แอนดรอยด์เวอร์ชันใหม่อย่าง Jelly Bean นอกจากเพิ่มประสิทธิภาพเข้าไปแล้ว ยังได้อัพเดตบางฟีเจอร์ที่มีมาก่อนหน้าให้ใช้งานได้ดีขึ้น รวมถึงปรับอินเทอร์เฟซเล็กน้อยๆ ด้วย
หนึ่งในฟีเจอร์ที่ถูกปรับให้ดีขึ้นคือการปลดล็อกด้วยใบหน้า (Face Unlock) ที่ก่อนหน้านี้สามารถปลดล็อกได้ทั้งจากหน้าจริงๆ และจากภาพถ่าย (บางทีใช้รูปจากมือถือก็ได้) แต่เมื่ออัพเดตใหม่นี้มา ก็ได้เพิ่มฟังก์ชัน "Liveness Check" ที่จะรอจนกว่าเจ้าของเครื่องกระพริบตา จึงจะยอมปลดล็อกเครื่องให้ ทำให้การใช้ภาพถ่ายกลายเป็นหมันไปในทันที
ยังไม่มีคำตอบว่าฟังก์ชันนี้ถูกหลอกได้ด้วยวิดีโอ หรือภาพสกุล .GIF หรือไม่ ใครที่มี Jelly Bean ถ้าได้ลองแล้วบอกกันได้นะครับ
ที่มา - TechCrunch
Comments
ผมว่าหลอกด้วยวิดิโอได้นะครับ
+1 กำลีงจะเม้นท์เลย
+1 สรุปว่ามันยังไม่ปลอดภัยเหมือนเดิมสินะ(ทำแสกนนิ้วมือไปเลยสิ)
ถ้ามีเซนเซอร์จับโครงสร้างใบหน้าเป็น 3D ได้คงจะตัดปัญหานี้ไปเลยล่ะคับ
ต่อไปอาจต้องให้เจ้าของเครื่องตั้งรหัสซ้อนลงไปอีกว่ากระพริบตากี่ที ..
my blog
อะไรคือ "แก้ลำ" ครับ = =
Dream high, work hard.
มันเป็นศัพชั้นสูง....คนทั่วไปหาได้เข้าจัยไม่
แก้ลำมีความหมายเดียวกับแก้เกมครับ
เข้าใจแล้วครับ ขอบคุณครับ
(ตอนแรกนึกว่าพิมพ์ผิด แต่นึกคำใกล้เคียงไม่ออกเลย T_T)
Dream high, work hard.
แก้แล้วเห็นเป็นลำครับ
กลิ่นอายมู้เกย์เริ่มโชย
อย่าจับมันแยกกันเลยครับ ความหมายมันไกลมาก
Blognone = 138.1 news/w เยอะมากๆ
จากพจนานุกรมราชบัณฑิตยสถาน [แก้ลำ ก. ใช้ชั้นเชิงตอบโต้ให้เท่าเทียมกันหรือหนักมือขึ้น.]
หนักแล้วทำไมมือขึ้นครับ... (เมาละ)
ผมว่า แค่กันภาพนิ่งได้ก็โอเคระดับนึงแล้วนะ นี่ยังจะไปหา File GIF รูปวีดีโอ มาแกล้งมันกันอีกหร๋อ -*-
บางที่เป็นภาพนิ่งธรรมดาเอาไปตัดต่อ ทำเป็นภาพเคลื่อนไหวได้ ซึ่งเป็นไปได้สูง
คิดว่าแก้ภาพนิ่งให้กะพริบตาน่าจะผ่านได้เหมือนกันนะ
ตื่นนอนมายัง unlock เครื่องไม่ได้เหมือนเดิมป่ะครับ
ถ้าโทรศัพท์มีชีวิตมันคงตกใจอ่ะครับ
นึกว่าผีดิบ
ต้มก่อนครับจะได้สุก
//ชิ่งอย่างไว
Dream high, work hard.
แล้วผีดิบก็จะกลายเป็นผีสุก...
ผู้ชายเหล่านี้ = =
มันเป็นการป้องกันเบื้องต้นเท่านั้นครับ ในชีวิตจริงไม่ได้ป้องกันอะไรขนาดนั้น
ผมมี ICS ยังไม่ใช้โหมดนี้เลยครับ ใช้แค่นิ้วเลื่อนหน้าจอธรรมดา
แต่ถ้าใครจะตั้งขั้นปลอดภัยสูงมันต้องตั้งเป็นแบบกดรหัสครับ ซึ่งก็ไม่สะดวกในการใช้งานประจำวันอยู่ดี
จริงครับ ผมเห่อตอนซื้อมาใหม่ใช้ face อยู่ประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้นก็รูดปลดล็อคธรรมดาน่ะครับ มันใช้ในชีวิตประจำวันลำบากน่ะครับ
ตั้งเป็นแบบลากนิ้ว Pattern เอาครับ ปลดล็อคง่ายสำหรับเจ้าของ แต่ถ้าคนอื่นที่ไม่รู้ Pattern ลากนิ้วก็เดายากมากครับ ผมให้ความสำคัญกับการปลดล็อคอยู่พอสมควร ถ้าโทรศัพท์หายเดี๋ยวนี้มันไม่ได้หายแค่โทรศัพท์ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตประจำวัน งาน และอีกหลายสิ่งของเรามันถูกเชื่อมต่อด้วยโทรศัพท์ เมล์ เฟส ไฟล์งาน Dropbox GoogleDrive บัตรเครดิตที่ผูกกับบัญชีโทรศัพท์ ถ้ามันหายนี้ไม่อยากนึก ตาสีตาสาเป็นคนเก็บก็โชคดีไป ถ้าเจอพวกมือบอนลบนู้นลบนี้ หรือเจอพวกที่รู้เรื่องนี้ ทำใจเลย
+1 ผมจะลองเปลี่ยนไปใช้แบบท่านครับ
ผมใช้แบบนี้มานานยังไม่มีใครเอาเครื่องผมไปเล่นได้เลยครับ
อ่านจบ นอยขึ้นมาทันที รีบตั้งพาสด่วนเลย
เป้าหมายของโหมดนี้ คือ สำหรับคนที่ปกติไม่ตั้งรหัสอะไรเลยเป็นหลัก ก็ถือว่าสมเหตุสมผลนะครับ
ส่วนลากนิ้วเท่าที่ทราบ ความซับซ้อนของมันก็สูงพอใช้งานครับ ออกจะสูงกว่าตัวเลขด้วยซ้ำ เพราะคนมีแนวโน้มจะตั้งรหัสกันยาวๆ มากขึ้น เพราะจำง่าย
lewcpe.com, @wasonliw
ผมลองทดสอบใช้ liveness check ดู
พบว่าแม้แต่ใบหน้าจริงๆของผมเองก็ not match ครับ orz
ซวยแล้วสิครับ งานนี้
LinkedIn
กระพริบถูกแล้วนี่ครับ
ต่อไปอาจจะต้องให้ยกโทรศัพท์หมุนรอบหัวช้าๆ ครึ่งรอบ ให้รู้ว่าเป็น 3D ไม่ใช่ภาพ/วิดีโอ
@mamuang
ต้องทำ Kinect ติดมือถือแล้ว เช็คเลย โมเดลคนจริงๆ หรือเปล่า ไม่ใช่ภาพแบนๆ มาหลอก ฮ่าๆ
อย่าได้ขำไป.. ใน 5-10 ปีนี่นี่ ก้อมีแนวโน้มสูงอยู่นะ ว่าจะได้เหน Kinect ติดมือถือ (หรืออาจจะไปติดอย่างอื่นแทน เพราะช่วงนั้น "มือถือ" แบบในปัจจุบันนี้นี่อาจจะเริ่มหายๆ ไปละ)
เดี๋ยวเอาภาพถ่ายแหละ แปะกระดาษไว้ตรงขอบตาบน โยงด้ายขยับ (- -)d
แล้วถ้าคนใช้ โดนตีกบาลมาต้องพันผ้าพันแผลล่ะ
ก็อดใช้ไงละครับ
ถ้าไม่ผ่านมันจะให้ลากนิ้วแทนครับ
อ่าว แบบนี้ก็หมายความว่า face unlock ก็ใช้แค่อำนวยความสะดวกเจ้าของอย่างเดียวสิครับ?
เพราะถ้าไม่ผ่านก็เหมือนเปิด pattern unlock อย่างเดียวอยู่ดี?
Dream high, work hard.
ก่อนใช้งานระบบจะชี้แจงด้วยว่ามันมีความปลอดภัยต่ำครับ, face unlock ต้องมี pattern unlock ตามหลังด้วยเป็น default เผื่อไว้หลายกรณีที่หน้าเราอาจจะไม่เหมือนเดิม เช่นใส่แว่นกันแดดอยู่แล้วขี้เกียจถอด ส่วนตัวปรกติใช้แบบ pattern อยู่ก่อนแล้วการมี face unlock เข้ามาจะสะดวกขึ้นเพราะปลดล๊อคโทรศัพท์ได้ด้วยมือเดียวไม่ต้องเอาอีกมือมารูดครับ ;)
my blog
โอ้ว ขอบคุณครับ //พยักหน้าหงึกๆ
Dream high, work hard.
ผมว่า pattern unlock มันมีเผื่อไว้เวลาที่มืดๆกล้องส่องไม่เห็นหน้าเราแล้วปลดล็อคเครื่องไม่ได้
ต่อไปอาจมี pattern face unlock
เงือนไขต้องทำท่าด้วย.. เช่น กระพริบตาขวา และแลบลิ้นไปด้านซ้าย ;p
ต่อไปจะมี facepalm unlock ไหมนะ...
ใครทำศัลยกรรมมา Log in เข้าเครื่องตัวเองไม่ได้แน่ๆ เหอะๆ
ก้อต้องดูอัลกอที่ใช้ด้วย.. แม้ทำศัลยกรรมมา ถ้าไม่ถึงขั้นแก้กะโหลก บางอัลกอก้อยังเชคได้ว่าเปน identity เดิม
ชี้ช่องโจรชัด ๆ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
เคยใช้สมัยใช้ nexus ปรากฏว่าปลดล๊อคกลางแจ้งไม่ได้ (มันย้อนแสง)
ผมว่าในอนาคต ระบบคงจะพัฒนาให้มีการตรวจสอบที่ถี่ถ้วนกว่านี้ครับ
เช่น
ความคิดดีแฮะ ... มีใครจดลิขสิทธิ์ไปรึยัง จะทำตัวเป็น patent troll ซะหน่อย (ไม่มีเทคโนโลยี มีแต่แนวคิด เอาไว้ไล่ฟ้องชาวบ้าน)
ค่าใช้จ่ายในการจด
ไม่กี่แสนเอง ... ค่ามาม่ายังไม่มีเลยครับ T_T
ผมหวังว่า sensor ตัวต่อไปที่ควรจะ integrate เข้ากับมือถือ flagship คือ กล้อง infrared ตรวจจับระยะวัตถุแบบ 3 มิติที่มีใ้ช้ขณะนี้ใน kinect เพราะมันจะ detect ออกมาเป็น 3D ได้เลยว่าที่กล้องมันมองอยู่นีี่คือแค่รูปถ่ายหรือศีรษะคนจริงๆ หรือจะง่ายกว่าก็คือทำ eye detection + hi-res front camera แสกนม่านตาไปเลยให้รู้แล้วรู้รอด คราวนี้จะโคตรปลอดภัย(เกินไป?)เลยครับ
ดูจากราคา kinect แล้วต้นทุนไม่น่าจะแพง
คุ้มที่จะใส่ลงมาบนสมาร์ทโฟนมากๆ
สแกนม่านตานี่น่าสนนะครับ แต่สงสัยว่ากล้องมันต้องคุณภาพระดับไหนถึงจะใช้ได้ แล้วมันต้องการการประมวลผลสูงแค่ไหนถึงจะวิเคราะห์ม่านตาได้ แต่ถ้า CPU 2GHz 4 core นี่น่าจะสบายๆ นะ
@ Virusfowl
I'm not a dev. not yet a user.