Andy Rubin ให้สัมภาษณ์นอกรอบกับผู้สื่อข่าวในงาน MWC ซึ่งเขาให้ความเห็นเรื่องข่าวการเปิด Google Store ว่าแต่ก่อนลูกค้าจำเป็นต้องสัมผัสและลองเล่นอุปกรณ์ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่เพียงพอประกอบการตัดสินใจซื้อ แต่เดี๋ยวนี้พวกเขาสามารถสอบถามเพื่อนฝูง หรือค้นหารีวิวตามเว็บได้แล้ว การเปิดหน้าร้านเองจึงไม่จำเป็นเลย
นอกจากนี้ Rubin ยังเสริมว่าแม้กูเกิลจะลงมาเล่นตลาดฮาร์ดแวร์เองมากขึ้นภายใต้แบรนด์ Nexus แต่มันก็ยังไกลเกินกว่าที่กูเกิลจะต้องมาเปิดหน้าร้านเองอยู่ดี เขายืนยันว่ากูเกิลไม่มีแผนการเปิดสโตร์ใดๆ ตอนนี้
ที่มา: All Things D
Comments
พี่ก็ให้สั่งซื้อได้ทั่วโลกสิครับ T-T
ถูกต้อง... ตอนนี้อยากได้ แต่ซื้อไม่ได้
พูดเหมือนไม่อยากขายของแฮะ
ทำ Androids มาแจกฟรีจนเคย ไม่ค่อยอยู่ในส่วนหาเงิน (การขายและการตลาด) ก็คงคิดว่าไม่สำคัญ แค่ขายเสื้อ ปากกา ตีตรา Google หรือ Androids ก็คงมีคนซื้ออยู่แล้ว ต่อไปก็ Glass อีกจะไปวางขายที่ไหน ถ้าไม่เริ่มจาก Store ตัวเอง
นั่นไม่ใช่ทิศทางของ Google นะ เคยได้ยินหรือเปล่าว่า "ใครบ้างไม่กลัว Google"
คนที่ไม่รู้จัก Google กับคนที่ไม่รู้จักอินเตอร์เน็ต
หุ้นร่วง
May the Force Close be with you. || @nuttyi
หราาาาาาาา (ทำเสียงตอแหลๆ ตอนพูด)
หุ้นร่วงแหงมงานนี้
ป.ล. แอนดี้ กล่าวในใจ ไม่สนหรอก เพราะผมเทขายไปส่วนนึงแล้ว รอให้ตก ค่อยช้อนซื้อทำกำไรใหม่ #ห๊ะ
พี่ขายของไม่เป็นก็ไม่ควรให้ความเห็นครับ ปล่อยให้แผนกขายตัดสินใจดีมั้ย
ใช่ครับ geek มักคิดว่าทุกคนมีความสามารถในการหาข้อมูลได้เอง
แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลย
ตัวอย่างที่เห็นชัดๆ คือ ทำไมตู้ขายมือถือรายย่อยถึงอยู่ได้
อาร์ทจริงๆ
เขาอาจคิดมาดีแล้วก็ได้นะครับ
เปิดร้านมีต้นทุนมหาศาล
ทั้งค่าบริหารจัดการ, ค่าขนส่งสินค้า, ค่าการตลาด
แถมยังต้องพัฒนาสินค้าใหม่ๆ ออกมาอยู่เสมอ เพื่อดึงคนเข้าร้าน
ถ้า Google ไม่คิดว่าตัวเองจะสร้างกำไรมหาศาลจากการขาย Hardware การไม่เปิดร้านก็น่าจะถูกต้องแล้ว
ก็คิดแบบนี้ผมจึงไม่อยากชื้อ
Google ไม่เท่าไหร่ แต่ไอ้ MS นี่หาไม่ง่ายเลย อยากให้ทำ store อย่างน้อยๆก็หน้าเว็บก็ยังดี เพราะที่เห็นในตัวแทนจำหน่ายก็เขียนบ้าอะไรก็ไม่รู้ยึกยือเต็มไปหมด
งงอ่ะ หมายถึงอะไร.. store ของ MS มีทั้งหน้าร้านทั้งเวบนี่นา ?
หมายถึงของไทยครับ แล้วของที่จะซื้อก็ไม่ใช่ Hardware แต่เป็น software เพราะหลายครั้งที่จะซื้อจากตัวแทนจำหน่ายก็มีแต่ตัวย่อเพียบ ประสาทกินครับ ขอเป็น online store ก็ยังดีเหอะ
เท่าที่สังเกตจากตลาดอื่น หากพวกนี้จะมา อย่างน้อยจะต้องมี online store ด้วย.. ซึ่งเท่าที่ได้ยินมา การเข้ามาทำธุรกิจ online ในไทยนี่ถือว่ายากมาก (ไม่ใช่ว่ายากเชิงเทคนิคหรือการตลาด แต่คือเรื่องกฎระเบียบข้อบังคับต่างๆ ของไทย มันไม่ค่อย align กับแนวนโยบายที่เค้าใช้กันอยู่ ดังนั้นหากจะแก้ ง่ายสุดคงต้องจี้บรรดา partner ให้คุยภาษาคนหน่อย ไม่ใช่เอาภาษาที่คุยกับลูกค้าองค์กรมาใช้กับลูกค้า consumer)
"อยากเห็นอะไรก็กูเกิลเอาสิ"
ผู้ให้กำเนิดแอนดรอยด์ไม่ได้กล่าวไว้
ทำสิ่งที่เชื่อและถนัดดีที่สุดครับ อย่าไปเดินตามใครเลย
หรือว่าจะทำตัวเป็นผีไม่มีศาลอย่างนีต่อไป ฝาก samsung ขาย ฝาก lg ขาย ฝาก asus ขาย ฝาก htc ขาย ผมว่า google ควรจะมีร้านเป็นของตนเองๆด้แล้วนะ
เว็บขาย Google Nexus ของ Google เองก็ขายแค่บางประเทศ ไม่ขายในไทยอีก ผมต้องไปซื้อจาก Amazon ที่ราคาแพงขึ้นอีก... แก้ไขจุดนี้ได้จะดีมาครับ ผมรออุดหนุน Nexus รุ่นใหม่ในปีนี้อยู่ครับ
ปกติเวลาเราแนะนำเพื่อนเรื่องมือถือ เราจะบอกให้ไปลองเล่นดูก่อน
เพราะเวลาไปจับเครื่องจริงแล้วมันให้ประสบการณ์ที่ข้อมูลในเน็ตบอกไม่ได้
บางเครื่องในเน็ตดูไม่สวย เจอเครื่องจริงแล้วหน้าตาโอเค บางเครื่องดูดีมากเลย พอไปเจอเครื่องจริงแล้วแบบ..เปลี่ยนใจไม่ซื้อก็มี
Google มี Partner เยอะแยะ ทุกวันนี้ หน้าร้าน Samsung Sony หรือร้านขายมือถือทั่วๆไป ก็เหมือน Showroom ดีๆของ Google นั่นเอง อะไรคือเหตุผลที่ต้องลงไปตัดกับ Partner ตัวเองละ? ถ้าทำ Showroom ตัวเองแน่นอนว่าต้องดัน Moto อย่างสุดแรงเกิด แล้วพวก Samsung HTC sony oppo บลาๆๆๆ จะไม่เขม่งเอาหรอกหรอ?
+1
อันนี้เป็นเหตุผลที่ดี ลืมคิดมุมนี้ไปฮะ
จะมีร้าน 7 ไปทำไม มีร้านป้าแจ๋วแล้ว จะไปมีร้านป้าแจ๋วทำไม มีร้านตากล่ำแล้ว ฯลฯ
เหตุผลไม่ใช่กลัวตัดหน้าครับ ไม่งั้นกูเกิลคงไม่ซื้อโมโตฯ แต่ด้วยสาเหตุคล้ายๆ กันคือกูเกิลไมถนัดผลิต และมีสิทธิบัตรทางด้านมือถือน้อยครับ จึงต้องเอาโมโตมาไว้ในมือ
กูเกิลเองก็ไมถนัดการขายครับ ก็เลยยังเปิดร้านแค่สองสาขา นี่คิดว่ากูเกิลไม่อยากเปิดร้านของตัวเองเหรอครับ?
จากมุมมองที่ผ่านๆ มา กูเกิลต้องการให้มีความหลากหลายครับ ฉะนั้นคงไม่ทำทุเรศแบบทวิตเตอร์แน่นอน และเท่าที่ดูก็ไม่อยากให้เจ้าไหนผูกขาดแอนดรอยด์เจ้าเดียวด้วย แม้แต่ซัมซุงก็เถอะ
ไม่อยากนั้นจะขายกูเกิลโครมบุคที่ร้านใครดีครับ?
Apple Store
เยี่ยมครับ มีส่งไทย แถมส่งไวด้วย
บ้าเหรอตัวเธอ
+7s
ไม่เห็นด้วยนะครับ
ผมว่ากูเกิลนี่เก่งเรื่องการขายมากนะครับ ทุกวันนี้เติบโตได้ก็จากการขายบริการนั่นแหละ
แต่เนื่องจากที่ขายๆ อยู่เป็นบริการซะมากกว่า เลยไม่จำเป็นต้องมีร้าน ส่วนฮาร์ดแวร์ก็มีพาร์ทเนอร์อยู่ทั่วยุทธภพอยู่แล้ว ถ้าเปิดของตัวเองจะเอาอะไรไปวางขาย? กูเกิลแกลส? โชว์รูมกูเกิลคาร์? ชาเขียวออแกนิค? ขายบัตรโน้สสิบ?
ทั้งหมดที่ว่ามาผมว่ากูเกิลมีพาร์ทเนอร์ที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว การออกร้านของตัวเองเป็นการลงทุนที่สูง และอาจมีปัญหากับพันธมิตรได้ ส่วนที่เปิดๆ อยู่ผมเดาว่าน่าจะเป็นการนำร่องทดลองมากกว่านะ
นี่ก็เป็นคำตอบว่ากูเกิลทำไมถึงไม่ทำร้าน (ณ เพลานี้) เนื่องจากต้องการความหลากหลาย ขึ้นทำเองเดี๋ยวใครก็แห่มากูเกิลสโตร์หมด ผูกขาดเลย เดี๋ยวพันธมิตรก็เคืองสิครับ
ซัมซุงทำ ซัมซุงก็ขาย กูเกิลทำ ขายในเพลย์สโตร์ครับ เอาไปวางร้านให้ฝุ่นเกาะทำไม
แต่ทั้งหมดก็เป็นการคาดเดา ณ เพลานี้ อย่ายึดติดมาก แค่จะบอกว่ายังไม่มีเหตุผลอะไรที่กูเกิลต้องเปิดร้าน แต่อนาคตหากสถานการณ์เปลี่ยนก็ไม่แน่ เราอาจเห็น Google-Eleven ร้านสะดวกซื้อ 24ชม. ขายขนมขบเคี้ยวแข่ง 7-Eleven ก็เป็นได้
"เอาไปวางร้านให้ฝุ่นเกาะทำไม"
อ่า ... นี่ Andy Rubin มาเองรึเปล่าเนี่ย -*- ส่วนตัวผมอยากเห็นของจริงก่อนซื้อนะครับ
ส่วนที่บอกว่าไม่เก่งขาย คือไม่เก่งขายปลีกแบบร้านของของอ่ะครับ เพราะเรื่องพวกนี้ต้องมีห่วงโซ่อุปทานเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย และกูเกิลเองยังไม่มีตรงนี้มารองรับในตอนนี้ครับ
"ชาเขียวออแกนิค? ขายบัตรโน้สสิบ?" อยู่ใกล้ๆ จะข่วนให้หน้าแหกเลยครับ -*- ข้อหาทำกาแฟพุ่ง
ผมคิดว่าก็ขายของของกูเกิล (อะไรก็แล้วแต่) และมีจุดบริการเล็กๆ นี่แหละครับ คล้ายๆ Genius bar ของแอปเปิล (ขออภัยแฟนแอปเปิลก่อนนะครับ จำชื่อได้ไม่แม่น ถ้าผิดรบกวนช่วยแก้ไขด้วยครับ) ซึ่งแต่ก่อนแอปเปิลเองก็มีผลิตภัณฑ์ไม่ได้เยอะแยะอะไรมาก และเข้าใจว่า Genius bar เปิดมาตั้งแต่มี 2000 มั้ง ตอนนั้นก็ยังไม่มีสินค้าอะไรขายมาก
ตรงนี้เป็นเหมือนการสร้างแบรนด์รอยัลตีมากกว่าด้วยครับ โปรดอย่าได้คิดว่าแฟนกูเกิลไม่ต้องการอะไรแบบนี้เลยครับ เพราะผมเองยังอยากไปกูเกิลสโตร์เลย จริงๆ มีฮูดดี Ingress ที่อยากได้ด้วย แต่อยากลองใส่ก่อนนี่สิ จะสั่งมาก็ตัวละพันกว่าบาท ผิดขนาดไปก็ไม่คุ้ม
คือแอปเปิลเขาขายฮาร์ดแวร์ "ของเขาเอง" อยู่แล้วครับ มันก็ไม่ต่างอะไรกับผู้ผลิตฮาร์ดแวร์รายอื่นๆ ที่มีร้านค้าปลีกเป็นของตัวเอง ซึ่งก็ผลิตของใครของมันของฉันอย่างเดียวไม่เกี่ยวคนอื่น
ส่วนกูเกิลคงต้องย้ำอีกครั้งว่าฮาร์ดแวร์เป็น "ส่วนขยาย" อาณาจักรของกูเกิลเท่านั้น (มิตรสหายแถวๆ นี้บอกว่ากูเกิลนี่จอมดูดข้อมูลเรา) และด้วยความที่เป็นส่วนขยาย ทำให้ในอนาคตฮาร์ดแวร์ใดๆ ที่กูเกิลทำเสร็จก็อาจจะให้เจ้าอื่นทำก็เป็นได้ อย่าง Google Glass นี่อาจจะเป็นแว่นทอปเจริญก็ได้ ใครจะไปรู้
สำหรับใครที่บอกว่าอยากลองของ ก็ใช่ครับ สินค้าไอทีสมัยนี้จะขายได้มันต้องคอนเซปท์ Touch and
ThrowTry แต่ผลิตภัณฑ์ของกูเกิลไม่ใช่ปัญหา อย่างที่บอก อยากลองแว่นกูเกิลก็ต้องไปที่ทอปเจริญ เพราะเขาทำขายให้กูเกิล เป็นต้นอ้อ ผมไม่ได้คิดแทนแฟนๆ กูเกิลนะ ผมมองในมุมมองของผม คนที่คิดแทนแฟนๆ กูเกิลก็คุณ PaPaSek ไง เพราะเห็นบรรยายได้เป็นเรื่องเป็นราวเลย นี่ถ้าอยู่ใกล้ๆ กันจะชวนไปกินชาเขียวด้วย คุยไปด้วย แกะฝาลุ้นไอโฟนไปด้วย อิ_อิ
ตอนนี้ตลาดเริ่มเอนไปทาง hardware มากขึ้น.. ไม่ได้มีแค่พวก พีซี/มือถือ/แทบเลต/คอนโซล/เซตทอป
แถมยังทำงานร่วมกันอีก.. ถ้าไม่มีโชวรูมแล้วลูกค้าจะเข้าใจมั้ยนี่ ว่าอุปกรณ์เหล่านั้นมันจะทำงานร่วมกันยังไง?
“They don’t have to go in the store and feel it anymore,” Rubin said
แสดงว่าความต้องการอยากจับสินค้าจริงของผมน่าจะเป็นดีมานด์เทียม ... ไม่ใช่ละ ผมว่ากูเกิลเจ๋งกว่าแอปเปิลตรงที่ไม่มีใครมาบอกว่า คุณต้องใช้แค่นี้ คุณต้องการแค่นี้ นี่คือสิ่งที่คุณต้องการ คุณไม่ได้ต้องการ ฯลฯ
ใน reply อันก่อนหน้านี่ ตอนที่ผมตอบไม่ได้มีแอปเปิลในหัวเลยน้า.. แอปเปิลไม่อยู่ในสายตามาพักใหญ่แล้ว เพราะแม้จะยอมรับว่าแอปเปิลคือส่วนสำคัญที่ช่วยดันตลาดจนเกิด ทว่าหลังๆ มานี่ไม่ค่อยมีของใหม่มานำเสนอเพื่อผลักดันตลาดให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง แถมออกแนวถ่วงๆ ตลาดให้ก้าวช้าลงอีกตะหาก
ใน reply นั้น ผมหมายถึงพวกอุปกรณ์รูปแบบใหม่ๆ ที่กำลังเริ่มทยอยออกมา.. เช่น glass ของ google เอง, หรือพวก second-screen, รวมถึงพวก smart device ต่างๆ (smart watch, smart appliance, smart home etc.)
ตัวอย่างเช่น.. ผมว่าคงมีหลายคนที่ไม่ได้พกมือถือหรือแทบเลตติดตัวตลอด แถมของพวกนี้ยังล้วงควักขึ้นมาดูยาก พวกนาฬิกาน่าจะอยู่ติดตัวมากกว่าและยกขึ้นมาดูง่ายกว่า แล้วสมมติมีเครื่องซักผ้าอัจฉริยะ ถ้าตอนซักมันติดขัดไรสามารถให้มันส่ง msg แจ้งเตือนได้ ไม่ต้องนั่งเฝ้าหรือแวะเวียนโฉบไปดู
หากไม่มีโชวรูมแล้ว จะทำไงเพื่อให้ลูกค้าเข้าใจเคสที่ยกขึ้นมาเมื่อกี้ หรือจะปล่อยให้ลูกค้าซื้อนู่นนี่นั่นจากสารพัดร้านแล้วเอาไปลองเซตลองลุ้นเองที่บ้านว่ามันจะ work มั้ย.. ยิ่งถ้ามองต่อไปถึงเคสของกลุ่มที่ไม่ใส่นาฬิกาติดตัวตลอด ต้องพึ่งพวก second-screen แทน มีจอให้จิ้มดูได้ตลอดไม่ว่าจะเดินไปมุมไหน เคสนี้ยิ่งยุ่งกับของสารพัดอย่างมากขึ้นไปอีก
คือผมก็คิดเหมือนกันเลยครับ ผมเองอยากเห็นสินค้าจริง อยากรู้รสสัมผัสก่อนตัดสินใจ ... อย่างรสสัมผัสของ Galaxy Nexus นี่มันพริ้มมากนะครับ
ส่วนที่อ้างอิงคำของท่านพ่อ (Rubin) มาก็เพราะอยากให้เห็นนั่นแหละ จะได้ช่วยผมหงุดหงิดครับ เหอ เหอ เหอ
google glassคงจะฝากraybanขาย 55