ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนๆ การถูกจำกัดปริมาณการใช้งานอินเทอร์เน็ตก็เป็นเรื่องที่หลายคนไม่อยากประสบกับตัวเอง ที่น่าสนใจคือผลสำรวจจาก Marshini Chetty นักวิจัยจาก Georgia Tech’s School of Interactive Computing ได้เผยว่าการจำกัดปริมาณการใช้อินเทอร์เน็ตจะทำให้ผู้ใช้เกิดประสบการณ์ใช้งานที่ไม่ง่ายขึ้นมา
Chetty ศึกษาเกี่ยวกับการจำกัดปริมาณการใช้อินเทอร์เน็ตระหว่างฝึกงานอยู่กับ Microsoft Reseach ด้วยการสัมภาษณ์ครอบครัวชาวแอฟริกันทั้งสิ้น 12 ครอบครัว ซึ่งในแอฟริกานั้นโดยมากแล้วจะถูกจำกัดให้ใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ประมาณ 9GB ต่อเดือน แต่บางรายก็น้อยเพียง 1GB ต่อเดือน ทำให้คนกลุ่มนั้นต้องพยายามที่จะไม่ใช้งานอินเทอร์เน็ตจนถึงจุดที่จะถูกจำกัด ด้วยการไปเยี่ยมเยียนเพื่อนบ้านเพื่อใช้อินเทอร์เน็ต หรือเปลี่ยนไปต่ออินเทอร์เน็ตผ่านมือถือแทน
Chetty บอกว่าพฤติกรรมของคนจะไม่เปลี่ยนหากว่าไม่มีข้อจำกัด โดยเปรียบเทียบเคสนี้กับกรณีการจำกัดปริมาณการใช้อินเทอร์เน็ตบนมือถือ (เพราะคลื่นมีจำกัด) ที่หลายคนเอาแต่บ่นเรื่องคิดเงินตามปริมาณการใช้งาน แต่กลับไม่มีใครสนใจว่าพฤติกรรมการใช้งานแบบนั้นส่งผลอย่างไรกลับมาบ้าง หลายครั้งที่บางคนประหยัดแบนด์วิดท์ทั้งเดือนเพื่อมาผลาญให้หมดก่อนวันครบรอบบิล
สุดท้ายนี้ Chetty บอกว่าการจำกัดปริมาณการใช้อินเทอร์เน็ตในสหรัฐฯ ยังสูงเกินไป แต่ก็ยังมีผู้ใช้หลายรายที่ใช้เกิน ซึ่ง Chetty แนะนำให้ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตควรลดเพดานลงมา และให้คำแนะนำแก่ผู้ใช้งานเกี่ยวกับการใช้อินเทอร์เน็ตได้แล้ว
ที่มา - Neowin
Comments
ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ข่าวนี้ ถ้าดูจากหน้ารวมจะมองไม่เห็น div class="news-info" ครับ
เราจะระมัดระวังตัวมากขึนในระบบ secure ต่างๆ เพราะไม่อยากให้ข้างบ้านแอบดูดโควต้าเน็ทเราไปใช้เรื่อยๆ ขณะเดียวกันเราก็จะเก่งเรื่อง Hack เน็ทข้างบ้าน
ผมว่าสูง ๆ แบบอเมริกา/ออสเตรเลียดีแล้ว เพราะว่าเป้าหมายของการจำกัดการใช้อินเทอร์เน็ตน่าจะเป็นการเล่นงานพวกที่ใช้มากกว่าคนส่วนใหญ่ และทำให้การจัดการทรัพยากรโดยรวมมีปัญหา
ซัก 50GB ต่อเดือนอาจจะเหมาะสมกับคนทั่วไป โดย 50GB นี้ไม่ต้อง meter พวก content อย่าง IPTV จากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตหรือพาร์ทเนอร์ (ลืม net neutrality ไปได้เลย)
@TonsTweetings
ผมคิดว่าน่าจะพัฒนามากกว่าไปจำกัดสิทธิ์นะครับ???
ปล.หรือข่าวนี้ทำให้ผมไม่เข้าใจงง???
เค้าก็พัฒนาตลอดล่ะครับ แต่ในเมื่อตอนนี้มันได้แค่นี้ ขีดจำกัดอยู่ตรงนี้ มันก็ต้องจำกัดกัน
ไม่ได้จำกัดสิทธินะครับ แค่จำกัดไม่ให้โหลดเยอะเกินคนทั่วไปเท่านั้น โดยการทำแบบนี้ก็เพื่อให้คนอื่นที่ใช้ไม่ได้รับผลกระทบครับ
ตราบใดที่ยังมีคอขวดตรง exchanges ต่าง ๆ ก็ควรจะมีการจำกัด หรืออย่างน้อยก็จำกัดเฉพาะช่วง peak เท่านั้น (ตอนคนอื่นเขาหลับ ไม่ใช้กันค่อยปล่อยให้โหลดตามสบาย)
อย่างน้อยก็ควร limit traffic ออกนอกประเทศก็ได้ครับ ตรงนี้คอขวดมากที่สุด
@TonsTweetings
เมืองไทย : ไม่เป็นไร เรามีสมาร์ทโฟน
Coder | Designer | Thinker | Blogger
กระทบกับคนที่ชอบโหลดบิตครับ จะโหลดบิตผ่าน smartphone เหรอ? ลืมไปได้เลย :-D
น้องด๋อยโหลดบิทได้ครับ
อุ๊ย เสียวโดนแบน
Coder | Designer | Thinker | Blogger
... อืม ทำไมผมอ่านข่าวนี้ไม่รู้เรื่องหว่า
อ่านอยู่สามรอบ ก็ยังไม่เข้าใจว่าพาดหัวข่าวและประเด็นในแต่ละย่อหน้ามันสัมพันธ์กันยังไง???
Happiness only real when shared.
ส่วนใหญ่คนที่ทำให้คนอื่นเข้าใจเรื่องง่ายๆ ให้เป็นเรื่องยากๆ ได้มักจะเป็นดอกเตอร์
อาจารย์ที่สอนผมสมัยเรียนมหาวิทยาลัยบอกว่า คนเก่งกับคนไม่เก่งต่างกันตรงที่สามารถอธิบายเรื่องยากให้ดูง่ายได้หรือไม่..
บางทีผมก็คิดว่าคนที่ทำเรื่องง่ายให้ดูยากเป็นเพราะคนๆ นั้นยังไม่เชี่ยวชาญในเรื่องนั้นอย่างแท้จริง เหมือนยิ่งพูดยิ่งออกอ่าว.. อะไรทำนองนั้น
คนแบบที่ว่ามีเยอะ ยิ่งในอินเทอร์เน็ตก็ยิ่งเยอะ เพราะหลายๆ คนชอบแสดงความเห็นในสิ่งที่อ่านผ่านๆ มาเท่านั้น:-b
ไอน์สไตน์บอกว่า
เฮ็ดในสิ่งที่เซื่อ เซื่อในสิ่งที่เฮ็ดIf you can't explain it simply, you don't understand it well enough.เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ... ไม่เกี่ยวกับเก่งหรือไม่ แต่อยู่ที่ว่าเข้าใจดีแค่ไหน
แล้วเขาจะจำกัดปริมาณไปเพื่ออะไรอ่ะครับ ?
ถ้าเน็ตมือถืออ่ะพอเข้าใจ แต่เน็ตบ้านใช้สายอ่ะ ไม่เข้าใจ...
เพื่อลดค่าใช้จ่ายของทาง ISP ไงครับ พวกระบบโทรศัพท์คือติดข้อจำกัดที่ความถี่ไร้สายที่ต่อให้มีเงินถุงเงินถังก็ขยายได้ไม่เท่าไหร่ แต่ระบบสายก็มีปัญหาที่ท่อขาออกจาก ISP เหมือนกัน แม้ว่าแก้ได้ด้วยเงินแต่ดูจากพื้นที่ที่ทำสำรวจแล้วค่าขยายท่อน่าจะแพงมหาศาลล่ะครับ
bullshit
นึกถึงหนังเรื่อง In Time แต่อันนี้คงเป็น In Bit
:-)
อืมม..
May the Force Close be with you. || @nuttyi