Tags:
Node Thumbnail

เมื่อพูดถึง Dell หลายๆ คนคงนึกถึงคอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุ๊กมาเป็นอันดับแรก และอาจมีฮาร์ดแวร์เซิร์ฟเวอร์ตามมาเป็นลำดับถัดไป

แต่บริษัทไอทีสายองค์กรทุกวันนี้จะขายเพียงฮาร์ดแวร์อย่างเดียวคง "อยู่ยาก" และหลายบริษัทก็ปรับตัวไปเป็นการขายโซลูชันครบวงจนตั้งแต่ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และการบริหารจัดการระบบ เพื่อสร้างความแตกต่างและมูลค่าของสินค้า-บริการให้มากขึ้น

Dell เป็นอีกบริษัทหนึ่งที่ปรับตัวอย่างหนักในรอบ 3-4 ปีที่ผ่านมา ดังจะเห็นได้จากข่าวการซื้อกิจการบริษัทซอฟต์แวร์ชุดใหญ่อย่างต่อเนื่องตลอดมา และในงาน Dell Solutions Tour 2013 เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคมที่ผ่านมา ก็ถือเป็นการประกาศตัวต่อลูกค้า คู่ค้า และวงการไอทีในภาพรวมว่า "Dell ต่อจิ๊กซอครบแล้ว"

No Description

คณะผู้บริหารของ Dell นำโดยคุณอโณทัย เวทยากร กรรมการผู้จัดการบริษัท เดลล์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) และผู้จัดการทั่วไป ประจำภาคพื้นอินโดจีน พาคณะผู้บริหารจัดงานแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงทิศทางใหม่ของ Dell

คุณอโณทัยเล่าว่ารอบ 4 ปีที่ผ่านมา Dell ลงทุนไปแล้วทั้งหมด 10,000 ล้านดอลลาร์ (แปลงเป็นไทยก็ 3 แสนล้านบาท) ซื้อกิจการ 19 บริษัท และพัฒนานวัตกรรมจากภายในบริษัทเองอีกจำนวนหนึ่ง ตอนนี้ต่อจิ๊กซอครบแล้ว มีโซลูชันครบวงจร (end-to-end) เรียบร้อยแล้ว และจัดกลุ่มธุรกิจใหม่เป็น 4 กลุ่มตามสายของผลิตภัณฑ์ ดังนี้

No Description

No Description

Connect

หมายถึงอุปกรณ์ฝั่งไคลเอนต์ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นพีซีตั้งโต๊ะ โน้ตบุ๊ก แท็บเล็ต หรืออุปกรณ์กลุ่ม BYOD ทั้งหมดที่จะถูกนำมาใช้งานกับเครือข่ายภายในองค์กร จะถูกจัดอยู่ในสายธุรกิจนี้

สายธุรกิจนี้คือธุรกิจดั้งเดิมของ Dell แต่เพิ่มส่วนของการบริหารจัดการอุปกรณ์ (device management) เข้ามา รวมถึงอุปกรณ์เฉพาะทางสำหรับองค์กร เช่น thin client (จากการซื้อ Wyse) หรือ management appliance (จากการซื้อ KACE) เป็นต้น

Transform

หมายถึงฮาร์ดแวร์ฝั่งเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดขององค์กรที่กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างหน้ามือเป็นหลังมือ โดยครอบคลุมสายธุรกิจเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมด รวมถึงสายธุรกิจกลุ่มเมฆที่เป็นส่วนต่อขยายของศูนย์ข้อมูลด้วย

สายธุรกิจนี้ครอบคลุมฮาร์ดแวร์เซิร์ฟเวอร์เดิม รวมถึงอุปกรณ์เครือข่าย Force10, สตอเรจ EqualLogic เป็นต้น

Inform

สายธุรกิจนี้จะครอบคลุมเรื่องซอฟต์แวร์และข้อมูล เป้าหมายคือทำอย่างไรจะเปลี่ยนข้อมูลขององค์กรให้มีความหมายต่อการตัดสินใจทางธุรกิจได้ แน่นอนว่าสายธุรกิจนี้จะรวมเรื่อง Big Data ตามกระแสนิยมของไอทีองค์กรด้วย

หน่วยงานหลักของสายนี้คือ Dell Software Group ที่ตั้งขึ้นมาใหม่เมื่อเร็วๆ นี้ มีผลิตภัณฑ์อย่างซอฟต์แวร์แบ็คอัพ AppAssure, Quest Software ที่ซื้อมาแพงถึง 2.4 พันล้านดอลลาร์, ซอฟต์แวร์ความปลอดภัยเครือข่าย SonicWALL เป็นต้น

Protect

สายธุรกิจสุดท้ายเน้นความปลอดภัยของทั้งระบบไอทีและข้อมูลภายในองค์กร และจะครอบคลุมไปถึงการพัฒนาบริการไอทีให้มีความยืดหยุ่นสูงด้วย

ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้ได้แก่ ซอฟต์แวร์ความปลอดภัย SecureWorks, ซอฟต์แวร์ช่วยแปลงแอพพลิเคชั่นเก่ามาอยู่บนระบบกลุ่มเมฆ Clerity และ Make

No Description

เป้าหมายของ Dell ต่อผู้บริโภคคือสร้างโซลูชันไอทีที่เปิดกว้าง ใช้งานร่วมกับระบบของรายอื่นได้ แต่ก็มีประสิทธิภาพสูงในราคาถูก ช่วยลดทั้งค่าอุปกรณ์ (CapEx) และค่าใช้จ่ายสำหรับการดำเนินการ (OpEx) ให้กับองค์กรได้

กล่าวโดยสรุปแล้วทิศทางธุรกิจของ Dell คงไม่ต่างอะไรกับบริษัทไอทีองค์กรที่เน้นขายฮาร์ดแวร์รายอื่นๆ เช่น HP หรือ IBM (อาจรวม Oracle ที่ได้รับมรดกจาก Sun เดิม และ Cisco ที่พยายามขยายตัวมาจากอุปกรณ์เครือข่าย) นั่นคือการไล่ซื้อบริษัทซอฟต์แวร์-บริการ-กลุ่มเมฆมาเสริมทัพ และพยายามปรับแต่งผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของตัวเองให้ทำงานร่วมกันได้ทั้งโซลูชันนั่นเอง

Dell อาจจะช้าหน่อยเมื่อเทียบกับ IBM ที่ล่วงหน้าไปไกล และ HP ที่มีบริการครบครันกว่าในบางด้าน (แต่ก็มีซื้อแป๊กหลายอัน เช่น Palm หรือ Autonomy) แต่เมื่อดูจังหวะการก้าวเดินของ Dell ที่ "ซื้อแหลก" ในรอบ 3-4 ปีที่ผ่านมาแล้ว เราก็พอจะพยากรณ์ไปข้างหน้าต่อได้ว่าถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด Dell จะผงาดขึ้นมาเป็นยักษ์ใหญ่อีกรายของธุรกิจซอฟต์แวร์-บริการฝั่งองค์กรด้วยนั่นเอง

Get latest news from Blognone