถ้าพูดออกในที่สาธารณะ เผยแพร่ในวงกว้าง สเกลความเสียหายก็คูณตามการเผยแพร่ โทษย่อมมากกว่าการฆ่าคนตายหนึ่งคน

แม้แต่การฆ่าคนตายก็ยังสามารถพิจารณาออกได้หลายประเภท ฆ่าโดยลุโทสะ หรือวางแผน อุบัติเหตุ โทษสามอย่างนี้ยังไม่เท่ากันเลย ขนาดฆ่าคนเหมือนกันแท้ๆ

คดียักยอกเงินจำคุก 50 ปีก็มี มากกว่าคดี ดร นิด้า คุณไม่ลองไปตั้งคำถามหน่อยละว่า แค่เงินทำไมโทษหนักกว่าการฆ่าคนตาย ?
มันเป็นการเทียบบัญญัติไตรยางค์ที่ non sense เพราะคนไม่ได้ตายจากการถูกฆ่าอย่างเดียว เงิน ทรัพย์สิน การขาดปัจจัยก็ทำให้คนอดตายได้ และความมั่นคงของประเทศ ก็ทำให้คนตายได้มากกว่านั้น

By: Fourpoint
Windows PhoneAndroidSymbian
on 25 September 2013 - 16:45 #631632 Reply to:631589

คดีแพ่ง ไม่มีการลงโทษจำคุกนะครับ มีแต่คดีอาญาที่เกี่ยวข้องกับแพ่ง เช่นคดีเช็คเด้ง คดีฉ้อโกง อันนี้มีโทษจำคุก

ซึ่งเขานับทบความผิดคนละครั้งรวมๆไป แต่ไม่มีบทลงโทษคดีเกี่ยวกับเงินคดีไหน ที่มีบทลงโทษเดียวมากกว่าคดีฆ่าคนตายครับ

ประเด็นคือคดีเดี่ยวๆ บทลงโทษของ112 ก็มากกว่าคดีฆ่าคนตาย และมากกว่าคดีอาญาฯที่เกี่ยวกับเงินอยู่ดีครับ

ที่สำคัญ คุณลองอธิบายหน่อยสิครับ คำพูดของคนธรรมดา(ในกรณีอากงไม่ได้เผยแพร่สาธารณะที่ไหนด้วยซ้ำ พูดกับคนคนเดียวผ่านsms คือเลขาฯ)นั้นมีผลต่อความมั่นคงของชาติ หรือผลกระทบร้ายแรงกว่าการฆ่าคนตาย1คนอย่างไร?

เห็นอ้างแต่ความมั่นคงฯ แต่อธิบายได้ไหมว่ามันมีผลกระทบอย่างไร?

By: Hoo
AndroidWindows
on 25 September 2013 - 16:09 #631594 Reply to:631534

ไปดูรายละเอียด กรณีอากงเถอะครับ
ว่าพี่แกผู้ร้ายปากแข็งขนาดไหน

ตั้งแต่ ซื้อซิมเพื่อหมิ่น กลบเกลื่อนหลักฐาน ให้การเท็จ ฯลฯ
จำนนต่อหลักฐานก็ยังไม่ยอมรับผิด
เรียกได้ว่า ทำผิดแล้วไม่รับผิด ไม่สำนึกผิด ศาลก็เมตตาไม่ได้หรอกครับ
ได้แต่ลงโทษไปตามที่กฎหมายกำหนด

ในขณะคดีฆ่าคนตาย เค้าสำนึกผิด สารภาพ ให้ความร่วมมือตลอดคดี
ศาลก็มีช่องให้ลดโทษได้

By: Fourpoint
Windows PhoneAndroidSymbian
on 25 September 2013 - 16:38 #631625 Reply to:631594

คดีอากง ผมว่าที่นี่ เขาแสดงเอกสารหลายหนแล้ว ว่าหลักฐานฝ่ายกล่าวหาอ่อนแค่ไหน แค่เรื่องจนท.บ.มือถืออ้างว่าปลอมiemeiไม่ได้ ก็น่าขำจนตกเก้าอี้(กลัวโดนฟาด)

เรื่องอ้างว่ามีผลต่อความมั่นคง คำถามคือ คำด่ากัน จะทำให้ประเทศล่มจมได้อย่างไร? ยกตัวอย่างคดีเก่าๆแบบวีระฯ ที่ไม่ใช่คำด่าด้วยซ้ำ เป็นแค่คำเปรียบเปรย ซึ่งมองจริงๆไม่ได้หวังกระทบทางนู้นเลย เพราะแกจงใจจะประชดป๋าป.นั่นแหละ แต่ศัตรูทางการเมืองจับมาเป็นเครื่องมือทำลาย

คดีหมิ่นประมาทบุคคล ก็มีโทษสูงสุดคือจำคุกอยู่แล้วครับ แต่ไม่ได้เยอะเว่อเหมือนคดีฆ่าคนตาย

แล้วถึงอากงจะสารภาพว่าทำผิด ก็ไม่มีโอกาสได้ลดหย่อนโทษนะครับ เพราะมาตรานี้ไม่มีเรื่องของการยกเว้นความผิด ไม่เหมือนคดีฆ่าคนตาย ที่อาจยกให้เป็นรอลงอาญาฯได้ ซึ่งในแง่นี้ ถือว่าคดี112 มีบทลงโทษ"รุนแรง"กว่าคดีฆ่าคนตายครับ มีคนเคยกล่าวว่า คดีนี้จะพูดอย่างไร ถ้าทำให้มีคนที่ฟังแล้วรู้สึกไม่ดี หรือชวนให้คิดถึงในเชิงลบ แม้จะไม่ได้มีเจตนา ก็ถือว่ามีความผิด นั่นคือผิดทุกกรณีแม้จะไม่มีเจตนาก็ตาม ไม่ว่าคำพูดนั้นจะเป็นข้อเท็จจริงหรือไม่ก็ตาม

ผมยังงงกับคนที่คิดว่า "คำพูด"ของคนธรรมดา มีความผิดร้ายแรงกว่าการฆ่าคนตายนั่นแหละ

By: PaPaSEK
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 25 September 2013 - 17:21 #631659 Reply to:631625
PaPaSEK's picture

การละเมิด ม.112 จะทำให้ประเทศชาติสั่นคลอน เพราะฝ่ายที่เห็นด้วยกับ ม.112 จะไล่คนที่ไม่เอาไปอยู่ประเทศอื่น ทำให้ประเทศขนาดบุคลากร และอ่อนแอครับ

อย่าเชื่อผมนะ

ปล.ผมว่าเรื่องนี้หยุดคุยกันดีกว่า ไม่ใช่เพราะรำคาญ แต่ดูเหมือนว่าหลายๆ คนกำลังพยายาม troll มากกว่าครับ

By: mr_tawan
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 25 September 2013 - 21:35 #631870 Reply to:631659
mr_tawan's picture

เคยคุยกับนักกฎหมายเขาว่า กฎหมายข้อนี้บัญญัติมาเพื่อป้องกันพวกอยากวิจารณ์กับพวกที่จงรักภักดีหนัก ๆ แบบไม่ลืมหูลืมตา (ผมเป็นพวกเป็นกลาง ไม่เข้าข้างฝั่งสองฝั่งนี้ แต่เทิดทูนสถาบันนะ :-) ไม่ได้เทิดทูนที่ตำแหน่งแต่เทิดทูนที่คุณงามความดี) ไล่กระทืบกันจนตีกันตายเหมือนเด็กช่างกลน่ะครับ ซึ่งที่เราเห็นกันก็ดูเหมือนว่ามันไม่ได้ผลนะ เพราะข้างบนยังไล่แทงกันเหมือนประทุมวันตีกับราชสิทธอยู่เลย

มีคนเคยบอกว่าก็เอาหมิ่นประมาทมาใช้สิ ผมมั่นใจว่า พระองค์คงไม่ทรงลงมามีเรื่องกับประชาชนอย่างพวกเราหรอกครับ มันจะกลายเป็นพวกที่ชอบวิจารณ์อาจจะถูกกระทืบตายแบบคามิกาเซ่ได้ (เหมือนเด็กช่างกลไง) มาตรา 112 จึงเป็นกา่รคุ้มครองพวกปากอยู่ไม่สุกมากกว่า เหมือนกับผู้ใหญ่สั่งเด็กไม่ให้ขึ้นรถเมล์คนเดียวก็เป็นการป้องกันไม่ให้เด็กพลัดหลง เพราะว่าดูแลตัวเองไม่ได้นั่นแหละ

การมีกฎหมายข้อนี้ก็เป็นการรักษาชีวิตคนกลุ่มนี้ไม่ให้ถูกธรณีสูบนั่นเอง อย่างน้อยไปมีชีวิตอยู่ในคุก หรืออยู่ในต่างแดน ก็ยังดีกว่ากลายเป็นปุ๋ย ถูกไหมครับ ? พวกที่ไม่ลืมหูลืมตาก็จะคิดไปว่า เออมันมีบทลงโทษอยู่แล้ว ตัวเองไม่ต้องทำอะไรหรอกแค่หาทางทำให้ถูกลงโทษเท่านั้นเอง ถ้าไม่มีเหรอ ผมว่าอาจจะมีการวางเพลิงเผาบ้านเผาเมือง หรือไล่เอาเลือดมาสาดหน้าบ้านคนอื่นกัน (คนแถว ๆ ที่ทำงานผมโดนมาแล้วครับ มาจากไหนไม่รู้มืดฟ้ามัวดินเลย เอาเลือดสาดหน้าบ้าน น่ากลัวมากขอบอก) อะไรทำนองนี้ ให้มันแง่ง ๆ กันแต่ไม่ทำอะไรก็ยังดีกว่าเอาปืนมาไล่ยิงกันใช่ไหมครับ นี่ล่ะครับที่ว่ามันเกี่ยวกับความมั่นคงล่ะ

คือมันก็เหมือนมาตราอื่นแหละ กฎหมายมีหน้าที่ป้องปรามให้คนคิดอีกทีก่อนที่จะกระทำการอันไม่เป็นอันควร กลายเป็นการสร้างความเดือดร้อนให้แก่ตัวเองและผู้อื่นน่ะครับ

แต่ปัญหามันอยู่ที่การบังคับใช้กฎหมายมากกว่า ถ้ามองทั่ว ๆ ไปบ้านเรามีการบังคับใช้กฎหมายน้อยกว่าที่ควรมาก แต่กฎหมายมาตรานี้เหมือนจะถูกใช้ในทางที่ผิด เป็นการบิดเบือนฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลว่าดูหมิ่น คือมันใกล้เคียงกับการบอกว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นคอมมิวนิสต์ในสมัยก่อนเลยล่ะครับ

จนถึงตอนนี้ผมก็ยังคิดว่ากฎหมายข้อนี้ยังควรต้องมี เพราะเรามีทั้งพวกที่จงรักภักดีซะจนไม่ฟังอะไรเลย กับกลุ่มที่อยากพูดอะไรก็พูดโดยไม่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม (และผมยังคิดว่าผมไม่ใช่คนในสองกลุ่มนี้) ถ้ามันไม่มีก็อาจจะเกิดสงครามกลางเมืองย่อม ๆ ได้นะครับ

กะอีแค่เขื่อนแม่วงศ์เนี่ย ยังมีคนที่บ้านอยู่ในอ.ลาดยาว โดนเอารถติดเครื่องขยายเสียงมากดดันกันเพียงเพราะว่าเป็นคนที่ไม่สนับสนุนการสร้างเขื่อนเลยนะครับ ประเทศเรามันไร้อารยะครับ แล้วก็ด้อยพัฒนาด้วย ดังนั้นกฎหมายประเภทนี้จึงยังคงเป็นสิ่งที่จำเป็นอยู่ครับ


  • 9tawan.net บล็อกส่วนตัวฮับ
By: Sven
In Love
on 25 September 2013 - 17:38 #631662 Reply to:631625
Sven's picture

คดีใหนตัดสินจำคุกเกิน 3 ปีเขาก็ห้าม รอลงอาญาหมดแหละครับคุณเอ้ย

ขอย้ำ ว่าอย่าเอา ตรรกะพิสดารโดยเทียบบัญญัติไตรยางค์ มันไม่ make sense
คดียักยอกเงินก็ สามารถจำคุกมากกว่าฆ่าคนตายได้
คดีข่มขืนก็ สามารถจำคุกมากกว่าฆ่าคนตายได้
แต่คดีฆ่าคนตาย มีโทษประหารชีวิต

โทษมีสามประเภท จำคุก ปรับ ประหารชีวิต
คุณเอาอะไรมาพูดว่าโทษเกี่ยวกับคำพูดผิดร้ายแรงกว่าฆ่าคนตายในเมื่อ
ฆ่าคนตาย "มี" โทษประหารชีวิต แต่โทษเกี่ยวกับคำพูด "ไม่มี"

Make any Sense ?

สุดท้าย อย่า เอาสาระกับบทความวาไรตี้มากนัก คุณโดนมุกความจริงครึ่งเดียว ความจริงครึ่งเดียวย่อมไม่สมเหตุสมผลโดยธรรมชาติ
อินเตอร์เนตคืออุปกรณ์ชั้นดีในการเพิ่มโอเทลโล่ ชนะในศาลไม่ได้ มาเล่นศาลเตี้ยนอกศาล หาแนวร่วมด้วยการโฆษณา
อยากรู้อะไรจริง ควรหาอ่านเป็นเล่ม อย่าเป็นเบี้ย

By: Fourpoint
Windows PhoneAndroidSymbian
on 26 September 2013 - 09:10 #632077 Reply to:631662

เอ่อมูลโทษพื้นฐานต่อกระทงสิครับ

ถ้านับทบยอดหลายกระทงไปคดีอะไรมันก็ลงโทษมากกว่าฆ่าคนตายได้นั่นแหละ แต่คดีอาญาที่เกี่ยวกับเงิน ลงโทษจริงจะไม่เกิน20ปีนะครับ(แม้ตอนตัดสินจะเขียนว่าหลายร้อยปีก็ตาม) ตัวอย่างคดีแชร์แม่ชม้อยโกงเงินไปสี่พันกว่าล้านเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน ตัดสินคดีฉ้อโกงกระทงละ5ปี 23,519กระทง รวมเป็น117,595ปี(ไม่ผิดครับแสนปี) และคดีกูัเงินอีก กระทงละ10ปี 3,641กระทงรวม 154,005ปี(ตัวเลขจากwiki)

แต่รวมโทษแล้วจะลดเหลือจำคุกแค่20ปีครับ

แต่แม่ชม้อยติดคุกจริงแค่ 7ปี11เดือน 5วันเพราะได้ลดโทษสองครั้งครับ

โดยพื้นฐานคดีอาญาฯเมืองไทยคดีที่มีบทลงโทษรุนแรงที่สุดคือฆ่าคนตาย แต่112มีบทลงโทษสูงกว่าฆ่าคนตาย เพราะไม่มีขั้นต่ำหรือการยกเว้นความผิดครับ ไม่ต้องพิสูจน์เจตนาด้วยด้วยซ้ำ(ปกติกฎหมายอาญาฯจะต้องมีเจตนา) ผมเลยย้ำว่า การพูดหนเดียว มันร้ายแรงกว่าการฆ่าคนตาย1คนอีกหรือ? ไม่ต้องอ้างเรื่องยักยอกทรัพย์อะไรเลยครับ บทลงโทษต่างกันลิบ

ศาลไม่ใช่ทุกสิ่งนะครับ กฎหมายเองยังเว้นช่องให้วิจารณ์คำพิพากษาได้ตามหลักวิชาการ แค่ห้ามวิจารณ์ศาลระหว่างการพิจารณาคดี(เพราะอาจเป็นการข่มขู่) ยิ่งกับคดีสมัยใหม่ ใช้หลักฐานทางIT กัน คนITย่อมสามารถที่จะโต้แย้งบนพื้นฐานของหลักฐานทางเทคโนโลยีกันได้ คดีอากง เขาเถียงกันยันความน่าเชื่อถือของ CDR ที่ไม่ได้บันทึก iemi ทุกครั้งแถมตัดประเด็นเรื่องการแก้iemiกันเลยนะครับ คุณได้ดูไหม?

ส่วนท่านที่บอกว่ากฎหมาย112ออกมาเพื่อป้องกันคนทะเลาะกัน ผมว่าคุณคงต้องย้อนไปถึง การแก้กฎหมายนี้ว่ามีการเพิ่มโทษ สองครั้ง คือตอนรปห.2500 ที่สฤษดิ์เปลี่ยนแปลงการปกครองมาเป็นเผด็จการเต็มตัว และปี2519 ที่ไล่ฆ่านักศึกษาครับ ม.112ในตอนแรกรวมถึงกฎหมายก่อนหน้าในสมัยสมบูรณฯก็มีโทษเทียบเท่าหมิ่นบุคคลทั่วไป(ไม่เกินสามปี) แต่มาเพิ่มเป็น7ปีตอน2500(ตอนนั้นพ่วงเพิ่มโทษเรื่องการหมิ่นศาลด้วย เพราะสฤษดิ์ตั้งศาลพิเศษขึ้นมาเอง เลยออกกฎหมายปกป้อง ห้ามคนวิจารณ์) และเพิ่มเป็น3-15ปีแถมด้วยการตัดส่วนยกเว้นโทษออกไปตอนรปห.2519 ครับ มีเจตนาเพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการกำจัดศัตรูทางการเมืองของฝ่ายเผด็จการทหารโดยตรง

และล่าสุดในสมัยรบ.ทหาร2549 เกือบจะมีการแก้กฎหมายนี้ให้ครอบคลุม "องคมนตรี"ด้วยนะครับ

ตกลงว่าออกมาเพื่อปกป้องหรือเป็นเครื่องมือเพื่อใช้ทำลายศัตรูทางการเมืองกันแน่?

คนเราเห็นไม่ตรงกัน โต้แย้งกันได้ หรือแม้แต่จะทะเลาะกันก็ยังได้ แต่ไม่ใช่เอาอีกฝ่ายไปขังคุกไม่ให้ประกันจนกว่าศาลจะตัดสินด้วยโทษที่รุนแรงกว่าการฆ่าคนตายครับ แถมฟ้องร้องกลับใครไมได้เลย ดูคดีพี่ฟ้องน้อง เป็นตัวอย่างครับ มันคือความมลักลั่นของกฎหมายในสังคมไทย ที่มีข้อกฎหมายที่ใช้เป็นเครื่องมือกำจัด ข่มขู่ อีกฝ่ายได้ข้างเดียว

ถ้าจะบอกว่ากลัวโดนไล่ฆ่ากันเลยเอาไปขังคุกซะจะได้รอด? อีกฝ่ายก็มีมือมีเท้าครับ ใครจะมาไล่ฆ่าฝ่ายเดียวแบบ6 ต.ค.คงไม่มีวันยอมกันอีกแล้วล่ะนะ

By: Sven
In Love
on 26 September 2013 - 13:20 #632233 Reply to:632077
Sven's picture

ผมเห็นคุณงงของคุณอยู่คนเดียว แล้วก็เหมือนไปอ่านบทความตามเน็ต
เอาบทความมาสอนตัวคุณเองเสร็จสรรพ ตกลงคุณจะคุยกับผม หรือจะคุยกับตัวคุณเองแน่ ??

[ การพูดหนเดียว มันร้ายแรงกว่าการฆ่าคนตาย1คนอีกหรือ? ไม่ต้องอ้างเรื่องยักยอกทรัพย์อะไรเลยครับ บทลงโทษต่างกันลิบ ]

ไป DownGrade ไขข่าว ใส่ความ แพร่หลาย --- twist---> พูดหนเดียว ได้ยังไงครับ
ตอบกี่รอบเห็นวนอยู่ที่เดิม หมิ่นประมาทต่อเบื้องสูงด้วยการ ส่งจดหมาย ส่งข้อความ จะให้กลายเป็นแค่ "พูด" ได้อย่างไร

[ แต่112 มีบทลงโทษสูงกว่าฆ่าคนตาย เพราะไม่มีขั้นต่ำหรือการยกเว้นความผิดครับ ไม่ต้องพิสูจน์เจตนาด้วยด้วยซ้ำ ]

พ่อคุณเอ้ย กฎหมายเขากำหนดโทษต่างกัน
กฎหมายบางข้อเน้นโทษจำคุก บางช้อเน้นโทษปรับ ตามจุดประสงค์
ผมถึงบอกจนปากแห้งว่าไอ้การเอาตัวเลข "จำคุก" เพียงอย่างเดียว มานั่งแบ่งแยกว่ากฎหมายข้อใหนโกงเว่อ
โหดเว่อ มันเป็นความวิบัติตามประสาคนอ่านกฎหมายรายวัน จำคุกมันไม่ใช่บทลงโทษเพียงตัวเดียว

กฎหมายที่เกี่ยวกับการ ไขข่าวลือต่อบุคคล ทุกตัวจะเน้น "โทษจำคุก"
เพราะ ลมปาก หรือการใส่ความ "กระทำได้โดยง่าย" "
โทษจึงต้องสูง และเน้นการจำคุก ซึ่งไม่ได้เป็นแค่ 112 กฎหมายตัวอื่นก็เหมือนกันหมด

หากเน้น "โทษปรับ" ก็จะเกิดอาชีพจ้างวานใส่ความกัน
หากเน้น "โทษประหาร" ก็ไม่ได้เพราะผิดหลักมนุษยธรรม
ถ้าคุณ ”ไม่ให้" เขาเน้นโทษ "จำคุก"
ก็จะกลายเป็นการอนุญาติให้คนทำผิดโดยปริยาย
เพราะรู้จะเอาอะไรไปลงโทษ นู่นก็ไม่ได้ นี่ก็มากเกิน

เมื่อเป็น 112 ในฐาณะที่คุณเป็นคนไทย
คุณย่อมทราบว่าประเทศเราธงชาติมีสีอะไรบ้าง
จะมา " พิสูจน์เจตนา" ไปเพื่ออะไรครับ

[ 112 มีบทลงโทษสูงกว่าฆ่าคนตาย ]

ตกลงการจำคุกถือเป็นโทษสูงกว่าประหารชีวิตใช่มั้ยครับ

[ ส่วนท่านที่บอกว่ากฎหมาย112ออกมาเพื่อป้องกันคนทะเลาะกัน ผมว่าคุณคงต้องย้อนไปถึง การแก้กฎหมายนี้ว่ามีการเพิ่มโทษ สองครั้ง ]

คนทำผิดมากขึ้น กฎหมายจะ Adaptation เพิ่มตามครับ

สุดท้าย จะเต้นไปตามบทความ ก็เรื่องของคุณครับ มันเป็นทางออกที่ประหยัดเวลากว่าไปอ่านกฎหมายเป็นเรื่องเป็นราวเยอะ คลายเครียดและมอบความบันเทิงเริงใจ ทำให้ชีวิตคุณมีค่าขึ้นมาโดยพลัน ไม่ต้องไปนั่ง ปวดหัว

[คดีอากง เขาเถียงกันยันความน่าเชื่อถือของ CDR ที่ไม่ได้บันทึก iemi ทุกครั้งแถมตัดประเด็นเรื่องการแก้iemiกันเลยนะครับ คุณได้ดูไหม?]

เถียงในศาลหรือเถียงนอกศาลครับ
ทำไมพวกโคตรเทพ ทั้งหลายไม่ไปปรากฎกายในศาล ครับ ศาลพิจารณาจากพยานหลักฐาณที่ปรากฎ
ผู้ที่ทำให้พยานหลักฐาณปรากฎคือ โจทก์ จำเลย เขาเลยเรียกว่า "นำสืบ"
ศาลคือ "ตาชั่ง" เท่านั้น คนที่วางน้ำหนัก ลงบนแกนสองข้างคือ "โจทก์" ー "จำเลย"
พวก 'เทพ' นอกศาล ถ้าเทพจริงหายหัวไปใหน ทำไมไม่ปรากฎในศาลครับ

By: PaPaSEK
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 26 September 2013 - 22:13 #632516 Reply to:632233
PaPaSEK's picture

ประเด็นที่ผมว่าน่าสนใจคือ มันถูกใช้เป็นอาวุธโจมตีกันทางการเมืองมากกว่าครับ แล้วกระบวนการแบบจำเลยต้องพิสูจน์ตัวเองว่าไม่ผิดนี่ก็ทำให้เกิดปัญหาในการใช้ชีวิตของผู้ถูกกล่าวหา ... ส่วนเรื่องความหนักเบานี่พูดกันยาก ... ยิ่งถ้าเอาไปเปรียบเทียบแบบ supremacist เช่น เอาเรื่องการหมิ่นไปเทียบกับเรื่องฆ่าคนตายก็ดูท่าทางจะยาก ส่วน supremacist อีกฝั่งบอกว่าแค่หมิ่นแล้วได้เข้าคุกนี่ปกติมากๆ โทษถือว่าจิ๊บๆ มาก ใครๆ ก็โดน เป็นมาตรฐานสุดๆ

คุยกันแบบนี้คุยไม่รู้เรื่องแน่ครับ

จะคุยกันจริงๆ คงต้องเอาบรรทัดฐานการพิจารณาคดีหมิ่นในบคุคคลธรรมดาทั่วไปมาเทียบ

  • เกณฑ์พิจารณา อะไรบ้างที่เข้าข่าย
  • เกณฑ์ลงโทษ โทษหนักเท่ากันหรือไม่

แต่ถ้าจะให้เอาบรรทัดฐานการดำเนินคดีหมิ่นของสามัญชนกับเชื้อพระวงศ์มาเทียบกัน เดี๋ยว ultra royalist ก็คงจะมาเล่นงานด้วย ม.112 อีก

By: Hoo
AndroidWindows
on 26 September 2013 - 23:51 #632563 Reply to:632233

อย่าท่องจำวาทกรรม
"หมิ่นเบื้องสูง โทษหนักกว่าฆ่าคนตาย"
เอากฎหมายมาเปิดอ่าน โทษฆ่าคนตายหนักกว่าเห็นๆครับ

โทษฆ่าคนตาย 1 กระทง
มาตรา 288 ผู้ใดฆ่าผู้อื่น
ต้องระวางโทษประหารชีวิต จำคุก ตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่สิบห้าปีถึงยี่สิบปี
link

แต่
มาตรา 112 ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จ ราชการแทนพระองค์
ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี
link

แล้วที่เอามาอ้างกันคืออะไร???
เอา คดีฆ่าคนตาย ที่ทำแค่ 1 กระทง และรับสารภาพ
มาเทียบกับ
หมิ่น ทำถึง 4 กระทง แถมจำนนหลักฐานก็ยังไม่ยอมแพ้
ข้อเท็จจริง กรณีอากง SMS
จนเหมือนโดนโทษหนักกว่าฆ่าคนตาย

แล้วมาเน้นย้ำใช้วาทกรรม
"หมิ่นเบื้องสูง โทษหนักกว่าฆ่าคนตาย"

ผมว่า แทนที่คนอื่นจะเห็นว่า "เป็นพวกหัวก้าวหน้า ฉลาด เห็นในสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น"
เค้าจะมองว่า "ใครบอกอะไรมาก็เชื่อไปหมด ไม่ดูเนื้อหาข้อเท็จจริงด้วยตัวเอง ไร้หัวคิดของตัวเอง" มากกว่านะครับ
เป็นแค่พวก "จำความคิด" ไม่ใช่ "มีความคิด"

By: Fourpoint
Windows PhoneAndroidSymbian
on 27 September 2013 - 16:21 #633029 Reply to:632563

#Sven

ผมว่าเราตีกรอบ คดีที่เกิดขึ้นจริงก่อนนะครับ

คดีอากง ส่งsms หาเลขาฯของมาร์ค เป็นการทำลายความมั่นคงของชาติอย่างไรครับ?

คำด่าที่ได้ยินกันระหว่างคนสองคน ทำลายความมั่นคงของชาติอย่างไรครับ?

ช่วยอธิบายตรงๆหน่อย มันไม่ใช่การหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาให้คนจำนวนมากได้ยินแล้วเสื่อมเสียชื่อเสียงนะครับ ส่งsmsหาอีกคนนึงไม่ต่างจากการพูดระหว่างคนสองคนเลยก็ว่าได้

ผมไม่ได้บอกให้ด่ากันได้ตามใจชอบนะครับ ใครด่าพ่อด่าแม่ผม ผมก็โกรธนะ แต่ด่ากันตามปกติยังมีหมิ่นประมาทบุคคลได้ แต่ที่ไม่มีใครอธิบายได้ คือทำไมบทลงโทษถึงรุนแรงผิดกันลิบลับ?

ผมตลกที่คุณพยายามอธิบายเหตุผลจากปลายเหตุ โดยไม่ได้ดูที่มาเลยว่า การเพิ่มโทษ112 นั้น เขาเพิ่มสมัยไหน และใช้เพื่ออะไร พอจะแย้งเรื่องเจตนารมณ์ของคนออกกฎหมาย ก็ตัดบทหนีไปดื้อๆเลย หุๆ ใครกันแน่ที่ไม่ยอมรับฟังความจริงว่า คนแก้กฎหมายนี้คือคณะรัฐประหารทั้งนั้น เพื่อใช้ในการทำลายศัตรูทางการเมืองเป็นพิเศษ ก็เข้าใจนะ บ้านเรายอมรับกันว่าคนถือปืน(คณะรปห.)อยู่เหนือกฎหมายที่สุด ห้ามสงสัย ห้ามโต้แย้ง

เรื่องบทลงโทษผมว่าเปรียบเทียบกับคดีที่มีการปรับ หรือไม่มีขั้นต่ำในการจำคุกไม่ได้ เพราะคดีนี้ ขั้นต่ำคือ3-15ปี ไม่มีการยกเว้น การลดโทษ หรือการลงโทษแบบอื่น มีแค่ผิดจริงก็เข้าคุกเท่านั้น(ซึ่งแค่พิสูจน์ได้ว่าพูด จะตั้งใจไม่ตั้งใจ หรือมีเจตนาอย่างใด แต่ถ้าผู้ฟังโยงเรือ่งไปได้ก็ผิดหมด ผมยกคดีวีระ มาตรงๆนั่นไง เจ้าตัวจงใจประชดเปรม แต่คนฟ้องโยงไปหาว่าประชดเบื้องสูง) แถมในทางปฎิบัติก็แทบไม่มีการให้ประกันตัว นอกเสียจากเป็นคนดังมากๆ ขนาดนักวิชาการตปท.ยังต้องอยู่คุกสองปีกว่า จนกว่าจะตัดสินเลย คนจำนวนไม่น้อยก็เลยตั้งข้อสงสัยว่าทำไมบทลงโทษและแนวทางปฎิบัติมันรุงแรงกว่าคดีฆ่าคนตายเสียอีก? ตรงนี้พูดถึงในแง่ขั้นต่ำ และโดยทั่วไปครับ ถ้าจะพูดขั้นสูง มันก็สู้ไม่ได้หรอก แต่ขั้นต่ำนี่แหละ ที่เขายกไปเปรียบเทียบกับดร.ฆ่าเมีย ว่าทำไมขั้นต่ำของฆ่าคนตายยังรอลงอาญาฯได้เลย ประกันตัวก็ได้ง่ายๆ?

ส่วนเถียงในศาลนอกศาล เราก็มีสิทธิ์ถกเถียงนี่ครับ ไม่งั้นไม่ต้องเผยแพร่คำพิพากษากันแล้ว ตัดสินกันไปเงียบๆเป็นความลับไปกันแบบสมัยเผด็จการทหาร ที่สฤษดิ์ตั้งศาลพิเศษเลยดีไหม?(อันที่จริงคดีนี้ส่วนใหญ่ก็ไต่สวนลับ พิพากษาลับกันนะ แต่เอกสารคำพิพากษาหลุดมาให้เห็นบ้าง)

ยิ่งเป็นหลักฐานทางIT มันพิสูจน์ได้ ทำซ้ำได้ครับ คนในวงการโทรคมฯในนี้ก็เยอะ ผมเองก็เคยผ่านมาแม้จะเมื่อสิบกว่าปีก่อนก็เถอะ ไม่ใช่คำบอกเล่าจากพยานลอยๆที่ขัดกับข้อเท็จจริง คนในวงการเขาก็ขำไงครับ ที่มีบางคนพูดว่า แก้IMEIไม่ได้

ต้นทางคนเขียนกฎหมายออกมามันมั่วๆ ปลายทางจะอธิบายให้สวยหรูยังไง มันก็มั่วตามไปด้วยอยู่ดีนั่นแหละครับ เพราะการหาเหตุผลปลายทาง มากลบเกลื่อนเจตนาต้นทาง ยังไงก็ปิดไม่มิดครับ

#Hoo
เปรียบเทียบกับคดีฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาครับ ไปอ่านบทลงโทษดูดีๆซะก่อนนะ ขี้เกียจยกมาซ้ำ เพราะยกมาในกระทู้เก่าๆหลายหนแล้ว

แล้วคดีฆ่าคนตายโดยเจตนาเอง ก็มีเหตุให้ลดโทษด้วยซ้ำ ส่วนคดีฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา ก็มีเหตุให้ยกเว้นโทษ

แต่112 ไม่มีข้อยกเว้นใดๆทั้งสิ้นครับ คำพูดสวยหรูว่า การวิจารณ์เพื่อวิชาการทำได้ เป็นสิ่งที่ขัดกับความเป็นจริง เพราะของจริง คือไม่ต้องพิสูจน์ความจริง และไม่ต้องพิสูจน์เจตนา แค่พูดหรือเขียนออกมาแล้วมีคนมโนไปในทางไม่ดีได้ ก็ถือว่าผิดโดยทันทีครับ ไม่งั้นฝรั่งที่เขียนหนังสือในวารสารวิชาการของมหาลัยระดับโลก ไม่มีคำหยาบคายอะไรเลย ถึงโดนจำคุกไปตั้งนาน?

ส่งsms สี่ครั้ง รุนแรงกว่าการฆ่าคนตาย ถึงลงโทษรุนแรงกว่าดร.ฆ่าเมีย?

ผมเห็นคนพยายามยกข้อกฎหมาย แต่ไม่ยอมพูดถึงประวัติของการแก้ไขข้อกฎหมาย ว่าแก้สมัยใด โดยอำนาจของใคร ทำไปเพื่ออะไร มันก็ย้อนแย้งในตัวเองอยู่แล้วนั่นแหละ

พอๆกับพวกที่อ้างว่าแก้ไขกฎหมายลงโทษย้อนหลังได้นั่นเลย หาเหตุผลที่จะอธิบายว่าทำได้ โดยไม่ยอมอธิบายเจตนารมณ์ ว่าเขาอยากจะแก้เพื่อทำลายศัตรูทางการเมืองเท่านั้นเองแท้ๆ

อันที่จริงไม่อยากจะยกพระราชดำรัส เรื่องการวิจารณ์ แต่คุณก็คงเคยอ่าน ว่าเจตนารมณ์ของเบื้องสูง อาจไม่เหมือนกับเจตนารมณ์ของคนแก้กฎหมาย แต่ก็ยังมีใช้กฎหมายนี้ในการทำลายฝ่ายตรงข้ามโดยแอบอ้างว่าเพื่อปกป้องกันอยู่เลย

By: Sven
In Love
on 27 September 2013 - 21:14 #633186 Reply to:633029
Sven's picture

เริ่มพิมพ์ยาว
กะเบี่ยงเบนความสนใจให้คนที่อ่าน "ละสายตา" จากรีพลายบน

ก่อนจะพยายามเปลี่ยนประเด็น
” ไอ้ที่ปล่อยไก่น่ะช่วยลืมๆไปเถอะ ไปเถียงประเด็นใหม่กับผมกันเร๊วววว ”

ตอนนี้ผมไม่ได้เห็นการ discussion
แต่เห็นแค่การ กู้ภาพลักษณ์ในอินเตอร์เนต
สาดประเด็นมั่วให้คนลืม

By: jane
AndroidUbuntu
on 25 September 2013 - 22:45 #631907 Reply to:631534
jane's picture

โทษฆ่าคนตายเบาไปใช่ไหมครับ
ต้องแก้ กม. เพิ่มโทษฆ่าคนตายให้หนักกว่านี้

By: Fourpoint
Windows PhoneAndroidSymbian
on 26 September 2013 - 09:05 #632079 Reply to:631907

ถ้าพูดตรงๆ ตัวบทกฎหมายฆ่าคนตายไม่เบาหรอกครับ ของเรารุนแรงเป็นอันดับต้นๆของโลกแล้ว เพราะยังมีการประหารชีวิต

เพียงแต่112 มันรุนแรงเกินไปตะหาก และไม่มีช่องให้ยกเว้นความผิด

ป.ล. แต่ฆ่าคนตายโดยเจตนา ถึงจะโดนตัดสินจำคุกตลอดชีวิต แต่ถ้าไม่ใช่คดีการเมืองและทำตัวดีๆหน่อย ติดจริงแค่ราวๆแปดปีเท่านั้นครับ ได้ลดโทษทุกปี อย่างหมอฆ่าหั่นศพแฟนยัดส้วม ก็ออกมาแล้วนะครับ ญาติๆยังไม่ทันหายเศร้าเลยก็ว่าได้ ไม่ใช่กับคดีนี้เท่านั้น คนที่ฆ่าคนแถวบ้าน ก็ติดแค่แปดปีครับ ญาติผู้ตายต้องย้ายบ้านหนีแทน กลัวโดนตามแก้แค้น มันคือความลักลั่นตรงที่ว่า พูด จนโดนขังคุก อาจติดคุกจริงนานกว่าฆ่าคนตายโดยเจตนาเสียอีก

By: Persuader
iPhoneWindows PhoneAndroidBlackberry
on 25 September 2013 - 16:12 #631599 Reply to:631400
Persuader's picture

ถ้ามีผู้หญิงคนหนึ่ง โดนคนแอบติดกล้องถ่ายคลิปตอนเข้าห้องน้ำ
คุณคิดว่า คำตอบที่ควรพูดคือ "ถ้าเอาตามตรง ที่โดนแค่นี้ยังไม่นับว่าเลวร้าย ผู้หญิงคนอื่นที่โดนข่มขืนมีเยอะแยะไป" เหรอครับ?

By: nrad6949
WriterAndroidBlackberryWindows
on 25 September 2013 - 13:18 #631399
nrad6949's picture

/facepalm


I'm ordinary man; who desires nothing more than just an ordinary chance to live exactly what he likes and do precisely what he wants.

By: soginal
AndroidIn Love
on 25 September 2013 - 13:21 #631402
soginal's picture

หมายถึงว่า ถ้าผมจะติดตั้งโปรแกรมอะไรต้องทำเรื่องขออนุญาติก่อนรึครับ o'o(- -! ) (แจกแว่นตาซะเลย)

By: Perl
ContributoriPhoneUbuntu
on 25 September 2013 - 13:35 #631403
Perl's picture

FUUUUUUUUUUUUUUUUUUUUUUUUUUUUUUU

By: EngineerRiddick
iPhoneWindows PhoneAndroidUbuntu
on 25 September 2013 - 13:29 #631411
EngineerRiddick's picture

ซื้อsimsถ่ายรูปยังพอเข้าใจ แต่
"ส่วนแอพพลิเคชั่นขออนุญาตก่อนใช้แอพในประเทศตามบริบทประเทศ โดยยกตัวอย่างประเทศแถบตะวันออกกลาง"
อันนี่อารายยยยยยยยย????? จะกดloadต้องรายงานกันก่อน?!

By: tucker
iPhoneWindows PhoneAndroid
on 25 September 2013 - 13:30 #631413
tucker's picture

เพลีย

By: Wang_Peter
iPhoneAndroid
on 25 September 2013 - 13:30 #631414
Wang_Peter's picture

ตอนระเบิดที่ภาคใต้ด้วยโทรศัพท์ก็เห่อ ขอบัตรปชช. ตอนซื้อซิม พอนานวันไปก็มึนๆ ยิ่งซิม prepaid นี่ยิ่งแล้วใหญ่ เกินเข้า 7-11 จ่ายตังก็ได้แล้ว ทุกเครือข่าย

By: toooooooon
iPhoneWindows PhoneAndroidBlackberry
on 25 September 2013 - 13:30 #631415

เราควร จะควบคุม หรือไม่ควบคุมครับ...

By: Jonathan_Job
WriteriPhoneUbuntuWindows
on 25 September 2013 - 13:31 #631416
Jonathan_Job's picture

WTF!!

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 25 September 2013 - 13:35 #631418
hisoft's picture

ถนัดกันจังนะครับแก้ปัญหาปลายเหตุน่ะ

ประวุฒิ ปอท.-การใช้สมาร์ทโฟนและโทรศัพท์มีจุดอ่อนอยู่มาก เพราะไม่มีการจดทะเบียนซิมเป็นระบบ น่าจะมีการให้ถ่ายรูปก่อนจะซื้อซิมโทรศัพท์ #tcrc13

แล้วไอ้นี่มันอะไร? เคยบังคับให้ลงทะเบียนยังไม่ได้ผลจะมาอะไรกับถ่ายรูป ล็อกไปสิครับ เบอร์ไหนยังไม่ลงทะเบียนก็ใช้งานไม่ได้ จบ ถ่ายรูปก่อนซื้อนี่มันจะได้อะไรขึ้นมา รูปคนซื้อรึ?

จะตรวจสอบจะอะไรผมก็ไม่ว่า แต่ขอวิธีเข้าท่ากว่านี้หน่อยครับ

By: toooooooon
iPhoneWindows PhoneAndroidBlackberry
on 25 September 2013 - 13:39 #631423 Reply to:631418

ประเด็นคือ

" ขอความร่วมมือ ไม่เคยได้ "

นี่แหละกระมัง

ผู้ให้บริการ ก็ไม่ยากจะให้การใช้งานยุ่งยาก แค่เดินไปซื้อเปิดซิมจ่ายตังก็โทรได้
คนใช้บริการ ก็ไม่อยากจะเปิดเผยตัว หรือตามได้หรือ ยุ่งยาก เดินไปซื้อจ่ายตังโทรได้จบ
พอมีปัญหาอะไรขึ้นมา ก็ต้องมีหมายศาล มีใบบันทึกประจำวัน กว่า Operator จะให้อะไร

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 25 September 2013 - 14:04 #631449 Reply to:631423
hisoft's picture

ขอความร่วมมือไม่ได้ก็บังคับ บังคับไม่ได้ก็แก้กฎหมายให้คำสั่งมันรองรับด้วยกฎหมายครับ ไม่งั้นขอให้ถ่ายรูปไปก็ไม่ได้รับความร่วมมือเหมือนเดิมอยู่ดี

By: Golflaw
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 25 September 2013 - 14:29 #631470 Reply to:631449
Golflaw's picture

+1 ครับ เป็นอำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติโดยตรง หากฝ่ายบริหารเห็นว่าเรื่องไหนเป็นอุปสรรคในการปฏิบัติงานก็ต้องเสนอให้ฝ่ายนิติบัญญัติตรากฎหมายขึ้นมารองรับ


A smooth sea never made a skillful sailor.

By: pd2002 on 25 September 2013 - 13:38 #631422

ก็แค่ความเห็นของคนคนนึงครับ เดี๋ยวมันก็ผ่านไป

By: Perl
ContributoriPhoneUbuntu
on 25 September 2013 - 13:41 #631425
Perl's picture

เอ ถ้าจำไม่ผิดเดิมซื้อซิม Prepaid ต้องใช้บัตร ปชช หนิครับ

แล้วระบบบัตรประชาชนของท่านไม่ได้ Link กับรูปถ่ายหรือข้อมูลของเจ้าของบัตรหรือครับ หรือว่าหน่วยงานท่านยังถ่ายเอกสารบัตร ปชช อยู่ ??

บัตรประชาชนมีแล้ว กฏก็เคยมีแล้ว ก็บังคับใช้ไปสิครับ ทำตัวเหลาะแหละอ่อนแออยู่ได้.. จะมาถ่ายรูปผู้ซื้อ ตลก ละเมิดสิทธิ์กันไปไหม

By: osmiumwo1f
ContributorWindows PhoneWindows
on 25 September 2013 - 14:45 #631494 Reply to:631425
osmiumwo1f's picture

ไม่ครับ เพราะเพิ่งซื้อกับทาง 7-11 โดยไม่ได้เอาบัตรอะไรไปแสดงเลยเมื่อไม่นานเองครับ
ปล 1. ในเมื่อมี smart card แล้วก็ออกกฎหมายเลยว่าให้ผูกบัตรประชาชนกับเบอร์ไปเลยก็ได้ครับ เผื่อมีคนซื้อไปทำความผิดจะได้ตามตัวง่ายขึ้นเยอะ
ปล 2 (เกี่ยวมั้ยนิ). ที่ สปป. ลาว ผู้ให้บริการสามารถเอาเบอร์ที่ไม่ได้ลงทะเบียนไปขายได้ แม้เบอร์ดังกล่าวยังถูกใช้งานอยู่ในระบบครับ เพราะแต่ก่อนมีโปรโมชั่นซิม 20 บาท โทรฟรี 40 บาทครับ (ประมาณนี้ครับ จำไม่ได้ว่าจริงๆ แล้วมันเท่าไร) แล้วคนที่โน่นก็ซื้อเอามาใช้ พอหมดโทรฟรีก็ทิ้ง แล้วซื้อใหม่ครับ เลขต้องโทาไปลงทะเบียนไว้

By: jinxplay
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 25 September 2013 - 15:37 #631561 Reply to:631494
jinxplay's picture

+1 ครับ ไปซื้อ prepaid มาเร็วๆนี้ก็ไม่ได้แสดงบัตรแต่อย่างได (ซื้อที่บูท True Central World)

ผมเข้าใจว่าเป็นสิ่งที่ผู้ให้บริการเลือกนะครับ เพราะผมเองจะไปลงทะเบียนเป็นเจ้าของเบอร์ก็ต้องใช้เวลาพอสมควร (กรอกเอกสาร สำเนาบัตร ฯลฯ)

ถ้ามองเทียบกับปัจุบันที่ไม่ต้องยืนยันตัวอาจจะดูลำบาก แต่ถ้าเทียบกับการต้องเอาสำเนาบัตรไปเปิดซิมผมมองว่าพอถูไถนะ

By: wichate
Android
on 25 September 2013 - 19:49 #631781 Reply to:631494

มันไม่มีประโยชน์ครับ ผมฝากเพื่อนซื้อได้ครับ ดังงั้นไม่ต้องแสดงบัตรน่ะถูกต้องแล้ว

แต่ตอนเปิดเบอร์ค่อยให้กรอกรหัสบัตรจะดีที่สุด

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 25 September 2013 - 20:48 #631829 Reply to:631781
hisoft's picture

กรอกโดยไม่มีการตรวจสอบ มันก็มั่วเอาได้นะครับ

By: mr_tawan
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 25 September 2013 - 16:41 #631629 Reply to:631425
mr_tawan's picture

ล่าสุดผมซื้อของ IEC3g นะครับ ซิมซื้อได้ไม่ต้องใช้บัตรประชาชน แต่จะหมดอายุภายในหนึ่งเดือนถ้าไม่มีการส่งสำเนาไปให้ ...

... และตอนนี้ซิมผมก็หมดอายุไปแล้วครับ - -


  • 9tawan.net บล็อกส่วนตัวฮับ
By: Perl
ContributoriPhoneUbuntu
on 25 September 2013 - 16:52 #631639 Reply to:631425
Perl's picture

ผมถึงบอกว่า กฏก็เคยมีแล้ว ก็บังคับใช้ไปไงครับ แต่นี่ไม่ยอมบังคับใช้ ทำตัวเหลาะแหละอ่อนแออยู่ได้

เพราะไม่บังคับใช้จริงจัง มันก็เลยซื้อซิมกันง่ายอยู่ บัตรก็ไม่ต้องใช้ ซื้อแล้วก็เอาจุดระเบิดบึ้มที่ภาคไต้ได้สบาย

By: pongmile
ContributorAndroidSymbianWindows
on 25 September 2013 - 20:39 #631828 Reply to:631425
pongmile's picture

แลกซิมไงครับ 1 แสตมป์ ง่ายฟุดๆ

By: coolmilk
ContributorAndroidWindows
on 25 September 2013 - 13:40 #631426

สมมติโทรศัพท์ถูกขโมยไป แล้วเอาไปโพสข้อความหมิ่น ...

By: wichate
Android
on 25 September 2013 - 19:52 #631782 Reply to:631426

ต้องออกกฏหมายให้แจ้งความทุกครั้ง หาก SIM หายครับ และยกเลิกการ Link ข้อมูลบัตรประชาชนกับ SIM เดิม

By: SleeperMoNKeY
iPhoneAndroid
on 25 September 2013 - 13:42 #631428

ไม่เวิร์กครับ ไปหาวิธีใหม่มาซะนะ

By: wisidsak
AndroidIn Love
on 25 September 2013 - 13:43 #631429
wisidsak's picture

คอมมิวนิสต์ ในคราบประชาธิปไตย ?

By: Bizard
iPhoneWindows
on 25 September 2013 - 13:47 #631431

จะโหลดแอพต้องแจ้งขออนุญาติก่อนเหรอ? เข้าใจถูกมั้ยเนี่ย ถ้าใช่ก็ไปกันใหญ่แล้วมั้ง

By: thaitanatana
iPhoneWindows PhoneAndroidBlackberry
on 25 September 2013 - 13:49 #631433
thaitanatana's picture

ขอสำเนาบัตรประชาชน เซ็นชื่อ เพื่อขอซื้อซิมการ์ดผมก็พอจะรับได้นะครับ แต่แอปถ้าต้องขออนุญาตนี่ ก็ดูจะยุ่งยากไปนะครับ

By: deeplite
Android
on 25 September 2013 - 13:54 #631436
deeplite's picture

ใครควรปรับตัว 99.99999% หรือ 0.00001%

การควบคุม หรือ บังคับ 99.99999% ปรับตัว เพื่อ 0.00001% นี่สมเหตุสมผลรึเปล่า

By: Orz the Great
ContributoriPhoneWindows PhoneAndroid
on 25 September 2013 - 14:01 #631446
Orz the Great's picture

เรื่องขออนุญาตใช้แอป ยังไม่มีความเห็นครับ เพราะยังไม่รู้ว่ามันครอบคลุมลักษณะไหน

เรื่องถ่ายรูปตอนซื้อซิม จริงๆควรจะเป็นใช้บัตรประชาชนเพื่อลงทะเบียนซิมมากกว่า
แต่ก็นั่นล่ะ เวลาเกิดเรื่องขึ้นมา เพียงแค่คนร้ายอ้างว่า
"วันนั้นเอาโทรศัพท์ไปซ่อม ซ่อมร้านไหนไม่รู้ จำไม่ได้"
แค่นี้ก็มีคนบางกลุ่มพร้อมจะเชื่อคนร้ายกันแบบไม่ลืมหูลืมตาแล้ว

การเอาเรื่องหมิ่นสถาบันมาอ้าง ไม่น่าจะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล
แต่ถ้าอ้างเรื่องการหมิ่นท่านนายก ที่ได้เป็นดคีพิเศษเพราะDSIถือว่าเป็นการหมิ่นประมุขของประเทศ น่าจะได้รับการสนับสนุนมากกว่า


Trust me, I am a Wizard

By: soginal
AndroidIn Love
on 25 September 2013 - 14:33 #631482 Reply to:631446
soginal's picture

แต่การที่คนบางกลุ่มเชื่อว่าเขาคือคนร้ายไปก่อน มันเลวร้ายกว่ามากนะครับ

By: Orz the Great
ContributoriPhoneWindows PhoneAndroid
on 25 September 2013 - 15:10 #631531 Reply to:631482
Orz the Great's picture

จริงครับ
อย่างคดี98ศพนี่ก็มีคนเชื่อว่าเขาคือคนร้ายไปก่อนที่ศาลจะตัดสินซะอีก
เลวร้ายจริงๆครับ


Trust me, I am a Wizard

By: soginal
AndroidIn Love
on 25 September 2013 - 15:16 #631540 Reply to:631531
soginal's picture

ใช่อย่างที่คุณพูดเลยครับ เพราะฉะนั้นคำพูดที่ว่า

แต่ก็นั่นล่ะ เวลาเกิดเรื่องขึ้นมา เพียงแค่คนร้ายอ้างว่า
"วันนั้นเอาโทรศัพท์ไปซ่อม ซ่อมร้านไหนไม่รู้ จำไม่ได้"
แค่นี้ก็มีคนบางกลุ่มพร้อมจะเชื่อคนร้ายกันแบบไม่ลืมหูลืมตาแล้ว

มันจึงน่าตลกไงครับ เมื่อเอามาเทียบกับประโยคที่คุณพูดใน rep นี้

By: Orz the Great
ContributoriPhoneWindows PhoneAndroid
on 25 September 2013 - 15:36 #631560 Reply to:631540
Orz the Great's picture

มั่วนิ่มสุดๆครับ คนละเรื่องกันเลย

เรื่องแรก ประเด็นคือ การเชื่อข้ออ้างโง่ๆที่ฟังไม่ขึ้นของคนร้าย
เรื่องที่สอง ประเด็นคือ การเชื่อไปล่วงหน้าว่าเป็นคนร้าย

เอาเรื่องคนละประเด็นกันมามั่วนิ่มแล้วเทียบโยงกันได้แบบนี้ กินยาแมททริกซ์เกินขนาดรึเปล่าครับ


Trust me, I am a Wizard

By: soginal
AndroidIn Love
on 25 September 2013 - 15:43 #631564 Reply to:631560
soginal's picture

แล้วอะไรทำให้คุณคิดว่าเขาอ้างโง่ๆล่ะครับ ไม่ใช่เพราะคุณคิดว่าเขาเป็นคนร้ายรึ

By: Orz the Great
ContributoriPhoneWindows PhoneAndroid
on 25 September 2013 - 16:08 #631592 Reply to:631564
Orz the Great's picture

ไม่ใช่ครับ
เรื่องการอ้างโง่ๆนั้น ไม่ต้องเป็นคนร้ายก็ทำได้ครับ จะโจทย์ จะพยาน ผู้ต้องสงสัย หรือผู้บริสุทธิ์ก็ทำได้ทั้งนั้น
ดังนั้นที่ผมบอกว่าเขาอ้างโง่ๆ ไม่ได้แปลว่าผมคิดว่าเขาคือคนร้าย

ส่วนที่ถามว่าอะไรทำให้ผมคิดว่าเขาอ้างโง่ๆน่ะหรือครับ
สามัญสำนึกไงครับ
สำหรับคนมีสามัญสำนึก ไม่ว่ายังไงไอ้คำอ้างที่ว่า "เอาโทรศัพท์ไปซ่อม ซ่อมร้านไหนไม่รู้ จำไม่ได้" เนี่ย มันฟังไม่ขึ้นอยู่แล้ว

เอ นี่ผมกำลังพูดถึงสิ่งที่คุณไม่มีรึเปล่าครับ


Trust me, I am a Wizard

By: Sven
In Love
on 25 September 2013 - 16:10 #631595 Reply to:631592
Sven's picture

โจทย์ [โจด] น. คําถามในวิชาคณิตศาสตร์, โดยปริยายใช้หมายถึงสิ่งที่ คล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น ปัญหานี้เป็นโจทย์ที่รัฐบาลแก้ไม่ตก.

สามัญสำนึกควรมาพร้อมสติปัญญาครับ

By: soginal
AndroidIn Love
on 25 September 2013 - 16:15 #631602 Reply to:631592
soginal's picture

ประหลาดนะครับ การจำไม่ได้เนี่ยคุณมีอะไรพิสูจน์หรือครับว่าเขาจำไม่ได้จริงหรือแค่อ้างโง่ๆ
สามัญสำนึกของคุณใช้พิสูจน์เรื่องนี้ได้ยังไงครับ?

By: Orz the Great
ContributoriPhoneWindows PhoneAndroid
on 25 September 2013 - 17:10 #631651 Reply to:631602
Orz the Great's picture

แหม คุณก็ อย่าแกล้งโง่สิครับ ผมไม่ค่อยชอบคุยกับคนแกล้งโง่นะ

สามัญสำนึกของผมบอกได้ยังไงน่ะหรือ ง่ายๆครับ
เพราะเขาอ้างปากเปล่าไงครับ
เพียงแค่ถ้าเขาไม่อ้างปากเปล่า แต่เอาผลการรักษาโรคความจำเสื่อมหรืออะไรทำนองนี้มายื่นประกอบ เพื่อแสดงว่าเขามีปัญหาด้านความจำจริงๆ แค่นี้ผมว่ามันก็เป็นข้ออ้างที่พอจะฟังขึ้นแล้วครับ

หรือถ้าคุณคิดว่านี่เป็นข้ออ้างปากเปล่าแบบนี้เป็นสิ่งที่ฟังขึ้น วันไหนคุณโดนคดีอะไรซักอย่างจนต้องขึ้นศาล ก็ลองอ้างแนวๆนี้แบบปากเปล่าดูนะครับ

เฮ้อ เพิ่งรู้นะว่าการคุยกับคนไม่มีสามัญสำนึกเนี่ย มันเหนื่อยขนาดนี้เชียว


Trust me, I am a Wizard

By: soginal
AndroidIn Love
on 25 September 2013 - 17:29 #631665 Reply to:631651
soginal's picture

หืม การลืมบางอย่างไม่จำเป็นต้องความจำเสื่อมนิครับ ผมก็เคยลืมคุณก็คงเคยลืม และถ้าคนอายุมากแล้วจะหลงลืมยิ่งเป็นเรื่องธรรมดาใหญ่เลย แล้วคุณเอาอะไรมาพิสูจน์ล่ะครับว่าเขาอ้างโง่ๆ

By: PaPaSEK
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 25 September 2013 - 17:37 #631672 Reply to:631651
PaPaSEK's picture

นั่นไม่เรียกว่าสามัญสำนึกครับ เค้าเรียกขบวนการสอบพยานหลักฐาน และเป็นกระบวนการคิดแบบเป็นเหตุเป็นผลหรือที่เรียกว่า logic

จะบอกว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่สามัญสำนึกครับ สามัญสำนึกแปลว่าทุกคนต้องเข้าใจในแบบเดียวกัน แต่เรื่องกระบวนการนี่ต่างกันออกไป

ไม่ได้จะค้านครับ แค่จะบอกว่า "น่าจะใช้คำผิด"

By: Sven
In Love
on 25 September 2013 - 17:42 #631675 Reply to:631651
Sven's picture

ตกลงโจทย์ปัญหา มันเกี่ยวอะไรกับ พยาน ผู้ต้องหา ครับ
สามัญสำนึก ?

By: wichate
Android
on 25 September 2013 - 19:58 #631786 Reply to:631446

อ๋อ ยังดีนะครับที่ยังจำได้ว่าวันนั้นเอาโทรศัพท์ไปซ่อม (ดีที่ไม่บอกว่า จำไม่ได้ว่าเคยมีโทรศัพท์ 555)

By: errin on 25 September 2013 - 14:03 #631447

เห็นด้วยกับการเข้มงวดเรื่องซิม แต่ไม่เห็นด้วยว่าการถ่ายรูปซิมมันจะช่วยอะไรได้ จริงๆเรื่องนี้ไม่ยากเลยแค่ไปไล่บี้ผู้ให้บริการ เดี๋ยวเค้าก็ต้องเข้มงวดมาที่ผู้ขายเอง ดูอย่างญี่ปุ่นเป็นตัวอย่างสิ

ส่วนเรื่องแอปนี่การขออนุญาตมันจะลดการหมิ่นหรือฉ้อโกงจริงหรือครับ มันก็คงเหมือน Next Next OK ทั่วไปแหละ

By: gondolaz
AndroidUbuntuWindows
on 25 September 2013 - 14:05 #631452
gondolaz's picture

เข้ามาเพลียด้วยคนครับ...
... เรื่องแอพผมเข้าใจว่าเค้าคงอยากให้ผู้พัฒนาลงทะเบียนและขออณุญาตเหมือนการซื้อซิมละมั้งครับ แต่คิดดูดีๆ ถ้าทำแบบนั้นกว่าจะอนุมัติได้ไม่กินเวลานานรึ? ดูมันไม่ใช่วิธีแก้ปัญหายังไงไม่รู้ แล้วมันเป็นการเพิ่มอำนาจการตรวจสอบให้กับ ตร. มากเกินไปรึเปล่า คืออารมผมประมาณว่าการขออนุญาตใช้แอพเค้าจะให้ทำคล้ายๆ ขอ อย. น่ะครับ

By: bankkung
ContributoriPhoneAndroidBlackberry
on 25 September 2013 - 14:05 #631453

เรื่องถ่ายรูปนี่เฉยๆ แต่ขอให้มีระบบรองรับให้แล้วกัน ไม่ใช่ถ่ายไปแล้วก็ไปกองอยู่ไหนไม่รู้ ไม่ได้ช่วยอะไร แต่ลงแอพนี่.... ปิดกั้นไปนะนายยยย นายไม่เคยอ่าน 1984 เหรอว่าปิดกั้นมากๆ แล้วจะเกิดอะไรขึ้นน่ะ

By: hydrojen
iPhoneRed HatWindows
on 25 September 2013 - 14:15 #631456
hydrojen's picture

"ขออนุญาติ" -----> "ขออนุญาต"

By: hoolala
Android
on 25 September 2013 - 14:21 #631461

ลำดับความสำคัญของคดีที่ต้องทำของตำรวจไทยเป็นอย่างนี้หรอครับ
คดี... > คดีอาชญากรรม

ทั้ง ๆ ที่คดีอาชญากรรมน่าจะก่อความเสียหายทางเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของคนไทยมากกว่ากันแท้ ๆ

By: ajaxpp on 25 September 2013 - 14:23 #631463

อิหร่าน เขาก็ทำ ไม่เห็นประชาชนออกมาโวยวาย (ดราม่านะ)

By: takichi12
iPhone
on 25 September 2013 - 14:28 #631468 Reply to:631463

อิหร่านนั่นประชาชนเลือกทั้งนั้นครับ ทั้งล้มกษัตริย์ เอากฎหมายอิสลามมาใช้ ก็เลยเป็นที่เห็นอย่างทุกวันนี้

By: thegodth
AndroidRed HatUbuntuWindows
on 25 September 2013 - 14:24 #631465

ก็ดีครับ ผมสนับสนุน ผมและอีกหลายล้านคนในประเทศที่ใช้สมาร์ทโฟน เมื่อจะเปิดใช้แอพ gmail ยินดีจะโทรไปที่ สทส.ตร. "ทุกครั้ง" เพื่อขอใช้แอพในไทยครับ 5555+

By: hoolala
Android
on 25 September 2013 - 14:31 #631476 Reply to:631465

ผมว่า สทส.ตร. ไม่มีความสามารถในการรับมือ DDos ถล่มรายวันนะครับ

By: bbiggy
iPhoneWindows PhoneAndroidUbuntu
on 25 September 2013 - 14:30 #631472

นี่ใช้สมองแล้ว สินะครับ

By: PaPaSEK
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 25 September 2013 - 14:30 #631473
PaPaSEK's picture

ดีออกครับ :D คือที่พูดมานี่ได้คิดมาอย่างรอบคอบก่อนพูดหรือยัง หรือพูดในฐานะผู้มีอำนาจที่อยากจะทำอะไรก็ทำ

By: iammeng
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 25 September 2013 - 14:31 #631477
iammeng's picture

ผมลงแอฟยิงไข่ ผมต้องขออนุญาติมั้ยครับ 555+
ขำๆนะ

By: errin on 25 September 2013 - 15:05 #631525 Reply to:631477

ต้องเซ็นเซอร์ไข่นะครับ เดี๋ยวเด็กๆจะไปเลียนแบบ

By: takichi12
iPhone
on 25 September 2013 - 14:33 #631481

มันคิดว่ามันอยู่ประเทศไหนอะตาแก่คนนี้ เขาจะคุยจะอะไรกันมันเกี่ยวอะไรด้วยเป็นเจ้าทุกข์ก็ไม่ใช่ เจ้าตัวเขายังไม่เดือดร้อนเลย จ้องแต่จะหาเรื่องประชาชนกะเล่นเกมเชิงรุกสินะเพราะคงจะว่างมาก สรุปแล้วหน้าที่ของตำรวจคืออะไรกันแน่ แบบนี้แหละที่เขาเรียกว่า "สอพลอ"

By: HeavenDrive
Windows PhoneAndroidWindowsIn Love
on 25 September 2013 - 14:36 #631485

นี่เราอยู่ประเทศคอมมิวนิสต์หรือยังไงกัน

By: Matibul
UbuntuWindows
on 25 September 2013 - 14:47 #631497

เรื่องซิมนี้ยังเข้าใจบ้างน่ะ แต่แค่แสดงตัว(บัตรประชาชน) ก็พอแล้วมั้ง
ส่วนเรื่องแอฟนี้ ให้ตายเถอะ

By: hostingdigg
Windows Phone
on 25 September 2013 - 14:52 #631501

รู้สึกว่า...

  1. ใช้วิธีคิดแบบ Analog มาใช้ในยุค Digital จึงทำให้ดูเหมือนว่า ท่าน รู้เรื่องการใช้ Digital เพื่อตรวจสอบ Digital ไม่พอ ดังนั้นบุคคลากรที่ควบคุมควรมีการศึกษาด้าน อาชญากรรมทางเทคโนโลยี มากกว่านี้ และไม่ใช่แค่เรียนตามตัวหนังสือหลักการ แต่ต้องเก่งด้านเทคโนโลยีมากๆ ด้วย

  2. ไม่เนียน ผมเชื่อว่าอเมริกา ที่เรียกว่าเสรี มีการตรวจสอบการกระทำความผิดแบบ Digital ได้อย่าง มีประสิทธิภาพสูง จนประชาชนไม่รู้เรื่อง จึงเหมือนมีเสรีภาพสุดๆ แต่ที่ไหนได้ หากมีการเพ่งเล็งก็เชื่อว่าเค้าสามารถตรวจสอบไล่ล่าผ่านทางระบบเครือข่ายได้รวดเร็วเช่นกัน ต่างจากตะวันออกกลางที่โลว์เทค จึงต้องใช้วิธีแบบประกาศโต้งๆ คุมกันเห็นๆ เพราะไม่มีเครื่องมือที่ทันสมัยติดตาม

คำพูดเหล่านี้จึงบอกทั้ง ระดับการศึกษาด้านเทคโนโลยี ความพร้อม บุคลากร และเครื่องมือ ของหน่วยงานที่รับผิดชอบว่าต่ำและห่วย จึงต้องใช้วิธีแบบ Analog แทน

By: jokerxsi on 25 September 2013 - 14:55 #631505

แนะนำให้ย้ายประเทศไปตะวันออกกลางครับ ตึ่งโป๊ะ
ยิงกันทั้งวันทั้งคืนด้วยนะเออ

By: tearfire on 25 September 2013 - 15:14 #631526
tearfire's picture

อ่านข่าวนี้แล้วผมรู้สึกสงสาร (+อนาถ) หน่วยงานราชการในไทยมากกว่าครับ

แม้แต่เรื่องซิมมือถือที่สมควรจะบังคับให้ค่ายโทรศัพท์ลงทะเบียนลูกค้าทุกซิม ก็ไม่สามารถทำได้ เห่อๆ

จนปัญญาจนถึงกับต้องคิดวิธีแบบนี้มา

คล้ายๆกับ user ที่มืดแปดด้านทำอะไรไม่ถูกกับการบริหารงานที่ต้องใช้ software ที่จำเป็น และล้ำสมัยมากขึ้น

และน่ากลัวกว่า ถ้ามีเหตุการณ์ที่เจอ อาชญากรไอทีระดับมีฝึมือจริงๆ แน่นอนว่าไม่มีปัญญาทำอะไรได้เลย

By: platalay
iPhoneWindows PhoneAndroidWindows
on 25 September 2013 - 15:22 #631549

โดยยกตัวอย่างประเทศแถบตะวันออกกลาง

น้ำตาจะไหลกับประโยคนี้

By: Thaitop_BN
Windows PhoneUbuntuWindows
on 25 September 2013 - 18:20 #631709 Reply to:631549
Thaitop_BN's picture

ตกลงนี่เรากำลังจะพัฒนาไปทางนั้นใช่ไหม?

By: benwrk
Windows PhoneWindows
on 25 September 2013 - 19:02 #631736 Reply to:631709
benwrk's picture

+1

By: tearfire on 25 September 2013 - 20:54 #631840 Reply to:631709
tearfire's picture

พึ่งคิดได้นะครับ

รีบๆไปซื้อปืนมาเก็บไว้นะครับ ก่อนที่ราคามันจะโอเวอร์ไปกว่านี้

แค่ตอนนี้ก็กระบอกละแสนอัพละ

By: pote2639
ContributoriPhoneWindows PhoneWindows
on 25 September 2013 - 16:05 #631587

North Korea V2 is almost successful!

/me why??!

By: giogio
Android
on 25 September 2013 - 16:24 #631611
giogio's picture

มันกลับมาอีกแล้วกับการพยายามเข้าควบคุมเสื่อแบบหนักหน่วง แซกแซงทุกองค์กร ถ้าตรงนี้ผ่านเป็นกฏหมายได้คงมีการฟ้องศาลรัฐธรรมนูญแน่ๆครับ สิทธิเสรีภาพโดนริดรอนหนักจริงๆ

By: takichi12
iPhone
on 25 September 2013 - 21:15 #631860 Reply to:631611

ศาลจะเอาด้วยล่ะสิไม่ว่า "ในกรณีนี้ศาลเห็นว่าการออกกฎหมาย...ไม่เป็นการขัดรัฐธรรมนูญและสิทธิเสรีภาพของประชาชน blah blah blah..."

By: Be1con
ContributorWindows PhoneWindowsIn Love
on 25 September 2013 - 17:34 #631670
Be1con's picture

Facepalm เอาอะไรกับพวกผู้ใหญ่ไม่ได้จริง ๆ


Coder | Designer | Thinker | Blogger

By: viroth
ContributorBlackberryIn Love
on 25 September 2013 - 18:03 #631700
viroth's picture

ทุกวันนี้ยังถ่ายเอกสารสมาร์ทการ์ดอยู่เลย อนาถ

By: mk-
Symbian
on 25 September 2013 - 18:20 #631710
mk-'s picture

จะดูตัวอย่าง ดูประเทศที่เจริญแล้วดีกว่านะ ไปดูทำไมตะวันออกกลาง

By: PaPaSEK
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 25 September 2013 - 19:17 #631745 Reply to:631710
PaPaSEK's picture

คนที่ทำหน้าที่ควบคุมก็อยากมีอำนาจเบ็จเสร็จน่ะครับ การปกครองระบอบคอมมิวนิสต์มันง่ายมั้ง ห้ามทุกอย่าง ไม่งั้นโดนลงโทษ

ผมมองว่าเค้าก็คงพูดโดยมองจากหน้าที่รับผิดชอบของตัวเองเป็นหลักอ่ะแหละ คือแบบว่าขี้เกียจตามแล้ว กันไว้เลยดีกว่า จะได้ทำงานคุ้มภาษีประมาณนั้น

อันนี้เป็นแบบประกาศให้รู้ครับ ถ้าเป็นอเมริกาคุณจะโดนดักข้อมูลโดยโครงการ PRISM อยู่เบื้องหลัง ไม่ต้องมาถกเถียงกันด้วยเหตุผลอะไรทั้งสิ้น เพราะกว่าจะรู้ก็ต้องรอคนอย่างสโนวเดนมาแฉอ่ะนะ

By: mosslam
Android
on 25 September 2013 - 18:50 #631730
mosslam's picture

อ่านข้างบนนึกว่าห้อง ราชดำเนิน พันดริ๊ฟ !!!

By: liewlomb
iPhoneWindows PhoneAndroidBlackberry
on 25 September 2013 - 20:16 #631797

เปลี่ยน สทส.ตร. ง่ายกว่า

By: ginhub
ContributoriPhoneWindows
on 25 September 2013 - 20:21 #631805

overprotect

ระวังจะกลายเป็น destroy

By: adamy
iPhoneAndroidBlackberryUbuntu
on 25 September 2013 - 20:33 #631825

เป็นการยกตัวอย่างที่แปลกครับ ....

ตะวันออกกลาง

ตัวอย่าง : การต้องขออณุญาติทุกสิ่งในโลกคอมพิวเตอร์ เพื่อป้องกันการหมิ่นศาสนา
ผล : Arab Spring

USA

ตัวอย่าง : ต้องการ Monitor โลกทั้งใบเพื่อความปลอดภัยในโครงการ Prism
ผล : โดนประนามโดยผู้นำทั้งโลก และคว่ำบาตรในหลายเรื่อง บริษัท IT ต้องออกมาโจมตีรัฐกันยกใหญ่

ประเทศที่ยอดเยี่ยมในการสกรีนข้อมูลนั้นไม่ได้ยอดเยี่ยมจริงๆนักหรอกครับ ผมแนะนำว่าถ้าจะยึดถือกฏหมายและป้องกันการหมิ่นก็ควรจะล้วงลึกในบริบทของการใ้ช้งานกฏหมายนั้น ใช้ให้ถูกต้อง และฟ้องเป็นรายกรณี ดีกว่าไปปิดกั้น Information ทั้งโลกเพื่อดึงมนุษย์ชาติให้ถอยหลังครับ มันไม่ได้ช่วยให้กฏหมาย 112 ดูศักดิ์สิทธิ์ขึ้นครับ แต่มันจะทำให้คนต่อต้านระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขมากขึ้นต่างหากครับ

และขอทีครับ ... อย่าเอาคนไม่เข้าใจคอมพิวเตอร์ (และกฏหมาย/กฏหมู่) มาพูดด้านนี้เลยครับ ... มันทำให้คนรู้ด้านนี้จับผิดได้ง่ายๆ หรือจะเกิดเหตุการที่ดูงี่เง่าไม่สมเหตุสมผลขึ้นมาเสมอๆครับ

ขอบคุณครับ สวัสดีครับ

By: PaPaSEK
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 26 September 2013 - 09:35 #632093 Reply to:631825
PaPaSEK's picture

แต่ท่านเป็นถึง "ผู้บัญชาการสำนักเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ" นะครับ

อิอิ

By: z2
Windows PhoneAndroidUbuntuWindows
on 25 September 2013 - 22:38 #631904

เอ่ะ ข่าวประเทศเกาหลีเหนือรึเปล่านะ

By: nottoscale
Windows Phone
on 25 September 2013 - 23:26 #631943

ส่วนตัวมองว่าการที่ตำรวจอ้างนั่นนี่ว่าจะป้องปรามแต่มันเหมือนจงใจให้เกิดแนวร่วมมุมกลับซะมากกว่า

By: cloudservice on 26 September 2013 - 01:07 #632006

เรียนเชิญท่านที่คิดว่าอากงถูกมาตอบผมหน่อยนะครับ ผมจำสำนวนคดีคร่าวๆ ได้ดังนี้

ประเด็นเรื่องการเอาโทรศัพท์ไปซ่อม

ในวันที่มีการส่งข้อความ "อากงอ้างว่าช่วงนั้นอากงเอามือถือไปซ่อม" จึงเป็นไปไม่ได้ที่อากงจะเป็นคนส่งเอง คราวนี้ทางโจทก์เลยให้อากงบอกว่าเอาไปซ่อมร้านไหน แต่อากงกลับบอกว่า "จำไม่ได้ว่าเอาไปซ่อมที่ร้านไหน"

ทางโจทก์เลยตั้งข้อสังเกตุว่า ในการเอาโทรศัพท์ไปซ่อมนั้น จำเป็นที่จะต้องไปที่ร้าน 2 ครั้ง เป็นอย่างน้อย ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะอากงจะไม่รู้ว่าเอาไปซ่อมที่ร้านไหน ถ้าอากงจำร้านมือถือที่เอาไปซ่อมไม่ได้ คงไม่สามารถรับมือถือที่ซ่อมเสร็จเรียบร้อยแล้วได้

ประเด็นเรื่อง IMEI

ประเด็นใหญ่ๆ อีกอันที่ฝ่ายมิตรรักอากงนำมาเล่นบ่อยๆ คือ IMEI ปลอมได้ แล้วโยงไปว่าศาลไม่ควรตัดสินอย่างโน้นอย่างนี้ เพราะ IMEI มันปลอมได้ ลองอ่านคำพิพากษาศาลอันนี้ดูนะครับ ว่าเขาอาศัย เหตุผลประจักษ์พยานแวดล้อมที่โจทก์นำสืบเพื่อชี้วัดให้เห็นเจตนาที่อยู่ภายใน ซึ่งมีหลายเรื่องมาก ยังไม่นับให้การวกไปวนมาอีกหลายอัน

แม้โจทก์จะ**ไม่สามารถนำสืบพยานให้เห็นได้อย่างชัดแจ้ง**ว่าจำเลยเป็นผู้ที่ส่งข้อความตามฟ้องจากโทรศัพท์เคลื่อนที่เครื่องดังกล่าว ไปยังโทรศัพท์เคลื่อนที่ของนายสมเกียรติ ครองวัฒนสุข เลขานุาการส่วนตัวของนายอภิสิทธิ์ แต่ก็เพราะเป็นการยากที่โจทก์จะสามารถนำสืบได้ด้วยประจักษ์พยาน เนื่องจากจำเลยซึ่งเป็นผู้กระทำความผิดดังกล่าวย่อมจะต้องปกปิดการกระทำของตนมิให้บุคคลอื่นได้ล่วงรู้ **จึงจำเป็นต้องอาศัยเหตุผลประจักษ์พยานแวดล้อมที่โจทก์นำสืบเพื่อชี้วัดให้เห็นเจตนาที่อยู่ภายใน**

 

คือถ้ามีเพื่อนคุณมายืมรถคุณแล้วไปชนคนแล้วหนี กล้องวงจรปิดจับป้ายทะเบียนรถคุณได้ คุณว่าตำรวจเขาจะไปจับเพื่อนคุณ หรือว่าไปจับคุณก่อนครับ ซึ่งล้านเปอร์เซ็นตำรวจต้องไปขอหมายศาลไปจับเจ้าของรถในฐานะจำเลย หลังจากนั้นแหละ ถ้าคุณสามารถพิสูจน์ได้ว่าวันนั้นคุณเองไม่ได้ขับรถไปไหนเลย หรือแสดงหลักฐานว่าเพื่อนเอารถไปขับจริงๆ แค่นี้คุณก็พ้นความผิดแล้ว

สำหรับผม ผมถือว่าคดีนี้เป็นคดีสุดดราม่าของคนไม่ชอบ มาตรา 112 ลองคิดดูนะครับ ทำไมถึงเรียกว่าคดีนี้ว่า "อากง sms" ทำไมไม่เรียกว่า "คุณลุง sms" ใครตอบผมได้บ้าง? มีการให้เด็ก 10 กว่าขวบมาเป็นพยาน (ซึ่งคำให้การไม่ได้มีประโยชน์ต่ออากงเลย) แทนที่จะไปหาช่างเทคนิค ที่สามารถปลอม IMEI ได้มาเป็นพยาน แต่กลับให้เด็ก 10 กว่าขวบมาแทน ผมถือว่าเป็นการวางแผนที่ผิดมหันต์ของทีมทนายอากง (หรืออาจจะตั้งใจให้แบบนั้นก็ไม่มีใครรู้ได้) สรุปคือเป็นการดึงอารมณ์ร่วมยิ่งกว่าดูละครซะอีก

By: raifa
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 26 September 2013 - 02:10 #632024 Reply to:632006

เคสนี้ผมว่าผู้ต้องหาน่าสงสัย แก้ตัวน่าสงสัยหลายจุด
แล้วทนายฝ่ายจำเลยก็เหมือนทำงานทื่อๆ เหมือนไม่อยากให้ตัวจำเลยรอด
(ข้อมูลผมก็ตามอ่านจากใน blognone นี่ล่ะ)

แต่อีกประเด็นคือความรุนแรงของ 112 ค่อนข้างมากไปกว่าที่ควร แถมถ้าโดนนี่เรียกได้ว่าอยู่ยากทีเดียว
และ 112 ถูกนำไปใช้มั่วซั่วทั้งเป็นอาวุธทางการเมือง รวมถึงอื่นๆ ในช่วงหลังๆ

By: soginal
AndroidIn Love
on 26 September 2013 - 02:30 #632027 Reply to:632006
soginal's picture
  1. เรื่องที่อากงบอกว่าจำไม่ได้ ผมตอบไม่ได้หรอกครับว่า จำไม่ได้จริงๆหรืออ้างว่าจำไม่ได้ ซึ่งก็คงไม่มีใครชี้ชัดได้ว่าสิ่งที่คนอื่นๆจะไม่ลืม อากงก็จะไม่ลืมไปด้วย แต่สิ่งที่รับรู้ก็คืออากงให้การไม่เป็นประโยชน์กับตัวเองครับ มันก็แค่นั้นแหละ

  2. เจตนาที่อยู่ภายในมันเป็นแบบไหนเหรอครับ โดยเฉพาะเหตุผลที่อากงทำไมต้องส่ง SMS ไปให้เบอร์นั้น และดูเหมือนก่อนหน้ามีการให้ข่าวว่าอากงเป็นแดงฮาร์ดคอร์ แต่พอในศาลก็ไม่พูดประเด็นนี้ และหากมีการแจกเบอร์ในกลุ่มม๊อบจริง ทำไมมีแต่อากงคนเดียวที่ส่ง SMS ไม่มีคนอื่นร่วมส่งเลย

  3. ส่วนประเด็นเรื่องดราม่านั้นยกไปครับ ไม่ได้สนใจเรื่องนี้ แต่สิ่งที่อยู่ในความสนใจก็คือ "เหตุผลประจักษ์พยานแวดล้อมที่โจทก์นำสืบเพื่อชี้วัดให้เห็นเจตนาที่อยู่ภายใน" นี่แหละครับ ไม่มีหลักฐานชี้ชัดก็ติดคุกแล้ว

  4. เรื่องรถหากคุณไม่มีหลักฐานล่ะครับ คุณจะทำยังไง ยอมรับชะตากรรมเหรอครับ

อ๋อ อีกเรื่องนึง ผมไม่รู้ว่าอากงทำจริงหรือไม่ แต่หลักฐานมันไม่น่าพอที่จะจับใครยัดเข้าห้องขังได้น่ะครับ ซึ่งบางคนอาจจะมีความสุขที่มันทำได้ แต่ผมกังวลว่าถ้าโดนกับตัวเองล่ะ การตัดสินนี้มันจะเป็นบรรทัดฐานไปครับ

By: cloudservice on 26 September 2013 - 10:30 #632134 Reply to:632027

1. เรื่องที่อากงบอกว่าจำไม่ได้ ผมตอบไม่ได้หรอกครับว่า จำไม่ได้จริงๆหรืออ้างว่าจำไม่ได้ ซึ่งก็คงไม่มีใครชี้ชัดได้ว่าสิ่งที่คนอื่นๆจะไม่ลืม อากงก็จะไม่ลืมไปด้วย แต่สิ่งที่รับรู้ก็คืออากงให้การไม่เป็นประโยชน์กับตัวเองครับ มันก็แค่นั้นแหละ

อันนี้ขอถามตรงๆ ว่าคุณ @soginal เคยได้อ่านคำพิพากษาฉบับเต็ม ตั้งแต่เริ่มสืบพยานจนถึงศาลมีคำสั่งตัดสินรึเปล่าครับ เพราะถ้าอ่านคงจะไม่มีการอ้างว่า "สิ่งที่คนอื่นๆจะไม่ลืม อากงก็จะไม่ลืมไปด้วย" นี่คือการยกความคิดเห็นส่วนตัวมาลอยๆ ไม่มีหลักฐานใดๆ ทั้งสิ้น มันเหมือนการแถนะครับ ถ้าจะเอาจริงๆ ไปขอตรวจ CCTV ของห้างก็รู้ครับว่าคุณลุง sms ไปจริงรึเปล่า แต่ลุง sms กลับให้การกลับกลอกซะเอง

2. เจตนาที่อยู่ภายในมันเป็นแบบไหนเหรอครับ โดยเฉพาะเหตุผลที่อากงทำไมต้องส่ง SMS ไปให้เบอร์นั้น และดูเหมือนก่อนหน้ามีการให้ข่าวว่าอากงเป็นแดงฮาร์ดคอร์ แต่พอในศาลก็ไม่พูดประเด็นนี้ และหากมีการแจกเบอร์ในกลุ่มม๊อบจริง ทำไมมีแต่อากงคนเดียวที่ส่ง SMS ไม่มีคนอื่นร่วมส่งเลย

ข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเลยว่าเป็นการตั้งข้อสังเกตุขึ้นมาลอยๆ ไม่ได้มีในคำพิพากษาของศาลแม้แต่น้อย เรื่องแดงฮาร์ดคอร์ เรื่องแจกเบอร์ในม็อบนี่เอามาจากไหนหรอครับ มีแหล่งที่มาหรือหลักฐานไหม

ผมว่า คุณลองใช้ logic ดูนะครับ ข้อไหนที่เป็นประโยชน์ต่อจำเลย ที่ถูกกล่าวหาว่าหมิ่นเบื้องสูง
1. ให้การในศาลว่าเป็นแดงฮาร์ดคอร์ <- อันนี้แบบที่คุณอยากได้ ถ้า logic ไม่ผิดปกติคงจะคิดได้ว่า ไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อลุง sms เลย
2. ไม่ได้ให้การในศาลว่าเป็นแดงฮาร์ดคอร์ <- อันนี้มีประโยชน์ต่อลุง sms เยอะ อาจจะโดนกลั่นแกล้ง

3. ส่วนประเด็นเรื่องดราม่านั้นยกไปครับ ไม่ได้สนใจเรื่องนี้ แต่สิ่งที่อยู่ในความสนใจก็คือ "เหตุผลประจักษ์พยานแวดล้อมที่โจทก์นำสืบเพื่อชี้วัดให้เห็นเจตนาที่อยู่ภายใน" นี่แหละครับ ไม่มีหลักฐานชี้ชัดก็ติดคุกแล้ว

"เหตุผลประจักษ์พยานแวดล้อมที่โจทก์นำสืบเพื่อชี้วัดให้เห็นเจตนาที่อยู่ภายใน" คือคุณบอกว่า "ไม่มีหลักฐานชี้ชัดก็ติดคุกซะแล้ว" เป็นการพูดลอยๆ โดยหวังสร้างคำพูดในการจูงใจให้คนที่สงสารลุง sms ตามสไตล์ถนัดของกลุ่มคนที่หวังได้ประโยชน์จากลุง sms

ถ้าคุณไม่สามารถอ่านคำพิพากษาฉบับเต็มได้ ผมจะย่อๆ ให้ฟังนะครับ

  • ส่งมือถือไปซ่อม - ตอนเข้าจับกุม ลุง sms บอกว่ามือถือเสียช่วงเดือนพฤษภาคม แต่พอให้การศาลกลับบอกว่าเมษายน แทน เพราะ log มีข้อมูลชัดเจนว่าเดือนพฤษภาลุง sms ยังใช้เบอร์ของตัวเองตามปกติ
  • จำร้านมือถือไม่ได้ - ถ้าหากลุง sms นำมือถือไปซ่อมจริง เป็นไปไม่ได้ที่จะจำร้านที่ไปซ่อมไม่ได้ เพราะว่าอย่างน้อยต้องไป 2 ครั้ง ในระยะเวลาที่ห่างกัน (ขาส่งซ่อม - ขาไปรับกลับ) ซึ่งถ้าจำร้านไม่ได้จริงๆ ก็คงไปเอามือถือกลับมาใช้งานเหมือนเดิมไม่ได้ ลองทิ้งอคติ กับ ดราม่าแล้วลองคิดดูนะครับ ว่าคนที่เอาของซ่อมได้ และผ่านไปหลายสัปดาห์ไปรับมือถือตัวเองจากร้านเดิมได้ จะลืมร้านได้ ถ้าบริสุทธิ์ใจจริงก็นำใบเสร็จ หรือ กล้องวงจรปิดจากทางห้างมายืนยัน แค่นี้ก็ไม่ได้รับโทษแล้ว จริงมั้ยครับ
  • ส่ง sms ไม่เป็น - มีหลักฐานจาก log ชัดเจนว่ามีการส่ง sms จากเบอร์ของคุณลุงเอง
    ยังมีอีกเยอะ

4. เรื่องรถหากคุณไม่มีหลักฐานล่ะครับ คุณจะทำยังไง ยอมรับชะตากรรมเหรอครับ

ในชั้นศาลเขาสู้กันด้วยหลักฐานและพยายานทั้งนั้นแหละครับ ถ้าคุณไม่มีหลักฐานแล้วจะให้ศาลเขาลงคำพิพากษายังไงละครับ หรือว่าให้บอกว่า จำเลยคนนี้ไม่สามารถหาหลักฐานมายืนยันว่าตนเองไม่ได้กระทำผิดได้ แม้จะมีประจักษ์พยายานแวดล้อมชัดเจน ป้ายทะเบียน รูปพรรณ ฯลฯ แต่ศาลใจดี ยกฟ้องให้เป็นกรณีพิเศษ แบบนั้นอะหรอครับ

อ๋อ อีกเรื่องนึง ผมไม่รู้ว่าอากงทำจริงหรือไม่ แต่หลักฐานมันไม่น่าพอที่จะจับใครยัดเข้าห้องขังได้น่ะครับ ซึ่งบางคนอาจจะมีความสุขที่มันทำได้ แต่ผมกังวลว่าถ้าโดนกับตัวเองล่ะ การตัดสินนี้มันจะเป็นบรรทัดฐานไปครับ

"แต่หลักฐานมันไม่น่าพอที่จะจับใครยัดเข้าห้องขังได้น่ะครับ" อันนี้ตอบจนเมื่อยมือแล้ว แนะนำไปอ่านเฉพาะบทสรุปก็ได้ครับ ว่าจริงๆ แล้วเป็นยังไง ถ้าพูดแบบง่ายๆ ที่คนทั่วไปน่าจะอ่านกันเข้าใจ

จำเลยอยู่ระหว่างการพิสูจน์ว่าตัวเองบริสุทธิ์จริงตามที่กล่าวอ้างรึเปล่า
แต่กลับไปให้การโกหก วกวน แล้วศาลเขาจะเอาอะไรมาช่วยคุณละครับ งง

ส่งท้าย

โดยส่วนตัวแล้วสงสารคุณลุง sms นะครับ ที่ตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองของกลุ่มคนที่หวังสร้างดรามากะมาตรา 112 มากกว่าต้องการช่วยคุณลุงเขาจริงๆ ถ้าเปลี่ยนจากการเอาเด็ก 10 ขวบมาเป็นพยานแล้วเอาผู้เชียวชาญด้านโทรคมนาคมมาเป็นพยานแทน

ลองไปนับดูว่าพยานของคุณลุงมีแค่ ทนายความ กับ เด็กตัวน้อยๆ ถ้าเปิดใจเป็นกลางก็รู้แล้วว่า นี่ตั้งใจจะช่วยลุงจริงๆ หรือว่าต้องการสร้างดรามา ให้คนภายนอกรับรู้ว่า เด็กน้อยตัวเล็กๆ มาให้การกับคุณลุงที่รัก "เลยเป็นที่มาของคำว่า อากง" (ซึ่งเป็นเรื่องถนัดของฝ่ายนี้อยู่แล้วครับ ในการสรรหาคำพูดมาปลุกอารมร์ร่วม มากกว่าเหตุผลและหลักฐาน)

ถ้าคุณลุงบริสุทธิ์ และทีมทนายคุณลุงตั้งใจจะช่วยจริงๆ ไปเอาหลักฐานว่านำมือถือไปซ่อมจริงๆ มา (ภาพกล้องวงจรปิดห้าง ร้านที่ไปซ่อม ใบเสร็จ ฯลฯ) แค่นี้คุณลุงก็ไม่ต้องตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองแล้วละครับ

By: soginal
AndroidIn Love
on 26 September 2013 - 10:49 #632145 Reply to:632134
soginal's picture
  1. ถ้ามีการตรวจสอบอะไรจริงก็อีกเรื่องนึงที่ต้องยอมรับไปตามนั้นนิครับ จะมีอะไร ในประเด็นนี้ผมก็ตอบไปตามนั้น เพราะเราก็ไม่รู้ว่าเขาจำได้จริงหรือไม่ ผมก็ต้องบอกได้แค่ว่าเขาให้การไม่เป็นประโยชน์

  2. คำตอบของคุณมันก็ไม่ได้ชี้แจงว่าเจตนาภายในนั้นเป็นยังไง แล้วอากงแกมีแรงจูงใจอะไรให้ทำครับ?

  3. เรื่องจำได้จำไม่ได้นี่ผมตอบไปแล้วนะ ส่วนเรื่อง log หรือหลักฐานอื่นๆ ก็ศาลบอกชัดๆไม่ใช่หรือครับว่ามันมัดตัวอากงไม่ได้ เลยต้องเอาเจตนาภายใน? มาใช้ตัดสิน

  4. ง่ายๆครับ เมื่อคุณหาหลักฐานให้ตัวเองไม่ได้ คุณก็ต้องขึ้นให้การปฎิเสธ ด้วยเหตุผลที่ทุกคนมองว่า เป็นคำอ้างโง่ๆ แต่คุณก็ต้องทำเพราะคุณคงไม่ก้มหน้ายอมรับผิดหรอกนะครับ สุดท้ายศาลจะตัดสินยังไงก็ขึ้นอยู่กับศาล นี่แหละสิ่งที่อากงเจอ (แต่ผมไม่ได้บอกว่าอากงผิดหรือไม่ผิดนะครับ ผมแค่พูดตามเคสที่คุณให้มา)

  5. การให้การวกวนไม่ใช่เรื่องดีต่อตัวอากงแน่ แต่ทำไมเกิดเหตุการณ์แบบนี้ได้ผมก็ไม่รู้ ทั้งๆที่มีทนายอยู่ด้วย แต่ไม่ว่าคุณจะให้การวกวนยังไง นั่นเป็นสาเหตุให้ติดคุกเหรอครับ? เพราะหาหลักฐานมัดตัวยังไงก็ไม่ได้เลยต้องมาดูประเด็นนี้ใช่ไหม

ส่งท้าย
ส่วนตัวไม่ได้เห็นใจอากง เพราะไม่ได้เป็นญาติฝ่ายไหนของผม ผมแค่สนใจในประเด็นที่ผมบอกไปเท่านั้น

By: cloudservice on 26 September 2013 - 11:59 #632182 Reply to:632145

เวลาผมตอบคุณ @soginal นี่ผม quote คำพูดของคุณมาแล้วตอบทีละประเด็น แต่พอคุณตอบกลับเลือกเอาเฉพาะคำตอบที่ตัวเองตอบได้มาตอบ แล้วข้ามอันที่ตอบไม่ได้ไป

เช่นตอนแรกยกเรื่องแดงฮาร์ดคอและม็อบมา พอตอนตอบเหมือนกับว่าลืมไปแล้วว่าตัวเองเคยตั้งคำถามอะไรไว้ รอให้ผู้อ่านคนอื่นพิจารณนาละกันครับว่าใครมั่วนิ่ม ผมยินดีพูดคุยทุกประเด็นถ้าคุณ @soginal quote คำพูดผมมาตอบทีละประเด็น แต่ไม่ใช่ลืมว่าตัวเองเคยถามอะไรไป แล้วมาตอบรวมๆ

อันนี้ผมเลือกตอบเฉพาะข้อความนี้ครับ ผมจะตอบข้ออื่นๆ ก็ต่อเมื่อคุณ @soginal ทำการ quote คำพูดในคอมเมนท์ #632134 ผมมา แล้วแย้งแต่ละประเด็นให้ได้ก่อน

คำตอบของคุณมันก็ไม่ได้ชี้แจงว่าเจตนาภายในนั้นเป็นยังไง แล้วอากงแกมีแรงจูงใจอะไรให้ทำครับ?

ผมจะแปลไทยเป็นไทยให้ฟังอีกรอบครับ

"แม้โจทก์จะไม่สามารถนำสืบพยานให้เห็นได้อย่างชัดแจ้งว่าจำเลยเป็นผู้ที่ส่งข้อความตามฟ้องจากโทรศัพท์เคลื่อนที่เครื่องดังกล่าว ไปยังโทรศัพท์เคลื่อนที่ของนายสมเกียรติ ครองวัฒนสุข เลขานุาการส่วนตัวของนายอภิสิทธิ์ แต่ก็เพราะเป็นการยากที่โจทก์จะสามารถนำสืบได้ด้วยประจักษ์พยาน เนื่องจากจำเลยซึ่งเป็นผู้กระทำความผิดดังกล่าวย่อมจะต้องปกปิดการกระทำของตนมิให้บุคคลอื่นได้ล่วงรู้ จึงจำเป็นต้องอาศัยเหตุผลประจักษ์พยานแวดล้อมที่โจทก์นำสืบเพื่อชี้วัดให้เห็นเจตนาที่อยู่ภายใน"

หมายความว่า

โจทก์ไม่สามารถหาพยายาน (คนที่เห็นว่าคุณลุง เป็นคนส่ง sms) มายืนยันว่าคุณลุงส่งจริง เพราะเรื่องแบบนี้ต้องทำลับหูลับตาคนอยู่แล้ว จึงต้องใช้หลักฐานแวดล้อม log โทรศัพท์, คำโกหกอีกมากมาย มามัดตัวคุณลุงแทน

ส่วนเรื่อง log หรือหลักฐานอื่นๆ ก็ศาลบอกชัดๆไม่ใช่หรือครับว่ามันมัดตัวอากงไม่ได้

คำว่า "log หรือหลักฐานอื่นๆ" นี่แหละครับ ที่หมายถึงส่วนหนึ่งของ เหตุผลประจักษ์พยานแวดล้อม จากคำให้การของพยานฝ่ายโจทก์

ปล. จริงๆ ไม่ต้องตอบ reply นี้ของผมก็ได้แต่ไปตอบ reply #632134 ทีละประเด็นดีกว่า ผมจะได้ตอบกลับได้เต็มที่ และอีกอย่างนึง แนะนำไปอ่านคำพิพากษาหลายๆ รอบครับ เผื่อมันจะช่วยให้คำถามของคุณ @soginal ฟังดูมีเหตุผลและมีความน่าเชื่อถือมากกว่า การอ้างลอยๆ โดยไม่รู้ว่าศาลเขาพิพากษาอะไรบ้าง แต่มาทึกทักเอาเอง :)

By: soginal
AndroidIn Love
on 26 September 2013 - 12:16 #632194 Reply to:632182
soginal's picture

ข้อแดงฮาร์ดคอร์นั้นผมเคยเห็นข่าวใน manager มั้งครับจำเวบไม่ได้แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นนิครับ ประเด็นข้อนั้นของผมคือ แรงจูงใจคืออะไรเจตนาภายในมันคืออะไร ผมถามคุณเรื่องนี้ ผมยกเรื่องแดงมาเพราะว่าถ้าไม่มีข้อมูลในศาลว่าอากงเป็นแดงหรือยุ่งเกี่ยวไรกับม๊อบหรืออย่างอื่น แล้วแกมีเหตุจูงใจอะไร

การส่งมือถือไปซ่อมกับจำไม่ได้ผมก็ตอบรวมไปเรื่องความจำแล้วไงครับ

ส่วนการที่รู้ว่าอากงส่ง sms ได้หรือไม่ได้จริง ไม่ได้พิสูจน์ว่า อากงเป็นคนส่ง sms หมิ่นครับ
หรือพื้นที่ในการส่งก็พิสูจน์ไม่ได้ว่าเป็นคนส่งข้อความหมิ่นครับ แล้วมันรวมกันออกมาเป็นเจตนาภายในยังไงครับ

แล้วผมตกคำถามข้อไหนไปหรือครับ?

By: Hoo
AndroidWindows
on 27 September 2013 - 00:09 #632611 Reply to:632194

แนะนำให้อ่าน
ข้อเท็จจริง กรณีอากง SMS

แล้วจะรู้ว่าศาล ไม่ได้มั่วหรือหลักฐานอ่อน อย่างที่คนบางกลุ่มอ้างเลย

By: soginal
AndroidIn Love
on 27 September 2013 - 00:18 #632619 Reply to:632611
soginal's picture

แต่สุดท้ายก็ใช้เจตนาที่อยู่ภายในตัดสินนิครับ เพราะหลักฐานมันมัดตัวอากงไม่ได้ แล้วเจตนาที่อยู่ภายในมันคืออะไรคุณรู้ไหมล่ะครับ

By: Hoo
AndroidWindows
on 27 September 2013 - 00:30 #632624 Reply to:632619

มั่วแล้วครับ
หลักนิติศาสตร์/ระบบกฎหมาย ทั้งโลก ตัดสินกันที่ "การกระทำ" ครับ

เพราะหลักนิติศาสตร์พื้นฐานคือ
ตราบัญญัติ "ห้ามการกระทำ"
ถ้าใครฝืน กระทำ จะต้อง ได้รับโทษ

แล้วเรื่อง เจตนา มีไว้เพื่อ "ลดโทษ" ตามศาลเห็นสมควร
ไม่ใช่ พิสูจน์เจตนาไม่ได้แล้วยกฟ้อง

แล้วระบบศาล ก็ใช้หลักฐานที่บ่งชี้อย่างมีน้ำหนักว่ากระทำ
ก็เพียงพอแล้ว
ถ้าศาลใช้ "ระบบคิดที่คุณกำลังคิด" ละก็
คดีฉ้อโกง คดีฆาตกรรม หลุดทุกรายแน่ๆครับ

แนะว่า ถ้าจะโจมตีระบบกฎหมาย กรุณาไปศึกษานิติศาสตร์/ระบบกฎหมายก่อนครับ
ขอบคุณ

By: soginal
AndroidIn Love
on 27 September 2013 - 00:39 #632625 Reply to:632624
soginal's picture

ผมถึงถามไงครับว่าคดีนี้ หลักฐานต่างๆมันชี้เจตนายังไงแบบไหนถึงได้ตัดสินออกมาแบบนั้น และอากงมีแรงจูงใจอะไรให้ทำแบบนั้น ไม่พูดถึงหน่อยรึ?

แล้วหลักฐานมันบ่งชี้อย่างมีน้ำหนักจริงเหรอครับ ถ้าจริงทำไมไม่ตัดสินว่าผิดจากหลักฐานของโจทย์

By: Hoo
AndroidWindows
on 27 September 2013 - 00:41 #632628 Reply to:632625

ไม่อยากจะบอก
แต่ถ้าตามข่าว
นสพ.หลายฉบับระบุวันที่โดนรวบเลยว่า เป็นแดงฮาร์ดคอร์มีชื่อ

สงสัยอะไร หัดหาในอากู๋ได้ครับ
อย่ามาคิดวนเวียน ว่า "ไม่มีข้อมูล"
อย่ารอให้คนอื่นคอยป้อนข้อมูลกันทุกเม็ดทุกดอก
โตๆกันแล้ว

By: soginal
AndroidIn Love
on 27 September 2013 - 00:45 #632630 Reply to:632628
soginal's picture

มีระบุไว้ตรงไหนของคำพิพากษาครับ?

By: Hoo
AndroidWindows
on 27 September 2013 - 00:55 #632634 Reply to:632628

ถามเป็นเจ้าหนูจำไม ในอิกคิวซังเลย
มีปัญหา IQ หรือเปล่าครับ?

เอาให้แน่ก่อนว่าคุณจะคุยด้านไหน
1) ถ้าใช้ คอมม่อนเซ้นส์
ซึ่งมันมีข้อมูลมากมาย ให้เห็นให้รู้
ว่าตัวตนของ อากงคือใคร??

คอมม่อนเซ้นส์ จากข้อมูลทุกด้าน ก็บ่งชี้ว่า
อากงมีแนวโน้มสูงมากว่าอากงทำจริงๆ!!

2) ถ้าใช้ หลักนิติศาสตร์
ศาลเค้าไม่สนหรอก ว่า อากงจะแดงจะเหลือง
แล้วก็ไม่สนใจด้วยว่า เจตนาคืออะไร เพราะ ศาลสนใจจริงๆคือ "ทำหรือเปล่า?"

ซึ่ง log ของ โอเปอเรเตอร์ ชี้ชัดมาที่ โทรศัพท์อากง
และ อากงใช้มันตลอด ไม่ว่าก่อนหรือหลังหมิ่น
แถมให้การขัดกับพยานหลักฐาน ซะกระจุย
ถ้ายกฟ้องสิ ถึงจะน่าแปลกใจ

By: soginal
AndroidIn Love
on 27 September 2013 - 00:59 #632641 Reply to:632634
soginal's picture
  1. มีข้อมูลมากมายแต่กลับไม่กล่าวถึงในศาลเหรอครับ โดยเฉพาะแรงจูงใจ?
  2. log ชี้ตรงมาที่โทรศัพท์เครื่องนั้น ให้การไม่ตรง แต่ไม่มีอะไรพิสูจน์ได้เลยนิครับว่าเป็นคนส่ง

แล้วทำไงต่อล่ะครับ ตัดสินที่เจตนาภายใน แล้วหลักฐานต่างๆมันบ่งบอกเจตนาภายในแบบไหนครับ? ในเมื่อหลักฐานก็มัดตัวไม่ได้?

By: Hoo
AndroidWindows
on 27 September 2013 - 01:09 #632648 Reply to:632641

1.ก็บอกไปแล้ว ไม่ต่ำกว่า 3 รอบ
หลักในการตัดสินของศาล คือ "การกระทำ"
หลักในการตัดสินของศาล คือ "การกระทำ"
หลักในการตัดสินของศาล คือ "การกระทำ"
เจตนา หรือ แรงจูงใจ เป็นแค่น้ำจิ้ม โว้ยยยยยยยยยยย
ศาลเค้าไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้มาก เน้นจังว่า ศาลตัดสินแบบไม่รู้แรงจูงใจ

2.คดีฆาตกรรม ชนคนตาย
ระบุได้ว่า รถเป็นของนาย A
พอตำรวจ ตามตัวนาย A มาได้
ให้การผิดข้อเท็จจริงหมดเลย
ศาลคงยกฟ้องว่า "พิสูจน์ไม่ได้ว่านาย A ขับรถชนจริง" ละมั๊งคุณ???

ไปอ่าน หรือ เรียนปรัชญานิติศาสตร์ ซักรอบดีกว่าครับ
อ้ายที่คุณสงสัย มันจะเคลียร์หมดเลย
ผมอุตสาห์มาพิมพ์บอก ก็ยังจะเถียง
เถียงเอาโล่ห์เหรอครับ?
หรือ คิดว่าผมมั่ว?

ถ้าไม่เชื่อผม ก็ไปหาอ่านเองเถอะครับ
สุดเซ็ง!!

By: soginal
AndroidIn Love
on 27 September 2013 - 01:22 #632654 Reply to:632648
soginal's picture

1 เรื่องแรงจูงใจเป็นน้ำจิ้มใช่ไหมถ้างั้นก็ควรมีบันทึกอยู่บ้างไหมครับว่าโจทย์กล่าวถึง หรือจริงๆก็ไม่รู้ว่าทำไปทำไม?
แล้วคำตัดสินนี้

จึงจำเป็นต้องอาศัยเหตุผลประจักษ์พยานแวดล้อมที่โจทก์นำสืบเพื่อชี้วัดให้เห็นเจตนาที่อยู่ภายใน

มันคืออะไรครับ มันชี้วัดแบบไหนรู้เจตนาได้ยังไง ในเมื่อหลักฐานก็มัดตัวไม่ได้?

2 เดี๋ยวนี้เขาไม่สืบพยานหลักฐานแล้วเหรอครับ?

By: Hoo
AndroidWindows
on 27 September 2013 - 01:47 #632664 Reply to:632654

1) ไม่ต้องมายกหลายเรื่องให้มันสับสนเหมือนคนบางกลุ่มพยายามทำเลยครับ

"เจตนาที่อยู่ภายใน" ที่คุณมาอ้าง เป็นแค่น้ำจิ้ม
เพราะกระบวนการของศาลจะตัดสิน โดยพยานหลักฐานว่า "ทำหรือไม่ทำ"
ไม่ใช่ "เจตนา" ต่อให้เขียนสำนวนมาแบบนั้นก็ตาม

2) ปาทิ้งไปเหอะ วาทกรรม "ไม่สืบพยานหลักฐาน"
โจทก์ มีหลักฐานแน่น กว่า อากงทุกกระบวนท่า ชนิดอากงพูดอะไรมาพิสูจน์ได้ว่าโกหกหมด
เจือกบอก ศาลตัดสินแบบ "ไม่สืบพยานหลักฐาน" กันแล้วเหรอครับ??

ผมว่าคุณเข้าข่ายเสพข้อมูลข้างเดียวจน "หลอน" แล้วนะ

คอมม่อนเซ็นส์เลย

คดีฆาตกรรม ชนคนตาย
ระบุได้ว่า รถเป็นของนาย A (log โอเปอเรเตอร์)
พอตำรวจ ตามตัวนาย A มาได้
ให้การผิดข้อเท็จจริงหมดเลย (อากงให้การไม่ตรงกับความจริงซักอย่าง)

ศาลคงต้องยกฟ้องว่า "พิสูจน์ไม่ได้ว่านาย A ขับรถชนจริง" ละมั๊งคุณ???
หรือจะแถ-ม ว่า ควรยกฟ้อง "เพราะไม่รู้เจตนาว่านาย A จะชนคนตายทำไม??" ดีมั๊ย

สภาพนี้ ถ้ายกฟ้องนั่นแหละ กระบวนการยุติธรรมเรามีปัญหา
นอนละ เบื่อ

By: soginal
AndroidIn Love
on 27 September 2013 - 01:56 #632668 Reply to:632664
soginal's picture
  1. แล้วคำตัดสินของศาลก็บอกอยู่นิครับว่าหลักฐานเอาผิดไม่ได้น่ะ เขาจึงต้องดูที่เจตนาภายใน แล้วมีหลักฐานไหนเหรอครับที่บอกว่าอากงทำ?

  2. คุณหลอนรึเปล่าครับ คำว่า "ไม่สืบพยานหลักฐาน" ที่ผมกล่าว เพราะในข้อสองเรื่องรถของคุณไม่พูดถึงพยานหลักฐานเลย

และโจทย์ไม่ได้มีหลักฐานหนาแน่นครับ เพราะไม่สามารถเอาผิดได้ด้วยหลักฐานนิครับว่าอากงเป็นคนส่งจริง

By: Sven
In Love
on 27 September 2013 - 03:53 #632689 Reply to:632668
Sven's picture

โจทย์ [โจด] น. คําถามในวิชาคณิตศาสตร์, โดยปริยายใช้หมายถึงสิ่งที่ คล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น ปัญหานี้เป็นโจทย์ที่รัฐบาลแก้ไม่ตก.

โจทย์ [โจด] น. คําถามในวิชาคณิตศาสตร์, โดยปริยายใช้หมายถึงสิ่งที่ คล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น ปัญหานี้เป็นโจทย์ที่รัฐบาลแก้ไม่ตก.

โจทย์ [โจด] น. คําถามในวิชาคณิตศาสตร์, โดยปริยายใช้หมายถึงสิ่งที่ คล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น ปัญหานี้เป็นโจทย์ที่รัฐบาลแก้ไม่ตก.

โจทย์ [โจด] น. คําถามในวิชาคณิตศาสตร์, โดยปริยายใช้หมายถึงสิ่งที่ คล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น ปัญหานี้เป็นโจทย์ที่รัฐบาลแก้ไม่ตก.

โจทก์ [N] plaintiff, See also: complainant, persecutor, Ant. จำเลย, Example: ศาลวินิจฉัยว่าข้อคัดค้านของโจทก์ไม่ถูกต้อง, Count unit: คน, Thai definition: บุคคลผู้ฟ้องคดีต่อศาล, Notes: (กฎหมาย) (บาลี/สันสกฤต)

”ไม่ใช่ทุกคนที่เรียนแคลคูลัสรู้เรื่อง"
"คนจะเข้าใจ มันก็เข้าใจ พวกไม่เข้าใจ สอนให้ตายก็ไม่เข้าใจ"

"เช่นเดียวกับเรื่องกระบวนการยุติธรรม บางคนมองเป็นการโต้วาที เถียงให้แพ้ชนะ
ทั้งที่จริงๆมันเป็น Fine Logical แบบ boolean "

"ไอ้พวกไม่อ่านคู่มือ syntax ภาษาใหม่ แต่ดันมานั่งทำเป็น analys system อ่านมันก็เข้าใจกระจุกอยู่แค่ math operator "

By: soginal
AndroidIn Love
on 27 September 2013 - 07:26 #632701 Reply to:632689
soginal's picture

ว้าว แล้ว fine logical มันคืออะไรครับเนี่ย ต่างจาก logical ยังไงเหรอครับ?

ผมเห็นเขาคุยมาก็เลยถามกลับแค่นั้นแหละครับ ถ้ารกตาก็ไม่ต้องอ่านก็ได้นะครับ เพราหวังสาระอะไรคงไม่ได้หรอก ;)

By: Hoo
AndroidWindows
on 27 September 2013 - 09:45 #632741 Reply to:632654

สรุป คุณพยายามจะจี้ว่า
ศาลต้องมีหลักฐานเป้งๆชัดเจนสุดๆ ว่าอากงทำจึงจะตัดสินได้
โดยอ้างว่า "ปล่อยคนผิด100คนดีกว่าลงโทษผู้บริสุทธิ์คนเดียว"

ถ้าคิดแบบนี้
คดีอำพรางทั้งหลาย นี่หลุดคดีหมดเลยนะครับ
และโคนันก็คงจะตกงาน
เพราะไม่มีใครเห็นเป้งๆว่าฆาตกรก่อคดีจริงๆซักคดีเดียว
คดีอากงก็มีลักษณะอำพราง ชัดเจน คือ สลับซิมเพื่ออำพราง

การตัดสินในศาล ตามหลักนิติศาสตร์ หนะ
เค้าอาศัยหลักฐานแวดล้อม จนมีน้ำหนักเพียงพอ
เค้าก็ตัดสินแล้วครับ
ไม่ใช่ต้องมีหลักฐานระดับเป้งๆ ถึงจะตัดสินได้

ซึ่งกรณีอากง หลักฐานก็ชี้มาที่อากงเต็มไปหมด
ตั้งแต่ log โอเปอเรเตอร์ จนถึงคำให้การพยานแวดล้อม
การให้การเท็จของอากงก็ถือเป็นหลักฐานแวดล้อมอย่างนึง
ซึ่งทำให้โจยก์มีน้ำหนักเพิ่ม ด้วยนะครับ
(มองทางนึง ทนายอากงนี่แหละตัวดี ไม่ให้คำปรึกษาตรงนี้ซ๊ากกคำ)

เอาเป็นว่า
ตอนนี้คุณคิด "ไม่ตรงกับหลักนิติศาสตร์ที่เป็นมาตรฐาน" ครับ
ผมบอกแค่นี้ คุณช่วยไปอ่านนิติศาสตร์เต็มด้วยตัวเองด้วย
อย่ามา "จำความคิด" คนบนเน็ต ว่า "ศาลตัดสินอากง โดยมีหลักฐานไม่พอ"
แล้วจำฝังหัวมาพ่นใส่ชาวบ้านไปทั่ว
เห็นแล้วเอือม

เท่าที่ดู คุณเถียงแบบไม่มีประเด็น เถียงไปเรื่อยๆ
ตอบประเด็นอะไรไป ก็ก่อประเด็นใหม่ขึ้นมาเรื่อยๆ
จะเล่นเกม "ใครหยุดก่อนคนนั้นแพ้" หรืออย่างไร??

ทุกคนที่คุยด้วยกับคุณ เค้าเลิกคุยกับคุณไปคนแล้วคนเล่า เพราะเค้า"รำคาญ"ครับ
แต่คุณคงคิดว่า "ฉันชนะแล้ว อีกฝ่ายหยุดไป แสดงว่าเหตุผลของฉันดีกว่า"
ซึ่งมันไม่จริงเลย

ก็เถียงไปเถอะครับ เถียงแบบนี้ไปเรื่อยๆ
แล้วชื่นชมกับชัยชนะในการถกเถียงแบบนี้ไปเถอะ
คนอื่นเค้าเห็นแล้วอนาถครับ

By: soginal
AndroidIn Love
on 27 September 2013 - 10:06 #632757 Reply to:632741
soginal's picture

แล้วคำว่าเพียงพอนี่มันเพียงพอยังไงเหรอครับ ผมเลยถามไงครับ การบอกว่าเพียงพอโดยที่มันไม่มีอะไรชี้ได้เลยว่าเขาทำนี่มันเพียงพอยังไงครับ

ผมไม่ได้คัดค้านคำตัดสินอะไรนะครับ แค่ถามว่า มันเกิดอะไรขึ้นก่อน return ค่าเป็น true false

จริงๆเรื่องการให้การวกวนของอากงผมเห็นด้วยนะว่าเป็นผลเสียมากๆต่อตัวเขา(บอกไปตั้งแต่แรกแล้วล่ะ) ที่ผมถามต่อคือ หลักฐานอื่นๆล่ะ ในเมื่อมันก็ไม่สามารถชี้ชัดไปที่อากงได้เลย แล้วมันเพียงพอต่อการตัดสินได้ยังไงครับ?

ไอ้เรื่องชนะแพ้คุณคิดไปเองครับ เพราะมีแต่คุณที่ออกอาการแบบนั้นแหละ ผมก็ถามของผมเฉยๆ ถ้าคุณไม่ตอบ ผมก็แค่ไม่ได้รับคำตอบครับ มันไม่ได้ทำให้โลกเปลี่ยนแปลงไปหรอก

By: Hoo
AndroidWindows
on 27 September 2013 - 21:54 #633204 Reply to:632757

คุณไม่ได้คำตอบ "เพราะคุณไม่เคยไปหาคำตอบ" ครับ

คุณแค่มาไล่ถามไปเรื่อยๆ
พอเค้าตอบอะไรมา คุณก็ถามประเด็นปลีกย่อยไปเรื่อยๆเป็นเจ้าหนูจำไมในอิ๊กคิวซัง
จนอีกฝ่ายเบื่อที่จะตอบ เค้าหยุด
คุณก็ตีความว่า ความคับข้องใจของคุณในกรณีอากง
มันเป็นเรื่องที่ "ไม่มีใครให้คำตอบผมได้"
และ ผมจะคับข้องใจต่อไปเรื่อยๆ เจอใครผมก็จะถามอีก

ทั้งๆที่การหาคำตอบที่แท้จริง
คุณต้องออกแรง อ่านหลักนิติศาสตร์แบบทั้งครบ ว่าในทางนิติศาสตร์เค้าคิดกันยังไง
ลองไปหาอ่านการตัดสินคดีต่างๆทั้งไทยเทศ
มันก็ตัดสินด้วยแนวนี้กันทั้งนั้น
คนที่รู้เรื่องนิติศาสตร์ จะไม่ข้องใจคำตัดสินของศาลเลย
แต่จะข้องใจ ทนายอากง มากกว่า

แต่ที่คุณทำคือ ไปฟังคนอวดอ้างว่าเป็นกูรู แล้วก็ยกนิติศาสตร์"เฉพาะส่วน" มาเน้นย้ำซ้ำไปซ้ำมา
แล้วก็จี้ว่า เนี่ยผิดศาลหลักนิติศาสตร์"เฉพาะส่วน" ที่เอามาอ้าง
ฟังเสร็จก็บ้าจี้ตาม ไล่บี้ถามชาวบ้านไปทั่ว โดยไม่หาความรู้ด้วยตัวเอง
แถมใครมาตอบ ยังถือว่าที่เค้าตอบมัน "ไม่มีน้ำหนักเพียงพอ"
ทั้งๆที่ตามนิติศาสตร์ มันเพียงพอไปแล้ว
แบบนี้ใช้ไม่ได้ครับ

รากของนิติศาสาตร์ เลยคือ
"มีแต่พระเจ้า(หรือ สุวรรณสุวาน) เท่านั้นที่รู้ว่าอากง(หรือจำเลยคดีอำพรางใดๆ) ทำจริงหรือเปล่า" ครับ
มนุษย์เลยต้องอาศัย "ร่องรอยแห่งการกระทำ" นั่นคือพยานหลักฐานต่างๆ เพื่อมาตัดสินคดี

ถามว่ามันชัวร์มั๊ย? มันไม่ชัวร์หรอกครับ และไม่มีวันชัวร์ด้วย
เพราะเราเป็นแค่มนุษย์ ไม่ใช่พระเจ้า
นี้เป็นมาตรฐานความยุติธรรมเท่าที่มนุษย์จะทำได้ครับ และเป็นรากของนิติศาสตร์เลย
ถ้าคุณไม่ยอมรับ มันก็เรื่องของคุณ

By: soginal
AndroidIn Love
on 27 September 2013 - 23:40 #633246 Reply to:633204
soginal's picture

อืมก็แปลกดีนะครับ ก็คุณชวนมาคุยผมก้มาคุย และถามในจุดที่สงสัย ซึ่งผมก็สงสัยว่า หลักฐานมันรวมๆกันมาเป็นเจตนาภายในแบบไหน
ผมสงสัยว่าใช้หลักฐานพวกนี้มากระทำด้วยกระบวนการไหน จึงมีผลออกมาแบบนี้
คุณบอกว่าเพียงพอแล้ว ผมก็สงสัยว่าไปวัดไปตัดสินไปทำยังไงให้มันออกมาเพียงพอ

ทั้งๆที่จริงแล้วตอบมาตามที่คุณเข้าใจก็ได้ครับ ถ้าผมถามแล้วโดนไล่ไปอ่านโน่นอ่านนี่ แล้วจะมาคุยกันทำไมครับ ผมนึกว่าคุณจะอธิบายบางอย่างที่ผมสงสัยได้ เพราะผมก็ไม่ได้เป็นผู้รู้อะไร ผมก็เห็นคุณคงเป็นผู้รู้ผมก็ถามสิครับ

แล้วผมสงสัยส่วนไหนผมก็ถามส่วนนั้นสิครับ แปลกตรงไหนครับ?

แล้วผมไปบอกตอนไหนครับว่าที่เขาตอบ "ไม่มีน้ำหนักเพียงพอ"
ผมแค่อยากรู้ว่าคำว่ามันเพียงพอไปแล้วนี่ใช้อะไรวัดว่ามันเพียงพอเหรอครับ? แต่ผมได้คำตอบไหมล่ะครับ?
คุณจะตอบมาตรงๆ หรือจะแนะนำอะไรให้อ่านก็ได้ครับ แต่ไม่จำเป็นต้องมาโวยวายใส่ผม
หรือเอาความคิดตัวเองมายัดใส่ปากผมว่าผมต้องคิดแบบนั้น คิดแบบนี้

หรือคุณจะไม่ตอบอะไรเลยก็ได้ผมไม่ว่า ไอ้เรื่องแพ้ชนะที่คุณคิดน่ะ ไม่อยู่ในหัวผมหรอกครับ เลิกเอาสิ่งที่คุณคิดมายัดปากผมได้แล้ว

ส่วนเรื่องที่ว่ามันไม่ชัวร์ ผมรู้ครับแต่เราก็รู้ได้รึเปล่าครับว่า ความไม่ชัวร์นั้นมันมีค่าเท่าไหร่? และเรื่องนี้มันมีค่าความไม่ชัวร์เท่าไหร่ครับ?

By: Sven
In Love
on 28 September 2013 - 00:22 #633262 Reply to:633246
Sven's picture

แปลให้ครับ
" ไม่อยากถูกถามกวน ก็เลิกตอบไปก่อนสิ "
คนเขาตั้งใจตอบ ดันทุรังจะถามลอยแบบหว้ากอ ทรามจริงๆ

By: soginal
AndroidIn Love
on 28 September 2013 - 00:25 #633265 Reply to:633262
soginal's picture

ถามลอยยังไงครับ?

By: Sven
In Love
on 28 September 2013 - 00:26 #633266 Reply to:633265
Sven's picture

ไม่ถามลอยยังไงครับ ?

By: PaPaSEK
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 28 September 2013 - 18:43 #633502 Reply to:633266
PaPaSEK's picture

ไม่ถามลอยยังไงครับ ?

แบบนี้ครับถามลอย XD

By: Hoo
AndroidWindows
on 28 September 2013 - 20:51 #633529 Reply to:633246

สรุปคือ
ไม่รู้ ไม่เคยอ่าน และไม่คิดจะอ่านนิติศาสคร์
ว่าเค้าใช้เกณฑ์อะไรมาวัด
แต่จะขอข้องใจ และ ตั้งคำถามต่อศาลและระบบยุติธรรม อะ
ว่าเค้าเอาอะไรมาวัด

ผมบอกเลยว่าอาการของคุณหนะ
ต่อให้มีภาพถ่ายอากงกำลังกดโทรศัพท์
คุณก็จะแก้ต่างว่า "อากงอาจกำลังเล่น แคนดี้ครัช อยู่ก็ได้"
และก็กลับจุดเซฟ เอ๊ย กลับสู่สภาพ "ไม่แน่ ว่าอากงเป็นคนส่ง SMS" อยู่ดี

แนะนำให้หาอ่าน "คำให้การจำเลยมีพิรุธ" ว่ามันส่งผลต่อน้ำหนักการตัดสินคดีขนาดไหน
เพราะ มันมีหลักว่า "จำเลยย่อมให้การเท็จเพื่อหวังหลุดคดี"
นี่เล่น ให้การเท็จ 4 ทีซ้อน
ตอนแรกบอกว่า ส่งซ่อมร้านมือถือ พอหลักฐานมาว่าไม่ใช่
ก็เปลี่ยนเป็น อาจโดนปลอมIMEI พอหลักฐานมาว่าไม่ใช่
ก็เปลี่ยนเป็น อาจมีคนบุกรุกเข้าบ้านมาส่งSMS พอหลักฐานมาว่าไม่ใช่
ก็เปลี่ยนเป็น แก่แล้วส่ง SMS ไม่เป็น หลักฐานก็มาว่าไม่ใช่
ถ้าไม่ตัดสินคดีซะก่อน เชื่อว่ามีเปลี่ยนอีกเรื่อยๆแน่ๆ

ก็ไม่รู้ใครสั่งใครสอน ทนายอากง ว่าให้ว่าความแบบให้การดิ้นไปเรื่อยๆ แบบนี้
เพราะปกติแค่ ให้การเท็จ ขาข้างนึงก็เข้าไปอยู่ในตาราง แล้ว
การเปลี่ยนคำให้การ ปกติทนายจะต้องคิดแล้วคิดอีก
นี่ให้การเท็จ 4 รอบ มันกะส่ง อากงตรงเข้าคุกชัดๆ!!
(ไม่อย่างงั้น ทนายอากงก็ โง่แบบความรู้นิติศาสตร์พื้นฐานบกพร่องสุดๆ
แต่ผมให้เครดิตนะว่า เค้าไม่"โง่"หรอกนะ ฮีๆๆ)

คุณกับผมเห็นตรงกันว่า "อากงน่าสงสารมากๆครับ" ขอบอก

By: champs
iPhoneWindows PhoneAndroid
on 26 September 2013 - 05:37 #632054

ทำแล้วดีก็ทำไม่ดีก็ไม่ต้องทำ แต่พหมิ่นสภาบันชาตินี่รับไม่ได้ จบมันนอนคุกก็สมควร ในเนตอย่างเยอะตำรวจไม่ทำอะไรเดี่ยวนี้ คงรู้ๆกัน

By: bahamutkung
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 27 September 2013 - 01:11 #632650
bahamutkung's picture

เพลียครับ เกินเยียวยาจริงๆ


"With the first link, the chain is forged. The first speech censured, the first thought forbidden, the first freedom denied, chains us all irrevocably."