ข่าวนี้รวมสองข่าวเก่าเข้าด้วยกันเพราะคิดว่าอย่างไรเสียผู้อ่าน Blognone ควรรับรู้ครับ
ข่าวแรกคือร่างพ.ร.บ. ลิขสิทธิ์ฉบับใหม่ แก้ไขจากฉบับ 2537 ได้ผ่านครม. แล้วเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยส่วนสำคัญอยู่ที่ร่างใหม่นี้จะรองรับการใช้งาน DRM (Digital Rights Management) เช่น ส่วนห้ามทำสำเนาของเกมหรือเพลงทั้งหลาย หากร่างนี้ผ่านสภาจะทำให้การฝ่าฝืน DRM มีโทษของมันเองอีกส่วนหนึ่ง
นอกจากเพิ่มโทษแล้วยังมีการแก้ไขเพิ่มข้อยกเว้นการทำสำเนาที่จำเป็น และยกเว้นการละเมิดของผู้ให้บริการ ซึ่งนับเป็นเรื่องดีที่ผู้ให้บริการถูกกันออกจากประเด็นลิขสิทธิ์ไปแล้วเรื่องหนึ่ง
ความเห็นของผม: การเพิ่มข้อยกเว้นเป็นเรื่องที่ดี แม้จะได้มาประเด็นเดียว เพราะที่ควรเป็นคือ ผู้ให้บริการควรมีหน้าที่รับผิดชอบชัดเจน เช่น ต้องตอบกลับเจ้าหน้าที่ภายในเวลาที่กำหนด, ต้องทำตามคำสั่งลบหรือสำเนาจากหน่วยงานที่ระบุ ไม่ว่าจะเป็นการกระทำความผิดในฐานใดๆ และหากได้ทำตามหน้าที่ที่กฎหมายระบุกรอบไว้แล้วควรถูกกันออกจากการเป็นจำเลยโดยทันที ในส่วนประเด็น DRM สิ่งที่สำคัญมากคือกฎหมายต้องตระหนักว่ามี DRM บางชนิดที่ไม่มีผลจริงแล้ว ผู้ใช้สามารถข้ามผ่าน DRM เหล่านี้โดยไม่รู้ตัวใดๆ หากจะออกกฎหมายคุ้มครองการใช้ DRM ก็ต้องใส่ข้อกำหนดไว้ให้ครบถ้วนว่าผู้ที่ฝ่าฝืนได้กระทำ เช่น เป็นเทคโนโลยีที่ยังไม่มีกระบวนการหลีกเลี่ยงแพร่หลายจนไม่มีผลจริง, ไม่ใช่การกระทำที่เครื่องมือที่หาได้ทั่วไปสามารถทำให้ผู้ใช้ได้โดยอัตโนมัติ, และการเผยแพร่ช่องโหว่ที่เกิดขึ้นจะต้องทำได้โดยไม่ถือว่าเป็นการละเมิด DRM เอง (ดูตัวอย่างคดีในฟินแลนด์ปี 2007)
ที่มา - ไทยรัฐ
ร่างต่อมาคือ พ.ร.บ.ปราบปรามสิ่งยั่วยุพฤติกรรมอันตราย เป็นกฎหมายอนุญาตให้มีการค้นที่อยู่, ยานพาหนะ, ไปรษณีย์, และคอมพิวเตอร์ เมื่อมีหลักฐานอันควรจะเชื่อได้ว่ามีการทำความผิดโดยต้องได้รับอนุญาตจากศาล
การเข้าค้นโดยขอหมายศาลก่อนคงเป็นกระบวนการปกติ แต่ที่เพิ่มมาในกฎหมายนี้ คือ ฐานความผิดใหม่ เป็นเรื่องของข้อมูล การกระทำวิปริตทางเพศ, การกระทำทารุณกรรมต่อเด็ก, การฆ่าตัวตายของเด็กหรือการฆ่าตัวตายหมู่, และการใช้ยาเสพติด
ยังไม่มีร่างฉบับเต็มว่ากระบวนการปราบรามนี้ จะถือว่าอะไรเป็นความผิดบ้าง เช่น เป็นผู้ผลิต, เป็นผู้เข้าชม, หรือเป็นผู้ครอบครอง
กระบวนการปราบปรามข้อมูลเนื้อหาเหล่านี้มีอยู่ในหลายประเทศคงไม่ใช่เรื่องแปลกนัก แต่ที่ต้องจับตามอง คือ รายละเอียดของประเภทเนื้อหาที่รวมอยู่ในความผิดว่าจะระบุไว้กว้างและเปิดให้เจ้าหน้าที่ได้ใช้ดุลพินิจกันมากน้อยแค่ไหน
ที่มา - ไทยรัฐ
Comments
ผู้อ่าน Blognone คนรับรู้ครับ ----->> ผู้อ่าน Blognone ควรรับรู้ครับ หรือเปล่าครับ
บล็อกส่วนตัวที่อัพเดตตามอารมณ์และความขยัน :P
ร่างที่สองนี่น่ากลัว
May the Force Close be with you. || @nuttyi
+1 น่ากลัวจริง ๆ โลกไซเบอร์นี่อยู่ยากขึ้นทุกวัน
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ร่างที่สองนี่เป็นร่างสุดยอดหรือยังครับ หรือแปลงต่อได้อีก #แป้ก
จะเป็นนตัวสมบูรณ์ได้ต้องผ่านสภาทั้งสองสภาครับ #เหมือนพยายามต่อมุก ก็ไม่ต่อ
อันที่สอง ผมว่าเป็นสิ่งที่ควรมีครับ แต่ต้องสร้างกรอบที่ชัดเจน ให้เหลือการใช้ดุลยพินิจจากเจ้าหน้าที่ให้น้อยที่สุดเท่าที่จะน้อยได้ครับ
ค้นใด้โดยไม่ต้องขอหมายศาลนี้แย่นะ โดยเฉพาะหลักฐานอันควรจะเชื่อได้ว่ามีการทำความผิด อาจจะเป็นบุคคลที่ตำรวจสร้างขึ้นมา เพื่อเข้าไปค้น(ก่อกวน)ธุรกิจเพื่อเรียกเงิน
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ตามไปอ่านในลิงค์ ยังต้องอาศัยคำสั่งศาลอยู่นี่ครับ
แต่รวมแล้วก็ถือว่าน่ากลัวจริง ๆ ด้วย
เพราะใครก็มีโิอกาส โดนใส่ร้ายได้ไม่ยากจากมาตรานี้
ง่ายยิ่งกว่า แอบยัดยาเสพติดเสียอีก
ยิ่งกว่าคดีอากง
และเหยื่อไม่มีโอกาสรู้ตัวเลย
พรบ.หลังน่ากลัว เพราะคาดว่าแค่ครอบครองก็อาจจะผิดแล้ว
พวก child porn นี่อาจเข้าข่ายและคงตีความกันยากจริงๆ
ขออ่านร่างหน่อยครับ ยังคงประเด็นว่า มาตรา 35 (1) ยังคงเดิมไหมครับ
คำตอบของข้า คือ ประกาศิต
เอ๋ เลียนแบบเพี่อนบ้านเราเปล่านี่? http://www.blognone.com/node/36241
"ยังไม่มีร่างฉบับเต็มว่ากระบวนการปราบรามนี้ จะถือว่าอะไรเป็นความผิดบ้าง เช่น เป็นผู้ผลิต, เป็นผู้เข้าชม, หรือเป็นผู้ครอบครอง"
รอดูฉบับเต็ม